ตอนที่ 562 เตรียมลงมือบุก
ความคิดนี้อยู่เต็มหัวเซียวเย่ว์ไปหมด คนทั้งคนยังไม่ทันได้มีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา ความดีใจแทบบ้าเอ่อล้นอยู่ในใจ แต่กลับกลัวว่าตัวเองเดาผิด แล้วแสดงความเขินอายออกหน้าออกตาเกินไปตอนอยู่ต่อหน้าไป๋จิ่ง
ด้วยเหตุนี้จึงเก็บกดอารมณ์อย่างเต็มที่ พยายามทำให้ตัวเองดูใจเย็นขึ้นมาสักหน่อย
เซียวเย่ว์ยิ้มหัวเราะ “คิดไม่ถึงว่า…คุณจะยังจำได้ ฉันยังคิดว่า…คิดว่าคุณลืมไปตั้งนานแล้ว”
ไป๋จิ่งรู้ว่าเซียวเย่ว์อยากทดสอบหยั่งเชิงอะไรสักอย่าง ด้วยเหตุนี้เขาจึงเงยหน้ามองเซียวเย่ว์กะทันหัน
เขามองเซียวเย่ว์จนหัวใจเธอสั่นสะท้าน นิ้วมือล็อคขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
ไป๋จิ่งมองเธอพร้อมเอ่ยเน้นคำต่อคำ “ลืมไม่ได้แน่นอนอยู่แล้ว”
หัวใจของเซียวเย่ว์ดั่งกวางน้อยที่วิ่งโลดแล่น สงบใจไม่ลงเลยสักนิด
“ไป๋จิ่ง ที่จริงสองปีมานี้ฉันอยากจะติดต่อคุณมาตลอดเลยนะคะ แต่ก็กลัวว่าคุณจะไม่อยากติดต่อฉัน ดังนั้น…ฉันถึงไม่กล้าจะโทรหาคุณสักที”
เมื่อสองปีครึ่ง ไป๋จิ่งเปลี่ยนไปคนละคน ยากที่จะเข้าใกล้ได้ เพราะหลินฝานหายตัวไปกะทันหัน
เซียวเย่ว์ต้องรู้อย่างแน่นอนว่าทำไมหลินฝานถึงหายตัวไปได้ เพราะว่าเธอเป็นคนให้คนไปสั่งสอนเขาอย่างโหดร้ายทารุณ เขากลายเป็นสภาพแบบนั้นไปแล้ว จะยังมีหน้ามาปรากฏตัวต่อหน้าไป๋จิ่งได้อย่างไร ดังนั้นไม่ว่าไป๋จิ่งจะตามหาหลินฝานอย่างไร เขาก็ไม่มีทางที่จะหาเจอได้ ต่อให้หาเจอ แต่เสียโฉมไปขนาดนั้นแล้ว จะดูออกได้อย่างไรอีก
เนื่องจากจุดนี้ เซียวเย่ว์จึงแน่ใจมากเป็นพิเศษ ด้วยเหตุนี้เธอจึงมาปรากฏตัวต่อหน้าไป๋จิ่งอยู่บ่อยครั้ง คิดจะใช้โอกาสนี้สร้างให้เธอมีตัวตน ทำให้ไป๋จิ่งหลงรักเธอ
เพียงแต่ว่าเซียวเย่ว์ไม่รู้จักหนักเบา เดิมคิดจะทำให้ไป๋จิ่งชอบเธอ ใครจะรู้ว่าเธอจะไม่ระวังจนทำให้ไป๋จิ่งโมโห
ต่อมาสองปีเต็มๆ เซียวเย่ว์ไม่กล้ามาปรากฏตัวต่อหน้าไป๋จิ่งเลยสักครั้ง
สองปีนี้เซียวเย่ว์เองก็ยอมแพ้แล้ว
เธออยากจะคบกับไป๋จิ่งอีก แต่ตามท่าทีของไป๋จิ่งแล้ว ไม่มีหนทางแม้เพียงสักนิด
ใครจะคิดว่าเวลานี้ ไป๋จิ่งปรากฏตัว แล้วยังมีท่าทีต่อเธอที่เปลี่ยนไปจากเดิมด้วย
