คุณนายลู่ว่า “เด็กคนนั้น กู้จิ้งเจ๋อน่ะ เขาเป็นคนที่ไม่เหมือนใครมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว และตอนนี้เขาเป็นถึงบุคคลสำคัญของประเทศซี รสนิยมของเขาก็ย่อมจะต้องเป็นสิ่งที่เราคาดเดาไม่ถึง ถ้าแกเอาแต่ตื๊อเขา แม่ว่าเขาน่าจะยิ่งเกลียดแกมากกว่าเดิมอีกนะ”
“แม่คิดผิดแล้วละค่ะ ไม่มีผู้ชายคนไหนที่จะสามารถต้านทานความอ่อนโยนของผู้หญิงได้หรอกค่ะ ถึงยังไงหนูก็ดีกว่ายัยหลินเช่อนั่นทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นชาติตระกูล ฐานะ หรือว่าความสามารถ หนู ลู่ชูเซี่ย ไม่ได้เข้ามาโลดแล่นอยู่ในวงสังคมของประเทศซีนี้มาหลายปีโดยสูญเปล่าหรอกนะคะ อีกอย่าง หนูก็เป็นคนที่เคยช่วยชีวิตเขาเอาไว้ด้วย”
คุณนายลู่ว่า “แม่ก็หวังว่าแกจะได้พบกับความสุขแหละนะ ถ้าเขายังไม่ได้แต่งงาน แม่ก็อยากจะให้แกได้แต่งงานกับผู้ชายที่เข้มแข็งและเป็นคนดีเหมือนเขา แต่ตอนนี้ แม่ก็แค่…เฮ้อ ช่างเถอะ ทุกวันนี้เด็กอย่างพวกแกก็มีความตั้งใจของตัวเองกันทั้งนั้น พี่ชายแก…ไม่ได้ติดต่อกับฟู่เฉินซีแล้วนี่ ใช่มั้ย”
“คิดว่าไม่นะคะ นังชั้นต่ำนั่นก็ไม่ต่างอะไรกับหลินเช่อ พวกมันไม่คู่ควรกับตระกูลของเรา ตอนนั้นพี่ชายคงตาบอดไปหน่อยน่ะค่ะ”
ในอดีต ลู่ชูเซี่ยก็ไม่ได้จงเกลียดจงชังอะไรฟู่เฉินซี แต่ตอนนี้ เพราะหลินเช่อ เธอจึงรู้สึกชิงชังบรรดาสาวชาวบ้านร้านตลาดทั้งหลายจนถึงกระดูกทีเดียว
หลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อมาถึงบ้านตระกูลกู้ก่อน
เมื่อเข้าบ้านมา ชายหนุ่มก็พาหลินเช่อไปพบกู้จิ้งเหยียน
หลินเช่อเหลียวมองดูรอบบ้านอันกว้างใหญ่ไพศาล วันนี้ บรรดาญาติพี่น้องและมิตรสหายต่างก็มารวมตัวกัน ทำให้มีผู้คนมากมายคับคั่งจนหลินเช่อตาลายไปหมด
ข้างในบ้าน สไตลิสต์ ช่างแต่งหน้า ช่างภาพ นักจัดงานแต่ง ทุกคนกำลังยืนรอรับคำสั่งอย่างจดจ่อเป็นกังวล นี่ดูเหมือนงานอีเวนต์ระดับชาติมากกว่าจะเป็นเพียงงานวิวาห์
หลินเช่อพูดอะไรไม่ออก เธอกระตุกเอวชายหนุ่มแล้วพูดว่า “งานใหญ่จังเลยค่ะ นี่ดูอย่างกับงานแต่งแห่งศตวรรษในโทรทัศน์เลย”
กู้จิ้งเจ๋อเหลียวมองไปรอบๆ และตอบว่า “ใช่ นี่เป็นงานแต่งงานแรกของตระกูลกู้ในรอบหลายปี”
