“ประธานหลิน ท่านมาแล้วหรือ”
พอเห็นหลินอิ่งเดินออกมา หวางเฟิงเที๋ยนกับหนีซิงก็รีบลุกขึ้น ทั้งสองเดินเข้าไป หน้าตายิ้มแย้ม ก้มหัวอย่างเคารพให้หลินอิ่ง
“ประธานหลิน สวัสดีตอนเช้า ผมมาครั้งนี้นำสัญญาการโอนบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์จื่อจิน มาพบท่านโดยเฉพาะ” หวางเฟิงเที๋ยนก้มตัวยิ้มแย้ม สีหน้าเคารพ
“ประธานหลิน เมื่อคืนระหว่างเรามีเรื่องเข้าใจผิด ขอโทษจริงๆ” หนีซิงหน้าตายิ้มแย้ม แววตาเป็นประกายมองไปที่หลินอิ่ง
หลินอิ่งหัวเราะเย็นชา แววตาเย็นชา มองไปที่หวางเฟิงเที๋ยนสองคน
สายตานี้ มองจนทั้งสองเงียบไม่กล้าออกเสียง ร่างกายสั่นไปทั้งตัว
“ตอนนี้ รู้ว่าต้องมาขอร้องผมแล้วเหรอ?” หลินอิ่งถามอย่างเย็นชา
หวางเฟิงเที๋ยนสีหน้าเคร่งเครียด ในใจกระวนกระวาย รู้สึกเสียใจมาก ทำไมต้องไปดูถูกหลิงอิ่งตามโม่เก๋อติง?
วันนี้ ที่พึ่งอย่างโม่เก๋อติงถูกหลินอิ่งเหยียบตาย คนฐานะเล็กๆอย่างตัวเอง จะเอาอะไรไปสู้กับอำนาจของหลินอิ่ง?
โดยเฉพาะ พวกเขาสองคนได้เห็นเหตุการณ์ทำเก่งกาจที่หลินอิ่งแสดงบนเวที รู้ว่าคนตรงหน้า ดูแล้วเหมือนเด็กหนุ่มที่สงบกันเอง แต่ความจริงเป็นคนโหดฆ่าคนตาไม่กะพริบ
ต๊อก
หวางเฟงเทียนทนรับแรงกดดันมหาศาลจากตัวหลินอิ่งไม่ไหว คุกเข่าไปทันที เหงื่อท่วมหน้าผาก
“ประธานหลิน ขอร้อง ปล่อยผมไปเถอะ ผมผิดไปแล้ว ผมไม่ควรไปอยู่ข้างคนโง่อย่างโม่เก๋อติงมาต่อต้านท่าน” หวางเฟิงเที๋ยนพูดทั้งน้ำตา
“ตอนแรกที่ฉีกสัญญาทิ้ง นั่นเป็นเพราะโม่เก๋อติงบังคับผม เขาเอาชีวิตผมมาข่มขู่ผม นั่นไม่ใช่ความหมายของผม ตอนแกผมอยากร่วมงานกับประธานหลิน” หวางเฟิงเที๋ยนก้มหัวหมอบกับพื้น หัวโคกพื้น ขอร้องไม่หยุด
“ประธานหลิน ครั้งนี้ผมเตรียมสัญญาโอนทั้งหมดมาแล้ว เอาบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์จื่อจินทั้งบริษัทให้ท่านเลย ผมขอแค่ครึ่งหนึ่งของราคาที่ท่านให้ก่อนหน้านี้ ไม่ ผมเอาแค่เศษหนึ่งส่วนสาม ขายให้ท่านทันที”
“แกคิดว่า บริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์จื่อจินของแกตอนนี้ ยังคู่ควรกับราคาเท่าไหร่?” คริสพูดอย่างเย็นชา
หวางเฟิงเที๋ยนยังอยากพูดอะไรอีก แต่พูดไม่ออก
ใช่ ประธานหลินแม้แต่ลาตินกรุ๊ปบอกยึดก็ยึด โม่เก๋อติงจะฆ่าก็ฆ่า
บริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์จื่อจินเล็กๆของเขา จะเป็นอะไรได้?
