หลินเช่อหยุดเช็ดผมทันที เธอยังยืนอึ้งอยู่เมื่อได้ยินเสียงเพลงนุ่มนวลที่ลอยละล่องมา ก่อนที่จะรู้สึกได้ถึงเสียงลมหายใจที่เข้ามาใกล้จากทางด้านหลัง
เธอรีบหันมาทันที แล้วก็ได้เห็นชายหนุ่มยืนอยู่ที่ประตู
เขาสวมเสื้อยืดคอวีที่เผยให้เห็นกระดูกไหปลาร้าเด่นสะดุดตา ท่อนล่างนั่นคือกางเกงผ้าฝ้ายที่ช่วยบรรเทาท่าทีเคร่งขรึมดุดันของเขาให้เบาบางลง ตอนนี้กู้จิ้งเจ๋อจึงดูเปล่งประกายด้วยกลิ่นอายอบอุ่นที่หาได้ยากในตัวเขา
หลินเช่อชะงักและมองดูผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า เขาเดินเข้ามาพร้อมจ้องมองลึกเข้ามาในดวงตาเธอ มันเปล่งประกายราวกับเพชรที่ส่องแสงอยู่กลางกาแล็คซี่ รอยยิ้มเขาทำให้เธอรู้สึกได้ถึงความรักที่อัดแน่นอยู่ในอก
เขามองหน้าเธอ ไม่รู้เหมือนกันว่าทั้งหมดนี้เป็นฝีมือมู่หว่านฉิงหรือเพราะว่าที่นี่เป็นห้องฮันนีมูนสวีทกันแน่ เพราะเตียงนอนกลมขนาดใหญ่ของห้องนั้นหันหน้าออกไปทางทะเลสาบจำลองอย่างเหมาะเจาะ
ที่อีกฟากหนึ่งของทะเลสาบ ทั้งสองมองเห็นดวงดาวพราวแสงระยับอยู่บนท้องฟ้ายามราตรี ดูแล้วราวกับภาพวาด
หลินเช่อไม่เคยได้สัมผัสภาพความโรแมนติกเช่นนี้มาก่อน เธอหันมองเขาและถามด้วยความประหลาดใจว่า “นี่มันอะไรกันคะ…กู้จิ้งเจ๋อ”
เธอใช้เวลาอาบน้ำแค่สิบนาทีเท่านั้น แล้วเขาสามารถเตรียมการทั้งหมดนี่ได้ นี่เขาเป็นนักมายากลรึไงกัน
ชายหนุ่มไม่ตอบ ดวงตาสีเข้มของเขายังมองมาที่เธอไม่ขยับไปไหน
ราวกับเข้าใจว่าเขากำลังจะทำอะไร หัวใจของหลินเช่อก็เริ่มลุกเป็นไฟ เธอก้มหน้าลงก่อนจะแอบเหลือบตาขึ้นมองเขา
หลินเช่อหน้าแดงขึ้นทันที ยิ่งมองดูเขาเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งพูดอะไรไม่ออกมากเท่านั้น เมื่อมองดูริมฝีปากแดงระเรื่อเขาแล้ว เธอก็นึกอยากจะโผขึ้นไปกัดมันซักที
ปากของกู้จิ้งเจ๋อแม้จะบางแต่ก็อิ่มเต็ม มันเผยอน้อยๆ จนทำให้หัวใจหลินเช่อยิ่งพลุ่งพล่านหนักขึ้นกว่าเดิม
เธอสาวเท้าเข้าไปหาเขาอย่างช้าๆ และพูดว่า “เอาละ คุณ…”
คืนนี้เขาไม่อยากจะโถมเข้าใส่เธออย่างบ้าคลั่งเหมือนที่เคยทำ เขาค่อยๆ ก้าวเข้าไปหาเธอช้าๆ ก้มหน้าลงมองด้วยความอ่อนโยน นิ้วยาวยกขึ้นเสยผมของเธอ
หลินเช่อแหงนหน้า ดวงตามองเขาอย่างเขินอาย
เขาอยากให้เธอได้รู้สึกว่าการแต่งงานของเธอและเขาคือความสุขสมยินดี ไม่ใช่หน้าที่ที่ต้องกระทำ เขาอยากให้เธอรู้สึกว่าการแต่งงานนี้จะนำมาซึ่งความสุข ไม่ใช่ภาระ แต่ด้วยความที่เขาไม่เคยมีความสัมพันธ์อย่างปกติธรรมดากับผู้หญิงมาก่อน กู้จิ้งเจ๋อจึงไม่รู้ว่าผู้หญิงทั่วไปต้องการอะไร
