“คุณชายควินสัน คุณไม่ทราบรายละเอียดของสถานการณ์เลย” คุณชายโหมขมวดคิ้ว พูดขึ้นอย่างจริงจัง
“รายละเอียดอะไร?”ควินสันพูดขึ้นด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์”คุณกับพี่แอนนา ไปคุยอะไรกับหลินอิ่งนั่น? เขามีท่าทียังไงกันแน่?”
“ทางฝั่งของพ่อฉัน ก็เตรียมเงินทองไว้เรียบร้อยแล้ว เตรียมจัดตั้งบริษัทกรุ๊ปที่ตี้จิงได้ทุกเมื่อ”
“ตอนนี้ยังเจรจาไม่ลงตัว แผนการที่ให้ตระกูลเข้ามาตั้งถิ่นฐานพัฒนาในทุกๆด้านในประเทศหลุง หยุดเอาไว้ชั่วคราว”คุณชายโหมพูดขึ้นอย่างเคร่งขรึม”คุณชายควินสัน เรื่องนี้ คุณต้องกลับไปบอกพ่อของคุณนะครับ”
“อะไรนะ? เจรจาไม่ลงตัว? หรือว่าหลินอิ่งยังไม่อนุญาตให้ตระกูลพวกเราเข้าไปตั้งรกรากที่ตี้จิงอย่างนั้นเหรอ?”ควินสันพูดขึ้นด้วยความไม่พอใจอย่างมาก”คุณชายโหม ตอนนี้ฉันเริ่มจะไม่มั่นใจในความสามารถของนายแล้ว”
“กะอิแค่คนประเทศหลุงคนเดียว กล้าดียังไงมาทำตัวโอ้อวดหยิ่งทะนงต่อหน้าตระกูลโครเมียร์ของพวกเรา?”ควินสันพูดขึ้นด้วยสีหน้านิ่งขรึม”มันทำให้ฉันต้องเสียคนไป ฉันทนได้ แต่จะมาขวางเส้นทางธุรกิจของพวกเรา เรื่องนี้ ถึงฉันทนได้ แต่เกรงว่าพ่อของฉันคงจะทนไม่ได้แล้ว!”
ที่ควินสันมาในครั้งนี้ เดิมทีมาเป็นตัวแทนคนระดับสูงภายในตระกูลโครเมียร์ เพื่อมาตรวจสอบสถานการณ์ก่อน เตรียมที่จะสร้างช่องทางธุรกิจมากมายในตี้จิง
พันธมิตรในการร่วมงาน ก็เลือกหลินอิ่ง
แต่ผลที่ได้ กลับกลายเป็นสถานการณ์แบบนี้?
อีกอย่าง ทุกครั้งที่ตระกูลโครเมียร์หาคนมาร่วมงานด้วย ไม่เคยได้รับอะไรตอบแทนกลับมาแบบนี้เลยสักครั้ง
จากสถานภาพของเขาควินสันคนนี้ ไปลงทุนพัฒนาที่ประเทศในก็ตามในโลกตะวันตก ก็จะมีเหล่าพวกเจ้าหน้าที่ระดับสูงของฝ่ายกระทรวงพาณิชย์มาคอยต้อนรับช่วยเหลือเป็นอย่างดีเสมอ!
“คุณชายควินสัน กรุณาระมัดระวังอารมณ์ของคุณด้วยครับ”คุณชายโหมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งขรึม”ท่าทีแบบนี้ของคุณ มีความเป็นไปได้มากว่าจะส่งผลกระทบต่อกุลยุทธ์ของท่านเอิร์ลในการเตรียมการปฏิบัติต่อประเทศหลุงนะครับ”
“หมายความว่าไง? ยกท่านเอิร์ลมากดฉันอีกแล้วใช่ไหม? ฉันไม่เชื่อว่าท่านเอิร์ลจะมีความอดทนต่อท่าทีแบบนี้ของหลินอิ่งได้หรอก!”ควินสันพูดขึ้นด้วยความไม่ยอม
“ถ้าหลินอิ่งไม่ตอบรับ พวกเราก็แค่หาบุคคลที่มีอำนาจอิทธิพลคนอื่นในตี้จิงก็แค่นั้น!”ควินสันพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งขรึม”หลินอิ่งกำลังต่อสู้แย่งชิงเมืองเทียนหลงกับพวกผู้มีอำนาจอิทธิพลคนอื่นๆในตี้จิงไม่ใช่หรือไง? ฉันก็แค่ไปร่วมงานกับตระกูลชั้นสูงของตี้จิงพวกนั้นก็จบแล้ว ฉันจะดูซิว่าเขาจะยังยโสโอหังขนาดนี้อยู่อีกไหม”
พอพูดถึงตรงนี้ จู่ๆก็มีความเยือกเย็นแผ่ซ่านออกมาจากตาของคุณชายโหม มองไปยังควินสันอย่างโหดเหี้ยม
“คุณชายควินสัน คุณทำแบบนั้นก็เท่ากับฆ่าตัวตายนะครับ”คุณชายโหมพูดขึ้นอย่างเคร่งขรึม”เจรจาธุรกิจในตี้จิง ไม่มีใครใหญ่ไปกว่าหลินอิ่งแล้ว”
“ถ้าตระกูลคิดที่จะวางแผนพัฒนาอยู่ในประเทศหลุงไปนานๆ ก็หนีไม่พ้นเขา”
“เอาเถอะ แล้วแต่นาย ถึงยังไงฉันจะไปรายงานกับพ่อเอง”ควินสันพูดขึ้นอย่างช้าๆไม่รีบไม่ร้อน”ใช่แล้วคุณชายโหม ฉันอยากให้นายช่วยฉันอีกหนึ่งเรื่อง”
คุณชายโหมพูดถามขึ้น”เรื่องอะไรครับ?”
