“ตายแล้ว?” ได้ยินถังฮ่าวพูด หลิงม่อชะงักไปชั่วขณะ
ถังฮ่าวเหมือนพอใจกับปฏิกิริยาของหลิงม่อมาก เขายกนิ้วมือที่เต็มไปด้วยเลือดขึ้นเลียหนึ่งครั้ง บอกว่า “น่าเสียดายมากใช่ไหมล่ะ? จะว่ายังไงดีล่ะ…ใจฉันก็รู้สึกว่ามันน่าเสียดายมาก เทียบกับแกกับสัตว์เลี้ยงของแกแล้ว ความจริงฉันอยากเล่นสนุกกับเด็กคนนั้นมากกว่า…หึหึ แกไม่ต้องมาจ้องฉันอย่างนั้นหรอก ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น” น้ำเสียงของถังฮ่าวฟังดูใจเย็นมาก แต่สิ่งที่เขาพูดและมือของเขา กลับแสดงออกถึงความเป็นโรคจิตอย่างชัดเจน “สิ่งที่ฉันชอบคือเลือดอันหอมหวาน และเนื้อนิ่มๆ ของเธอต่างหากล่ะ!”
“บอกตามตรง ความจริงฉันเห็นด้วยกับวิธีการของพวกซอมบี้มากนะ มีแค่มุมมองที่มีตอมนุษย์ของพวกมันเท่านั้นที่เป็นธรรมชาติที่สุด และถูกต้องที่สุด…แต่เดิมมนุษย์เองก็เป็นหนึ่งในห่วงโซ่อาหารไม่ใช่หรอ? ในเมื่อเป็นอย่างนี้ การที่มนุษย์ถูกมองว่าเป็นอาหารบ้าง ก็ไม่มีอะไรผิดหรือเปล่า? พวกที่เนื้อนุ่มและสดกว่า ก็เป็นอาหารเกรดสูง…พวกที่เนื้อเหนียวหยาบ ก็เป็นอาหารระดับล่าง…ตรงไปตรงมา แต่กลับมีเหตุมีผล ไม่ใช่หรอ? ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…”
ถังฮ่าวหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง สายตากลับยังคงเยือกเย็นเหมือนเดิม แต่ในขณะนั้นเอง ร่างกายของเขาพลันกระตุกสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ มือทั้งสองข้างก็สั่นเทาไม่หยุด
“ฮ่าฮ่าฮ่า…เห็นหรือยัง? แค่ลองจินตนาการดู ร่างกายของฉันก็เริ่มตื่นเต้นแล้ว…ถ้าหากสามารถใช้มือคู่นี้ไปสัมผัสด้วยตัวเองได้ มันคงจะน่าตื่นเต้นกว่านี้! น่าเสียดาย น่าเสียดายจริงๆ! ในเมื่อตกอยู่ในกำมือเขา สภาพศพก็คงไม่เหลือชิ้นดีแล้วล่ะ…” พูดถึงตรงนี้ ถังฮ่าวพลันเงยหน้าขึ้น แล้วมองหน้าหลิงม่ออย่างตื่นตะลึง “ทำไมแกไม่พูดอะไรเลย?”