หลินอิ่งสีหน้าเรียบเฉย มองนักธุรกิจแบบนี้ออกอย่างถ่องแท้แล้ว
คนอย่างหวางเฟิงเที๋ยนที่หวังแค่ชื่อเสียงผลประโยชน์แบบนี้ ไม่ได้คุกเข่าให้เขา แต่คุกเข่าให้กับเงินทอง
บริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์จื่อจินอันใหญ่โต หวางเฟิงเที๋ยนไม่อยากปล่อย
“ประธานคริส ขอโทษ ท่านช่วยผมพูดกับประธานหลินหน่อยนะ ต่อจากนี้ผมจะเชื่อฟังประธานหลินทุกอย่าง กิจการของบริษัททุกอย่างจะฟังคำสั่งท่านเท่านั้น” หวงเฟงเที๋ยนถูหัวเข่า ขอร้องอย่างตั้งใจ ต้องการอยู่รอดให้ได้
ไหว้พระผิดองค์ หวางเฟิงเที๋ยนพยายามอยากแก้ไข ไม่อย่างนั้น ถ้าถูกหลินอิ่งชำระบัญชี บริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์จื่อจินต้องล้มละลายแน่นอน
ถ้าเป็นแบบนี้ เขาก็จะสูญเสียงอำนาจเงินทองทุกอย่าง ชีวิตจะตกต่ำที่สุด
“ตอนนี้ถึงมาอ้อนวอนผม สายไปแล้ว”
หลินอิ่งทิ้งคำพูดไปหนึ่งประโยชน์
ทันใดนั้น หวางเฟิงเที๋ยนเหมือนถูกฟ้าผ่า สีหน้าซีดเซียว ตัวสั่นไปทั้งร่าง
“ประธานหลิน ท่านอย่าโกรธแบบนี้ซิคะ ประธานหวางเขาไม่ได้ตั้งใจจะต่อต้านท่าน” หนีซิงพูดเสียงออดอ้อน สายตาเย้ายวน เอียงตัวไปหาหลินอิ่ง
“ประธานหลิน ไม่ทราบว่า พอจะมีเวลากินข้าวกันไหมคะ ขอโอกาสให้ฉันได้ขอโทษประธานหลินหน่อยนะคะ” หนีซิงน้ำเสียงออดอ้อน พูดเสียงหวาน
หลินอิ่งไม่สะทกสะท้าน มุมปากยิ้มเย็นชา
“คริส ให้หยังเสียงของบริษัทผองเฟยมา จัดการสองคนนี้ซะ” หลินอิ่งพูดอย่างเรียบเฉย
พูดจบ เดินจากไป
“ครับ” คริสพูดอย่างเคารพ
“ประธานหลิน รอก่อนค่ะท่าน ให้โอกาสฉันสักครั้งนะคะ” หนีซิงยังทำตัวยั่วยวน เดินเข้าไปใกล้ชิดหลินอิ่ง
เธอรู้สึกมั่นใจในความสวยของตัวเอง ยังไงแล้วก็เป็นดาราสาวที่ชื่อเสียงโด่งดังในเมืองก่าง มีคุณชายตระกูลดังไม่รู้เท่าไหร่คอยเข้าแถวจะมาจีบเธอ เธอไม่เชื่อ คนหนุ่มวัยเจริญพันธุ์อย่างหลินอิ่ง จะไม่มีความรู้สึกกับเธอแม้แต่น้อย
เท่าที่เธอดูแล้ว ผู้ชายก็เจ้าชู้กันทั้งนั้น โดยเฉพาะผู้ชายหนุ่มหน้าตาดีอย่างหลินอิ่ง ต้องมีความชอบในเรื่องพวกนี้แน่
“ตามมาอีก เธอตาย”
ฮาเดสสีหน้าเย็นชาขวางหนีซิงที่จะเข้าใกล้หลินอิ่ง
“ผู้หญิงแต่งหน้าหนาอย่างเธอหรือ ยังอยากคิดจะยั่วยวนประธานหลิน?” ฮาเดสพูดอย่างเย็นชา
“ไสหัวไป”
ตลกจริงๆ ฮาเดสติดตามข้างกายหลินอิ่ง เห็นสาวงามดั่งเทพธิดาไม่รู้เท่าไหร่ที่อยากเข้าใกล้มอบตัวให้ ประธานหลินไม่แม้แต่จะมอง ยิ่งดาราเมืองก่างแต่งหน้าหนาไร้การศึกษาแบบนี้ ยังมีหน้ามายั่วยวนต่อหน้าประธานหลินอีก?