เขาคิดว่าครั้งแรกระหว่างเธอกับเขามันออกจะเป็นไปอย่างลวกๆ ไร้อารมณ์อ่อนหวาน เขาปรารถนาเธอเพราะอยู่ตัวเองในสภาพพร่าเลือนไร้สติ และเขาคิดว่ามันน่าจะทำให้เธอต้องเจ็บปวด ผู้หญิงคนอื่นต่างก็ได้มีครั้งแรกที่แสนวิเศษ แต่หลินเช่อกลับต้องทุกข์ทรมานเจ็บเนื้อตัว แถมหลังแต่งงานเขาก็ยังไม่ยอมแตะต้องเธออีกต่างหาก เพราะอย่างนี้เขาก็เลยไม่เคยสร้างความทรงจำดีๆ ให้เธอเลย
เพราะฉะนั้นครั้งนี้ เขาจึงค่อยๆ ขยับตัวเข้าหาเธอ แตะไล้ริมฝีปากเธอนุ่มนวล เมื่อเห็นเธอหลับตาลง เขาก็ประทับจุมพิตแผ่วเบาอย่างที่สุดลงบนริมฝีปากของเธอ
หลินเช่อครางแผ่วและสัมผัสถึงรสจูบของเขา มันละมุนละไมราวกับเสียงดนตรีที่บรรเลง อ่อนโยนเสียจนเธออดประหลาดใจไม่ได้
เขาบรรจงวางเธอลงบนเตียงนอนอย่างเบามือราวกับเป็นอัญมณีล้ำค่า ก่อนจะพรมจูบลงบนทั่วทุกพื้นผิวของร่างนั้น
แช่มช้า แผ่วเบา จนปลุกเอาทุกเซลล์ในร่างเธอให้ลุกเป็นไฟ
เขากังวลนิดๆ อึดอัดหน่อยๆ และออกจะรู้สึกเหมือนจะทนไม่ไหว
หวั่นใจไปหมดว่าเธอจะรู้สึกดีหรือไม่
เป็นห่วงว่าตัวเองกำลังทำถูกแล้วหรือยัง เธอจะมีความสุขหรือเปล่า
เขารู้สึกราวกับว่าตัวเองเป็นหนุ่มน้อยด้อยประสบการณ์ เหมือนกับว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาอยากจะทำความรู้จักกับสรีระของผู้หญิง และนั่นทำให้เขาหวั่นใจไปเสียหมด
หลินเช่อคว้ามือเขาไว้ ชายหนุ่มขบนิ้วเธออย่างกระหาย เขาเลียปลายนิ้วเธอทีละนิ้วและมันทำให้เธอแทบคลั่งตาย นี่คืนนี้เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือยังไงนะ
เขาแยกขาเธอออก หลินเช่อร้องว่า “กู้จิ้งเจ๋อ นั่นคุณจะทำอะไรคะ อย่านะ…”
“ไม่เป็นไรหรอก อย่าขยับสิ คืนนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเอง…”
“ไม่นะคะ ไม่เอา ฉันทำไม่ได้ มันสกปรก คุณ…”
“อย่าขยับ เป็นเด็กดีสิ ไหนให้ฉันดูหน่อย”
“อืม อืมมมม…ฉันทำไม่ได้จริงๆ คุณ…”
หลินเช่ออายเหลือจะอาย แต่เธอก็หมดสิ้นเรี่ยวแรงด้วยความรู้สึกอลหม่านที่พล่านอยู่ในใจ
หญิงสาวอ่อนเปียกอยู่ภายใต้การหยอกเย้าของเขา เธอหมดสิ้นเรี่ยวแรงที่จะต้านทานและอ่อนพับไปกับความอ่อนหวานนุ่มนวลของเขา
กู้จิ้งเจ๋อชอบที่จะมองเธอยามพร่ามึนแบบนี้ ชอบที่จะได้เห็นเธอรู้สึกดี ทุกสีหน้าของเธอดูจะเป็นแรงใจให้เขา และทำให้เขารู้สึกว่าทุกอย่างที่ทำนั้นคุ้มค่า
