คืนนั้นกู้จิ้งเจ๋อนอนบนโซฟาที่อยู่ข้างเตียง เมื่อหลินเช่อลุกขึ้นเพื่อไปเข้าห้องน้ำ เธอก็เห็นเขานอนอยู่ตรงนั้น โชคร้ายที่โซฟานั้นออกจะสั้นไปหน่อยสำหรับคนที่ตัวสูงถึงร้อยเก้าสิบเซนติเมตรอย่างเขา กู้จิ้งเจ๋อต้องยกขาขึ้นพาดเพื่อให้นอนบนโซฟาได้พอดี หลินเช่อเห็นแล้วอดรู้สึกอึดอัดแทนไม่ได้ เธอก้มลงมองดูเขา ริมฝีปากบางของเขาปิดสนิทขณะหลับ หัวคิ้วผ่อนคลายดูไม่คร่ำเคร่งเหมือนที่เห็นตามปกติ ทำให้เขาดูอ่อนโยนยิ่งขึ้นกว่าเดิมมาก ผิวสะอาดเกลี้ยงเกลาจนดูราวกับไม่มีรูขุมขน ชวนให้ผู้หญิงต้องนึกอิจฉา
เธอเพลิดเพลินกับการมองเขาอยู่พักใหญ่ จากนั้นก็ขยับเข้าไปใกล้พลางยกมือขึ้นแตะคางอย่างลืมตัว
ผู้ชายคนนี้คือสามีของเธอจริงๆ
ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกอัศจรรย์ใจ
ยิ่งไปกว่านั้นสามีของเธอยังหล่อวายร้ายทีเดียว
ไม่มีดาราหรือนักแสดงคนไหนจะดูสมบูรณ์แบบไปกว่าเขาอีกแล้ว
แน่ล่ะว่าที่กู้จิ้งอวี่กลายเป็นดาราผู้โด่งดังได้ก็เป็นเพราะกรรมพันธุ์ชั้นเลิศของตระกูลกู้นี่แหละ
แล้วไหนจะท่านประธานาธิบดีอีก เขาได้ชื่อว่าเป็นประธานาธิบดีที่มีเสน่ห์ดึงดูดที่สุดเท่าที่เคยมีมาในรอบหลายปี เห็นได้ชัดว่ากรรมพันธุ์ของตระกูลกู้นั้นยอดเยี่ยมโดยแท้
หลินเช่อเพิ่งรู้สึกตัวเดี๋ยวนี้เองว่าแม้เธอจะแต่งงานกับเขามาได้พักใหญ่ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้พินิจดูเขาอย่างใกล้ชิดแบบนี้
ดูเหมือนว่าขนตาเขาจะยาวเอามากๆ เมื่อเธอได้มาเห็นชัดๆ แบบนี้
แล้วหางตาเขาก็เชิดสูงทีเดียวเมื่อเธอได้มาดูใกล้ๆ แบบนี้
แล้วก็ดูเหมือนว่าริมฝีปากของเขาจะอิ่มเต็มแล้วก็…
“นี่เธอมาแอบดูอะไรอยู่น่ะ” ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงงึมงำของกู้จิ้งเจ๋อถามออกมา
หลินเช่อแทบจะล้มก้นจ้ำเบ้าลงกับพื้น
เมื่อเธอเงยหน้าขึ้น เธอก็ได้เห็นเขากำลังมองตรงมาด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์เต็มแก่ ท่าทีสนุกสนานของเขาทำเอาเธอรู้สึกอับอายเต็มที
“ฉัน…ฉันก็กำลังมองคุณอยู่ไง ทำไมล่ะ ก็คุณเป็นสามีฉันนี่ ฉันจะมองคุณไม่ได้หรือไงกัน” หลินเช่อว่า เสแสร้งทำท่าทีเป็นปกติ เธอตวัดสายตาใส่เขาอย่างขุ่นเคือง