“ไปแอบจับตัวผู้หญิงที่ตบหน้าฉันวันนี้มา ฉันจะแก้แค้นเธอ”ควินสันพูดขึ้นด้วยสีหน้าโหดเหี้ยม”จากพลังของนาย น่าจะทำได้โดยที่ไม่ให้ทุกคนรู้ตัว”
สายตาของคุณชายโหมมืดมนลง สายตาเฉียบคม
“คุณชายควินสัน คุณเสียสติไปแล้ว ถ้าคุณกล้าทำแบบนั้น พวกเราก็จะตายอยู่ที่ตี้จิงกันหมดนะครับ”
“ผมแนะนำว่า ช่วงนี้ คุณชายควินสันอย่าโผล่หน้าโผล่ตาออกไปจะดีกว่า โดยเฉพาะต่อหน้าขิงหลินอิ่ง”คุณชายโหมพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง”ผมจะทำให้หน่วยกล้าตายคอยจับตาดูคุณเอาไว้”
“อะไรนะ? คุณชายโหม ทำไมนายถึงกลัวหลินอิ่งขนาดนี้? ถ้านายแอบทำเรื่องนี้ ก็ไม่มีใครรู้หรอก!”ควินสันสายตาตกใจ สีหน้าไม่สบายใจมากๆ
คุณชายโหมไม่สนใจควินสัน หันตัวไป
“คุณชายควินสัน คุณรอโทรศัพท์จากท่านเอิร์ลเถอะครับ”
พอพูดถึงตรงนี้ ท่าทางของควินสันแข็งชะงัก สีหน้าอึดอัดไม่สบายใจ แต่กลับไม่ได้พูดอะไร
“คุณหนูแอนนา คุณเล่าอธิบายสถานการณ์ให้กับคุณชายควินสันฟังสิครับ” คุณชายโหมพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง”ในใจของเขา ถ้าเกิดยังมองหลินอิ่งด้วยมุมมองความคิดแบบนี้อยู่ มีความเป็นไปได้มากว่าจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแน่ๆ”
พอมอบหมายเสร็จ คุณชายโหมก็เดินมาถึงห้อง หยิบโทรศัพท์มาใส่รหัส โทรออกไป
หลังจากที่เสียงตู๊ดๆดังขึ้นสองที
“ท่านเอิร์ล หลินอิ่งได้รับข้อความที่ท่านส่งไปให้เขาแล้วครับ”คุณชายโหมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเคารพนอบน้อม เป็นภาษาต่างประเทศ
“หลังจากที่หลินอิ่งอ่านจบแล้ว มีปฏิกิริยาอะไร?”ในสายมีเสียงแหบแห้งในลำคอดังขึ้น
คุณชายโหมพูดขึ้น”เขาเริ่มมีเจตนาฆ่าแล้วครับ”
“อ้อ ถ้าอย่างนั้นเขาพูดว่าอะไรบ้าง?”