สีหน้าคลุ้มคลั่งค่อยๆ เลือนหายไป ร่างกายพลันตึงเกร็งขึ้นมาอีกครั้ง “แกดูเหมือนไม่กลัวอะไรเลย ทำไม ยอมแพ้แล้วงั้นหรอ? ถ้ารีบไปตอนนี้ ไม่แน่ว่าอาจจะยังเก็บชิ้นส่วนร่างกายของเธอไว้ได้บ้าง…”
“ ‘เขา’ ที่แกพูดถึง ก็คงจะเหมือนกับแก ที่สามารถแปลงร่างเป็นสัตว์ประหลาดได้ใช่ไหมล่ะ?” อยู่ๆ หลิงม่อก็พูดเสียงเรียบๆ
ถังฮ่าวหรี่ตา แล้วทวนคำถาม “สัตว์ประหลาด? ก็ไม่แน่หรอก ถ้าหากตอนนี้มนุษย์ยังเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีจำนวนมากที่สุด แกจะพูดอย่างนี้ก็ไม่ผิด สิ่งมีชีวิตนอกเหนือจากมนุษย์ล้วนเป็นสัตว์ เป็นเดรัจฉาน…แต่ตอนนี้ล่ะ? ฝ่ายที่มีจำนวนและพละกำลังที่เหนือกว่า คือซอมบี้ต่างหากล่ะ! เมืองเมืองหนึ่งมีซอมบี้อยู่สิบล้านกว่าตัว แต่กลับมีมนุษย์อยู่ไม่ถึงห้าหมื่น…ไม่สิ บางทีอาจมีไม่ถึงหนึ่งหมื่นคนด้วยซ้ำ เหยื่อที่เอาแต่หลบๆ ซ่อนๆ มีสิทธิ์อะไรมาเรียกซอมบี้ว่าสัตว์ประหลาดกัน? อีกอย่างแกดูฉันสิ ฉันไม่เหมือนมนุษย์ แล้วก็ไม่เหมือนซอมบี้ด้วย นี่คือสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์ใหม่ ที่ลบข้อเสียของมนุษย์และซอมบี้ทิ้ง จากนั้นก็ผสานข้อดีของพวกเขาเข้าด้วยกันแล้วถือกำเนิดขึ้นมา…”
แต่หลิงม่อกลับพูดแทรกขึ้นอย่างไม่ไว้หน้า เหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูดแม้แต่น้อย “ถ้าหากเขาเหมือนแก ที่ไม่สามารถแปลงร่างเป็นซอมบี้ได้จริงๆ…ถ้าอย่างนั้นเขาก็คงต้องตายสถานเดียว”
“แกก็เหมือนกัน”
เพิ่งจะพูดจบ เสี่ยวป๋ายที่อยู่ข้างล่างพลันพุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว
หมีแพนด้ากลายพันธุ์ตัวนี้พลันลุกขึ้นยืนสองขา ขาหน้าพลันยกขึ้นบังไว้ด้านหน้า
ขณะเดียวกันสายตาของหลิงม่อจดจ้องไปยังด้างบนของถังฮ่าว ในเสี้ยววินาทีที่เสี่ยวป๋ายใกล้จะวิ่งพุ่งไปถึงตรงหน้า เขาพลันโหนตัวขึ้นไปข้างบน
หนึ่งคนหนึ่งหมี ทั้งข้างบนและข้างล่าง ทำเอาถังฮ่าวถึงกับรับมือไม่ถูกไปชั่วขณะ
ส่วนถังฮ่าว…ด้านหนึ่งเขายังอยู่ในภวังค์ลุ่มหลงตัวเอง ในอีกด้านก็ไม่คิดว่าหลิงม่อจะโจมตีในสถานการณ์อย่างนี้ แม้แต่สิ่งที่หลิงม่อเพิ่งพูดเมื่อกี้ เขาก็ยังไม่ทันได้เข้าใจ…
หมายความว่ายังไงที่บอกว่า “เขาคงต้องตายสถานเดียว” ? คนคนนี้เชื่อใจเด็กผู้หญิงคนนั้นมากขนาดนั้นเชียวหรอ! คนทั่วไปหากได้ยินว่าพรรคพวกของตัวเองตายในเสลาอย่างนี้ ก็จะเกิดไขว้เขวและหวาดกลัวขึ้นมาไม่ใช่หรอ! ต้องบอกก่อนว่า ตอนนี้เขาอยู่ในสภาพใกล้เคียงกับซอมบี้อย่างไม่มีขีดจำกัด และพวกเดียวกันกับเขาก็น่าจะมีพลังแบบเดียวกันนี้…เจ้าเด็กนี่ยังไม่เคยสู้กับเขา แล้วไปเอาความมั่นใจขนาดนี้มาจากไหนกัน? หรือว่าถึงแม้เขาจะใช้แผนสองรุมหนึ่งก็ยังจัดการศัตรูไม่ได้ เด็กผู้หญิงคนนั้นสามารถรับมือได้ด้วยตัวคนเดียวงั้นหรอ?