ประโยคที่ว่า ‘ก็คุณเป็นสามีฉันนี่’ ทำเอาสายตาของเขาวาววาบ
ชายหนุ่มยิ้มกว้างขึ้นไปอีกขณะขยับเข้ามาใกล้เธอ
ใบหน้าของเขาที่พรวดพราดเข้ามาใกล้ทำให้หลินเช่อต้องรีบผงะถอยหนี
แต่กู้จิ้งเจ๋อกลับใช้นิ้วคว้าปลายคางของเธอไว้ได้เสียก่อน ทำให้หญิงสาวไม่อาจขยับตัวไปไหนได้
เธอตะโกนลั่น “ทำไมต้องเข้ามาซะใกล้ขนาดนี้ด้วยล่ะ”
“ก็เธอเป็นภรรยาฉัน ฉันจะเข้ามาใกล้หน่อยไม่ได้หรือไง”
ประโยคที่ว่า ‘ก็เธอเป็นภรรยาฉัน’ ทำเอาแก้มหลินเช่อร้อนผ่าวขึ้นมาในพริบตา
กู้จิ้งเจ๋อดูจะกำลังจดจ้องริมฝีปากของเธออย่างยั่วเย้า “ไหนบอกซิ เธอมาทำอะไรอยู่ใกล้ฉันขนาดนั้น”
“ฉะ…ฉันเห็นอะไรบางอย่างบนหน้าคุณน่ะค่ะ…” หลินเช่อเลี่ยงที่จะสบสายตาที่มองตรงมา
“จะเป็นไปได้ยังไง ไม่มีอะไรบนหน้าฉันสักหน่อย”
“ต้องมีสิ สงสัยจะเป็นขี้ตาคุณนั่นแหละ” เธอโมเมไปเรื่อย
“หึๆ เธอคิดว่าคนอื่นเขานอนขี้เซาแบบเธอกันหรือไง” กู้จิ้งเจ๋อพ่นลมพรืด
หลินเช่อทำตาเขียวใส่
นี่เขาดูถูกเธออีกแล้วสิเนี่ย
แต่จะว่าไปมันก็แปลกนะ ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนว่าจะสามารถทำให้ตัวเองดูดีอยู่ได้ทุกเวลา แม้จะในขณะที่กำลังนอนบนโซฟาที่เล็กกว่าตัวเองแบบนี้ ท่านอนของเขาก็ยังน่ามอง ดูเหมือนว่าเขาแทบจะไม่ได้ขยับตัวเลยตลอดทั้งคืน หนำซ้ำใบหน้าก็ยังคงเนียนสะอาด
“เธอจะบอกหรือไม่บอก ว่าเธอกำลังมองอะไรอยู่กันแน่” เขามองหน้าหลินเช่ออย่างไม่ลดละ
“ฉัน…”
“ถ้าเธอไม่ยอมบอก ฉันจะจูบเธอ” กู้จิ้งเจ๋อเข้ามาประชิดตัวอย่างว่องไว
หลินเช่อตกใจ รู้สึกเหมือนอีกฝ่ายจะพุ่งเข้ามาจนชนจมูกเธอ แต่เขากลับหยุดอย่างได้จังหวะพอดิบพอดี
และจากระยะห่างเพียงน้อยนิดแค่นั้น เขาก็ใช้ลมหายใจของเขาก่อกวนความรู้สึกในใจเธอจนทำให้สองแก้มของหลินเช่อเริ่มรู้สึกยุบยิบขึ้นมา
“คุณ คุณ คุณนะคุณ…”
“ตอบผิด” ทันทีที่พูดจบ ริมฝีปากของเขาก็ประทับลงมาบนปากเธอ ปัดไล้ไปมาอย่างแผ่วเบาเหมือนแมลงปอหยอกล้อบนผิวน้ำ
เมื่อได้เห็นสีหน้าตื่นตระหนกราวกับเห็นผีของหญิงสาว เขาก็หัวเราะออกมาทันที
“ฉันไม่เคยล้อเล่น” เขาบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง
หลินเช่อกลัวมากเสียจนออกแรงผลักเขาออกไป
