ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้หลินเช่อยังไม่รับปากจะจากไปเสียด้วย งั้นลู่ชูเซี่ยยิ่งหวังว่าเมื่อกู้จิ้งอวี่ได้ฟังแล้วจะระเบิดอารมณ์ออกมา กระทั่งว่าให้หลินเช่อไปตาย
ลู่ชูเซี่ยเห็นว่าหลินเช่อยังเงียบ จึงเอ่ยขึ้น “จิ้งอวี่ คุณรู้หรือเปล่า ความจริงแล้ว หลินเช่อแต่งงานไปแล้ว”
เรื่องนี้เหรอ
กู้จิ้งอวี่มองหลินเช่อ
ลู่ชูเซี่ยมองไม่เห็นความโกรธบนใบหน้ากู้จิ้งอวี่ ยังไม่อยากจะเชื่อ รู้ว่าหลินเช่อแต่งงานแล้ว เขาไม่โกรธสักนิดเลยเหรอ
หลินเช่อเงยหน้าขึ้นมา กู้จิ้งอวี่เอ่ยถาม “จะบอกผมเรื่องนี้เหรอ แต่งงานแล้วยังไงล่ะ มีผลกระทบกับหนังที่เธอกำลังถ่ายอยู่กับผมเหรอ”
ลู่ชูเซี่ยชะงักนิ่ง มองทั้งสองอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
ผ่านไปชั่วครู่ เธอถึงได้มีสติกลับมา ตอบกลับเขาไปว่า “ยังมีอีกนะ คุณรู้หรือเปล่าว่าสามีของเธอคือใคร”
กู้จิ้งอวี่พยักหน้า เรื่องนี้ เขาไม่รู้จริงๆ และไม่เคยถาม
เขามองหลินเช่อ เห็นว่าใบหน้าของหลินเช่อซีดขึ้น รู้สึกใจหาย สัมผัสได้ว่าเป็นข่าวที่ไม่ดี
“ทำไม หลินเช่อ คุณบอกผมสิ”
หลินเช่อกัดริมฝีปาก ทำใจทำร้ายเขาแบบนี้ไม่ได้
การบอกกู้จิ้งอวี่ออกไปว่าเธอปิดบังเขามาตั้งนาน ทำให้เธอทั้งเสียใจและกลัวมาก
กลัวว่ากู้จิ้งอวี่จะโกรธ แล้วไม่สนใจเธออีก
เธอคิดมาตลอดว่ากู้จิ้งอวี่เป็นเพื่อนที่ดี เป็นครูที่ดี สนับสนุนเธอ สอนการแสดง สอนเธอว่าต้องอยู่ในวงการบันเทิงต่อไปอย่างไร
แต่ว่าเธอกลับปิดบังเขามาตั้งนาน เป็นความผิดของเธอจริงๆ
“จิ้งอวี่… สามีของฉัน… สามีของฉันคุณเองก็รู้จัก”
กู้จิ้งอวี่ขมวดคิ้ว “เป็นใครกันแน่”
“คือ…”
ลู่ชูเซี่ยทนรอไม่ไหว เห็นเธอไม่ยอมพูดสักที จึงรีบบอกออกไปเสียเอง “คือกู้จิ้งเจ๋อ คือพี่รองของคุณไง เธอ หลินเช่อ เป็นพี่สะใภ้ของคุณ”
ใบหน้าของกู้จิ้งอวี่เข้มขึ้นอย่างชัดเจน
ต้องมองสายตาของเธอ เต็มไปด้วยความไม่น่าเชื่อ
กระบอกตาเพียงระยะเวลาไม่นานก็สามารถมองเห็นอะไรผ่านไปมากมาย ใบหน้าขาว เข้มขึ้น ทำให้คนมองรู้สึกหัวใจหนักอึ้งไปด้วย
ดวงตาของหลินเช่อเปียกชื้น จ้องมองกู้จิ้งอวี่ รู้ว่าตัวเองทำไม่ถูก รู้ว่าตัวเองผิดไปแล้ว
