หลินเช่อไม่อยากให้เขาต้องตำหนิตัวเองหนักขนาดนั้นเพราะเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เธอมองหน้าเขา “กู้จิ้งเจ๋อคะ ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว จริงๆ นะ คุณไม่ได้ทำฉันเจ็บทุกครั้ง มันเกิดขึ้นแค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้นค่ะ”
“แต่สองสามครั้งที่เกิดขึ้น มันก็แย่มาก” เขาว่า “มันควรจะเป็นเรื่องที่ดี ฉันไม่อยากให้มันกลายเป็น…ภาระสำหรับเธอ”
“มันจะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไงกันคะ ฉัน…มันไม่เคยที่จะเป็นภาระ” หลินเช่อนึกย้อนไปถึงว่าเธอมักจะพร่ามึนหลงเลือนแทบจะในทุกครั้ง เธอถูกเขาทรมานก็เพราะว่าเธอไม่สามารถที่จะทนรับมันได้ไหว จึงกลายเป็นที่เธอที่เป็นฝ่ายตกอยู่ใต้อำนาจมนต์สะกดของเขาทุกครั้งไป
และอันที่จริง เธอก็ชอบมันมาก…ทุกครั้งที่เขาทำแบบนั้นกับเธอ
แต่จะให้เธอพูดออกไปโต้งๆ ว่าเธอชอบได้ยังไงกันเล่า
กู้จิ้งเจ๋อสะบัดตัวหันหนีโดยแรง มือข้างหนึ่งทาบบนผนัง หันหลังให้เธอ และพูดอย่างหนักแน่นว่า “ออกไปสิ ฉันบอกว่าฉันไม่เป็นไรไงล่ะ”
“แต่…”
“ฉันไม่เป็นไรจริงๆ โอเคมั้ย ออกไปซะ”
จะให้หลินเช่อเชื่อได้ยังไงว่าเขาไม่เป็นไร
หญิงสาวคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจเดินออกมา เธอหันไปบอกเขาว่า “ถ้างั้นฉันจะออกไปละค่ะ…อย่าอาบน้ำเย็นอีกเลยนะคะ แล้วก็รีบออกไปด้วย โอเคมั้ยคะ”
“ตกลง ฉันจะไม่อาบน้ำอีก”
อันที่จริงหลังจากบทสนทนานั้น ไฟที่ลุกโหมอยู่ในตัวเขาก็ดับลง แล้วชายหนุ่มก็ไม่ได้รู้สึกต้องการที่จะอาบน้ำอีก
ข้างนอก หลินเช่อนั่งลงบนเตียงใหญ่ คิดถึงเรื่องที่กู้จิ้งเจ๋อเฝ้าตำหนิตัวเองแม้ว่าเรื่องราวจะผ่านมาพักใหญ่ เธอให้อภัยเขาไปตั้งนานแล้วเพราะว่า…เขาช่างแสนดีและก็ไม่มีเหตุผลอื่นใดที่เขาจะทำรุนแรงกับเธอแบบนั้น อีกอย่าง ด้วยนิสัยของเขา เธอไม่จำเป็นต้องพูดอะไร ก็รู้ได้ว่ากู้จิ้งเจ๋อทรมานตัวเองมานานพอแล้ว แม้เหตุการณ์ครั้งนั้นจะผ่านมาได้พักใหญ่ แต่เขาก็ยังคงไม่หยุดทรมานตัวเอง และถึงแม้ว่าเขาจะแทบทนไม่ได้แต่เขาก็ยังห้ามใจตัวเองไม่ให้แตะต้องเธอ
หลินเช่อคิดอยู่เป็นครู่ก่อนจะเกิดความคิดเข้าท่าบางอย่างขึ้น เธอลุกเดินไปยังตู้เสื้อผ้า พลิกดูเสื้อผ้าข้าวของของตัวเองที่แขวนอยู่ในนั้น
เมื่อเขากลับออกมาจากห้องน้ำ ก็มองไม่เห็นหลินเช่อ
เขาเหน็บผ้าเช็ดตัว หันออกไปมองข้างนอก และร้องเรียกด้วยความแปลกใจ “หลินเช่อ นี่เธอหายไปไหนน่ะ”
แล้วเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นข้างหลัง
