“ไม่ต้องมองแล้ว…พวกแกกับฉัน ถูกล้อมไว้ด้วยกันแล้ว…” ถังฮ่าวหัวเราะอย่างคลุ้มคลั่ง แล้วพูดขึ้น
“เรื่องนั้นฉันรู้…” หลิงม่อจ้องไปข้างหน้าด้วยสีหน้าเย็นชา…ตั้งแต่วินาทีที่เขาฉุกคิดได้ว่าถังฮ่าวเป็นเหยื่อล่อ เขาก็เดาผลลัพธ์นี้ได้แล้ว แต่ยิ่งเป็นอย่างนี้ พวกเขาก็ยิ่งไม่ควรลนลาน บางทีสิ่งที่เด็กสาวคนนั้นอยากเห็น อาจเป็นภาพที่พวกเขาขวัญกระเจิงเพราะความกลัวก็ได้…หากเป็นอย่างนั้น ถ้าหากพวกเขาออกวิ่ง กลับจะยิ่งทำให้ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายกว่าเก่า
“คิกคิก…ก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยฉันก็ได้เห็นพวกแกตายต่อหน้า…ไม่สิ บางทีพวกแกอาจกลายเป็นเหมือนกับฉันก็ได้ ใช่แล้ว…ต้องเป็นอย่างนั้นแน่…หลิงม่อ ไม่แน่ว่าแกอาจกลายเป็นพวกเดียวกับฉันก็ได้…แล้วก็เพื่อนของแกพวกนั้น ในหมู่พวกเขาก็มีคนที่จะกลายเป็นเหมือนฉันสินะ…”
ถังฮ่าวพูดเสียงขาดๆ หายๆ แต่กลับได้ยินหลิงม่อถาม “ทางออกอยู่ไหน!”
“อะไรนะ? ฮ่าฮ่าฮ่า…แกคงไม่ได้คิดว่า…อย่าโง่ไปหน่อยเลยน่า แกนั่นแหละที่เป็นคนทำแผนของพวกฉันพัง ทำให้ฉันต้องมีสภาพน่าอนาถอย่างนี้…” ถังฮ่าวพูดเหมือนได้ยินคำพูดที่น่าขำ
แต่ยังไม่ทันพูดจบ หน้าอกเขาพลันรู้สึกถึงพละกำลังมหาศาลพุ่งเข้ามา ทำให้ร่างกายเขากระเด็นลอยออกไปข้างหลัง
“โครม!”
เขาเพิ่งล้มลงบนพื้น เท้าข้างหนึ่งพลันเหยียบหน้าอกเขาแน่น เลือดและเศษเนื้อที่กระจายขึ้นจากพื้นกระเด็นใส่ตาเขา…
“ขึกๆ…”
“ฉันถามว่า! ทางออกอยู่ไหน? แกจะไม่บอกก็ได้ นอกเสียจากว่าแกอยากอยู่ในสภาพแบบนี้ตลอดไป ฉันว่า ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่อาจควบคุมร่างกายตัวเองได้ แม้แต่ฆ่าตัวตายแกก็คงทำไม่ได้สินะ?” หลิงม่อพูดเสียงเย็น “นอกจากนี้ ฉันเป็นคนพังแผนการทุกอย่างของพวกแกหรือเปล่า ในใจแกรู้ดี ถึงแม้วันนี้ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของพวกแก สุดท้ายพวกแกก็ยังต้องกลายเป็นแบบนี้อยู่ดี ไม่ใช่หรอ? ตัวตนของเด็กผู้หญิงคนนั้น บ่งบอกถึงเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี แผนการทั้งหมดของพวกแก ความจริงแล้วถูกคนอื่นบงการอยู่เบื้องหลัง อย่างนี้แล้วยังจะมีหน้ามาเรียกว่าแผนการอีกหรอ?”