คำถามมากมายเพิ่งจะผุดขึ้นมา อุ้งเท้าหมีข้างหนึ่งก็พลันตะปบเข้ามาดัง “วืด”
ถังฮ่าวโฉบหลบไปข้างหลังอย่างเร่งรีบ ทว่าปากกลับยังไม่ลืมพูดต่อว่า “ไม่มีประโยชน์ ถึงแม้ฉันจะยืนอยู่ตรงนี้ให้แกโจมตี แกก็ไม่มีทาง…”
“แม้แต่เจ้าก้อนเนื้อยักษ์ก้อนนั้น ก็ยังไม่ถึงขั้นฆ่าไม่ตายเลย นับประสาอะไรกับของก็อปอย่างแกล่ะ…”
ทันใดนั้น เสียงหัวเราะเย็นชาของหลิงม่อก็ดังลงมาจากบนหัว และถังฮ่าวที่ได้ยินประโยคนี้ ก็หัวใจเต้นเร็วด้วยความตื่นตะลึง!
เขารู้ได้ยังไง?!
อย่าว่าแต่พวกเขายังไม่เคยเห็นซอมบี้หัวหน้าฝูงตัวนั้นเลย ถึงแม้จะเห็น ก็ไม่มีทางเดาพลังของมันได้อย่างถูกเผงอย่างนี้ได้แน่! หากยังไม่เคยสู้กัน ซอมบี้หันหน้าฝูงตัวนั้นก็แค่ดูกำยำล่ำสันหน่อยเท่านั้น อย่าว่าแต่หลิงม่อที่เป็นผู้รอดชีวิตที่เพิ่งมาถึงเลย แม้แต่พวกเขา ก็ยังต้องคอยสังเกตการณ์กันอยู่นานกว่าจะรู้เรื่องพวกนี้!
ของก็อป…ที่พูดอย่างนี้ออกมาได้ แสดงว่าเขาไม่เพียงเคยทำความเข้าใจ แต่ยังมีความเป็นไปได้สูงว่าเคยเจอมากับตัวแล้วด้วย ถ้าไม่อย่างนั้น เขาจะมั่นใจขนาดนั้นได้ยังไง!
แต่ในขณะที่กำลังยืนนิ่งอยู่นั้น ถังฮ่าวพลันรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงขึ้นมาทันที ความเจ็บปวดนี้ไม่เหมือนกับการโจมตีที่ไร้ประโยชน์ก่อนหน้านั้น มันไม่ได้เกิดจากภายในร่างกาย แต่มาจากสมองของเขา!
“แย่แล้ว!”
ถังฮ่าวลั่นร้อง “อ๊าก” ด้วยความเจ็บปวด เขาเบิกตากว้างสุดชีวิต แต่ภาพตรงหน้ากลับเลือนรางอย่างสูญเสียการควบคุม ไม่เพียงเท่านี้ ความคิดที่ไม่สามารถควบคุมได้พลันพรั่งพรูออกมาจากจิตใต้สำนึก ทำให้เขารู้สึกคลุ้มคลั่งไปชั่วขณะ ร่างกายและจิตใจที่เดิมก็มีสภาวะแตกแยกแสดงให้เห็นอยู่แล้ว เวลานี้ยิ่งชัดเจนขึ้นราวกับกำลังถูกจับแยกกัน ถึงแม้ร่างกายไม่บาดเจ็บ แต่ถังฮ่าวกลับรู้สึกทรมานที่สุดนับตั้งแต่ที่สู้กันมา!
“เมื่อกี้ฉันกำลังพูดอะไรอยู่? ทำไมต้องบอกมันเรื่องพวกนี้ด้วย…ใช่แล้ว เพราะการแปลงร่าง เพราะร่างกายร่างนี้! อ๊ากกก…มันทำอะไรฉันแน่ๆ ทำไมรู้สึกเหมือนสมองจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว!”