ถึงแม้ว่าจะยังดูเย็นชามาก แต่ว่าก็แตกต่างกับความเย็นชาในอดีตโดยสิ้นเชิง
เซียวเย่ว์มองไป๋จิ่งอย่างนี้ เธอรู้สึกว่ามองเห็นความหวังแล้ว
อยากได้หัวใจไป๋จิ่งมาครอบครอง ยิ่งอยากจะเตรียมลงมือบุกขึ้นไปอีก
หลังจากไป๋จิ่งได้ยิน เขาก็เอ่ยด้วยท่าทีเรียบเฉยไปประโยคหนึ่ง “เรื่องในอดีตผ่านไปหมดแล้ว”
เซียวเย่ว์ตาลุกวาว ดังนั้นตอนนี้ไป๋จิ่งอยากจะพูดกับเธอว่า…เรื่องในอดีตถือว่าสะสางกันแล้วเหรอ
“เมื่อก่อนฉันไม่ดีเอง ฉันเอาแต่ใจตัวเองมากเกินไป แต่ว่าสองปีมานี้ฉันก็เปลี่ยนแปลงมากแล้ว เป็นแบบนี้ต่อไปอย่างแน่นอนค่ะ”
ไป๋จิ่งพยักหน้าด้วยท่าทีนิ่งๆ “อยากกินอะไร เลยเวลามามากแล้ว หาอะไรกินก่อนเถอะ”
เซียวเย่ว์รีบร้อนเอาใจไป๋จิ่งทันที จึงเอ่ยขึ้นว่า “ข้างๆ นี้มีร้านอาหารร้านหนึ่งไม่เลวเลย งั้นพวกเราไปที่นั่นกันไหมคะ”
ไป๋จิ่งต้องไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว เดิมเขาก็ไม่อยากจะสิ้นเปลืองความคิดให้เซียวเย่ว์อยู่แล้ว ตอนนี้เซียวเย่ว์พูดแบบนี้พอดี
ด้วยเหตุนี้ทั้งสองคนไปกินข้าวที่ร้านอาหารร้านนั้น ขณะที่กินข้าวอยู่ เซียวเย่ว์เงยหน้ามองไป๋จิ่งอยู่ตลอดเวลา ดวงตาทอประกาย
มีคำพูดที่พูดไม่จบอยากพูดกับไป๋จิ่ง
ท่าทีตอบสนองของไป๋จิ่งเรียบเฉยมากมาตลอดเวลา บางครั้งก็พยักหน้า ตอบกลับคำสองคำ
จะไม่ทำให้เซียวเย่ว์สงสัย แต่ก็ทำให้เซียวเย่ว์รู้สึกว่ามีความหวังได้
อาหารมื้อนี้กินด้วยกันมาหนึ่งชั่วโมงกว่าแล้ว ไป๋จิ่งรู้สึกว่าเวลาควรจะพอประมาณแล้ว จึงหาเหตุผลแบบขอไปทีเพื่อจบการกินอาหารร่วมกันในมื้อนี้
เซียวเย่ว์เองก็ไม่ได้สงสัย ในทางกลับกันเธอยังตกอยู่ในโลกของตัวเอง จิตใจเบิกบาน
ในที่สุดไป๋จิ่งก็เชื่อมมิตรกับเซียวเย่ว์เสร็จสักที เขาถอนหายใจเล็กน้อย หันกลับหลังขึ้นรถไป
เขาขับรถเตร็ดเตร่ไปรอบๆ คิดจะซื้อของกลับไปให้มั่วไป๋สักหน่อย ตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลมา เขาก็เอาแต่คิดถึงเรื่องนี้อยู่ตลอด
เขาขับรถวนไปดูรอบๆ ยังไม่เห็นของที่เหมาะสมสักที
เวลาต่อมาเขาเอารถมาจอดอยู่หน้าห้างสรรพสินค้า ไป๋จิ่งเข้าไปเดินดูรอบหนึ่ง ซื้อเสื้อผ้าให้มั่วไป๋ชุดหนึ่ง