ในชั่วเวลานั้นเอง หัวใจเขาก็รู้สึกถึงความปรารถนาที่จะมอบโลกทั้งใบให้กับเธอ เพียงเพื่อที่จะได้เห็นเธอยิ้ม
ถึงแม้ว่าความอดกลั้นของเขามันแทบจะเกิดขีดความอดทนและจวนเจียนระเบิดออกมาเต็มทีแล้วก็ตาม แต่เขาก็รอจนกระทั่งหญิงสาวผ่อนคลายเต็มที่ก่อนที่จะกอดเธอไว้แน่น
คืนนั้นหลินเช่อรู้สึกถึงบางอย่างที่เธอไม่เคยรู้สึกมาก่อน เธอรู้สึกเติมเต็มอย่างถึงที่สุด และถึงแม้ว่าเธอจะแทบไม่ได้เป็นฝ่ายขยับตัว แต่เธอก็กลับอ่อนเพลียเสียเหลือเกิน ทั้งสองตระกองกอดและนอนหลับไปพร้อมกัน
โม่ฮุ่ยหลิงถูกนำตัวออกมาจากงานอย่างเงียบๆ
ขณะอยู่ด้านนอกรีสอร์ต เธอไม่คิดเลยว่ากู้จิ้งเจ๋อจะกล้าทำกับเธอแบบนี้
หญิงสาวรีบโทรหาหลี่หมิงอวี่ และเขาก็รีบมารับเธอทันที เมื่อเห็นใบหน้าซีดเผือดของโม่ฮุ่ยหลิงแล้ว เขาก็หัวเราะและพาเธอกลับมาส่งที่บ้านตระกูลโม่
ในห้องส่วนตัว โม่ฮุ่ยหลิงโกรธจัดเสียจนขว้างปาทุกอย่างที่อยู่ในห้องจนเละเทะไปหมด
หลี่หมิงอวี่ที่ยังไม่ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการก็ยังไม่ยอมกลับไปง่ายๆ เมื่อได้เห็นเธอโกรธจัด เขาก็เดินเข้าไปสวมกอดเธอ
โม่ฮุ่ยหลิงกระโดดด้วยความตกใจและผลักเขาออกไป
แต่หลี่หมิงอวี่ไม่ยอมปล่อย เขามองเธอและบอกว่า “ให้ตายสิ นี่เธอยังจะหวงตัวไว้ให้ไอ้กู้จิ้งเจ๋อนั่นอยู่อีกรึ ไม่เอาน่า มาสนุกกันดีกว่า นี่เป็นสิ่งที่จะทำให้เราทั้งคู่ต่างก็รู้สึกดีนะ เธอจะปฏิเสธอยู่อีกทำไม”
โม่ฮุ่ยหลิงว่า “ฮึ ครั้งแรกของฉันต้องเป็นของกู้จิ้งเจ๋อเท่านั้น แล้วฉันจะทำตัวเองให้แปดเปื้อนเพราะเพลย์บอยอย่างคุณไปทำไม คุณมีผู้หญิงข้างนอกนั่นเต็มไปหมด ฉันขยะแขยงความโสโครกของคุณเต็มทน”
หลี่หมิงอวี่ชะงัก เขามองหน้าหญิงสาวอย่างไม่อยากเชื่อ “ไม่มีทาง นี่ครั้งแรกของเธองั้นเรอะ นี่เธอล้อใครเล่นอยู่น่ะ”
โม่ฮุ่ยหลิงว่า “ฉันจะโกหกคุณไปทำไม เชอะ คิดว่าทุกคนจะเป็นเหมือนคุณรึไงกัน”
“นี่เธอไม่ได้คบกับกู้จิ้งเจ๋อมาตั้งหลายปีหรอกเรอะ”
“แต่จิ้งเจ๋อเป็นสุภาพบุรุษ เขาไม่มีทางทำอะไรฉัน” โม่ฮุ่ยหลิงไม่ได้เอ่ยถึงอาการป่วยของชายหนุ่ม นี่เป็นความลับของตระกูลกู้ และเธอก็ไม่คิดที่จะบอกเรื่องนี้ให้กับหลี่หมิงอวี่ได้รู้ด้วย
หลี่หมิงอวี่ทำหน้าเยาะหยัน “ถ้าอย่างนั้น เธอก็ไม่เข้าใจผู้ชายเลยซักนิด ถ้าผู้ชายมีความรู้สึกกับผู้หญิงน่ะ ร่างกายจะมีปฏิกิริยาก่อนเป็นอย่างแรก แล้วนี่เขาคบกับเธอมาตั้งหลายปี แต่กลับไม่เคยแตะต้องเธอเลย เธอแน่ใจเหรอว่าเขารักเธอจริงๆ น่ะ”