ตอนที่ 346 รอเขา
ท่านเชนมองเขาด้วยความเป็นห่วง “นายจะไปไหน”
ซือเหยี่ยนเดินอ้อมท่านเชนมุ่งหน้าออกข้างนอกไป ก่อนเอ่ยเสียงต่ำ “ไปหาเจียงมู่เฉินครับ”
เขารู้ประมาณหนึ่งว่าเจียงมู่เฉินจะอยู่ที่ไหนได้ พอคิดถึงว่าเขาตกอยู่ในกำมือของฟู่เหยี่ยน เขารอต่อไปไม่ได้อยู่แล้ว
เสียงเขาเพิ่งจะหยุดลง กว่าท่านเชนจะมีท่าทีตอบสนองกลับมา เขาก็ออกจากห้องไปแล้ว
……
ซังจิ่งรออยู่หน้าประตูทางเข้าของแก๊งมังกรครามอยู่นานมากแล้ว เอาแต่รอเก้อก็ไม่เจอซูเตอร์และซือเหยี่ยนสักที
เวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน เอาแต่รอต่อไปแบบนี้ก็ไม่ใช่วิธีที่ดี เขาจำต้องให้คนไปสืบถึงตำแหน่งของพวกซือเหยี่ยน
หลังจากนั้นถึงได้รู้ว่าซือเหยี่ยนและซูเตอร์เข้าร่วมกิจกรรมหนึ่งอยู่กลางทะเล
แต่ว่าคนอยู่กลางทะเล ก็ค่อนข้างยากจะจัดการได้ ถึงอย่างไรก็ไม่สะดวกเหมือนกับการตามหาบนบก
ซังจิ่งกุมขมับอย่างช่วยไม่ได้ หอบเอาจิตใจลองโทรหาซือเหยี่ยนสักตั้ง
ถึงอย่างไรตอนนี้เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นใดแล้ว
ซังจิ่งกดโทรออก คิดไม่ถึงว่าจะโทรติด เขาตะลึงงันไป รู้สึกว่าน่าทึ่งอยู่ไม่เบา
มือถือหน้าจอมีแสงวิบวับไม่หยุด แต่ปลายสายทางนั้นก็ไม่รับสายสักที
ต่อมาก็ถูกตัดสายลง
ซังจิ่งขมวดคิ้วทันที รีบส่งข้อความไปหาอย่างรวดเร็ว
[เรื่องเกี่ยวกับเจียงมู่เฉิน รีบรับสายด่วน]
หลังจากส่งไป รอเพียงไม่กี่วินาทีก็โทรหาซือเหยี่ยนอีกครั้ง
ซือเหยี่ยนที่เพิ่งจะเดินถึงดาดฟ้าเรือเห็นข้อความนี้ คิ้วก็ขมวดทันที เพิ่งจะเตรียมโทรหาซังจิ่ง ก็เห็นซังจิ่งโทรเข้ามา
เขาลงเรือลำเล็กที่อยู่ด้านข้าง พลางรับสายของซังจิ่งไปด้วย
“เจียงมู่เฉินหายตัวไปแล้ว” ซังจิ่งเอ่ยออกก็พูดเรื่องนี้ทันที
ซือเหยี่ยนขมวดคิ้ว “ผมเพิ่งรู้เมื่อกี้นี้”
“วันนั้นที่พวกเราจะกลับถานโจว ก็ไม่เจอเขาแล้ว ไม่กี่วันมานี้ผมตามหาข่าวคราวของเขาตลอด แต่ก็หาไม่เจอเลย”
‘วันนั้นที่กลับถานโจว…’
‘นั่นเป็นตอนที่เจียงมู่เฉินออกจากคฤหาสน์พักตากอากาศของพวกเขาไม่ใช่เหรอ’
“คุณมีข่าวคราวอะไรไหม”
ซังจิ่งบอกไปตามตรง “เขาโดนฟู่เหยี่ยนพาตัวไป แต่รายละเอียดว่าพาไปที่ไหน ผมก็ยังไม่ชัดเจน”