เขามองหน้าเธอ “เพราะว่าเราไม่ได้จัดงานแต่งกันไงล่ะ งานนี้ก็เลยถูกจัดอย่างยิ่งใหญ่ คนนอกก็เลยให้ความสนใจกันอย่างมากด้วย”
“ขอบคุณที่เราไม่ได้จัดงานกันนะคะ ไม่อย่างงั้น ในฐานะลูกชาย งานแต่งของเราคงยิ่งต้องอลังการกว่านี้อีก” หลินเช่อคิดแค่ว่าการจัดงานแต่งในตอนนั้นคงจะสร้างปัญหาเปล่าๆ โดยที่เธอไม่ทันได้นึกถึงสถานะของชายหนุ่ม แต่เมื่อลองมาคิดดูตอนนี้แล้ว เธอนึกกลัวจับใจทีเดียวว่าพวกเขาจะต้องจัดงานระดับมหึมาอย่างแน่นอน
กู้จิ้งเจ๋อว่า “ก็ต้องเป็นแบบนั้นแหละ”
“ว้าว…ขอบคุณพระเจ้า” หลินเช่อพึมพำ
แต่อีกฝ่ายกลับขมวดคิ้วอย่างช้าๆ
ทั้งคู่เดินเข้าไปหากู้จิ้งเหยียนที่อยู่ด้านใน
ชุดแต่งงานของเธอยาวลากไปกับพื้น ดูราวกับเทพธิดาที่เยื้องกรายออกมาจากป่าลึก ทำให้เจ้าสาวดูงดงาม บอบบางน่าทะนุถนอมไปพร้อมกัน
หลินเช่อพูดขึ้นด้วยความตื่นตาตื่นใจ “สวยมากเลย”
ชุดแต่งงานงดงาม เช่นเดียวกับตัวเจ้าสาว
กู้จิ้งเจ๋อมองดูความสวยสง่าของน้องสาว เขายิ้ม ก่อนจะจูงมือหลินเช่อและเดินเข้าไป
เมื่อกู้จิ้งเหยียนหันมาเห็นทั้งคู่ เธอก็ร้องขึ้นว่า “พี่รอง พี่สะใภ้”
หลินเช่ออุทาน “ว้าว จิ้งเหยียน คุณสวยจังเลยคะ”
ในฐานะเจ้าสาวหมาดๆ กู้จิ้งเหยียนน่าจะเขินอายตามปกติ แต่บางทีอาจเป็นเพราะบุคลิกเข้มแข็งอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้หญิงสาวไม่ได้แสดงท่าทีเอียงอายแบบผู้หญิงๆ เหมือนที่คนอื่นมักทำกัน แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังดูงามสง่าเปล่งประกาย
กู้จิ้งเหยียนว่า “ถ้าพี่สะใภ้ใส่ชุดแต่งงาน จะต้องสวยกว่าฉันแน่ๆ ค่ะ”
กู้จิ้งเจ๋อเหลือบมองหลินเช่อทางหางตา แล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าเธอจะดูเป็นอย่างไรเมื่อสวมชุดแต่งงาน
ร่างบอบบางของเธอในชุดเจ้าสาว…เธอคงจะดูน่ารักมากแน่ๆ
ถึงแม้หลินเช่อจะไม่ใช่ผู้หญิงเตี้ยในสายตาคนอื่น แต่เธอก็ยังดูเป็นผู้หญิงตัวเล็กในสายตาเขาอยู่ดี โดยเฉพาะในยามที่ร่างผอมบางของเธอยืนเทียบกับร่างสูงใหญ่ของเขา
อยู่ๆ ชายหนุ่มก็นึกอยากเห็นเธอในชุดแต่งงานขึ้นมาบ้างเสียอย่างนั้น