“ขอโทษนะคะ จิ้งอวี่ ฉันไม่ควรปิดบังคุณ เพียงแต่ตอนแรก ฉันไม่คิดว่าเราจะเดินเข้ามาใกล้กันได้ขนาดนี้ ไม่คิดว่าจะกลายเป็นเพื่อนคุณ ต่อมาฉันก็พูดไม่ออก เพราะความสัมพันธ์ของคุณกับตระกูลกู้ไม่ได้ดี ดังนั้นเลยไม่รู้ว่าเรื่องนี้ ไม่มีใครกล้าเอ่ยถึงตระกูลกู้ต่อหน้าคุณ เลยไม่ได้บอกคุณไป ฉันรู้ว่าไม่ช้าก็เร็วคุณต้องรู้ แต่ว่า ไม่คิดว่าจะปล่อยเลยมานานขนาดนี้”
หลินเช่อเอ่ย น้ำตาก็พรั่งพรู
ใบหน้าเต็มไปด้วยคำขอโทษ จ้องมองกู้จิ้งอวี่อยู่แบบนั้น หวังเพียงให้เขาเอ่ยอะไรออกมาบ้าง ดุด่าเธอ เหน็บแนมเธอก็ได้
ลู่ชูเซี่ยด่าเธอ เธอไม่ยินยอม แต่ว่า ถ้าเป็นกู้จิ้งอวี่มาด่า ไม่ว่าอย่างไรเธอก็จะยอมรับมันโดยดี
คิดในใจแบบนั้น แต่กลับไม่มีคำดุด่าจากกู้จิ้งอวี่
เขาเพียงมองหลินเช่อ “ ผู้ชายที่แต่งงานแล้วคนนั้น ที่คุณพูดถึงตลอด คือ…คือพี่รองของผมเหรอ”
หลินเช่อกัดริมฝีปาก พยักหน้า “ใช่ค่ะ คือพี่รองของคุณ”
“คุณ… แต่จะเป็นไปได้ยังไง พี่รองจะรู้จักคุณได้ยังไง ทำไมไปอยู่กับคุณได้ล่ะ”
ลู่ชูเซี่ยเห็นท่าทางกู้จิ้งอวี่เป็นแบบนั้น ดอกไม้ผลิบานขึ้นในใจ ทำเพียงยืนอยู่ตรงนั้น จ้องมองหลินเช่ออย่างโอหัง ราวกับกำลังชมเรื่องตลก อยากดูว่าครั้งนี้หลินเช่อจะบอกว่าอย่างไร
หลินเช่อเอ่ยตอบ “มันเป็นเรื่องไม่คาดคิด ยังไงซะตอนแรกเราไม่เคยคิดว่าเราจะอยู่ด้วยกัน แต่ว่าต่อมาเพราะคนของตระกูลกู้ทำให้ต้องมาอยู่ด้วยกัน ตอนนี้เราอยู่ด้วยกันมาสักพักแล้ว ถือว่าค่อยๆ คุ้นเคยไปแล้ว”
“งั้น เป็นคุณที่ไม่บอกผม หรือว่าพี่รองล่ะ” กู้จิ้งอวี่ถามขึ้นมาอีกครั้ง
หลินเช่อตอบ “ตอนที่เจอคุณแรกๆ เรายังรู้จักกันไม่นาน ฉันเคยถามกู้จิ้งเจ๋อแล้ว เขาบอกว่าความสัมพันธ์ของคุณกับที่บ้านไม่ดีเท่าไหร่ ไม่ต้องบอกคุณ เราไม่มั่นใจว่าหลังจากนั้นจะเป็นยังไง ไม่คิดว่าต่อมาเราจะได้อยู่ด้วยกันนานขนาดนี้ ยังไม่ได้เลิกกันไป”
กู้จิ้งอวี่สูดหายใจเข้าลึก ยืนอยู่ตรงนั้น ดวงตาคมกลอกไปมา ไม่รู้กำลังคิดอะไรอยู่
เกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะ ทว่าทำให้หลินเช่อยิ่งรู้สึกเครียด
เพียงแต่ลู่ชูเซี่ยยังคงใจเย็น เฝ้ารอชมความสนุกสนาน
หลินเช่อถลึงตามองลู่ชูเซี่ย เธอเลิกคิ้วมองหลินเช่ออย่างลำพองใจ ท่าทางอวดดี
หลินเช่อเพียงมองตาเธอ ตอนนี้ไม่อยากไปสนใจความคิดของเธอ หวังเพียงว่ากู้จิ้งอวี่จะไม่โกรธมากมายขนาดนั้น