ตอนที่ 563 อืม ชอบ
ไป๋จิ่งเองก็พูดไม่ออกว่าทำไมอยากจะส่งเสื้อผ้าให้มั่วไป๋
คงจะอยากส่งให้เขากับมือ
หลังจากนั้นก็ถอดให้เขาเองกับมือ…
เพียงแค่คิดเช่นนี้ ไป๋จิ่งก็รู้สึกว่าคืนนี้หัวใจไม่สงบแล้ว เตรียมลงมือปฏิบัติการ
เขารีบกลับมาสีหน้าเดิมทันที ทำให้ตัวเองไม่คิดมากไปกว่านี้
เขาซื้อเสื้อผ้ากลับมาสองชุด จากนั้นก็ลงไปชั้นล่างซื้อของหวานมากองหนึ่ง
ถึงแม้ว่าไป๋จิ่งจะไม่ชอบกินของหวานเลยสักนิด แต่ว่าไม่รู้ว่าเพราะอะไร มั่วไป๋ถึงชอบกินมากเป็นพิเศษ
ในเมื่อมั่วไป๋ชอบกิน เขาก็ต้องซื้ออยู่แล้ว
ไป๋จิ่งรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองเป็นแฟนหนุ่มยี่สิบสี่ยอดกตัญญู แล้ว ขอเพียงแต่มั่วไป๋ต้องการ คิ้วเขาก็จะไม่ขมวดเข้าหากันแล้ว
แต่จะทำอย่างไรได้ตอนนี้มั่วไป๋ไม่ต้องการอะไรสักอย่าง เขาแทบอยากจะเอาของทั้งหมดทุกอย่างที่ต้องการมากองอยู่ตรงหน้ามั่วไป๋เลยทีเดียว
ไป๋จิ่งซื้อของกินมากองหนึ่ง ทั้งหมดล้วนเป็นขนมรสหวานเจี๊ยบด้วยกันทั้งสิ้น เขามองดูเหล่าขนมหวานนั้นก็รู้สึกว่าหัวใจตัวเองใกล้จะละลายแล้ว
ใช้เวลามาสักพัก หลังจากที่ซื้อจนเสร็จได้สักที ไป๋จิ่งถึงค่อยได้ขับรถกลับไปอยู่เป็นเพื่อนของมั่วไป๋
มั่วไป๋กำลังอ่านหนังสือ เพิ่งจะอ่านไปได้ครึ่งหนึ่ง จู่ๆ ไป๋จิ่งหอบข้าวหอบของถุงใหญ่ถุงเล็กเดินเข้ามา มั่วไป๋เห็นเขาแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางมองเขาแวบหนึ่ง
พอไป๋จิ่งเห็นมั่วไป๋ เขาก็ทำตัวเหมือนคนเวลามอบของล้ำค่าให้อีกฝ่าย เขาเอาของทั้งหมดส่งตรงถึงต่อหน้าของมั่วไป๋
มั่วไป๋กวาดสายตามองเขา “นายคิดจะทำอะไร”
“แหะๆ” ไป๋จิ่งหัวเราะสองเสียง เขาหยิบถุงที่ใส่เสื้อผ้ายื่นให้มั่วไป๋ “ลองเปิดดูสิ”
มั่วไป๋เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย รู้สึกว่าสีหน้าของไป๋จิ่งชักจะดูแปลกๆ
เขายื่นมือไปเปิดถุงดูออก เห็นเสื้อผ้าอยู่ข้างใน มุมปากเขาก็อดจะกระตุกขึ้นมาไม่ได้ “นายให้เสื้อผ้าฉันทำไม”
ไป๋จิ่งต้องละอายใจที่จะบอกเหตุผลที่แท้จริงกับมั่วไป๋
ด้วยเหตุนี้เขาจึงมองมั่วไป๋อย่างเก้ๆ กังๆ “อยากให้คุณไม่ได้เหรอ”