“ใช่แล้ว มันเป็นผู้มีพลังจิตนี่นา! ฉันลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไง!”
แต่เจ้าเด็กบ้าสมควรตายนั่น ยังไม่เคยใช้พลังจิตโจมตีซักครั้งเลยนี่นา!
ไม่ว่าใครหากสู้กับเขา ก็ยากที่จะไม่คิดว่า “เจ้าเด็กบ้านี่ใช้เป็นแค่พลังจิตโจมตีเท่านั้นแหละ”!
แต่ที่สำคัญที่สุด ก็คือจังหวะที่เขาเลือกใช้!
ทั้งแม่นยำ ทั้งรวดเร็ว! สามารถฉวยโอกาสที่มีเพียงเสี้ยววินาทีนี้ไว้ได้ นี่ต้องไม่ใช่เรื่องบัเอิญแน่นอน…หรือพูดอีกอย่างคือ ตั้งแต่ที่เจ้าเด็กคนนี้เข้ามา เขาเริ่มมองหาโอกาสมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว! แต่ภายใต้สถานการณ์ที่โจมตีล้มเหลวซ้ำไปซ้ำมา เขากลับยังสามารถข่มกลั้นอารมณ์ไว้ได้ เพื่อรอโอกาสที่ดีที่สุด…
จุดนี้ เหมือนวิธีการของเขาก่อนที่เขาจะแปลงร่าง! แต่ก็อย่างที่เขาบอก เมื่อเขาแปลงร่างจนมีสภาพน่าอนาถอย่างนี้แล้ว เขาก็ไม่อาจควบคุมและข่มกลั้นตัวเองไว้ได้อีก…
“อ๊ากกกก!” ถังฮ่าวพยายามถอยหลังสุดชีวิต พลางยกหมัดขึ้นชกท้องตัวเองเต็มแรง
ความเจ็บปวด ใช้ความเจ็บปวดกระตุ้น! รีบตั้งสติเดี๋ยวนี้!
ทว่าถังฮ่าวในเวลานี้ถึงแม้ลนลาน แต่กลับไม่หวาดกลัว…อย่างน้อยเขาก็ยังมีร่างกายที่ทนมือทนเท้าอยู่นี่นา! ถึงแม้ตอนนี้จะสูญเสียการควบคุมไปชั่วขณะ…อีกฝ่ายก็ไม่มีทางทำให้เขามีอันตรายถึงชีวิตได้ในเวลาสั้นๆ อย่างนี้แน่นอน…
“ใช่แล้ว ใจเย็นไว้…แค่ซ่อนอุบายลอบโจมตีนี้ไว้ ก็ไม่ได้ทำให้อะไรเปลี่ยนแปลงไปหรอก เขาโจมตีดวงจิตของฉันได้ แล้วยังสามารถทำให้ร่างกายฉันอ่อนแอลงได้เชียวหรือ!”