ตอนนั้นเอง กู้จิ้งอวี่ก็หันมาหาหลินเช่อ “เอาล่ะ ผมคาดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าคุณจะกลายมาเป็นพี่สะใภ้ของผม”
“ฉัน…ก็ไม่นับว่าเป็นหรอกค่ะ เอาล่ะ ความจริงก็นับว่าเป็นพี่สะใภ้ แต่ว่า เราก็ยังเป็นเพื่อนกันนะ ฉันมองคุณเป็นเพื่อนที่ดีมาตลอด นี่ไม่เกี่ยวอะไรกับพี่สะใภ้หรือไม่ใช่พี่สะใภ้ ไม่เกี่ยวอะไรกับกู้จิ้งเจ๋อด้วย”
กู้จิ้งอวี่ยังคงตีหน้าขรึม “แต่ผมยังโกรธอยู่นะ”
“หา….” หัวใจของหลินเช่อแทบเต้นออกมาแล้ว รีบบอก “ฉันก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว”
“คุณคิดว่าผมโกรธ คุณควรทำยังไง”
“ฉัน…”
ลู่ชูเซี่ยมองอย่างสนุกสนาน มองท่าทางไร้หนทางของหลินเช่อ เฝ้ารออยู่ในใจ
ทว่ากู้จิ้งอวี่กลับพูดขึ้นมา “เอาแบบนี้ไหม เดลิเวอรี่เดือนนี้คุณเลี้ยง อาหารช่วงโปรโมทเดือนหน้าคุณก็รับผิดชอบ”
“ห้ะ” หลินเช่ออ้าปากกว้างอยู่ชั่วครู่
แค่นี้เหรอ
รอยยิ้มบนใบหน้าของลู่ชูเซี่ย ก็ค่อยๆ หดหายไป
กู้จิ้งอวี่บอก “ทำไม ไม่เต็มใจเหรอ”
หลินเช่อตกใจ รีบบอกทันทีว่า “ไม่ค่ะ ไม่ค่ะ ทำไมจะไม่เต็มใจล่ะ ฉันเต็มใจ เต็มใจค่ะ เลี้ยงหมดเลย คุณอยากกินอะไรก็ได้เลยค่ะ”
“นี่ยังไม่เท่าไหร่”
ลู่ชูเซี่ยมีสติกลับมา จ้องไปยังกู้จิ้งอวี่ ตะโกนเรียกชื่อของเขา “กู้จิ้งอวี่ คุณหมายความว่ายังไง”
กู้จิ้งอวี่มองลู่ชูเซี่ย “ทำไม”
ลู่ชูเซี่ยเอ่ยถาม “แค่นี้ก็หายกันแล้วเหรอ”
กู้จิ้งอวี่ยิ้มแห้ง บอกไปว่า “ไม่งั้นคุณคิดว่าผมต้องทำยังไงล่ะ จะว่ายังไงเธอก็คือพี่สะใภ้ของผม หรือว่าต้องให้ผมตีเธอสักรอบ แล้วถ้าผมตีเธอ พี่รองจะปล่อยผมไปเหรอ ยิ่งไปกว่านั้น นี่มันก็ไม่ได้มีอะไร เธอเป็นพี่สะใภ้ผมก็คือพี่สะใภ้ผม ในกองถ่าย ผมยังเป็นรุ่นพี่เธอด้วย ยังไงซะปีๆ หนึ่งผมก็เจอหน้าพี่รองแค่ไม่กี่ครั้ง คิดซะว่าไม่มีเขาอยู่ก็พอแล้ว”
อะไรนะ
เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร
ลู่ชูเซี่ยไม่อยากเชื่อ เขาพูดแค่นี้ก็จบแล้วงั้นเหรอ
แต่ว่า หลินเช่อหลอกเขามาตั้งนาน แถมยังมีความสัมพันธ์คลุมเครือกับเขา เห็นชัดว่าอยู่กินกับกู้จิ้งเจ๋อ ยังไม่วายที่จะหลอกล่อเขาอีก
เขาไม่โกรธสักนิดเลยเหรอ
หรือว่าหลินเช่อมีเสน่ห์ขนาดที่ทำให้เขาเลือกไม่แยแส