“หึหึ…” แววตาของถังฮ่าวหม่นหมองทันใด ความจริงเข้ารู้ดีแก่ใจยิ่งกว่าหลิงม่อ แต่ผลลัพธ์นี้ เขากลับไม่สามารถทำใจรับได้…ตอนแรกภารกิจล้มเหลวเพราะหลิงม่อ ต่อมาในขณะที่ยังคงโอบอุ้มความหวังลมๆ แล้งๆ ไว้ กลับพบว่าแผนการทั้งหมดนี้ ความจริงเป็นเพียงเรื่องตลก…
“ฉันจะถามแกเป็นครั้งสุดท้าย ทางออกอยู่ที่ไหน?” หลิงม่อถามอีกครั้ง
“ทางออก…” ถังฮ่าวเหม่อมองหน้าหลิงม่อ แล้วอยู่ๆ ก็พูดขึ้นว่า “แกปล่อยฉันเถอะ ถึงฉันจะควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้ แต่ในระหว่างสลายตัว มันจะไม่ลงมือส่งเดชแน่นอน”
หลิงม่อจ้องตากับเขาครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยกเท้าออก…
“หลิงม่อ!” สวี่ซูหานตะโกนเรียกเขาอย่างตื่นตระหนก
“ไม่เป็นไร” หลิงม่อพูดโดยไม่หันไปมอง จากนั้นก็พูดกับถังฮ่าวว่า “ตอนนี้แกบอกมาได้แล้ว อย่าคิดจะโกหก แกรู้ว่าจะเป็นยังไง”
ถังฮ่าวตะเกียกตะกายลุกยืน เขาจ้องหลิงม่อด้วยแววตาสับสน “ทางออกอยู่…เดินไปในส่วนลึกของช่องทางเดินเส้นนี้…จากนั้นก็เลี้ยวซ้าย แล้วก็…”
ทั้งสามรีบจำไว้ทันที เห็นชัดว่า ทางออกที่เขาพูดถึงไม่ใช่ทางเดียวกับอวี๋ซือหราน ระยะทางก็ไกลกว่าหน่อย ทว่าพอนึกถึงเด็กผู้หญิงคนนั้น พวกเขาก็ไม่มีใครอยากใช้ทางออกที่อยู่ค่อนข้างใกล้นั้นอีก ใครจะไปรู้ว่ามีอะไรรอพวกเขาอยู่ที่นั่น…
“จำได้แล้ว” อวี่เหวินซวนท่องจำเงียบๆ หนึ่งรอบ แล้วพูดขึ้น
ถังฮ่าวกลับยังคงจ้องหลิงม่อ เนื้อก้อนสุดท้ายบนใบหน้าเขาร่วงลงไป แขนขาทั้งสี่ข้างเริ่มบิดเบี้ยวไม่อยู่สุข “หลิงม่อ…ความจริงแล้วในใจฉัน…ก็อยากให้พวกแกตายอยู่ที่นี่…แต่ว่า…” เขาพูดอย่างยากลำบาก “แกพูดถูก ฉันไม่อยากใช้ชีวิตแบบนี้ไปเรื่อยๆ…”
“คำถามสุดท้าย เด็กผู้หญิงคนนั้น เป็นใครกันแน่?” หลิงม่อถามอีกครั้ง
“เธอหรอ? ฉันบอกแล้วนี่ ฉันไม่รู้จริงๆ แต่สิ่งที่ฉันบอกพวกแกได้คือ เธอเป็นคนในทีมของพวกฉัน…แต่ว่าเป็นใคร ฉันก็ไม่…หลิงม่อ! รีบลงมือเถอะ!” เขาพลันตะโกนเสียงดังลั่น
ขณะเดียวกัน ร่างกายของเขาพลันกระโจนเข้ามา เนื้อที่เพิ่งงอกขึ้นมาใหม่พองขึ้น ปากอ้ากว้าง “หวังว่าพวกแกจะตายอยู่ที่นี่เหมือนกัน! ไปตายซะเถอะ! ไปตายซะ! ฉันจะรอพวกแกอยู่ข้างล่าง!”