โชคร้ายที่พวกเขาไม่มีโอกาสได้จัดงานแต่งงานอย่างถูกต้องก่อนหน้านี้ ไม่เช่นนั้นแล้ว เขาคิดว่าหลินเช่อจะต้องดูสวยกว่าจิ้งเหยียนในชุดแต่งงานวันนี้เสียอีก
อย่างที่เขาว่ากันนั่นแหละนะ ผู้หญิงดูสวยที่สุดในวันแต่งงานของตัวเอง
แต่เขาไม่เคยมีโอกาสได้เห็นหลินเช่อในวันแบบนั้น
เมื่อคิดแล้ว ชายหนุ่มก็อดรู้สึกเสียใจขึ้นมานิดๆ ไม่ได้
ทันทีที่ทุกอย่างที่บ้านตระกูลกู้เสร็จเรียบร้อย ทีมงานก็ออกจากบ้านเพื่อตรงไปยังโรงแรมในเวลาเที่ยงตรง
เมื่อทีมงานออกเดินทางไป กองทัพสื่อก็แห่ตามไปด้วย เพราะในเมื่อพวกเขาไม่สามารถเข้าไปถ่ายภาพใกล้ๆ ได้ พวกเขาก็จำเป็นต้องแอบถ่ายจากระยะไกลแทน
ในระหว่างนั้น สื่อทั้งหลายก็ทยอยโพสต์ภาพขึ้นไปบนอินเทอร์เน็ต
ทั้งในเว่ยป๋อและกระดานข่าวต่างๆ ข่าวทุกข่าวที่เกี่ยวข้องกับงานแต่งงานวันนี้ ได้กลายเป็นพาดหัวข่าวสำคัญในโลกอินเทอร์เน็ต
คอมเมนต์ต่างๆ ก็หลั่งไหลกันเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย
ทุกคนต่างทึ่งกับงานแต่งงานอันสุดตราตรึงของคู่บ่าวสาวไฮโซ ที่เพียงแค่ได้เห็น ก็รู้สึกได้ถึงความยิ่งใหญ่อลังการ แม้แต่รถที่ติดตามขบวนก็ให้ความรู้สึกราวกับเป็นงานประกวดประขันรถหรูก็ไม่ปาน
สำหรับสินเดิมที่เจ้าสาวได้รับไหว้ให้นำติดตัวไปนั้น ก็ทำให้หลายคนอดตาร้อนผ่าวไม่ได้
ใครก็ตามที่ได้แต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ ก็เหมือนได้แต่งกับห้องนิรภัยเก็บเงินสด
หลินเช่อหันกลับไปมองและพูดอย่างนึกยกย่องว่า “ดูเหมือนว่าพวกนักข่าวจะลำบากกันมากทีเดียวนะคะ ต้องคอยไล่ตามเรา แล้วก็พยายามถ่ายรูปเราไปพร้อมกันด้วย โอ๊ย ตายแล้ว คนเยอะจนน่ากลัว พอเป็นอะไรที่เกี่ยวกับตระกูลกู้นี่ ไม่มีอะไรธรรมดาเลยนะคะ โอ้ ว่าแต่ฉันยังไม่เห็นพี่ชายคุณเลยนี่คะ”
“พี่ชายไปที่โรงแรมก่อนแล้ว การต้องนั่งรถมาพร้อมกับขบวนแบบนี้มันอันตรายเกินไป”
“อ้อ เข้าใจแล้วละค่ะ”
ไม่ช้าทั้งคู่ก็มาถึงโรงแรม ห้องประชุมทรงกลมที่อยู่ชั้นบนสุด ถูกตระเตรียมเอาไว้พร้อมแล้ว
กู้จิ้งเหยียนเข้าไปเตรียมตัว ส่วนกู้จิ้งเจ๋อนั้นอยากอยู่เงียบๆ มากกว่า จึงยืนอยู่ข้างในงาน เมื่อหันมามองพื้นที่รับแขกด้านหน้า ชายหนุ่มก็แลเห็นผู้คนที่เริ่มทยอยกันเข้ามาไม่ขาดระยะ สมาชิกบ้านตระกูลลู่ค่อยๆ ถึงงานทีละคนสองคน แล้วงานเลี้ยงแห่งศตวรรษก็เริ่มต้นขึ้น
