ส่วนหูชีเยี่ยนเองก็ดูลึกลับเกินไป แม้จะพักอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน จ่านป๋ายก็ยังรู้สึกอ่านใจเขาไม่ออก ดังนั้นเขาจึงต้องระวังตัวไว้ก่อน สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกแปลกก็คือ…หูชีเยี่ยนเริ่มทุกข์ใจเรื่องสำคัญในชีวิตของซีเหมินจินเหลียนแล้ว
ยิ่งเขายุ่งพัวพันกับเรื่องนั้นทีเรื่องนี้ที จ่านป๋ายก็ยิ่งกังวลไม่หาย ดูแล้วเหมือนเขากำลังวางแผนเรื่องก่อนตายอย่างไรไม่รู้ แถมยังดูรีบร้อนอีก
เขาอยากจะเตือนซีเหมินจินเหลียน แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มเอ่ยปากพูดจากตรงไหน ตอนนี้ซีเหมินจินเหลียนกับหูชีเยี่ยนกลับมาคืนดีกันหลังศึกสงบ ทั้งคู่ก็ต่างพยายามเอาใจอีกฝ่าย หูชีเยี่ยนพยายามรับบทเป็นพ่อที่จิตใจดีมีเมตตา ทำให้ซีเหมินจินเหลียนมีความสุข
ส่วนซีเหมินจินเหลียนเองก็รับบทเป็นลูกสาวว่านอนสอนง่าย ออดอ้อนหูชีเยี่ยนให้สบายใจ…
…
ได้ยินคนอื่นบอกว่านิสัยของหูหวังแปลกประหลาด และยากต่อการคบค้าสมาคม แต่น่าจะเป็นเพราะเลือกปฏิบัติกับคนอื่นมากกว่า ซีเหมินจินเหลียนรู้สึกว่าหูหวังเป็นคนอารมณ์ขัน แถมยังรอบรู้ไปหมด เมื่อรู้ว่าซีเหมินจินเหลียนจะมาจึงเตรียมผลไม้และของหวานให้พร้อมล่วงหน้า แถมยังเป็นของที่ผู้หญิงชอบทั้งนั้น
ซีเหมินจินเหลียนอยากจะเอาใจเขา เขาก็หวังจะรู้จักหลานสาวคนนี้ให้มากเช่นกัน และไม่อยากจะมีความขัดแย้งเหมือนกับหูชีเยี่ยนในตอนสุดท้าย
ดังนั้นซีเหมินจินเหลียนจึงมีความสุขเริงร่าอยู่กับหูหวัง เมื่อถึงเวลาต้องบอกลาก็เกือบจะเที่ยงคืนแล้ว หูหวังเรียกเธอมาเจรจาตกลง ขอให้เธอย้ายมาพักอยู่กับเขาสักหลายวันจะได้หรือไม่ คฤหาสน์ของเขาใหญ่กว่าคฤหาสน์จินเเหลียนตั้งเยอะ
เดิมทีซีเหมินจินเหลียนไม่ได้สนใจ ถ้าไม่ใช่เพราะต้นเหตุมาจากหูชีเยี่ยน เธอก็อยากเชื้อชวนให้หูหวังมาพักที่คฤหาสน์จินเหลียนสักระยะ…แต่ตอนนี้หูชีเยี่ยนอยู่ เธอก็ไม่สามารถทิ้งเขาโดยไม่ใส่ใจไยดีได้
สิ่งที่ทำให้ซีเหมินจินเหลียนแปลกใจก็คือ หูหวังรู้เรื่องแค่เดิมพันหิน แต่ไม่รู้เรื่องการลงฝีมือแกะสลักหยก…เขาบอกว่า นั่นเป็นงานช่างทั้งนั้น
“จินเหลียน ไฟยังสว่างอยู่เลย หรือว่าคุณหูยังไม่นอนอีกเหรอครับ?” ช่วงที่จ่านป๋ายเปิดประตู เห็นห้องรับแขกยังคงมีไฟสว่างจ้า จึงถามอย่างสงสัย
“ถึงปิดไฟหมด เขาก็ไม่แน่ว่าจะนอนนี่นา” ซีเหมินจินเหลียนคิดถึงเรื่องที่ลุงงูเคยเข้ามาที่นี่แล้วปิดไฟสนิท ทั้งคู่ต่อสู้กันอีก พักผ่อนที่ไหนกันล่ะ?
