จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – บทที่ 22 เพื่อนสนิทของเซี่ยหยู่เวย

บทที่ 22 เพื่อนสนิทของเซี่ยหยู่เวย

บทที่ 22 เพื่อนสนิทของเซี่ยหยู่เวย

หลินหยุนกลับมาถึงบ้าน โจวเฟินก็รีบถามเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง: “เสียวหยุน เมื่อวานเวยเวยบอกว่านายไม่กลับบ้านแล้ว เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

พอมองออก ว่าโจวเฟินไม่ได้อยากจะตรวจสอบอะไร แต่มันคือความเป็นห่วงจริงๆ

“น้าเฟินวางใจเถอะครับ ผมแค่ไปบ้านเพื่อน ไม่มีอะไรหรอกครับ” หลินหยุนพูด

เซี่ยเจี้ยนโก๋เดินออกมาจากในห้อง แล้วพูดอย่างไม่สบอารมณ์: “นายเป็นผู้ชายที่แต่งงานแล้ว จะทำเหมือนตอนโสดไม่ได้ จากนี้พวกเพื่อนไม่ดีพวกนั้น ก็พยายามเจอให้น้อยๆ ลงหน่อย!”

หลินหยุนไม่แม้แต่จะมองเซี่ยเจี้ยนโก๋ แล้วพูดกับโจวเฟิน: “น้าเฟิน ผมล้างหน้าแปรงฟันเสร็จแล้วจะเข้าคลินิกนะครับ”

“เสียวหยุน วันนี้นายไม่ต้องเข้าคลินิกหรอก ฉันกับพ่อนายไปก็พอ เวยเวยต้องไปงานวันเกิดของเพื่อนสนิท นายไปเป็นเพื่อนเธอเถอะ!” โจวเฟินพูด

อยู่ๆ ประตูห้องนอนก็ถูกเปิดออก เซี่ยหยู่เวยที่ผมเผ้ายุ่งเล็กน้อยก็ชะโงกหน้าออกมาพูด: “หนูไม่ต้องการให้เขาไปเป็นเพื่อน หนูไปเองได้ค่ะ”

โจวเฟินพูดขึ้น: “ไม่ได้ เมื่อกี้พ่อหนูเพิ่งจะว่ากล่าวเสียวหยุนไป ตอนนี้หนูก็เป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว เที่ยวเล่นอยู่ด้านนอกคนเดียว จะให้พวกเราวางใจได้ยังไง?”

“ถ้าไม่ให้เสียวหยุนไปด้วย งั้นก็ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้นแหละ!” โจวเฟินทำท่าทีเด็ดขาด

เซี่ยหยู่เวยหมดหนทาง ทำได้แค่ยอมๆ ไป เธอปิดประตูห้อง ดังปัง

หลินหยุนอยากจะบอกปัด แต่โจวเฟินก็พูดขึ้นอีก: “เสียวหยุน นายดูเวยเวยหน่อยนะ ห้ามให้เวยเวยดื่มเหล้าเด็ดขาด!”

เมื่อเห็นสายตาเป็นห่วงของโจวเฟิน คำพูดปฏิเสธของหลินหยุนพวกนั้น ก็พูดออกมาไม่ได้แล้ว

“น้าเฟินวางใจเถอะครับ ผมจะดูแลหยู่เวยให้ปลอดภัยเอง!”

ลูกห่างจากอ้อมแขนแม่เป็นห่วงแทบขาดใจ แม่ออกห่างจากลูกลูกกลับไม่กังวลเลย ชาติก่อนหลินหยุนไม่มีโอกาสเข้าใจว่าความรักของผู้เป็นแม่ยิ่งใหญ่ขนาดไหน แต่ในชาตินี้หลินหยุนนั้นรักษามันไว้อย่างหาที่เปรียบไม่ได้

เซี่ยหยู่เวยแต่งตัวแต่งหน้าไปหนึ่งชั่วโมงเต็มๆ

เซี่ยหยู่เวยที่เบื้องหน้าหลินหยุนนั้น สวมชุดเดรสลายทางสีขาวเปิดไหล่เลยเข่า เผยให้เห็นกระดูกไหปลาร้าที่สวยงาม