เมื่อเห็นอีกฝ่ายตะเกียกตะกายสุดชีวิตเพื่อจะหนี คราวนี้กู้จิ้งเจ๋อจึงหลุดปากหัวเราะออกมาจริงๆ
พอหลินเช่อได้ยินเสียงหัวเราะล้อเลียนของชายหนุ่มก็ยิ่งรู้สึกอับอายจนไม่กล้าสู้หน้า
เธอตรงไปยังห้องน้ำแล้วปิดประตูทันที หัวใจเต้นแรงจนแทบกระโจนออกมาจากอก
จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ เธอต้องหนีไปให้พ้นจากเขา
ไม่อย่างนั้นเธอจะทำอะไรได้กับผู้ชายคนนี้ที่เดี๋ยวนี้ชักจะสนุกใหญ่แล้วกับการได้ทำตัวเป็นอันธพาลหัวโจกอย่างไร้สาเหตุ
ตกดึก หลินเช่อนอนไม่หลับ
ทว่าในวันถัดมา เธอก็ได้รับข่าวดี
บรรดาข่าวที่ซุบซิบถึงเธอทั้งหลายหายไปจากหน้าสื่อหมดแล้ว ตำรวจเองก็ส่งหนังสือขอโทษมาให้ด้วยความรวดเร็ว แจ้งว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพียงอุบัติเหตุและเป็นการใส่ความผู้บริสุทธิ์
นอกจากนี้สัญญาโฆษณาของหลินเช่อก็ได้รับการเซ็นสัญญาเป็นที่เรียบร้อย
เมื่อหญิงสาวมาถึงบริษัท อวี๋หมินหมิ่นกำลังรอเธออยู่แล้วที่ด้านใน เธออดกระตุกยิ้มด้วยความยินดีไม่ได้เมื่อเห็นหลินเช่อ ขณะเปิดประตูห้องต้อนรับ เธอก็รีบพูดขึ้นว่า “ตามข่าวลือที่ได้ฟังมา เซนมิร่าถูกแบนไปแล้วนะ”
“หือ ทำไมล่ะคะ” หลินเช่อถามด้วยน้ำเสียงแปลกใจ “ใครบอกกันคะ”
อวี๋หมินหมิ่นว่า “ทุกคนในวงการก็รู้กันหมดนั่นแหละ เซนมิร่าไปล่วงเกินใครบางคนเข้า บริษัทที่เป็นตัวแทนของเธอก็เลยจัดการฉีกสัญญาเธอทิ้ง แล้วตอนนี้ก็ไม่มีบริษัทไหนกล้าเซ็นสัญญารับเธอเข้าสังกัดอีกเหมือนกัน ถึงแม้ว่าเธอจะได้รับอนุญาตให้รับงานเองได้ แต่ปัญหาสำคัญก็คือไม่มีบริษัทไหนกล้าร่วมงานกับเธออีกนั่นแหละ ฉันเดาว่าสุดท้ายเธอก็คงจะเงียบหายไปหลังจากเรื่องนี้”
หลินเช่อกะพริบตา เธอรู้สึกว่ามันง่ายดายเสียเหลือเกินที่ใครสักคนจะเลือนหายไปจากอาชีพนี้
อวี๋หมินหมิ่นพูดต่อไปว่า “ฉันบอกได้เลยว่ากู้จิ้งเจ๋อนี่ท่าทางจะรักเธอไม่น้อยเลยทีเดียวนะ”
หน้าของหลินเช่อแดงขึ้นเล็กน้อยเมื่อเธอมองอวี๋หมินหมิ่นด้วยความขัดเขิน แต่เมื่อลองคิดดูให้ดีแล้ว หลินเช่อกลับคิดว่าไม่น่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้
กู้จิ้งเจ๋อเป็นคนมีความรับผิดชอบสูง เขาคงรู้สึกว่าต้องชดใช้ให้เธอ เพราะแม้ว่าจะแต่งงานกันแล้ว แต่เขาก็ยังคงไปหาโม่ฮุ่ยหลิงอยู่เป็นครั้งคราว
แต่ถึงอย่างไรซะ เธอก็ไม่ได้คิดว่าการแต่งงานครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะเธอไปก่อเรื่องเข้า แล้วก็ไม่ใช่เพราะว่าปัญหาของเขาเพียงฝ่ายเดียว
การแต่งงานของเธอและกู้จิ้งเจ๋อเป็นผลมาจากความผิดพลาดของเธอและเขา ซึ่งไม่อาจโทษกันและกันได้
หลินเช่อถอนหายใจก่อนจะพูดว่า “พี่อวี๋คะ พี่ไม่เข้าใจ นี่มันไม่เกี่ยวกับว่าเขารักฉันหรือเปล่า…ความจริงแล้วเขาเป็นคนดีมาก”
อวี๋หมินหมิ่นยิ้ม “ถ้าคนอื่นรู้เข้าว่าเธอเรียกกู้จิ้งเจ๋อว่าเป็นคนดีละก็ พวกเขาต้องตกใจตายกันหมดแน่ รู้หรือเปล่า”
“ทำไมละคะ” หลินเช่อกะพริบตาด้วยความงุนงง
อวี๋หมินหมิ่นตอบ “ใครๆ ก็รู้กันทั้งนั้นว่ากู้จิ้งเจ๋อเป็นมหาเศรษฐีที่สร้างความกลัวในใจของผู้คน เขาเป็นคนเข้าถึงยาก ยิ่งไปกว่านั้น เธอคิดเหรอว่าคนที่ทำเงินได้มหาศาลอย่างเขาจะเป็นแค่คนใจดีธรรมดาๆ น่ะ”
หลินเช่อพูดไม่ออก ตอนที่เริ่มรู้จักกัน เธอรู้สึกเพียงว่ากู้จิ้งเจ๋อค่อนข้างจะห่างเหินเย็นชา ชอบออกคำสั่ง แล้วก็น่ารังเกียจ
แต่หลังจากที่ได้อยู่ด้วยกัน เธอก็เริ่มคุ้นเคยกับเขาจนไม่ได้รู้สึกแบบนั้นอีกแล้ว และตอนนี้เธอก็ไม่ได้รู้สึกว่ากู้จิ้งเจ๋อน่ากลัวตรงไหนสักนิด
อวี๋หมินหมิ่นบอก “เอาเถอะ เราต้องรีบไปกันแล้วล่ะ ทีมงานได้โอกาสดีสำหรับการโฆษณาซีรีส์มาแล้ว ฉันแน่ใจว่าเธอน่าจะรู้จักรายการ ‘เนชันแนล วินเนอร์’ สินะ”
“รู้จักสิคะ นั่นเป็นรายการดังของสถานีเลยไม่ใช่เหรอ ใครๆ ก็รู้จักทั้งนั้นแหละ เรตติงผู้ชมสูงมาก แล้วคนดูทุกเพศทุกวัยก็ชอบรายการนี้ ฉันคนหนึ่งล่ะที่โตมากับการดูรายการนี้เชียวนะคะ” หลินเช่อว่า
“พวกเธอจะได้ไปออกรายการที่ว่ากันในสัปดาห์นี้ สำหรับคนที่เป็นตัวละครหลักของเรื่อง เธอเองก็จะต้องไปด้วยเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเตรียมตัวไว้ให้ดีด้วยล่ะ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลินเช่อก็ร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น “นี่ฉันจะได้ไปด้วยเหรอคะ”
“แน่นอนสิ”
หลินเช่อดีใจสุดชีวิต เธอไม่คิดมาก่อนเลยว่าวันหนึ่งเธอจะได้ไปออกรายการที่มีเรตติงผู้ชมสูงลิบลิ่วแบบนี้กับเขาด้วย