“ฉึกๆๆ!”
ยังไม่ทันสิ้นเสียงตวาดคำราม สีหน้าของถังฮ่าวพลันค้างเติ่ง มือที่เหมือนกรงเล็บแหลมคมของเขาหยุดอยู่ห่างจากหลิงม่อไม่ถึงสิบเซนติเมตร เนื้อกายสดใหม่สีชมพูที่งอกขึ้นมายังคงดิ้นขยุกขยัก…หนึ่งวินาทีต่อมา ใบหน้าที่เนื้อยังงอกออกมาไม่สมบูรณ์พลันมีเลือดทะลักออกมาปริมาณมาก ไม่นาน เขาก็ล้มพุ่งไปข้างหน้า
หลิงม่อเบี่ยงตัวหลบ มองดูถังฮ่าวล้มลงไป กระแทกกับพื้นโคลนดัง “ผลุบ”
เขาตายแล้ว
แต่เสียงสะท้อนจากคำว่า “ไปตายซะ” ของเขายังคงอยู่
เพื่อร้องขอความตาย กลับจำเป็นต้องชี้ทางออกให้ศัตรู…ก่อนจะตาย ในใจถังฮ่าวคงอัดอั้นไปด้วยความอยุติธรรม แต่มีแค่หลิงม่อที่รู้ ตอนที่เขาพุ่งตัวเข้าใส่หลิงม่อ สายตาของเขาเหมือนคนที่ใกล้หลุดพ้นความทุกข์เต็มที ขณะเดียวกันก็ยังสะท้อนให้เห็นความโกรธแค้นที่อยากจะฉีกเนื้อหนังหลิงม่อให้เป็นชิ้นๆ…ทว่าบางทีแม้แต่ตัวเขาก็อาจไม่รู้ ว่าคนที่เขาควรเกลียดคือหลิงม่อ หรือว่าเด็กผู้หญิงที่ไม่รู้ว่าเป็นใครคนนั้นกันแน่…
แน่นอนว่าหลิงม่อคงไม่บังคับให้ตัวเองคิดในมุมของศัตรู ไม่นานเขาก็ได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว หันไปบอกว่า “พวกเราไปกันเถอะ!”
ตอนนี้ไม่มีความจำเป็นต้องผิดไฟฉายอีกแล้ว มีถังฮ่าวอยู่ สัตว์ประหลาดพวกนั้นจะไปรวมตัวกันที่เขา…
“เด็กผู้หญิงคนนั้นจะคิดถึงตรงนี้ไว้หรือเปล่า?” สวี่ซูหานถาม
ตอนนี้เธอฟังจนรู้สึกกลัวไปหมดแล้ว…จากบทสนทนาของถังฮ่าวกับหลิงม่อก็พอฟังออกว่า แผนการทั้งหมดของพวกถังฮ่าว การเข้ามาของพวกหลิงม่อ ความจริงทั้งหมดล้วนเป็นฝีมือของเด็กผู้หญิงคนนั้น…ถ้าอย่างนั้นหากสืบย้อนไป ไม่แน่ว่าที่คนพวกนี้ได้พลังไป ก็อาจเป็นความจงใจของเด็กผู้หญิงคนนั้นก็ได้
สัตว์ประหลาดอย่างนี้…น่ากลัวเกินไปแล้ว…
“ไม่รู้เหมือนกัน…แต่ยังไงก็ปลอดภัยกว่าเดินอีกทางหนึ่ง” หลิงม่อพาพวกเขาวิ่งไปข้างหน้า พลางบอก “แต่ว่า…จากคำพูดของถังฮ่าวพวกเธอฟังอะไรออกไหม? ฉันเดาอะไรบางอย่างได้ แต่ก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่…”
“นายบอกมาเถอะ นายรู้เรื่องมากกว่าพวกฉัน บอกมาแล้วพวกเราค่อยร่วมกันตัดสินอีกที” อวี่เหวินซวนบอก