ผมเก็บรวบไว้อยู่ ที่ข้อเท้าเธอสวมเครื่องประดับที่ทำจากคริสทัล และสวมรองเท้าส้นสูง

เซี่ยหยู่เวยที่ดูเป็นผู้ใหญ่อยู่แล้ว การแต่งตัวแบบนี้ทำให้เธอยิ่งดูสง่าขึ้นไปอีก เธอยืนอยู่ด้านหน้าหลินหยุน ความสูงพอๆ กับหลินหยุน

แต่ว่า เซี่ยหยู่เวยมองหลินหยุนด้วยสายตารังเกียจอย่าหาที่เปรียบไม่ได้ มันทำให้หลินหยุนรู้สึกโกรธในใจอย่างยากที่จะระงับมันได้

ในเวลานั้น จู่ๆ หลินหยุนก็มีความอยากที่จะสยบผู้หญิงคนนี้ขึ้นมา!

เมื่อเห็นเซี่ยหยู่เวยแต่งตัวเรียบร้อย โจวเฟินก็พูดพลางหัวเราะ: “เสียวหยุน ภรรยาสวยขนาดนี้ นายวางใจให้ออกไปไหนมาไหนคนเดียวเหรอ?”

ขณะนั้น จู่ๆ โทรศัพท์ของเซี่ยหยู่เวยก็ดังขึ้น

เซี่ยหยู่เวยรับสายแล้วก็พูดคุยกันไม่กี่ประโยค จากนั้นเธอก็กดวางสายไป เธอพูด: “แม่ เสี่ยวซีกำลังขึ้นมา!”

โจวเฟินพูดอย่างร้อนรน: “มาเร็วจัง แม่เก็บกวาดโซฟาก่อนนะ!”

“แม่คะ ไม่ต้องหรอก เสี่ยวซีมารับหนูเฉยๆ ” เซี่ยหยู่เวยบอก

“อ๋อ งั้นก็แล้วไป พวกลูกเที่ยวกันระวังด้วยล่ะ อย่าเล่นกันจนดึกเกินไปนะ!” โจวเฟินเตือน

ไม่นาน เสียงกริ่งก็ดังขึ้น

“แม่ไปเปิดประตู” โจวเฟินเดินไปเปิดประตู

ร่างที่สวมของแบรนด์เนมทั้งตัว สะพายกระเป๋าหลุยส์ ไว้ผมสั้น เด็กผู้หญิงรูปร่างหน้าตาสะสวย ก็กระโดดเข้ามา

“สวัสดีค่ะน้าเฟิน หนูคิดถึงน้าจัง!” พูดจบ เด็กผู้หญิงคนนั้นก็โผเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของโจวเฟิน

“เสี่ยวซียิ่งโตยิ่งสวยนะเหนี่ย” โจวเฟินยิ้มไปเยินยอไป

หลังจากกอดทักทายโจวเฟินแล้ว หวางเสี่ยวซีก็หันไปทักทายเซี่ยเจี้ยนโก๋: “สวัสดีค่ะลุงเซี่ย!”

“ฮ่าๆ เสี่ยวซี หนูไม่ได้แวะมาตั้งนานเลย” เซี่ยเจี้ยนโก๋พูดพลางยิ้ม

“งั้นต่อไปหนูจะแวะมาฝากท้องทุกวันเลย!” หวางเสี่ยวซีพูดพลางหัวเราะ

“หยู่เวย อีหลิงกับเว่ยเทียนหมิงพวกเขารออยู่ข้างล่างนะ เธอเร็วหน่อยสิ!”

เมื่อได้ยินชื่อของเว่ยเทียนหมิง หลินหยุนก็รู้สึกถึงสายตาของเซี่ยหยู่เวยที่เป็นประกายอยู่ครู่

“ฉันเตรียมตัวเสร็จแล้ว ไปกัน!” เซี่ยหยู่เวยพูด

“งั้นก็ดีลุงเซี่ยน้าเฟิน พวกเราไปก่อนนะคะ!” หวางเสี่ยวซีโบกมือลาสองสามีภรรยาเซี่ยเจี้ยนโก๋

“เสียวหยุน พวกเธอระวังตัวด้วยนะ!” โจวเฟินเตือนขึ้นอีกครั้ง

“น้าเฟินวางใจเถอะครับ” หลินหยุนยิ้มบางๆ แล้วจากทั้งสองมา

ในลิฟต์ หวางเสี่ยวซีมองไปที่หลินหยุนด้วยสีหน้ารังเกียจ จากนั้นก็พูดถึงความไม่ยุติธรรมที่เซี่ยหยู่เวยได้รับ

“หยู่เวย เธอเพิ่งจะอายุเท่าไหร่เอง ทำไมต้องแต่งงานด้วยนะ? ถึงจะต้องแต่งงาน ก็น่าจะหาให้มันดีๆ หน่อย!”