ซีเหมินจินเหลียนเดินเข้าไปในห้องรับแขกพร้อมจ่านป๋าย เห็นว่าห้องใต้ดินยังมีไฟสว่างจ้า ได้แต่สงสัยไม่หยุด หูชีเยี่ยนรีบร้อนอะไรขนาดนั้น?
“จินเหลียน คุณหูคงไม่ได้อาศัยจังหวะที่พวกเราไม่อยู่บ้านทำอะไรกับหินราชางูหรอกนะ…” พูดจบจ่านป๋ายก็ทำท่าประกอบว่ากำลังลงมีดอยู่
“ผ่าหินราชางูน่ะ สำหรับเขาแล้วไม่ต้องใช้เวลานานขนาดนี้หรอก” ซีเหมินจินเหลียนแกล้งทำเป็นโกรธใส่จ่านป๋าย แต่ก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะอย่างไรหูชีเยี่ยนอยากจะผ่าหินหยกก็ไม่ใช่แค่เรื่องในวันสองวันนี้
“ถ้าฉันจะผ่าหินราชางู จะปิดบังพวกเธอได้เหรอ?” หูชีเยี่ยนพูดพลางเดินออกมาจากห้องใต้ดิน
จ่านป๋ายยิ้มเจ้าเล่ห์ “ดึกขนาดนี้แล้วคุณยังไม่พักผ่อนอีกเหรอครับ”
“พ่อคะ ดึกขนาดนี้แล้วทำอะไรอยู่ห้องใต้ดินเหรอคะ” ซีเหมินจินเหลียนพูดพลางถอดเสื้อคลุมขนตัวใหญ่
“ด้านนอกหนาวเหรอ” หูชีเยี่ยนคว้ามือเธอไปแล้วลูบไล้ ถอนหายใจออกมา “ทำไมกลับดึกแบบนี้แล้วไม่โทรมาเลยล่ะ?”
ซีเหมินจินเหลียนยู่ปาก โทรหาเขาเพื่อรายงานตัวอย่างนั้นเหรอ? ดูเหมือนเธอไม่ค่อยจะคุ้นชินเรื่องแบบนี้สักเท่าไหร่? ตั้งแต่เล็กจนโตก็อยู่ตัวคนเดียว อยากจะโทรไปรายงานตัวก็ไม่รู้จะโทรไปหาใคร
“หนูไปเล่นอยู่ที่บ้านคุณปู่หูเสียยกใหญ่เลยค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนยิ้ม
“คุณก็เป็นห่วงจินเหลียนเกินไปแล้วครับ คุณหูเองก็ไม่ใช่คนนอก” จ่านป๋ายพูดพลางเดินไปที่ห้องใต้ดิน
“ไอ้หนูอย่าขยับซี้ซั้ว!” หูชีเยี่ยนพูดกะทันหัน
“ทำไมเหรอครับ?” จ่านป๋ายไม่เข้าใจ “ผมแค่จะไปทำความสะอาด หรือว่าคุณยังจะไม่เข้านอนหรือครับ”
“อีกสักเดี๋ยวแล้วกัน!” หูชีเยี่ยนพูด
ซีเหมินจินเหลียนตกใจ นี่มันกี่โมงแล้ว เขายังไม่นอน แต่ยังขอเวลาต่ออีก? ส่วนจ่านป๋ายก็เดินเข้าไปในห้องใต้ดินพร้อมส่งเสียงตกใจขึ้นทันที “จินเหลียน…จินเหลียน…รีบมาดูนี่ พระเจ้า…คุณหู คุณทำได้ยังไงครับเนี่ย?”