คำตอบของเขาเหมือนกับที่ซูเตอร์พูดไม่มีผิด
ซือเหยี่ยนรีบเอ่ย “ช่วยผมเตรียมเครื่องบินส่วนตัวที ผมรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน”
ซังจิ่งตะลึงงันทันที แปลกใจอยู่ไม่น้อย คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้ซือเหยี่ยนจะรับปากช่วยเจียงมู่เฉินอย่างไม่ลังเล
เขารีบตกลงรับปากทันที “ตอนนี้ผมอยู่ในทะเล หนึ่งชั่วโมงจะเทียบท่าเรือ คุณรอผมที่ท่าเรือ”
“ได้ ผมทราบแล้ว”
หลังจากวางสายไป ซือเหยี่ยนสีหน้าเคร่งขรึมกำชับสั่ง “ขับเร็วหน่อย”
เรือลำเล็กสีขาวเพิ่มความเร็วขึ้นในทันที วาดความเร็วบนผืนน้ำ เพียงเสี้ยวเวลาก็หายเข้าไปในความมืดมิดยามราตรีอันกว้างไกลไม่มีที่สิ้นสุด
หลังจากหนึ่งชั่วโมงผ่านไป เรือของซือเหยี่ยนก็มาจอบเทียบท่า ซังจิ่งรอซือเหยี่ยนอยู่ตรงนั้นอยู่ก่อนแล้ว
ซือเหยี่ยนลงเรือก็รีบเดินเข้าไปทันที
“ผมเตรียมเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ก็ไปได้เลย”
ซือเหยี่ยนพยักหน้า ตอบรับเสียงหนึ่ง รีบเดินเข้าไปกับซังจิ่ง ซังจิ่งรีบขับรถมุ่งหน้าไปที่นั่น
ซือเหยี่ยนนั่งอยู่ด้านข้าง ไม่พูดอะไรสักคำ
ซังจิ่งมองดูซือเหยี่ยนแวบหนึ่ง รู้สึกว่าสีหน้าอารมณ์ของเขาดูหนักหน่วงไม่ธรรมดา
เขาเก็บสายตาอย่างเงียบๆ เพิ่มน้ำหนักเท้าเหยียบคันเร่งไป
ทั้งสองคนมาถึงที่สนามบินได้เร็วมาก
หลังจากซือเหยี่ยนขึ้นเครื่องบินไปกับซังจิ่งแล้ว ซือเหยี่ยนก็เงยหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง
ตลอดทางเขาไม่ปล่อยมือออกจากกันเลย เอาแต่กำมือแน่น สีหน้าท่าทางจริงจัง ในดวงตาสีดำขลับหนักหน่วงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
รอเขาอีกไม่กี่ชั่วโมง
เขาก็จะตามไปอยู่ข้างกายของเจียงมู่เฉินได้ในทันที
‘รอเขาอีกหน่อยนะ เขาจะรีบไปเดี๋ยวนี้’
เพียงไม่นาน เครื่องบินก็บินขึ้น ซือเหยี่ยนมองดูท้องฟ้ายามค่ำคืนก็ถอนหายใจ
เขาหวังว่าฟู่เหยี่ยนอย่าได้ทำอันตรายอะไรที่เรียกกลับคืนมาไม่ได้กับเจียงมู่เฉินเด็ดขาด
‘หวังทุกอย่างจะไม่สายเกินไป’
ตอนที่ 347 นายทื่อเกินไป
เจียงมู่เฉินที่ซือเหยี่ยนเป็นห่วง กำลังเอ้อระเหยขลุกตัวเล่นเกมอยู่ในห้อง