พูดจบ ฮาเดสก็ติดตามหลินอิ่งออกจากอาคารสุ่ยจิน หนีซิงอึ้งอยู่กับที่ ไม่กล้าขยับ
กลิ่นอายแรงสังหารบนตัวฮาเดส ทำให้หนีซิงตกใจถอยหลังไปหลายก้าว ใบหน้าแดงก่ำ คิดไม่ถึงว่าจะถูกต่อว่าอย่างไร้เยื่อใยขนาดนี้
หลินอิ่งไม่ให้โอกาสเธอแม้แต่น้อย
เสนอตัวให้ขนาดนี้แล้ว กลับไม่แยแสไม่มองเลยแม้แต่น้อย
“ประธานคริส ท่านเป็นคนดังข้างกายประธานหลิน ช่วยคิดหาวิธีหน่อยได้ไหม ช่วยพวกเราพูดกับประธานหลินหน่อย ให้โอกาสพวกเราได้อยู่รอดด้วยนะ”
“ใช่ค่ะ ประธานคริส ท่านช่วยพวกเราหน่อยนะ พวกเราตกลงข้อเสนอทุกอย่าง” หนีซิงทำท่าทางน่าสงสาร พูดขอร้อง
คริสหัวเราะเย็นชามองดูหวางเฟิงเที๋ยนทั้งสองคน
เขาอยู่ในแวดวงธุรกิจนานาประเทศมานาน หน้าตาอันน่าสมเพชของหญิงสาวคนนี้ ก็ถือว่าเห็นมามากแล้ว
ต่อหน้าอำนาจเงินทองผลประโยชน์ ก็เปลี่ยนเป็นอีกคน และถูกขยายใหญ่ได้ไม่มีขีดจำกัด
คริสหัวเราะเย็นชา “พวกแกไปทำอะไรไว้? ตั้งแต่วินาทีแรกที่ทำให้ประธานหลินขุ่นเคือง ผลลัพธ์ของพวกแกก็ไม่มีดีแน่”
“คริส ประธานคริส เขา เขาจะจัดการยังไงกับพวกเรา?” หวางเฟงเทียนพูดอย่างหวาดกลัว
“พวกแกไม่มีวันได้เห็นตะวันอีกแล้ว” คริสพูดเสียวเรียบ “ชีวิตที่เหลือก็ไปขุดเหมืองที่แอฟริกาเถอะ”
พูดจบ คริสก็โทรหาหยังเสียง
หยังเสียงมีเหมืองอยู่ที่แอฟริกา เปิดบริษัทเหมืองแร่แอฟริกา ครั้งที่แล้วเพราะทำงานให้หลินอิ่งอย่างดี ถึงได้เป็นรางวัล
“หา? อะไรนะ? ไปขุดเหมือง?”
หวางเฟิงเที๋ยนกับหนีซิงตกใจจนหน้าซีด ในสมองเริ่มมีภาพชีวิตที่เหลืออีกครึ่งค่อนชีวิตก็ขุดเหมือง……..
……….
เมืองก่าง เกาะวงดาว คฤหาสน์เชียงปิง
จี้ฉงซานใส่ชุดลำลอง นั่งอยู่บนเก้าอี้ยาวริมทะเลสาบ ถือเบ็ดตกปลากำลังนั่งตกปลา
เขาสีหน้าเคร่งเครียด เหมือนมีความกดดัน ไม่ได้สบายใจเหมือนแต่ก่อน
“คุณท่านจี้ มีอะไรเหรอ? โทรหาฉันเร่งรีบขนาดนี้? เกิดเรื่องเร่งด่วนอะไร?”
เวลานี้ มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น
เหวินเทียนเฟิ่งสวมใส่เสื้อคลุมสบายคู่กับกางเกงยีน ใส่แว่นกันแดดทรงกลม ข้างกายมีบอดี้การ์ดเสื้อเท่าสองคน เดินเข้ามาช้าๆ นั่งลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่ง
“นายหญิงเหวิน เกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อย” จี้ฉงซานค่อยๆพูด “หลินอิ่งยืนอย่างหนักแน่นที่เมืองก่างแล้ว ยึดลาตินกรุ๊ปเมืองก่างไปแล้ว สถานการณ์เกินความควบคุมของผมแล้ว”
“ดังนั้น ผมรู้สึกว่า ทางด้านนายหญิงเหวิน ต้องรีบหายอดฝีมือมา มาร่วมมือกับผมเพื่อลงมือ เดี๋ยวนานเข้าเรื่องจะยุ่งยาก” จี้ฉงซานพูดสีหน้าจริงจัง