ถึงแม้มู่หว่านฉิงจะวิ่งวุ่นตลอดวัน แต่เธอก็เต็มไปด้วยความแช่มชื่นยินดี ลูกสาวของเธอกำลังจะได้แต่งงาน เธอจึงรู้สึกมีความสุขอย่างยิ่ง
เมื่อได้เห็นหลินเช่อมาถึง มู่หว่านฉิงก็รีบเข้ามาทักทาย “เสี่ยวเช่อจ๊ะ ฉันมองหาตั้งนานแน่ะ ทำไมเธอกับจิ้งเจ๋อถึงมาอยู่ตรงนี้กันล่ะ”
หลินเช่อตอบ “ข้างนอกวุ่นวายมากน่ะค่ะ ฉันก็เลยไม่อยากไปเกะกะ”
มู่หว่านฉิงมองหญิงสาว “ว้าว เสี่ยวเช่อ วันนี้เธอสวยจังเลยนะจ๊ะ”
“คุณแม่ขา ไม่จริงหรอกค่ะ วันนี้จิ้งเหยียนสวยที่สุดต่างหาก”
“โอ๊ย แม่คนนั้นน่ะทำตัวอวดดีอยู่ตลอดนั่นแหละจ้ะ ถ้าเขาหัดทำตัวน่ารักแบบเธอได้บ้างก็จะดีหรอก แทนที่จะจัดพิธีตามแบบประเพณี กลับยืนกรานว่าจะจัดงานง่ายๆ แล้วดูสิ ง่ายไปหมดเลย เห็นรึเปล่าว่าลู่เป่ยเฉินเองก็ยังมาไม่ถึงงานด้วยซ้ำ ถ้าเป็นตามปกติก็ไม่เป็นไรหรอกเพราะเขางานยุ่ง แต่จะมายุ่งอะไรกันวันแต่งงานตัวเองแบบนี้ล่ะ เฮ้อ ถ้าลูกสาวฉันเหมือนเสี่ยวเช่อซักนิดนึงละก็น้า คงจะเพอร์เฟกต์ทีเดียว ดูสิว่าเธอกับจิ้งเจ๋อมีความสุขกันแค่ไหน”
กู้จิ้งเจ๋อขัดขึ้นว่า “เขาเป็นแบบที่แม่เรียกว่า ‘โชคชะตาชื่นชอบคนโง่’ นั่นแหละครับ จิ้งเหยียนเป็นผู้หญิงแกร่งมาแต่ไหนแต่ไร เขารู้ว่าจะปกป้องตัวเองยังไง เพราะฉะนั้น น้องคงไม่อยากได้สามีที่วางอำนาจหรอก”
“ตาบ๊อง แม่ไม่ได้โง่ซักหน่อยนะ ดูตัวลูกเองบ้างซิ ยกย่องตัวเองซะแทบจะสูงเสียดฟ้าอยู่แล้ว”
กู้จิ้งเจ๋อมองตอบมารดาและพูดว่า “ทุกคนก็รู้ดีนี่ครับว่าผมไม่ใช่คนที่ใครจะเทียบได้ง่ายๆ”
มู่หว่านฉิงมองหน้าลูกชาย “เอาละ แต่แม่ว่าลูกควรจะเลิกรังแกหลินเช่อได้แล้วนะ”
กู้จิ้งเจ๋อปลอบว่า “ไม่ต้องห่วงหรอกครับ เขาชอบเวลาที่โดนผมรังแกน่ะ”
หลินเช่อได้แต่จ้องอีกฝ่ายตาเขม็งเท่านั้น
ใครคนหนึ่งร้องเรียกมู่หว่านฉิง มารดาของเขาจึงปลีกตัวไปอย่างรวดเร็ว ในจังหวะนี้เอง หลินเช่อก็ยกมือขึ้นฟาดผัวะไปที่ชายหนุ่ม เขาหัวเราะและถามว่า “ฉันพูดผิดตรงไหนล่ะ ก็ปกติแล้วเธอมักจะ…ชอบเวลาที่ฉันรังแกเธอนี่นา”
ขณะที่พูด เขาก็หัวเราะเบาๆ ใส่หูเธอไปด้วย