เขาตกปลาอยู่ทั้งวัน ปวดหัวอยู่ไม่เบาทีเดียวจริงๆ ด้วยเหตุนี้จึงทัดทานฟู่เหยี่ยน หาอย่างอื่นให้เขาเล่นหน่อยจะได้ไหม
ฟู่เหยี่ยนได้ยินก็ถอนหายใจอย่างทำอะไรไม่ได้ “เมื่อตอนเช้าคุณเพิ่งจะเป็นลมไป ตอนนี้ก็อยากเล่นเกม ร่างกายคุณรับไหวเหรอ”
เจียงมู่เฉินยกมุมปากขึ้น “ถ้านายเลี้ยงดูฉันเป็นคนป่าแบบนี้อีก ฉันเกรงว่าฉันจะรับไม่ไหวแล้วจริงๆ…
…เร็วสิ รีบไปหาเครื่องเล่นเกมมาให้ฉันสักเครื่อง ไม่ให้มือถือ ไม่ให้แท็บเล็ต กลัวว่าฉันจะติดต่อโลกภายนอก…
…แต่ถ้านายให้เครื่องเล่นเกม ก็ไม่เป็นไรใช่ไหมล่ะ”
ฟู่เหยี่ยนเห็นท่าทางเอาจริงเอาจังของเขา ก็ไม่อาจเปลี่ยนใจเขาได้ จำใจต้องไปหาเกมให้เขาแต่โดยดี
เขาโทรศัพท์หาพ่อบ้านให้ส่งอุปกรณ์เครื่องเล่นเกมมาชุดหนึ่ง ทั้งหมดเป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด
หลังจากที่เขาเห็นแล้ว ก็ส่งตรงเข้าไปในห้องของเจียงมู่เฉินทันที
เมื่อเจียงมู่เฉินเห็น ก็ยักคิ้วเล็กน้อย “ใช้ได้ๆ ประสิทธิภาพในการจัดการธุระให้สูงมาก มีพร้อมครบวงจร อยากยกนิ้วให้นายจริงๆ เลย”
เจียงมู่เฉินลงมือประกอบติดตั้งเครื่องเกมด้วยตัวเองอย่างรวดเร็ว เขาเงยหน้ากวาดสายตามองฟู่เหยี่ยน “อยากเล่นกันสักตาไหม”
ฟู่เหยี่ยนค่อนข้างประหลาดใจนิดหน่อย คิดว่าเจียงมู่เฉินคงจะไม่อยากจะชวนเขาเล่นด้วย
“มองฉันทำไม จะเล่นไหม” เจียงมู่เฉินเร่งรัดอย่างอดรนทนไม่ไหว
อารมณ์ของฟู่เหยี่ยนตื่นเต้น รู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปสมัยนั้น ตอนที่เพิ่งจะรู้จักกันกับเจียงมู่เฉิน
เขากำมือแน่น รีบตกลงรับปาก “เล่นๆ”
เจียงมู่เฉินหาเกมเล่นเกมหนึ่ง สองคนปะทะกัน
“มาเถอะ” เขาเชิดหางตาอย่างเย่อหยิ่ง “ฉันจะไม่อ่อยให้นายหรอก ถึงตอนแพ้แล้วแม้แต่กางเกงก็ไม่เหลือ อย่ามาโทษฉันเด็ดขาดเลยนะ”
ฟู่เหยี่ยนเองก็ไม่ยอมแสดงอาการอ่อนข้อ “วางใจเถอะ ใครแพ้ใครชนะยังไม่รู้หรอก”
เจียงมู่เฉินยักคิ้ว รู้สึกว่าเจ้าหมอนี่ช่างโอ้อวดวางอำนาจถึงขั้นสุด
“ท่าทีอย่างนาย ฉันเล่นงานนายตายแน่”
ด้วยเหตุนี้คุณชายน้อยเจียงจึงนั่งขัดสมาธิสู้ยิบตาอยู่บนเตียง
ฝีมือของฟู่เหยี่ยนไม่เลวจริงๆ กลับดีกว่าที่เจียงมู่เฉินคิดเอาไว้อยู่ไม่น้อย เทียบกับเขาก็ไม่ได้ห่างไกลกัน