ซีเหมินจินเหลียนได้ยินแล้วรีบวิ่งไปยังห้องใต้ดิน ตรงกลางของห้องใต้ดินมีหยกใหญ่สามสีล้ำค่าก้อนนั้น ตอนเช้ายังมีแค่ลวดลายร่างคร่าวๆ แต่เวลานี้กลายเป็นรูปเป็นร่างแล้ว ลายเส้นขนาดใหญ่บนพื้นผิวถูกแกะสลักเสร็จเรียบร้อย แถมตรงกลางยังผ่าออกมาสมบูรณ์แบบวางอยู่อีกฝั่ง
“คุณหู นี่มัน?” จ่านป๋ายตกใจ “เร็วเกินไปหรือเปล่าครับเนี่ย”
ซีเหมินจินเหลียนเอื้อมมือไปสัมผัสลายเส้นหยาบกระด้างบนเตาซ่อมฟ้าและพูดชื่นชม “พ่อคะ ทำไมท่านถึงเร็วขนาดนี้ล่ะคะ”
“จินเหลียน งานแกะสลักหยก สิ่งสำคัญอยู่ที่ลวดลายที่เป็นรากฐาน ถ้าวาดลวดลายดีมันก็ต้องเร็วอยู่แล้ว” หูชีเยี่ยนยิ้ม “แต่นี่เป็นแค่ลายเส้นหยาบๆ ลวดลายคร่าวๆ ที่ทำออกมา ต่อไปก็ต้องใช้งานวิจิตรประณีตแล้วล่ะ นี่ต่างหากถึงเปลืองแรง”
“แต่พ่อก็ยังเร็วอยู่ดีนี่คะ?” ซีเหมินจินเหลียนไม่เข้าใจในเรื่องนี้ ถ้าเป็นเธอแม้จะรีบเร่งแค่ไหนก็ไม่มีทางทำได้รวดเร็วเท่านี้ เดิมทียังหวังว่าจะใช้การแกะสลักเตาซ่อมฟ้ายื้อให้เขาอยู่สักปีกว่า แต่ดูจากความเร็วของเขาแล้ว ไม่ถึงหนึ่งเดือนก็น่าจะแกะสลักเสร็จทุกอย่าง
หูชีเยี่ยนยิ้มน้อยๆ จัดการให้เสร็จตั้งแต่ต้นจะได้จบๆ ไป
“พวกลูกออกไปข้างนอก พ่อเลยเบื่อๆ น่ะ เลยใช้วิธีนี้ฆ่าเวลาไปก็แค่นั้น” หูชีเยี่ยนพูด “นี่ก็ดึกมากแล้ว จินเหลียนเดี๋ยวพ่อจัดการตรงนี้ให้เสร็จอีกนิดก็จะนอนแล้ว ลูกไปนอนก่อนเถอะ”
ซีเหมินจินเหลียนกำลังจะพูด แต่เห็นจ่านป๋ายส่งสายตาเป็นสัญญาณให้เธอจึงยิ้ม “พ่อคะ พ่อไม่ต้องทำแล้วค่ะ พรุ่งนี้ก็ได้ นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว”
“ก็ได้ๆ เด็กดี ลูกขึ้นไปด้านบนเถอะ อีกเดี๋ยวพ่อก็จะพักผ่อนแล้ว ถ้าลูกไม่เชื่อให้เสี่ยวป๋ายอยู่เป็นเพื่อนพ่อก็ได้” หูชีเยี่ยนเห็นชัดเจนที่จ่านป๋ายส่งสายตาให้ซีเหมินจินเหลียน จึงเจตนาพูดไปทันที
ซีเหมินจินเหลียนมองจ่านป๋าย จ่านป๋ายพยักหน้าพูด “โอเค เดี๋ยวผมอยู่เป็นเพื่อนคุณหูเองครับ ชื่นชมฝีมือแกะสลักที่งดงามสมบูรณ์แบบนี่ก่อนสักหน่อย”
“ฉันไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนแล้วกัน เดี๋ยวค่อยลงมา” ซีเหมินจินเหลียนพูดจบก็เดินขึ้นไปด้านบน
รอจนซีเหมินจินเหลียนขึ้นไปด้านบนแล้ว จ่านป๋ายจึงลากเก้าอี้ตัวหนึ่งมานั่งลงข้างหน้าหูชีเยี่ยนพร้อมอมยิ้ม “คุณหูครับ พวกเรามาคุยกันได้ไหมครับ?”