“กู้จิ้งเจ๋อ ฉันอยู่นี่ค่ะ”
ชายหนุ่มหันไปแล้วก็ได้เห็นหญิงสาวอยู่ในชุดเสื้อผ้าปกติ เธอยืนนิ่ง หน้าแดงก่ำ ท่าทางขัดเขินไม่กล้ามองหน้าเขา สายตาวุ่นวายใจของเธอมองต่ำลง
กู้จิ้งเจ๋อขมวดคิ้ว มองหน้าอีกฝ่าย “เกิดอะไรขึ้น เธอปวดท้องอีกรึเปล่า”
“มันหยุดปวดมาตั้งนานแล้วละค่ะ แต่ว่…มีตรงอื่นที่ปวด”
“อะไรนะ ตรงไหน ไหนมาให้ฉันดูหน่อยซิ” เขาถามด้วยความร้อนใจ
หลินเช่อชี้ไปที่หน้าอก หน้าร้อนผ่าว “มันปวดตรงนี้ค่ะ”
“อะไรกัน ทำไมมันถึงปวดได้ล่ะ…ตรงนี้เหรอ”
หลินเช่อสาวเท้าเข้ามาหาจนกระทั่งมาหยุดยืนที่ข้างตัวเขา เธอผลักอกเขาและมองหน้า “ถ้าได้นวดซักหน่อยคงดีขึ้นน่ะค่ะ”
“…” กู้จิ้งเจ๋อจ้องมองหน้าอกของเธอ หัวสมองปั่นป่วนวุ่นวาย
ยัยหลินเช่อ นี่เธอกำลังทำอะไรอยู่น่ะ
แต่ในจังหวะนี้เอง หลินเช่อก็ดึงมือเขา เอามาทาบลงบนอกเธอ
มือใหญ่สัมผัสได้ถึงความนุ่มนิ่มของหน้าอก แล้วร่างทั้งร่างของเขาก็ร้อนวูบขึ้นทันควัน
“เธอ…หลินเช่อ ปล่อยฉันนะ นี่เธอทำอะไรน่ะ”
หลินเช่อมองหน้าเขา เป็นครั้งแรกที่เธอเป็นฝ่ายเริ่มรุกใส่เขาก่อนแบบนี้
กู้จิ้งเจ๋อนิ่วหน้า ไม่ยอมให้เธอเข้ามาใกล้
แต่หลินเช่อไม่ยอมถอย เธอขยับใกล้เขามากขึ้นไปทุกที เธอนึกถึงเวลาที่เขาเย้าแหย่เธอตามปกติ แล้วก็ตวัดแขนเกี่ยวรอบคอเขา ก่อนจะประทับริมฝีปากของเธอลงบนปากเขา
ร่างทั้งร่างของเขาสั่นระริก
เขารู้สึกได้ว่าหลินเช่อจงใจจู่โจมเขา และตั้งใจเล่นงานที่ปากของเขา
หลายครั้งที่เขามักจะเป็นฝ่ายเริ่มก่อน เขาชอบที่ตัวเองได้เป็นผู้นำและได้เห็นเธอสุขสมมึนเมาเพราะเขา
เพราะฉะนั้น ในตอนนี้มันจึงเป็นความรู้สึกที่พิเศษสุดๆ เมื่อเธอกลายเป็นฝ่ายเริ่มก่อนบ้าง
โดยเฉพาะเมื่อเธอตั้งใจที่จะทำให้เขารู้สึกบางอย่าง การเคลื่อนไหวของลิ้นเธอจึงแคล่วคล่องว่องไว
กู้จิ้งเจ๋อไม่อาจต้านทานได้ไหว เขาครางออกมาด้วยความรัญจวนใจ ไม่ช้า ร่างเล็กๆ นั้นลงไปอยู่ใต้ร่างเขา
หลินเช่อคราง
เขาค่อยๆ คลายอ้อมกอดอย่างระมัดระวัง
“ไม่นะ หลินเช่อ อย่า อย่าแตะตัวฉัน…”
เมื่อได้ยินเขาพึมพำอย่างนั้น เธอก็ยิ่งเล่นงานลิ้นเขาหนักขึ้นไปอีก เป็นอีกครั้งที่เธอเป็นฝ่ายควบคุม และผลักเขากลับลงไปบนเตียง ปลุกปล้ำกันอยู่พักใหญ่ สุดท้ายกู้จิ้งเจ๋อก็นอนพังพาบลงบนเตียงแต่โดยดี
ร่างของหลินเช่อตามลงมา เธอนั่งอยู่บนตัวเขา ไม่ยอมให้ขยับไปไหนได้
แต่คนโดนคร่อมก็ยังไม่หยุดโวยวาย “อย่าทำแบบนี้ หลินเช่อ ปล่อยฉันนะ” เขาปัดมือเธอออกเป็นพัลวัน ไม่ยอมให้เธอรุกคืบต่อ
