จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – บทที่ 249 บอดี้การ์ดที่เก่งกาจที่สุด

บทที่ 249 บอดี้การ์ดที่เก่งกาจที่สุด

เฉียนเจียเหามองไปที่หวางซูเฟิน พูดขึ้นด้วยสีหน้าหม่นหมองว่า: “ประธานกรรมการหวาง นี่คุณต้องการที่จะยุ่งเรื่องของฉันใช่ไหม? ”

หวางซูเฟินยิ้มและพูดขึ้นว่า: “ฉันรู้สึกว่าถูกชะตากับเด็กหนุ่มคนนี้ ดังนั้น ผู้บริหารเฉียนให้เกียรติเห็นแก่หน้าของฉันได้หรือไม่? ปล่อยพวกเขาไปเถอะ! ”

เฉียนเจียเหายิ้มและพูดว่า: “คุณบอกว่าปล่อยก็ปล่อยงั้นเหรอ แบบนั้นไม่ใช่ว่าเป็นการไม่ให้เกียรติฉันไปหน่อยหรอกเหรอ? ”

“แม้ว่าตอนนี้บริษัท ตงหวาง กรุ๊ปจะกำลังมาแรง แต่บริษัท QC entertainment ก็ไม่ใช่ว่าจะมารังแกได้ง่าย ๆ! ”

ฉันขอเตือนประธานกรรมการหวางว่าอย่ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย เพื่อหลีกเลี่ยงการทำลายความสมานฉันท์ระหว่างพวกเราทั้งสองตระกูล! ”

หวางซูเฟินยิ้มอย่างเย็นชาและพูดขึ้นว่า: “แล้วถ้าหากฉันต้องการจะยุ่งเกี่ยวด้วยล่ะ? ”

แววตาของเฉียนเจียเหาโหดเหี้ยมขึ้นมาทันที: “แล้วก็อย่ามาโทษกันว่าฉันไม่เกรงใจล่ะ! ”

ฉินหลันพาลูกน้องจำนวนหนึ่งมา เตรียมพร้อมรับมือทันที โดยจ้องมองไปที่เฉียนเจียเหาอย่างไม่ละสายตา

บรรยากาศค่อนข้างตึงเครียดซึ่งพร้อมลงมือในทุกสถานการณ์!

อาเหลียงเดินไปข้างหน้ากะทันหัน เอียงตัวลงไปที่ข้างหูของเฉียนเจียเหา และกระซิบพูดไปคำหนึ่ง

เฉียนเจียเหามีสีหน้าไม่ดีขึ้นทันที จ้องมองไปที่หวางซูเฟินด้วยความไม่ค่อยเต็มใจ

“ดูเหมือนว่าประธานกรรมการหวางตั้งใจที่จะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้จริง ๆ งั้นฉันก็ให้เกียรติเห็นแก่หน้าของคุณ”

เฉียนเจียเหามองไปที่หลินหยุนด้วยความหม่นหมอง: “ไอ้หนุ่มน้อย ครั้งนี้ถือว่านายโชคดี ครั้งหน้าอย่าให้ข้าพบเจอกับนายอีกก็แล้วกัน! ”

พูดจบ เฉียนเจียเหาก็หันหลังแล้วเดินจากไป

หวางซูเฟินเกิดความสงสัยขึ้นเล็กน้อย ชัดเจนว่าเฉียนเจียเหาได้เปลี่ยนความคิดอย่างกะทันหัน

หยางหยิงโค้งคำนับให้กับหวางซูเฟิน: “ขอบคุณประธานกรรมการหวางเป็นอย่างมากที่ช่วยแก้ไขสถานการณ์ได้ทันท่วงที! ”

“ไม่จำเป็นต้องเกรงใจกัน! ”

สายตาของหวางซูเฟินมองไปที่หลินหยุน จากนั้น ก็ไม่เคลื่อนสายตาไปไหนอีก

หลินหยุนก็มองไปที่หวางซูเฟิน โดยที่ไม่เคลื่อนสายตาไปไหน

ทั้งสองคนต่างจ้องมองสบตากันแบบนี้ เป็นเวลานานกว่าหนึ่งนาที

ฉินหลันกระซิบเตือนว่า: “ท่านประธานกรรมการ? ”

หวางซูเฟินจึงตกใจได้สติขึ้น มองไปที่หลินหยุนและพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “นายไม่เป็นอะไรใช่ไหม? ”

หลินหยุนควบคุมสภาพจิตใจที่ตื่นเต้นเอาไว้ พูดขึ้นว่า: “ฉันไม่เป็นอะไร ขอบคุณท่านมากที่ให้ความช่วยเหลือ! ”

“ไม่เป็นไร เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น! ”