“อ้อ?” หูชีเยี่ยนเงยหน้าขึ้นถาม “ไอ้หนู นายอยากจะพูดอะไรอย่างนั้นเหรอ”
“ผมรู้ว่าคุณรักจินเหลียนมาก เรื่องที่คุณทำทั้งหมดก็เพื่อเธอ” จ่านป๋ายเรียบเรียงคำพูดอยู่ครู่ใหญ่และเปิดปากออกไปอย่างคล่องแคล่ว
“ฉันก็มีแค่ลูกสาวคนเดียว” หูชีเยี่ยนเงยหน้ามองจ่านป๋าย
จ่านป๋ายคว้าซองบุหรี่หนึ่งกล่องจากกระเป๋าเสื้อยื่นไปให้เขา หูชีเยี่ยนนิ่งไป แต่จ่านป๋ายเพียงยิ้มออกมา “คุณก็รู้ว่าผมค้นหาข้อมูลของคุณทั้งหมด แล้วก็รู้ว่าคุณติดบุหรี่มาก…”
“อืม ไอ้หนูอย่างนายก็ใส่ใจไปแล้ว” หูชีเยี่ยนรับบุหรี่ต่อและหยิบออกมาหนึ่งมวน จ่านป๋ายจุดไฟให้เขา
หูชีเยี่ยนสูดเข้าไปอย่างแรง ถอนหายใจพูดขึ้น “ติดบุหรี่ก็ไม่เห็นเป็นไร เพียงแค่ตอนยังหนุ่มชอบสูบบุหรี่เท่านั้น แต่จินเหลียนเธอเกลียดควัน ตอนแรกนายก็สูบไม่ใช่เหรอ?”
“คุณหูครับ ถ้าคุณยอมล้างใบหน้าจอมปลอมออกและเดินออกไปด้วยกันกับจินเหลียน คนอื่นคงไม่เชื่อว่าคุณเป็นพ่อของเธอหรอกครับ!” จ่านป๋ายยิ้มเบาๆ “ยุคสมัยนี้คนส่วนใหญ่ยอมที่จะรักษาหน้าตาของตัวเองให้ดูดี ไม่ให้แก่ลง แต่คุณกลับตรงกันข้าม ตั้งใจแต่งตัวทำให้ตัวเองแก่เสียอย่างนั้น?”
“จริงเหรอ?” หูชีเยี่ยนสูบบุหรี่ต่ออีกครั้ง จากนั้นขยี้ดับก้นบุหรี่ลง ลากเก้าอี้มานั่ง “ฉันดูหนุ่มขนาดนั้นเลย?”
“ครับ แน่นอนครับ!” จ่านป๋ายพูด
“โอเค พูดตามตรง หน้าตาของฉันดูหนุ่มหรือไม่นั่นมันไม่ใช่ประเด็น การรักษาความงามบนใบหน้ามันก็ต้องมีบ้าง” หูชีเยี่ยนพูด “ไอ้หนูอย่างนายจะพูดอะไร?”
“คนส่วนใหญ่เวลาเสริมความงาม ก็หวังอยากจะให้ตัวเองดูอ่อนเยาว์ลง แต่การที่คุณเสริมความงามไม่ใช่เจตนาที่แท้จริงของคุณใช่ไหมครับ?” จ่านป๋ายพูด
“ฉันก็แค่เคยใช้คาลซิโดนีโบราณก็แค่นั้น” หูชีเยี่ยนยิ้มเย็น “สำหรับฉันแล้ว นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”
“ใช่ครับ!” จ่านป๋ายพยักหน้าพูด “สำหรับคุณแล้ว หินปิดฟ้าก็ไม่ใช่เรื่องยาก แล้วยิ่งเป็นคาลซิโดนีโบราณอีก? ในเมื่อเป็นอย่างนั้นคุณจะกังวลอะไรอยู่ล่ะครับ หรือว่าคุณกำลังตามหาอะไรอยู่? คุณยังดูหนุ่ม คงไม่รีบตระเตรียมจัดการเรื่องก่อนตายหรอกนะครับ?”