ถังฮ่าวชกตีตัวเองอย่างต่อเนื่อง อารมณ์ลนลานในตอนแรกเริ่มสงบลงช้าๆ กระทั่งในแววตาเลื่อนลอยยังสะท้อนรอยยิ้มเย็นชาออกมาเล็กน้อย…
“หึหึ ไม่มีประโยชน์ ไม่มีประโยชน์หรอก! ฉันยอมรับว่าฉันประมาทไปหน่อย แต่แค่ลูกไม้นี้ของแกจะไปมีประโยชน์อะไร! แล้วก็ลูกไม้เมื่อกี้พวกนั้นของแก…แกก็เห็นแล้ว ว่ามันใช้ไม่ได้ผลกับฉัน! โจมตีสิ! จากนั้นก็ทำให้ฉันเห็นว่าแกสิ้นหวังขนาดไหน! เมื่อมนุษย์เผชิญหน้ากับซอมบี้ ล้วนรู้สึกอย่างนี้ ใช่ไหมล่ะ? หึหึหึหึ…”
หลิงม่อได้ยินเสียงหัวเราะเย็นชาของถังฮ่าวรางๆ เพียงแต่เพราะความมึนงง รวมถึงร่างกายที่เซไปเซมา ทำให้เขาไม่อาจระบุตำแหน่งของหลิงม่อได้อย่างชัดเจน กระทั่งแม้แต่เสียงของหลิงม่อก็ยังดังแว่วๆ เหมือนอยู่ใกล้ก็ไม่ใช่ ไกลก็ไม่เชิง
“แกเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า?” หลิงม่อถาม
“อะไร?” ถังฮ่าวถามกลับทันทีโดยอัตโนมัติ ความจริงแล้วภายใต้สภาวะอย่างนี้ เขาไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าตัวเองได้ถามออกไปหรือเปล่า ปากเขาได้เปล่งเสียงถามออกไปจริงๆ หรือไม่
ทว่าในตอนนั้นเอง เขากลับรู้สึกได้รางๆ ว่าเงาสีขาวตรงหน้าได้หายไปแล้ว…
“หรือถ้าถามอีกอย่างก็คือ…แกเริ่มเข้าใจผิดตั้งแต่ตอนไหนว่ามีแค่ฉันที่กำลังอัดแกอยู่?” หลิงม่อถามขึ้นอีกครั้ง
“โครม!”
ทันใดนั้น พละกำลังมหาศาลกลุ่มหนึ่งพลันกระแทกเข้าที่หลังเขา ร่างกายถังฮ่าวกระเด็นลอยออกไปข้างหน้าราวกับกระสอบทรายทันที!
“หึหึ ผลลัพธุ์ก็ยังคงเหมือนเดิมไม่ใช่หรอ…”
เดิมทีถังฮ่าวยังรู้สึกสังหรณ์ใจ แต่เมื่อร่างกายลอยขึ้นกลางอากาศ เขาพลันรู้สึกคลายใจไม่น้อย
ตามคาด ในเวลาสั้นๆ หลิงม่อไม่สามารถทำให้อะไรเปลี่ยนแปลงไปได้มากอยู่แล้ว…
แต่ในตอนนั้นเอง ถังฮ่าวกลับรู้สึกถึงสิ่งผิดปกติขึ้นมาทันที…เขาที่ควรร่วงลงไปบนพื้น กลับเหมือนถูกอะไรบางอย่างจับไว้…ในเสี้ยววินาทีที่เขาเกิดความรู้สึกนี้ขึ้น ร่างกายเขาพลันรับรู้ได้ถึงแรงกระชากมหาศาลกลุ่มหนึ่ง จากนั้นตัวเขาก็เด้งกลับไปยังทิศที่เขากระเด็นออกมาในตอนแรกดัง “สวบ”
เขาเด้งกลับมาในความเร็วที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันในจุดที่เขาเพิ่งยืนอยู่เมื่อกี้ หมีแพนด้ากลายพันธุ์ตัวนั้นกำลังยืนด้วยขาหลังสองข้าง พร้อมกับสะบัดกรงเล็บไปมาดัง “สวบ สวบ สวบ”
พอเห็นถังฮ่าวกำลังพุ่งมาทางตัวเอง เสี่ยวป๋ายพลันส่ายหัวแล้วร้อง “แบ๊” จากนั้นก็ยกอุ้งเท้าขวาขึ้นอย่างไม่รอช้า…
“นี่มันอะไรกัน! อ๊ากกกก! ไม่คิดเลยว่าจะใช้วิธีนี้ นี่ถึงขนาดเห็นฉันเป็นกระสอบทรายไปแล้วหรอ!” ไม่นานถังฮ่าวก็ฉุกคิดได้ทันที แต่เทียบกับความเร็วของร่างกายเขาในตอนนี้ ความสามารถในการตอบสนองของเขากลับอ่อนแอกว่าอย่างเห็นได้ชัด…
“แบ๊!”
—————————————————————————–