หลินเช่อกลับมาที่ห้องของเธอแล้วรีบวิ่งตรงเข้าห้องน้ำ จัดการอาบน้ำชำระกลิ่นรสต่างๆ จากเขาออกไปจนหมด
กู้จิ้งเจ๋อ ไปตายซะเถอะ!
ทำไมเขาถึงได้…ร้ายกาจขนาดนี้นะ ร้ายชนิดที่ไม่มีทางจะดัดนิสัยได้เลยเสียด้วยสิ
น่าอายที่สุด…
เธอดึงผ้าห่มขึ้นคลุมโปง อีตากู้จิ้งเจ๋อบ้า บ้า บ้า
หลังออกกำลังกายเสร็จ ชายหนุ่มก็จัดแจงอาบน้ำในตัวยิม
น้ำเย็นๆ ที่ไหลลงมาอาบร่างทำให้รู้สึกดีขึ้นมาก
ในช่วงเวลานั้นเอง เขารู้สึกราวกับว่ามือเขายังคงสัมผัสตัวเธอ ได้ลิ้มรสเธออยู่
ช่างเป็นความรู้สึกที่ไม่เลวเลยจริงๆ
ชายหนุ่มหลับตา แต่มันก็ทำให้เขาไม่สามารถควบคุมร่างกายให้สงบได้เลยสักนิด
ให้ตายสิ
เขาเปิดฝักบัวให้แรงขึ้นอีก อยากให้สายน้ำเย็นที่ไหลบ่าลงมาช่วยโอบอาบร่างที่กำลังร้อนไหม้ของเขา…
กว่าจะก้าวเท้าออกจากห้องน้ำได้ เวลาก็ผ่านไปร่วมชั่วโมง
ฉินเฮ่ารีบร้อนเข้ามาพบ
“ท่านครับ เรียกหาผมหรือครับ”
กู้จิ้งเจ๋อเหลือบมองฉินเฮ่า “ก่อนหน้านี้นายบอกฉันใช่ไหมว่าฉินชิงอยู่ที่สนามบินวันนี้น่ะ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินเฮ่าก็รีบหลุบตาลงต่ำ “ครับท่าน ได้โปรดอย่าโกรธไปเลยครับ คุณชายสามของตระกูลฉินกับภรรยาเพิ่งจะ…”
กู้จิ้งเจ๋อกระแทกแฟ้มลงบนโต๊ะเสียงดังสนั่น ขัดจังหวะการพูดของฉินเฮ่าเข้าทันที
ฉินเฮ่าตกใจเมื่อเงยหน้าขึ้นมอง “ท่านครับ…”
“ไม่มีอะไร ครั้งนี้นายทำได้ดีมาก” กู้จิ้งเจ๋อกระตุกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มน้อยๆ
แต่ฉินเฮ่าก็ยังอดเย็นสันหลังวาบไม่ได้อยู่ดี
“ผมทุ่มเททำทุกอย่างเพื่อท่านอย่างเต็มที่ครับ ขอบคุณที่ชม ผมจะตั้งใจทำงานให้หนักขึ้นไปอีกครับ” ฉินเฮ่ายิ้ม
กู้จิ้งเจ๋อพูดต่อไปว่า “เพื่อเป็นการให้รางวัลกับนาย ฉันคิดว่าฉันจะให้นายได้ไปพักผ่อนเสียหน่อย”
“หา ท่านครับ นั่นเป็นเรื่องที่มีน้ำใจอย่างมากครับ ท่าน…”
“ได้จังหวะเลย กำลังมีปัญหากับโรงงานทีกัมพูชาอยู่พอดี ทำไมนายไม่ไปพักร้อนแล้วก็ไปตรวจสอบดูที่นั่นซะพร้อมกันเลยล่ะ”
“อา…”
แน่ใจหรือว่านี่คือรางวัลน่ะ
“ไปสิ ฉันจะสั่งคนให้ช่วยจองตั๋วเครื่องบินให้นายเอง ถ้ายังแก้ปัญหาที่โรงงานนั่นไม่ได้ก็ไม่ต้องกลับมาหรอกนะ” กู้จิ้งเจ๋อยิ้มเ**้ยมเกรียม
เขาปรายตามองฉินเฮ่าเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะหันหลังแล้วเดินออกไป