“นายกล้าดีอย่างไรกัน!” หูชีเยี่ยนพูดจาเกรี้ยวกราด
“หูหวังก็อายุปูนนี้แล้ว ยังไม่เร่งรีบอะไร แล้วคุณจะร้อนรนไปทำไม?” จ่านป๋ายยังคงไม่สะทดสะท้านพูดต่อไป “คุณรีบแกะสลักเตาปิดฟ้าให้จินเหลียน รีบทุกข์ใจเรื่องการแต่งงานของเธอ ไหนจะรีบไล่หูหวังออกไปจากพม่าอีก รีบพยายามชำระแค้นกับซีเหมินน่งเย่ว์…คุณกำลังกังวลใจอะไรอยู่เหรอครับ?”
“พ่อหนุ่ม นายยุ่งมากไปแล้ว!” หูชีเยี่ยนคว้าบุหรี่มาอีกครั้งพร้อมจุดไฟ
“พูดตามตรง เรื่องของคุณหูผมก็ไม่อยากจะยุ่งหรอกครับ แต่…ถ้าคุณไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน สำหรับจินเหลียนแล้วคุณก็อยู่แค่ในความทรงจำของเธอ เธอไม่เคยตื่นเต้นดีใจ ไม่เคยเจ็บปวดเสียใจ แต่พอคุณปรากฏตัวเข้ามา คุณเคยคิดหรือเปล่าถ้าคุณจากเธอไปอีกครั้ง เธอจะเป็นอย่างไร?” จ่านป๋ายถามเบาๆ
หูชีเยี่ยนไม่ได้พูดอะไร ทำได้แค่พ่นควันบุหรี่ออกมาอย่างหนัก ระหว่างก้นบุหรี่เฮือกสุดท้ายจะดับลง จ่านป๋ายถึงได้พูด “ปากคุณก็บอกว่าจะไม่หนีจากเธอไปอีกครั้ง แต่สิ่งที่คุณทำทั้งหมดก็เพื่อที่จะเตรียมตัวหนีไปจากเธอ และก็ดูเหมือนจะรีบร้อนเสียด้วย…”
“จินตนาการของนายสูงกว่าจินเหลียนอีกนะ ทำไมไม่ไปเขียนหนังสือขายเสียล่ะ? เสียดายที่นายต้องมาเป็นบอดี้การ์ดเสียแล้ว!” หูชีเยี่ยนยิ้มเย็น “จากไปงั้นเหรอ? ถ้าฉันไม่ตายแล้วจะไปไหนได้ล่ะ? การเดินทางคมนาคมสมัยนี้เจริญจะตายจะหลบไปที่ไหนได้เหรอ”
“ยี่สิบปีนี้ คุณหูก็หายตัวไปอย่างไรร่องรอยไม่ใช่เหรอครับ?” จ่านป๋ายยิ้มเย็น “ผมไม่ใช่จินเหลียน แต่คำพูดปดหลอกลวงของคุณ คุณเก็บมันไว้เถอะครับ!”
หูชีเยี่ยนยิ้มเย็น “ยี่สิบปีนี้ฉันไปอยู่ที่ไหนมา ฉันต้องรายงานให้นายรู้ด้วยเหรอ? ไอ้หนูอย่างนายคิดอยากจะไต่สวนฉันอย่างนั้นสิ?”
“ไม่กล้าหรอกครับ!” จ่านป๋ายส่ายศีรษะพูด “สำหรับคุณแล้ว ผมไม่กล้าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่หรอก ถ้าไม่ใช่เพราะผมอยู่ข้างกายจินเหลียนมาตลอด บางทีคุณอาจจะไม่เห็นผมอยู่ไหนสายตาด้วยซ้ำ…ผมแค่หวังจะให้จินเหลียนมีความสุขก็พอ ผมเลยไม่อยากให้ใครมารังแกเธอครับ”