“หลินอิ่งไม่มีท่าทีอะไร แต่ให้มาบอกท่าน ว่าถ้าจะเจรจาหารือ ต้องให้ท่านมาหาเขาที่ประเทศหลุงเอง”
ท่านเอิร์ลที่อยู่ในสาย ราวกับนิ่งเงียบไปสักพัก
“ท่านเอิร์ลหลังจากนี้ พวกเราควรจะทำยังไงต่อครับ?”คุณชายโหมพูดถามขึ้น
“พวกนายอยู่ที่ประเทศหลุงต่อไป ต้องดูแลแอนนาให้ดี อย่าเคลื่อนไหวหรือกระทำการใดๆทั้งสิ้นภายใต้สายตาของหลินอิ่ง”
“เดี๋ยวถ้าฉันจัดการงานเสร็จแล้ว จะไปที่ประเทศหลุงทันที”
“ทราบครับ!”ใบหน้าของคุณชายโหมประหลาดใจเล็กน้อย
เขาคิดไม่ถึงว่าท่านเอิร์ลจะตัดสินใจลดตัวลงมาหาหลินอิ่งที่ประเทศหลุงด้วยตัวเอง
นี่มันหายากมากจริงๆ
ท่านเอิร์ลที่เป็นที่สนใจของผู้คนจากโลกมืดทางฝั่งตะวันตก มาที่ประเทศหลุงด้วยตัวเอง เกรงว่าจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไม่น้อยเลย
……
ณ ใจกลางวิลล่า บนยอดเขาฉางชิง
ภายในห้องรับแขก หลินอิ่งสีหน้าไร้อารมณ์ ถือแก้วชา นั่งอยู่ที่เก้าอี้ปรมาจารย์ตรงหัวโต๊ะยาว
เย่เฮยยืนอยู่ข้างหลังด้วยความเคารพ
ทั้งสองฝั่งของโต๊ะยาว แบ่งเป็นหยูจื๋อเฉิงนิ่งซวนหวงชิงซาน หรงหยัง
ลูกน้องที่ทำงานให้กับหลินอิ่ง มารวมตัวกันเกือบหมด
นี่ก็เป็นครั้งแรกที่หลินอิ่งเรียกสมาชิกของตี้จิงมารวมตัวกัน
เพราะว่า สองวันหลังจากนี้ ก็คือการประชุมสุดยอดเทียนหลง เขาจะต้องเข้าร่วมอย่างแน่นอน
ทุกฝ่ายก็ตกลงกันหมดเรียบร้อยแล้ว
เนื่องจากคนเหล่านี้ได้ทำงานร่วมกัน จึงเคยเจอหน้ากันไม่มากก็น้อย
หลินอิ่งดื่มชาไปหนึ่งคำ วางแก้วชาลง ก่อนจะพูดขึ้นอย่างนิ่งๆ”ไหนว่ามา เรื่องที่ให้พวกนายไปทำ เป็นยังไงบ้าง”
หยูจื๋อเฉิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง”ท่านอิ่ง ทางฝั่งของเขตหัวหยาง เสถียรลงแล้วครับ ผมกับหรงหยัง ก็จัดการกับตระกูลชั้นสูงอันดับสองส่วนใหญ่ในตี้จิงไปหมดแล้วครับ อันนี้คือใบรายชื่อ เป็นรายชื่อของตระกูลชั้นสูงที่ตัดสินว่าจะสนับสนุนคุณในการประชุมสุดยอดเทียนหลงครับ”
หลินอิ่งพยักหน้า เขาให้หยูจื๋อเฉิงจัดการกับผู้มีอำนาจอิทธิพลพื้นเมืองของตี้จิง แล้วก็จัดการกับอำนาจอิทธิพลของตระกูลสวีที่เขตหัวหยางด้วย
เห็นได้ชัดเจนว่า หยูจื๋อเฉิงจัดการได้อย่างลงตัวเหมาะสมมาก
“ประธานหลิน ทางด้านของเมืองเทียนหลง ดูโดยรวมไม่มีปัญหาอะไร ทุกอย่างเรียบร้อยเสร็จสรรพแล้วครับ”นิ่งซวนพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง”ผมจัดการข้อเสนอใหญ่ในการประชุมสุดยอดเทียนหลงเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ”
“การประชุมสุดยอดเทียนหลงจะเริ่มขึ้นในอีกสองวัน”หลินอิ่งพูดขึ้นอย่างช้าๆ”พวกนายไปประชุมด้วยกันกับฉัน เตรียมของทั้งหมดไว้ให้เรียบร้อย”
“รับทราบครับ!”
พวกเขาพยักหน้าตอบรับอย่างพร้อมเพรียงกัน
หลินอิ่งสายตานิ่งลึก มองทอดออกไปยังเขาเขียวขจีที่อยู่ไกลออกไป
สถานการณ์โดยรวมของตี้จิงในตอนนี้ก็อยู่ในกำมือของตัวเองเรียบร้อยแล้ว
กำลังคนของสำนักยุทธ์เชียนต้าเหอก็จัดการกวาดล้างจนเกลี้ยงอย่างลับๆแล้ว
ชีซิงกรุ๊ปกับตระกูลสวีก็ไม่กล้าโผล่หัวออกมาต่อสู้
เมืองเทียนหลงได้ครอบครองช่องทางส่วนใหญ่ไว้เรียบร้อยแล้ว
ถึงขนาดที่ กลุ่มผู้มีอำนาจทางการเงินของต่างประเทศ ตระกูลโครเมียร์ก็ไปจัดการเรียบร้อยแล้วด้วย
ขอแค่ในการประชุมสุดยอดเทียนหลง ทำให้ตระกูลสวีลงจากแท่นมาอย่างสง่าผ่าเผยให้ได้ในทีเดียวก็พอ
ตระกูลนี้ ก็จะสูญหายไปจากประวัติศาสตร์อันยาวนานของตี้จิง