หลินเช่อไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี จึงดำเนินการตามแผนเดิมที่ตั้งใจไว้ เธอเอื้อมมือออกมาปลดเนคไทเขา
กู้จิ้งเจ๋อรู้สึกได้ว่าเธอกำลังดึงเนคไทเขาออกไป ก่อนจะคว้ามือทั้งสองข้างของเขาชูขึ้น จากนั้นก็จัดการมัดทั้งสองมือเอาไว้ด้วยเนคไท
กู้จิ้งเจ๋อยังประท้วงไม่หยุด “หลินเช่อ อย่าทำแบบนี้ ปล่อยฉันนะ”
เมื่อเห็นเขาไม่ยอมอยู่นิ่งๆ หลินเช่อก็ก้มลงไปจูบ
“อืม…”
ยัยผู้หญิงตัวเล็กนี่ดูจะหิวเขาเสียเหลือเกินนะ
แล้วนี่เขาจะทนรับความตื่นเต้นนี่ได้ยังไงไหว
เขารู้สึกราวกับว่าหัวใจเขาหลุดปลิวไปแล้ว
หลินเช่อยังไม่หยุดมือ เธอยังคงจัดการมัดข้อมือเขาจนแน่น
เมื่อมันแน่นพอแล้ว ผู้ชายที่อยู่ด้านล่างก็เริ่มผวาหาอากาศ เนื้อตัวเดือดพล่านปั่นป่วน
หลินเช่อถอนปากออกจากปากเขา ก้มลงมองเขาจากมุมสูง เธอยิ้มและพูดว่า “คืนนี้คุณเป็นของฉันนะคะ”
“…”
เธอจับคางเขาเชิดขึ้น รู้สึกอัศจรรย์เหลือใจที่ผู้ชายหล่อเหลาคนนี้กำลังอยู่ใต้บัญชาของเธอในตอนนี้
กู้จิ้งเจ๋อเลิกดิ้นรนไปแล้ว
เขาได้แต่มองหน้าเธอด้วยความสับสนและพูดขึ้นว่า “หลินเช่อ นี่เธอกำลังเล่นกับไฟอยู่นะ รีบปล่อยฉันเดี๋ยวนี้เลย”
หลินเช่อตอบ “ฉันไม่ได้กำลังเล่นกับไฟ ฉันกำลังเล่นกับ…คุณต่างหากล่ะคะ”
“…”
ทำไมยัยนี่ถึงได้หื่นอย่างนี้นะ
นี่เธอกล้าพูดด้วยเหรอว่ากำลังเล่นกับเขาน่ะ
ผู้หญิงที่ไหนกล้าพูดจาแบบนี้กับเขา กู้จิ้งเจ๋อกันนะ
ที่มากไปกว่านั้น เธอยังพูดมันทั้งที่กำลังอยู่ในท่าแบบนี้อีกต่างหาก
นี่มันบ้าสิ้นดี
“เธอรีบปล่อยฉันซะดีกว่า หลินเช่อ ฉันให้โอกาสเธอเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะ!”
“คุณแน่ใจเหรอคะว่าอยากให้ฉันปล่อยนะ” หลินเช่อก้มลงมอง
เธอไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน แต่เธอเป็นนักแสดง และเธอก็เคยดูรายการมาแล้วทุกประเภท
สายตาแสนยวนเย้าของเธอก้มลงมองเขาจากมุมสูงกว่าราวกับราชินี นิ้วของเธอกรีดกรายไปมาอยู่ที่กระดุมเสื้อบนหน้าอกตัวเอง ค่อยๆ ปลดมันออกทีละเม็ด ทีละเม็ด…
ในไม่ช้า เนื้อนวลข้างในนั้นก็ถูกเผยออกมา
กู้จิ้งเจ๋อหรี่ตา มองดูเสื้อตัวในที่บางใสแทบจะทะลุ ชายหนุ่มใกล้คลั่งเต็มทีแล้ว
ยัยหลินเช่อ นี่เธอใส่อะไรของเธอเนี่ย นี่เธอกำลังพยายามทำอะไรกันแน่
หรือว่ากำลังพยายามจะทรมานเขาให้ตาย
เสื้อตัวในนั้นส่องล้อกับแสงไฟ และเขาก็กำลังโหมไหม้ใกล้ขาดสติเต็มที
หลินเช่อถึงจะอาย แต่ก็ยังยืนกรานที่จะทำต่อ เธอปลดกระดุมเสื้อทีละเม็ดจนครบ แล้วร่างกายท่อนบนของเธอก็ถูกเผยอยู่เบื้องหน้าสายตาเขา