มั่วไป๋รู้สึกว่าเหตุผลของเขาไม่ได้ง่ายดายขนาดนี้เด็ดขาด แต่ว่ามั่วไป๋ก็ไม่ได้ตามถามต่อไป ยื่นมือปิดกลับไป
ไป๋จิ่งจ้องมองเขาพลางเอ่ยถามขึ้น “เป็นไงบ้าง ชอบไหม”
มั่วไป๋นึกย้อนไปถึงก้อนสีขาวที่อยู่ข้างในเมื่อครู่นี้ เขาฝืนใจพยักหน้า “อืม ชอบ”
เดิมไป๋จิ่งยังกลัวว่ามั่วไป๋ไม่ชอบ แต่ตอนนี้จู่ๆ มาได้ยินมั่วไป๋พูดเช่นนี้ เพียงชั่วพริบตาเดียวหัวใจดวงน้อยที่ตื่นเต้นของไป๋จิ่งก็สงบลงได้
ไป๋จิ่งเอากองของกินที่ซื้อมาทั้งหมดที่วางอยู่ข้างมาวางไว้บนโต๊ะ กะพริบตาปริบๆ มองมั่วไป๋เหมือนคนเวลามอบของล้ำค่าให้อีกฝ่าย “ผมไม่รู้ว่าคุณอยากกินอะไร ดังนั้นก็เลยซื้อมานิดหน่อย”
ดวงตาที่ดูดีของเขากำลังมองมั่วไป๋อย่างรอคอย
มั่วไป๋เห็นของหวานที่กองอยู่เต็มโต๊ะ เขาก็ชักจะปวดหัว ต่อให้เขาชอบก็ไม่ได้ถึงขนาดซื้อมาเยอะขนาดนี้ เขาไม่ใช่เด็กน้อยด้วย
มีหรือจะต้องมาให้กินของหวานมากมายขนาดนี้
แต่พอสบเข้ากับแววตาที่รอคอยของไป๋จิ่งแล้ว คำพูดที่มาจ่อปากมั่วไป๋แล้วถูกกลืนกลับเข้าไปอย่างเงียบๆ อีกจนได้
“ไม่รู้ว่าคุณจะชอบหรือเปล่า” ขณะที่ไป๋จิ่งพูดประโยคนี้ ความตื่นเต้นพลันปรากฏในแววตาของเขา
เขามองดวงตาของไป๋จิ่งพลางพยักหน้าอย่างจริงจัง เขาเชิดมุมปากขึ้นเล็กน้อย “ชอบ”
ไป๋จิ่งได้ยินคำนี้ เพียงชั่วขณะหนึ่งเขาทำอะไรไม่ถูกทีเดียว
เขาหยิบกล่องเล็กๆ ใบหนึ่งออกมาจากข้างในถุงนั้นแล้ววางลงต่อหน้ามั่วไป๋ “งั้น งั้นคุณลองดูไหม”
มั่วไป๋ยื่นมือไปเปิด ข้างในเป็นตุ๊กตางานละเอียดตัวหนึ่ง น่ารักไม่ธรรมดา
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร จู่ๆ มั่วไป๋ก็รู้สึกว่าตุ๊กตาตัวนี้เหมือนกับไป๋จิ่งเป็นพิเศษ
เขาหยิบอมยิ้มรูปตุ๊กตานั้นขึ้นมา พินิจมองโดยละเอียด เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าเหมือนกับไป๋จิ่งมาก
เขาเอื้อมมือไปปิดกล่องแล้ววางอยู่ด้านข้าง หยิบสลับสับเปลี่ยนกับเครปเค้กมา
ไป๋จิ่งลากเก้าอี้มานั่งตรงข้ามกับมั่วไป๋
มั่วไป๋มองไป๋จิ่งแวบหนึ่ง ใช้ช้อนตักเค้กส่งให้ไป๋จิ่ง
ไป๋จิ่งมองดูใบหน้าของมั่วไป๋ แล้วก้มหน้าโน้มเข้าไปใกล้ทันทีหลังจากนั้น เขากัดเค้กเข้าไป มั่วไป๋เพิ่งจะเตรียมดึงมือกลับเข้ามา แต่ไม่ทันไรก็ถูกไป๋จิ่งกดที่หัวเขาไว้เสียก่อน