เซี่ยหยู่เวยเงียบไม่พูดอะไร เหลือบมองไปที่หลินหยุน ความรังเกียจในสายตาเธอมันยิ่งมากเข้าไปทุกที

ตอนนี้เธอก็เสียดาย ตอนนั้นทำไมถึงได้ตอบรับปากพ่อกับแม่ไปแบบไม่คิดนะ เลยต้องมาแต่งงานกับคนไม่ได้เรื่องแบบนี้

หลินหยุนมองหวางเสี่ยวซีอย่างนิ่งๆ ผู้หญิงคนนี้เป็นเพื่อนสนิทของเซี่ยหยู่เวย เป็นคนที่หัวสูงมากๆ เมื่อชาติที่แล้วดูถูกเขาสารพัด เหมือนว่าจะคบกับลูกเศรษฐี จากนั้นก็ถูกลูกเศรษฐีคนนั้นเขี่ยทิ้ง

ออกมาจากลิฟต์ ด้านหน้าประตูตึกมีผู้ชายสามคนและผู้หญิงอีกหนึ่งคนรออยู่

ผู้ชายสามคนนั้นหนึ่งในนั้นคือเว่ยเทียนหมิง ส่วนอีกสองคน คนนึงชื่อหลี่เหยน อีกคนชื่อจ้าวกาง เป็นลูกเศรษฐีเหมือนกัน และก็เป็นลูกน้องของเว่ยเทียนหมิง

ส่วนผู้หญิงคนนั้น หลินหยุนจำได้แม่น

เธอชื่ออีหลิง เป็นเพื่อนนักเรียนของหลินหยุน เรียนที่สถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์หลินโจวเหมือนกัน แต่ว่าหลินหยุนอยู่ห้องเก้า เธออยู่ห้องสาม

อีหลิงสวมชุดเดรสยาวสีเขียวมรกต ผมสีดำขลับปล่อยลงประบ่า ใบหน้าดูเย็นชาไร้ที่ติ

อีหลิงสามารถเป็นดาวของพวกหนุ่มหล่อสาวสวยของสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์ได้เลย ไม่ต้องพูดก็รู้ ว่าความงามของเธอนั้นไม่เหมือนใคร

“หยู่เวย!” อีหลิงยิ้มอ่อนๆ ทักทายเซี่ยหยู่เวย

“อีหลิง!” เซี่ยหยู่เวยก็ยิ้มแล้วเดินเข้าไป จับมืออีหลิงอย่างเป็นกันเอง

เซี่ยหยู่เวยดูเป็นผู้ใหญ่และฉลาด อีหลิงก็ดูเย็นชาไร้ที่ติ ทั้งสองงดงามเหมือนกัน แต่สวยกันคนละแบบ พอมายืนด้วยกันก็ราวกับภาพทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดทั้งสองแห่งมาบรรจบกัน

“เอาล่ะ คนครบแล้ว พวกเราไปกันเถอะ!” หวางเสี่ยวซีเดินมาจากด้านหลัง มือข้างนึงคล้องแขนเซี่ยหยู่เวย อีกข้างนึงคล้องแขนอีหลิง

ปล่อยให้หลี่เหยนหัวเกรียน มองหลินหยุนอย่างดูถูก และพูดขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้: “หยู่เวย เธอคงไม่พาไอ้แมงดาหลินหยุนไปด้วยหรอกนะ?”