เจียงมู่เฉินเลิกคิ้วเล็กน้อย “คิดไม่ถึงว่าปกตินายจะฝึกอยู่ไม่น้อยทีเดียว”
ฟู่เหยี่ยนแส้รงทำเป็นถ่อมตัว “เทียบกับคุณแล้ว ยังห่างอีกนิดนึง”
เจียงมู่เฉินกวาดสายตามองเขาแวบหนึ่ง “ที่นายพูดเมื่อกี้ ไม่ค่อยจริงใจเท่าไหร่เลย”
ฟู่เหยี่ยนหัวเราะเบาๆ “นี่ดูออกหมดเลยเหรอ”
นัยน์ตาเจียงมู่เฉินประกายแผนการบางอย่าง ตอนที่เขากำลังพูด ก็แอบซุ่มโจมตีฟู่เหยี่ยนเรื่อยๆ
เขาใช้การโจมตีสุดท้ายอย่างสบายๆ ตัวละครในเกมของฟู่เหยี่ยนก็ล้มลงไปกับพื้นทันที
เจียงมู่เฉินยักคิ้วหลิ่วตา พลางหัวเราะเบาๆ “บังเอิญจริงๆ นำนายไปก้าวหนึ่งแล้ว”
ฟู่เหยี่ยนจนใจ ไม่เคยเจอใครขี้โกงแล้วยังพูดได้เต็มปากเต็มคำขนาดนี้
ใบ้กินกับเขาไปเสียอย่างนั้น
“ยังจะเล่นไหม” ฟู่เหยี่ยนถาม
เจียงมู่เฉินยักไหล่ “ไม่เล่นแล้ว เลเวลนายต่ำเกินไป ไม่มีความท้าทาย”
ฟู่เหยี่ยนเลิกคิ้วเล็กน้อย นี่เขาโดนดูถูกเหรอ
“จะไม่เล่นแล้วจริงๆ เหรอ”
“อืม ไม่เล่นแล้ว นายทื่อเกินไป เล่นแล้วไม่มีความรู้สึกประสบความสำเร็จ”
โดนเสียดสีกันซึ่งๆ หน้าอีกครั้งแล้ว
หลังจากที่เขาออกมาจากห้องของเจียงมู่เฉิน ก็รีบโทรหาพ่อบ้านทันที
“ส่งอุปกรณ์เครื่องเล่นเกมมาอีกชุดด้วย”
ไม่ถึงสิบนาที พ่อบ้านก็ส่งชุดเครื่องเล่นเกมมาอีกชุดหนึ่ง
เขามองฟู่เหยี่ยนที่กำลังศึกษาวิธีอยู่อย่างอ่อนใจ “คุณชายครับ นี่คุณชายคือ?”
ฟู่เหยี่ยนเพิ่งจะติดตั้งเสร็จพอดี เขากวาดสายตามองพ่อบ้านอยู่แวบหนึ่ง “พอดีเลย มาเล่นเกมเป็นเพื่อนฉันที”
พ่อบ้าน “…”
‘กลางดึกไม่นอน มาเล่นเกมที่นี่?’
‘คุณชายของเขาคิดยังไงกัน’
จะทำอย่างไรได้ เป็นคุณชายของเขา เป็นคนให้เงินเดือน พ่อบ้านทำได้เพียงอยู่เล่นเกมเป็นเพื่อนฟู่เหยี่ยน
ฟู่เหยี่ยนหาเกมเกมนั้นที่เพิ่งจะเล่นไปเมื่อครู่นี้ออกมา แล้วเล่นอย่างจริงจัง
‘เขาไม่เชื่อหรอก ตัวเองฉลาดออกขนาดนี้ แม้แต่เกมยังเล่นได้ไม่ดี’
รอเขาฝึกฝน สะสมฝีมือก็เก่งขั้นเทพได้
ถึงตอนนั้นมาดูว่าเจียงมู่เฉินจะมีเหตุผลอะไรมาปฏิเสธเขา ไม่เล่นเกมกับเขาอีก!
พอคิดถึงวันเวลาที่หลังจากนี้จะเล่นเกมกับเจียงมู่เฉินทุกวันได้
ในดวงตาสีอำพันคู่นี้ของฟู่เหยี่ยนประกายความดีใจขึ้นมา