“งั้นก็ได้…ถังฮ่าวบางอย่างกับฉัน ข้อแรก ที่นี่คือที่ไหน? เดิมทีฉันนึกว่าคำตอบของคำถามนี้เห็นๆ กันอยู่แล้ว แต่พอคิดดูดีๆ ในเมื่อถังฮ่าวถามอย่างนี้ แสดงว่าคำตอบไม่ได้ง่ายขนาดนั้นแน่ ท่อน้ำทิ้งหรอ? หรือรังสัตว์ประหลาด? ฉันคิดว่าผิดหมด แต่ฉันก็ยังคิดไม่ออกว่ามันคืออะไรแน่…แต่ฉันมีความรู้สึกอย่างหนึ่ง คำตอบนี้ จะต้องเกี่ยวข้องกับแผนการของพวกเขาแน่นอน”
“คำถามที่สองคือ ทำไมพวกเขาถึงอยู่รอดที่นี่มาได้นานขนาดนี้ ฉันคิดว่าคำตอบนี้ พวกนายก็น่าจะรู้แก่ใจใช่ไหม?” หลิงม่อถาม
สวี่ซูหานพยักหน้า “เป็นเพราะเด็กผู้หญิงคนนั้น เธอแฝงตัวอยู่ในหมู่พวกเขา แต่กลับไม่ลงมือทำอะไร ในเมื่อเธอไม่ได้อยากให้คนพวกนี้ตาย พวกเขาย่อมอยู่รอดต่อไปได้เรื่อยๆ”
“ใช่ แต่ในคำตอบนี้ ความจริงแล้วยังมีอีกหนึ่งคำตอบซ่อนอยู่ เขาถึงได้บอกให้ฉันคิดดูดีๆ เด็กผู้หญิงคนนั้นอยากให้พวกเยารอด พวกเขาก็สามารถรอด…มันอาจฟังดูเหมือนไม่มีอะไร แต่พวกเธอลองคิดดูดีๆ สัตว์ประหลาดส่วนใหญ่ที่นี่ไม่แบงาแยกมิตรศัตรู แต่มีเพียงตัวเดียว ที่สัตว์ประหลาดทุกตัวไม่กล้าหาเรื่องด้วย…แม้แต่ซอมบี้พวกนั้น ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมันแน่นอน…” น้ำเสียงของหลิงม่อพลันเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดทันใด
อวี๋ซือหรานเบิกตากว้าง ร้องออกมาอย่างตกใจ “อ๊ะ! ร่างแม่!”
“ร่างแม่?!” อีกสองคนที่เหลือต่างตื่นตะลึงไปพร้อมกัน
“ถูกต้องแล้ว ก็คือร่างแม่!” ร่างแม่ตัวหนึ่งแฝงตัวอยู่ท่ามกลางมนุษย์ ตอนนี้ก็ลงมือทำเรื่องพวกนี้ด้วยตัวเองอีก คิดว่าเธอจะทำอะไรล่ะ? ฉันว่าเธอคงกำลังเรียนรู้รูปแบบพฤติกรรมของมนุษย์อย่างพวกเราอยู่แน่ๆ ขณะเดียวกันเธอใช้ผู้รอดชีวิตพวกนั้นเป็นหนูทดลอง และดัดแปลงพวกเขาให้กลายเป็นหุ่นเชิดของตัวเองทีละขั้นๆ การทดลองนี้ของเธอ ความจริงเริ่มขึ้นพร้อมกันทั้งในหมู่มนุษย์และฝูงสัตว์ประหลาด ดูจากตอนนี้ ผลลัพธ์จากฝั่งมนุษย์น่าจะทำให้เธอพอใจมากกว่า”
“คำถามสุดท้าย เขาถามฉันว่า รู้ไหมว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้เพื่ออะไร…เดิมทีฉันนึกไม่ออก แต่หลังจากได้ยินคำพูดหนึ่งของถังฮ่าว ฉันก็เข้าใจแล้ว ดูจากที่เธอทิ้งถังฮ่าวไว้อย่างไม่ลังเลก็รู้แล้ว ว่าเธอกำลังเลือกหนูทดลองตัวใหม่ ไม่แน่นว่า เธออาจกำลังเริ่มขั้นตอนการทดลองครั้งใหม่ไปพร้อมกันด้วยก็ได้…ส่วนจุดประสงค์…บางที เธออาจจะอยากปะปนอยู่กับกลุ่มคนจริงๆ และ เธอไม่ได้อยากปะปนเข้าไปคนเดียว แต่เธอต้องการพา…กองทัพสัตว์ประหลาดที่ถูกควบคุมโดยเธออย่างสิ้นเชิง แต่รูปร่างภายนอกไม่ต่างจากมนุษย์ทั่วไปเข้าไปด้วย
พอหลิงม่อพูดถึงประโยคสุดท้าย นอกจากอวี๋ซือหราน อีกสองคนที่เหลือต่างพากันสูดหายใจอย่างขนลุก
“แต่เธอเคยพูดไม่ใช่หรอ ว่าถังฮ่าวเป็นผลงานสมบูรณ์…”ในขณะที่หวาดกลัว สวี่ซูหานฉุกคิดถึงพิรุธบางอย่าง
“อาจใช่ก็ได้…แต่อย่าลืมสิ ก่อนหน้านี้ถังฮ่าวได้รับบาดเจ็บหนักมาก บางทีนั่นอาจเป็นข้อบกพร่องที่ทำให้เขาตาย แต่ก็เป็นไปได้ว่า เธออาจหมายความว่าการแปลงร่างของถังฮ่าวทำให้เธอหาวิธีที่ถูกต้องเจอก็ได้…” หลิงม่อบอก
หลังพูดจบ ทุกคนต่างรู้สึกขวัญหนีดีฝ่อ สิ่งที่ร่างแม่ตัวอื่นทำ คือการทำให้ซอมบี้เปลี่ยนแปลงไปเท่านั้น แต่ร่างแม่ตัวนี้ กลับตั้งเป้าหมายไว้ที่มนุษย์…ที่น่ากลัวที่สุด คือไม่น่าเชื่อว่าเธอจะแฝงตัวอยู่ท่ามกลางมนุษย์ได้นานขนาดนั้น และกลับไม่มีใครจับได้เลย…สิ่งมีชีวิตอย่างนี้ทันทีที่เข้าไปอยู่ในหมูคน ก็แทบไม่ต่างจากหายนะเลย ดีที่ก่อนที่เธอจะได้ผลลัพธ์จากการทดลอง เธอยังไม่ได้ทำให้มันเกิดหายนะ แต่ว่าตอนนี้…
“ใช่แล้ว นายว่าพวกมู่เฉิน…” อวี่เหวินซวนพลันนึกถึงเรื่องสำคัญได้อีกเรื่อง “พวกเขาจะ…แล้วยังมีเฮยซือที่หายตัวไปในนี้อีก…”
“พูดถึงเรื่องนี้…” หลิงม่อเหลือบมองอวี๋ซือหราน ในใจคิดว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ลงมือทำร้ายใคร แต่กลับล่ออวี๋ซือหรานลงมา เพื่ออะไรกัน? จะว่าไป ตอนนี้ซอมบี้สาวที่อยู่บนดินเหลืออยู่แค่ตัวเดียวแล้ว เย่เลี่ยน…
“คิดจะแยกคนที่เป็นตัวปัญหา…กับคนที่เป็นมนุษย์ออกจากกันงั้นหรอ?” หลิงม่อพลันนึกถึงความเป็นไปได้หนึ่งขึ้นมาทันที
ถ้าอย่างนั้น…
“เย่เลี่ยน!”
หลิงม่อหัวใจบีบรัด พลันเร่งเร้า “เร็วเข้า!”
“แต่ว่าข้างหลัง…”
——————————————–