หลี่เหยนพูดแบบนั้น ทำให้ทุกคนมองไปทางหลินหยุนที่ยืนอยู่ข้างลิฟต์

จ้าวกางกับหวางเสี่ยวซีทำหน้ารังเกียจ อีหลิงมองหลินหยุน สีหน้าเย็นชา

เว่ยเทียนหมิงก็ขี้เกียจจะมองหลินหยุน จึงทำเป็นมองไม่เห็น

เซี่ยหยู่เวยพูดอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์: “แม่ฉันบังคับให้ฉันพามาด้วย ถ้าฉันไม่ตกลงก็ไม่ให้ฉันออกมา”

ขณะที่เซี่ยหยู่เวยพูด ดวงตาก็จ้องไปทางเว่ยเทียนหมิง ราวกับกำลังอธิบายให้เขาฟัง

ถ้าหากไม่เพราะกลัวว่าจะทำให้โจวเฟินเสียใจ หลินหยุนก็อยากจะตบเซี่ยหยู่เวยผู้หญิงคนนี้ให้ตายคามือจริงๆ

“พวกเราไปได้หรือยัง?” อีหลิงมองไปทางหวางเสี่ยวซีพลางถาม: “เสี่ยวซี เธอเตรียมโปรแกรมอะไรไว้ ถึงเรียกพวกเราออกมาตั้งแต่เช้า?”

เมื่อพูดถึงเรื่องเล่น หวางเสี่ยวซีก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที: “ไปกับฉัน วันนี้พวกเราไปเที่ยวกันให้สนุกสุดเหวี่ยงไปเลย!”

“ที่แรก ห้างสรรพสินค้า!”

“ไปกัน!”

ผู้หญิงทั้งสามเดินนำหน้า เว่ยเทียนหมิงกับพวกสามคนเดินตามหลังทำหน้าที่อย่างกับบอดี้การ์ด ส่วนหลินหยุนเดินรั้งท้าย

ลานจอดรถในหมู่บ้านมีรถหรูจอดอยู่สามคัน

จ้าวกางขับรถสปอร์ตเปิดประทุน มีที่นังแค่สองที่

จ้าวกางคือแฟนของหวางเสี่ยวซี ทั้งสองจู๋จี๋กัน ก่อนจะเข้าไปนั่งในรถสปอร์ต

ส่วนรถของเว่ยเทียนหมิงเมื่อเอาไปเทียบก็ดูด้อยลงไปนิด รถออดี้A6สีดำ

หลี่เหยนขับรถBMWสีขาว

หวางเสี่ยวซีชะโงกหน้าออกมาจากกระจกรถ แล้วตะโกน: “หยู่เวย เธอนั่งรถของพี่เทียนหมิงนะ อีหลิง เธอไปกับหลี่เหยนนะ”

“หลี่เหยน ให้โอกาสนายทำแต้มนะ!” หวางเสี่ยวซีขยิบตาให้หลี่เหยน

หวางเสี่ยวซีกับจ้าวกางหนึ่งคู่ เว่ยเทียนหมิงกับเซี่ยหยู่เวยก็กุ๊กกิ๊กกัน ส่วนหลี่เหยนก็ดีกับอีหลิงมาโดยตลอด

ที่หวางเสี่ยวซีจัดคู่ ดูแล้วเหมือนจะเพอร์เฟค

แต่ ตอนนี้ดันมีส่วนเกินหลินหยุน มาเป็นก้างขวางคอชิ้นใหญ่

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

Status: Ongoing

มหากษัตริย์ชางฉองหลินหยุนที่ปราบปรามสามโลกไถ่บาปไม่สำเร็จ เกิดใหม่กลับสู่โลกมนุษย์เป็นเขยแต่งเข้าบ้าน ชาติปางก่อน ได้เมียที่สวยเซ็กซี่ดูเป็นผู้ใหญ่กลับครอบครองไม่ได้ ชาตินี้ หลินหยุนจะทำยังไง……ชาติก่อน เขาเป็นคนไร้ความสามารถที่ใครๆต่างดูถูก ชาตินี้ เขาเป็นหมอเทพหลินในวงการแพทย์ ตาทิพย์หลินในวงการของโบราณ อาจารย์หลินในวงการฮวงจุ้ย และหลินชางฉองในวงการบู๊ เมื่อเขากลับมาสู่เทวโลกอีกครั้ง พบว่าเทวโลกมีการเปลี่ยนแปลง หลายคนที่กำลังไถ่บาปรวมตัวกัน พวกเขาจะทำได้ดั่งใจหวังหรือไม่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท