หวางหยู่หันวางไมโครโฟนลง พูดปลอบใจว่า “ไม่ต้องประหม่า ทำตามฉัน กระทำการตามโอกาสอันสมควร! ”
อีหลิงไม่สงสัยอื่นใดอีก พยักหน้า “ตกลง! ”
กู้ซิวหรั่นที่อยู่ด้านข้างของอีหลิงมองไปที่หวางหยู่หัน ทั้งสองคนแอบสบตาส่งสัญญาณลับ ๆ อะไรกัน เหมือนกับว่าจะมีแผนการอะไรบางอย่าง
“พิธีกร ตอนนี้เริ่มต้นกันได้แล้ว! ” พวกนักเรียนด้านล่างเวทีอดใจรอต่อไปไม่ไหวแล้ว
ครั้งนี้หวางหยู่หันก็ไม่ได้อ้อมค้อม ถือไมโครโฟนแล้วพูดขึ้นว่า “ตกลง ตอนนี้ฉันจะพาอีหลิงกับคุณชายกู้ลงมาจากเวที ทุกคนปรึกษาตกลงกันให้เรียบร้อย สักครู่จะถามคำถามอะไรกับสองคนนี้”
“ฮ่าฮ่า ปรึกษาคุยกันเสร็จตั้งนานแล้ว รีบให้ดาวประจำมหาวิทยาลัยลงมาจากเวทีเถอะ! ” นักเรียนชายที่กล้าบ้าบิ่น หัวเราะฮ่าฮ่าแล้วพูดตะโกนขึ้น
หวางหยู่หันหันกลับไปมองที่อีหลิง พูดขึ้นว่า “ตามฉันลงมา”
เมื่อพูดจบ หวางหยู่หันก็ค่อย ๆ เดินลงจากเวที เข้าสู่ใจกลางของกลุ่มเพื่อนนักเรียน
อีหลิงรวบกระโปรงสีขาวขึ้น แล้วก็เดินตามหลังหวางหยู่หัน
แต่ว่า เนื่องจากชุดกระโปรงเต้นรำของอีหลิงค่อนข้างยาว อีหลิงไม่ทันระวังจึงสะดุดเล็กน้อย เกือบจะล้มลง
กู้ซิวหรั่นรีบเข้าไปประคอง พูดขึ้นว่า “ไม่เป็นไรใช่ไหม? ”
อีหลิงส่ายศีรษะ “ไม่เป็นอะไร”
กู้ซิวหรั่นพูดเตือนที่ข้างหูของอีหลิง “ระวังที่เท้าด้วย”
อีหลิงเกิดรู้สึกดีต่อกู้ซิวหรั่น แน่นอนเพราะว่าเขาเป็นหนุ่มหล่อที่สุดและเป็นถึงเดือนประจำมหาวิทยาลัย แต่ว่า ความรู้สึกที่อีหลิงมีต่อเขานั้นจำกัดอยู่แค่ความเป็นเพื่อนทั่วไป
“ขอบคุณ! ” อีหลิงพูดพลางยิ้มให้กับกู้ซิวหรั่น
ด้านล่างเวที เพื่อนนักเรียนเห็นว่าอีหลิงเกือบจะล้มคว่ำ ก็เจ็บปวดใจขึ้นโดยพลัน
แต่ เห็นว่าอีหลิงถูกกู้ซิวหรั่นประคองเอาไว้ได้ทันท่วงที จิตใจที่หวั่นวิตกของทุกคนนั้น ก็ได้เบาใจลง
ทว่า เห็นกู้ซิวหรั่นพูดกระซิบที่ข้างหูของอีหลิง มืออีกข้างหนึ่งก็ยังจับที่แขนของอีหลิงไปยอมปล่อย เวลานี้ทุกคนต่างเกิดความหึงหวงขึ้นทันที
“อะไรกัน นางฟ้าไม่เป็นอะไรแล้ว กู้ซิวหรั่นยังไม่ยอมปล่อยมืออีก เห็นได้ชัดว่าไอ้คนนี้มันต้องการที่จะหลอกแต๊ะอั๋งนางฟ้า! ”
“เฮ่ย กู้ซิวหรั่น ปล่อยมืออันสกปรกของนายซะ ปล่อยมือออกมาจากนางฟ้าของข้า! ” นักเรียนชายที่มีอารมณ์ฮึกเหิม ได้เริ่มด่าทอกู้ซิวหรั่นแล้ว
จางซือจู่ก็มีสภาพอารมณ์ที่เจ็บปวดรวดร้าว กำหมัดทั้งสองข้างแน่นขนัดเข้าด้วยกัน กัดฟันแน่น เหมือนกับว่าได้พบเจอกับคู่แค้นที่ทำร้ายคนในครอบครัวของตนอย่างใดอย่างนั้น
“ไอ้คนแซ่กู้ ปล่อยมือของนายออก! ปล่อยมือออกเดี๋ยวนี้……”
“มันสมควรตาย ไอ้คนแซ่กู้นี้มันจงใจชัด ๆ เขาคิดฉวยโอกาสแตะเนื้อต้องตัวนางฟ้าของข้า! ไม่แน่ว่าเมื่อครู่ที่นางฟ้าจะล้มลงก็อาจเป็นเพราะเขาจงใจกลั่นแกล้ง! ”
หยางเทียนโย่วที่มักจะขัดจางซือจู่โดยตลอด ยากมากที่ครั้งนี้จะมีความคิดเห็นเดียวกันกับจางซือจู่ ซึ่งเขาเห็นด้วยกับคำพูดของจางซือจู่ทั้งหมด
“ใช่เลย ข้าก็มองออกแล้ว ไอ้คนแซ่กู้นี้มันจงใจ ต้องการฉวยโอกาสทำดีกับนางฟ้าของฟ้า ฮึ นางฟ้าของข้าทั้งเก่งและฉลาด จะไปติดกับโดนเขาหลอกได้อย่างไรกัน! ”
หลินหยุนแสดงสีหน้าจำยอม เขามองออกว่า ที่อีหลิงล้มนั้นไม่เกี่ยวข้องอะไรกับกู้ซิวหรั่นเลยแม้แต่น้อย ไอ้หมอกับสิบแปดมงกุฎสองคนนี้มันคิดของมันได้อย่างไรกัน
หวางหยู่หันเดินพลาง และก็ถือไมโครโฟนถามไปพลางว่า “ตอนนี้ทุกคนสามารถถามคำถาม อีหลิงได้หนึ่งข้อ จำไว้นะ ถามได้เพียงข้อเดียวเท่านั้น? ทุกคนจะต้องฉกฉวยโอกาสเอาไว้ และ อีหลิงก็จะต้องตอบคำถามด้วย ซึ่งจะต้องตอบตามความเป็นจริง”
“ว้าว จริงเหรอเนี่ยะ? ฉัน ฉันขอถาม! ” นักเรียนชายเกินครึ่งต่างลุกขึ้นยืน ชูมือเพื่อต้องการขอไมโครโฟนจากหวางหยู่หัน
เห็นสภาพการณ์ที่ดุเดือด หวางหยู่หันรีบพูดขึ้นว่า “โอ้โห ไม่ได้ไม่ได้ คนมากเกินไปแล้ว แบบนี้แล้วกัน พวกนายเลือกตัวแทนออกมาหนึ่งคน! ”
“เลือกตัวแทน? จะเลือกอย่างไรดี! ”
แบบนี้มันจะเลือกได้อย่างไรกัน ทุกคนต่างก็ต้องการเข้าใกล้พูดคุยกับนางฟ้า ใครก็ไม่ยอมให้ใคร คัดเลือกทั้งวันก็คงคัดเลือกไม่ได้
หวางหยู่หันแกล้งทำเป็นว่ามึนงงแล้วพูดว่า “ในเมื่อทุกคนคัดเลือกตัวแทนออกมาไม่ได้ งั้นเอาอย่างนี้แล้วกัน ฉันจะสุ่มเลือกออกมาหนึ่งคน เพื่อเป็นตัวแทน”
เอ่อ เหมือนว่าคงจะทำได้เพียงเท่านี้! แต่ไม่ทราบว่าใครกันที่จะกลายเป็นผู้โชคดีคนนั้น!
อีหลิงไม่ทราบว่าหวางหยู่หันตกลงจะมาไม้ไหนกันแน่ ทำได้เพียงเดินตามหลังเธอไปอย่างระมัดระวัง
กู้ซิวหรั่นก็เดินตามติดอยู่ด้านหลังของอีหลิง ด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่จึงสามารถปกป้องครอบคลุมรูปร่างอันบอบบางกะทัดรัดของอีหลิงเอาไว้ เหมือนกับว่าเป็นกำบังหลบแดดหลบฝนให้กับอีหลิง
พวกนักเรียนหญิงเห็นสภาพดังนี้ ต่างก็ยิ่งจะอิจฉาริษยาไปกันใหญ่
“ว้าว คุณชายกู้ไม่ต้องแสดงความอบอุ่นขนาดนั้นก็ได้! ”
หวางลู่หญิงสาวที่มีน้ำหนักตัวมากเกินหนึ่งร้อยกิโลกรัม และใบหน้าเต็มไปด้วยสิววัยรุ่นได้ลุกยืนขึ้นโดยพลัน และเปิดปากเปล่งตะโกนออกมาเสียงดัง “คุณชายกู้ ฉันต้องการจะกำเนิดลูกให้กับคุณ! ”
ฟูวว์!
เสียงที่ตะโกนออกไปนี้ดังราวกับกระสุนปืนใหญ่ระเบิด ทำให้อาหารและเครื่องดื่มที่อยู่ในปากของพวกนักเรียนชายต่างก็พรั่งพรูกันออกมา
กู้ซิวหรั่นมีสีหน้าท่าทางที่พะอืดพะอม ขาอ่อน เกือบจะล้มลงไป
อีหลิงเห็นเหตุการณ์นี้แล้ว ยิ้มและพูดขึ้นว่า “คุณชายกู้ คุณมีเสน่ห์เหลือหลายจริง ๆ! แม้แต่นักเรียนหญิงหวางลู่ที่ได้สมญานามว่าไม่ชอบไม่สนใจผู้ชายกลับยังชื่นชมหลงใหลในตัวคุณขนาดนี้”
กู้ซิวหรั่นได้เพียงยิ้มรับ สายตาจ้องมองไปที่ใบหน้าอันสวยงามหยาดเยิ้มของอีหลิง และพูดอย่างลึกซึ้งกินใจว่า “คุณน้องอีหลิงพูดล้อเล่นไปกันใหญ่แล้ว ในสายตาของฉัน มีเพียงคุณเท่านั้น! ”
อีหลิงตกตะลึง ไม่กล้าที่จะมองสบสายตาที่เร่าร้อนของกู้ซิวหรั่น จึงรีบเบี่ยงเบนสายตาไปยังที่อื่น
เธอคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่า ในสถานการณ์แบบนี้กู้ซิวหรั่นยังกล้า ที่จะพูดสารภาพความรักออกมา
พวกนักเรียนชายที่อยู่ด้านข้างได้ยินที่กู้ซิวหรั่นพูด อารมณ์ท่าทางก็ขุ่นเคืองขึ้นโดยพลัน
“แม่งดิ กู้ซิวหรั่นไอ้สารเลวผู้นี้ พูดเย้ายวนเก่งจริง ๆ กล้าถึงขนาดพูดในสิ่งที่น่าอับอายในทุกสถานที่ทุกเวลาแบบนี้! ”
“หวังแต่เพียงว่านางฟ้าของฉันจะต้องเบิกตาให้สว่างชัดแจ้ง อย่าหลงกลในคำพูดสำนวนอันไพเราะของกู้ซิวหรั่น”
ทางด้านหลินหยุน คำพูดของกู้วิวหรั่นนั้น ได้ยินไปถึงหูของจางซือจู่อย่างรวดเร็ว เขาคนนี้จึงเกิดอาการร้อนรนขึ้นทันที ตะโกนร้องเพื่อต้องการจะพุ่งเข้าไปหา โชคดีที่ถูกไอ้หินกับสิบแปดมงกุฎลากตัวไว้ได้ทัน
“ปล่อยข้า ข้าต้องการจะไปท้าดวลกับไอ้คนแซ่กู้! เขากล้าถึงขนาดพูดเย้ายวนนางฟ้าของข้าต่อหน้าข้าเลย ข้าจะไปจัดการเขาเดี๋ยวนี้! ”
หวางหยู่หันก็เดินต่อเข้าไปในฝูงชน ปากก็พูดขึ้นว่า “คัดเลือกใครดี? โชว์ตัวขอให้ฉันดูหน่อย! ”
เวลานี้ ความโกรธเคืองของทุกคนที่มีต้อกู้ซิวหรั่นเมื่อครู่นี้นั้นก็ได้สูญสิ้นไปในทันที
นักเรียนชายจำนวนมากต่างยืดคอ พับแขนเสื้อขึ้น ชูมือสองข้างขึ้นสูงและตะโกนว่า “ฉัน เลือกฉัน! เลือกฉันสิ! ”
จางซือจู่สงบเงียบลงในทันที แต่ นึกไม่ถึงว่าแวบเดียวเขาก็เหยียบขึ้นไปบนม้านั่ง ชูมือโบกมือสองข้างอย่างสุดกำลัง “ฉัน เลือกฉันสิ! น้องสาวหน้าอกโต เลือกฉันสิ! ”
แม่ง ไอ้คนนี้คงจะลืมไปแล้วว่าก่อนหน้านี้ตอนที่กำลังถ่ายทอดสด เป็นเพราะคำพูดที่ว่าน้องสาวหน้าอกโตคำนี้จึงถูกหวางหยู่หันสั่งสอนจนหุบปากไปนานหลายวัน
หวางหยู่หันกำลังกวาดสายตามองหาไปในกลุ่มฝูงชน เหมือนว่ากำลังหาใครอยู่
ครั้นเมื่อเห็นหลินหยุนที่อยู่ด้านข้างของจางซือจู่ หวางหยู่หันตาเป็นประกายขึ้นโดยพลัน ยิ้มแปลก ๆ แล้วหยิบไมโครโฟนพูดขึ้นว่า “โอ้โห คนมากมายขนาดนี้จะให้ฉันเลือกได้อย่างไรกัน? ฉันคิดว่าให้อีหลิงเป็นคนคัดเลือกด้วยตัวเองก็แล้วกัน! ”
พูดจบ หวางหยู่หันก็ส่งต่อไมโครโฟนไปให้กับอีหลิง
อีหลิงตื่นเต้นเล็กน้อย มองเห็นนักเรียนชายชูสองมือสูง แต่ละคนคล้ายกับเป็นหมาป่าดุร้ายหิวโหย จึงไม่ทราบจริง ๆ ว่าจะเลือกใครดี
กู้ซิวหรั่นที่อยู่ด้านหลังพูดขึ้นเบา ๆ ว่า “ถ้าหากไม่รู้ว่าจะเลือกใคร? งั้นก็สุ่มเลือกเอาสักคนก็ได้แล้ว”
“อืม” อีหลิงพยักหน้า เธอก็ไม่ต้องการจะถ่วงเวลาอีกต่อไป
อีหลิงเริ่มกวาดสายตามองไปท่ามกลางฝูงชน เขาจำได้ว่าหลินหยุนก็เป็นนักเรียนที่สถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์หลินโจว วันนี้เป็นวันเฉลิมฉลองมหาวิทยาลัยเขาก็น่าจะมาเข้าร่วมงาน!
แต่ว่า ที่จัดงานอลหม่านวุ่นวายขนาดนี้ อีหลิงเดินไปทางไหนก็มีนักเรียนชายจำนวนมากลุกยืนขึ้น บดบังวิถีการมองของเธอ เธอตามหาหลินหยุนไม่พบ