ปล่อยให้ผู้ช่วยมือขวายืนงุนงงอยู่เพียงลำพัง
“ท่านครับ…ผมทำอะไรผิดหรือ…”
คืนนั้นกู้จิ้งเจ๋อไม่ได้มานอนข้างหลินเช่อ
เขาเกรงว่าถ้าต้องนอนห้องเดียวกับเธอแล้วเขาจะไม่สามารถสู้หน้าเธอจนนอนหลับได้ลง
หลินเช่อที่อยู่ในห้องนอนเพียงลำพังก็นอนตาสว่างอยู่เป็นนานทีเดียวกว่าจะหลับได้ในที่สุด
วันต่อมา กู้จิ้งเจ๋อออกจากบ้านไปแต่เช้า หลินเช่อตื่นขึ้นมาพอดีกับที่เสินโยวหรานโทรหา
[โอย! เมื่อคืนฉันไปนอนบ้านคนอื่นได้ยังไงเนี่ย] เสินโยวหรานถาม
หลินเช่อตกใจ “นี่เธอไปนอนบ้านคนอื่นงั้นเหรอ หมายความว่าไงน่ะ”
[อีตานั่นดุจะแย่ ฉันละกลัวแทบตายแน่ะ ฉันคิดว่าน่าจะต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ]
หลินเช่อกลอกตา “อ้อ เธอหมายถึงคุณหมอเฉินนั่นเอง ฉันขอให้เขาช่วยพาเธอไปส่งบ้านน่ะ
มีอะไรหรือเปล่า ไม่ได้อะไรเกิดขึ้นใช่มั้ย”
เสินโยวหรานตอบ [ไม่มีหรอก! จะมีอะไรเกิดขึ้นกับฉันได้ล่ะ ฉันเรียนเทควันโด้มาตั้งสามปี จะมีผู้ชายที่ไหนกล้าหือกับฉัน]
“เรียนมาสามปี แต่ก็ยังติดแหงกอยู่ที่สายขาวเนี่ยนะ”
[…]
เสินโยวหรานบอก [ว่าแต่เขาเป็นใครกันน่ะ เขาทำเอาฉันแทบเครื่องติดเลยแล้วก็หนีไปซะก่อน]
“เธอเมาน่ะ เขาเป็นหมอที่ดีมากๆ คงจะต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นที่บ้านเธอแน่ เขาก็เลยพาเธอกลับไปที่บ้านเขาแทน โอเค ถ้าเธอตื่นแล้วก็ดี ฉันจะไปหาเธอที่บ้านนะ ฉันมีเรื่องจะพูดด้วย”
[ได้เลย]
ไม่ช้าหลินเช่อก็ไปถึงบ้านของเพื่อนสาว
เสินโยวหรานยังคงอาศัยอยู่กับพ่อแม่ของเธอ เมื่อเห็นหลินเช่อมาถึงบ้าน พวกเขาก็ทักทายด้วยความยินดี
“โยวหราน ตอนนี้หลินเช่อกำลังดังใหญ่แล้วนะ แม่เห็นหน้าเธอในทีวีบ่อยๆ เลยละ”
พ่อแม่ของเสินโยวหรานเป็นเพียงคนทำงานทั่วๆ ไป พวกเขาไม่ได้ยากจน แต่ก็ไม่ถึงขั้นร่ำรวยด้วยเหมือนกัน
ค่าใช้จ่ายในการไปเรียนต่อต่างประเทศของเสินโยวหรานนั้น หญิงสาวเป็นคนหาเงินเองจากการทำงานพิเศษ
เสินโยวหรานดึงหลินเช่อเข้าไปกอดอย่างภาคภูมิ “แน่ละสิคะ เพื่อนหนูก็ต้องเก่งแบบนี้แหละ”
เมื่อทักทายกันเสร็จสรรพ เสินโยวหรานก็ลากตัวหลินเช่อเข้าไปในบ้าน
หลินเช่อมองเพื่อนสนิทด้วยท่าทีเอียงอาย ก่อนจะเริ่มเล่า “อันที่จริง ตอนที่เธอไม่อยู่ มีบางอย่างเกิดขึ้นกับฉันน่ะ”
“อะไรเหรอ”
“ฉันแต่งงาน” หลินเช่อว่า
“หา!”
เสินโยวหรานแทบกระโดดผลุง
หลินเช่อรีบจับตัวเพื่อนไว้ก่อนจะอธิบายสถานการณ์ต่างๆ ให้ฟังเท่าที่จะเล่าได้
เสินโยวหรานพูดอะไรไม่ออกหลังจากได้ฟังจบ เธอคว้าหลินเช่อโดยแรงราวกับจะบีบให้ตายคามือ
“กู้จิ้งเจ๋อเนี่ยนะ…ตระกูลกู้เนี่ยนะ หลินเช่อ นี่เธอมันบ้า! บ้ามาก! บ้า!”
เสินโยวหรานตะโกนลั่นห้องอยู่เป็นนานสองนาน
เธอตะโกนดังเสียงจนพ่อแม่เริ่มได้ยินเสียงอึกทึกครึกโครมและมาเคาะประตูห้องเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น นั่นแหละเจ้าตัวจึงเริ่มหรี่เสียงได้ แต่ก็ยังจ้องหน้าหลินเช่อไม่เลิก “ขออภัยนายหญิงของบ้านด้วยเจ้าค่ะ หม่อมฉันไม่ทราบเลยสักนิด ขอได้โปรดยกโทษให้หม่อมฉันด้วย”
“ไปตายซะไป๊!”
“ว่าแต่…นี่มันน่าตกใจเกินไปนะ แล้วเธอ…”
หลินเช่อมองหน้าเพื่อน “ฉันก็เล่าไปแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าเขามีคนรักอยู่แล้วน่ะ แล้วฉันก็บังเอิญพลาดไปวางยาเขาเข้า เราก็เลย…”
“นี่เธอกล้าวางยาคนตระกูลกู้ได้ยังไงกันยะ”
“ฉันไม่ได้ตั้งใจ ใครจะไปรู้ว่ากู้จิ้งอวี่จะเป็นดาราดังระดับนั้น ใครจะไปรู้ว่าฉันจะจำเขาสลับกับกู้จิ้งอวี่ได้ กู้จิ้งอวี่เพียงแค่จองห้องเอาไว้เท่านั้น แต่คนที่มาพักห้องนั้นกลับกลายเป็นพี่ชายเขาแทน… ฉันอุตส่าห์ติดสินบนพนักงานโรงแรมไปตั้งเยอะกว่าพวกเขาจะยอมให้ฉันทำแบบนี้ เสียแรงเปล่าชะมัด”
“ยัยบ้า ได้กำไรขนาดนี้กลับมาบ่นว่าเสียแรงเปล่า เธอโชคดีออกจะตายแล้วนะ”
หลินเช่อเหลือบมองอีกฝ่ายพลางนึกถึงความร้ายกาจของกู้จิ้งเจ๋อ “ขอเชิญเธอลองดูด้วยตัวเองเลยจ้ะ เธอไม่รู้หรอกว่ากู้จิ้งเจ๋อตัวจริงเป็นยังไง…เขาร้ายกาจจะตายไป!”
หลังจากนี้ เสินโยวหรานต้องเริ่มมองหางานทำ หลินเช่อจึงขอตัวกลับบ้าน
เธอไม่คิดเลยว่า ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าบ้านมาก็จะได้พบกู้จิ้งเจ๋อรออยู่แล้ว
เขานั่งเด่นเป็นสง่าอยู่บนเก้าอี้ หันมามองเธอ หลินเช่อมองมือใหญ่ของอีกฝ่ายแล้วก็อดรู้สึกกระดากไม่ได้
เมื่อวานนี้ เมื่อวานนี้…
ผู้ชายร้ายกาจคนนี้ใช้มือของเขา…
หญิงสาวรู้สึกเหมือนร่างกำลังบิดเกร็ง มีบางอย่างที่ไม่ปกติ
ในขณะเดียวกัน กู้จิ้งเจ๋อก็มองหน้าเธอและพูดว่า “กลับมาซะทีนะ ฉันกำลังจะชวนเธอออกไปกินอาหารกลางวันข้างนอกพอดี”
“ฉะ ฉันยังไม่กินหรอกค่ะ เดี๋ยวฉันจะกินที่บ้านนี่แหละ”