พูดสนทนาไปได้ไม่กี่คำ สายตาของหวางซูเฟินก็สังเกตไปที่หลินหยุนอีกครั้ง

และแววตาก็ยิ่งนุ่มนวลยิ่งอ่อนโยนมากขึ้น

หลินหยุนรำพึงรำพันในใจ: “ไม่ใช่ว่าคุณแม่จะจำฉันขึ้นได้ในตอนนี้หรอกนะ? ”

“ประธานกรรมการหวาง ท่านทำไมถึงจ้องมองฉันแบบนี้” หลินหยุนลองสอบถามขึ้น

หวางซูเฟินยิ้มและพูดขึ้นว่า: “ขอโทษด้วย เมื่อเห็นนายครั้งแรก ก็เกิดความรู้สึกใกล้ชิดสนิทสนมขึ้นมาทันที! ”

“ลูกชายของฉันนั้นตอนนี้ก็คงมีอายุรุ่นราวเดียวกันกับนาย! ”

พูดจบ แววตาของหวางซูเฟินก็ดูเศร้าหมอง

หลินหยุนเกือบคิดที่จะเปิดเผยสถานะของตนเองแล้ว แต่ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา

ฉินหลันพูดปลอบใจว่า: “ประธานกรรมการ นี่ไม่ใช่คุณชายเล็ก! ”

หวางซูเฟินบังคับให้ตัวเองมีสติ: “”ขอโทษด้วย อายุมากแล้วจึงชอบคิดอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าไปเรื่อย!

“ใช่แล้ว พวกคุณล่วงเกินเฉียนเจียเหา จะต้องระวังตัวให้มากขึ้น! คนผู้นั้นจิตใจคับแคบจะต้องแก้แค้นกลับอย่างแน่นอน ฉันคาดเดาว่าเขาไม่มีทางหยุดเพียงเท่านี้แน่” หวางซูเฟินมองไปที่หยาง หยิงแล้วพูดเตือนขึ้น

หยางหยิงพยักหน้า พูดขึ้นด้วยท่าทางที่ซาบซึ้งใจ: “ฉันรับทราบแล้ว ฉันจะรีบเรียกให้บอดี้การ์ดมาเดี๋ยวนี้! ”

“อืม! ” หวางซูเฟินพยักหน้า และก็มองไปที่หลินหยุน พูดกำชับว่า: “โดยเฉพาะนาย จะต้องระวังตัวให้มาก! ”

หลินหยุนพยักหน้าและพูดว่า: “ขอบคุณมากที่เตือน! ”

“ไปกันเถอะ! ” หวางซูเฟินพาฉินหลันและพวกพ้องหันหลังและเดินจากไป

ผู้คนโดยรอบที่มุงล้อมดูเหตุการณ์ ต่างก็แยกย้ายกันไป

“นึกไม่ถึงว่าบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปจะออกหน้าปกป้องหยางหยิง ไม่เกรงกลัวว่าจะไปล่วงเกินต่อบริษัท QC entertainment หรือยังไง? ”

“ดูเหมือนว่าหญิงแกร่งหน้าใหม่แห่งวงการอสังหาริมทรัพย์ผู้นี้ ไม่ปล่อยให้มีเรื่องอะไรที่ขัดหูขวางตาไปได้! ”

ทุกคนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานา

มองภาพการเดินจากไปของคุณแม่กับพี่ฉินหลันแล้ว จิตใจของหลินหยุนค่อย ๆ สงบเย็นลง

หยางหยิงมองไปที่หลินหยุน แสดงอาการขอโทษโดยพูดขึ้นว่า: “คุณหลิน ขอโทษด้วยจริง ๆ ที่ลากคุณเข้ามาพัวพันเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ด้วย! ”

“ไม่เป็นไร” หลินหยุนพูดขึ้น

ชาติที่แล้ว คนผู้นั้นที่หยางหยิงได้ล่วงเกินในพิธีเปิดงาน คงน่าจะเป็นเฉียนเจียเหา

บางที ในชาติที่แล้วหากไม่มีตนเองอยู่ ไม่แน่หยางหยิงคงจะถูกเฉียนเจียเหาจัดการไปแล้วก็เป็นได้

แต่ หลินหยุนรู้สึกว่าเรื่องนี้คงยังไม่จบเพียงเท่านี้เป็นแน่

“คุณต้องระมัดระวังตัวให้มากขึ้น” หลินหยุนมองไปที่หยางหยิง และพูดขึ้นอย่างกังวล

“อืม ฉันได้โทรศัพท์เรียกให้กลุ่มบอดี้การ์ดมากันแล้ว” หยางหยิงกล่าว

“ให้เฉินซีเฟิ่งเดินชมงานเป็นเพื่อนคุณนะ ฉันจะไปแสดงแล้ว”

หลินหยุนพูดว่า: “ไม่ต้องหรอก ให้พี่เฟิ่งติดตามคุณไปเถอะ เป้าหมายของพวกเขาคือคุณ”

เฉินซีเฟิ่งพยักหน้าและพูดว่า: “คุณหลินพูดได้ถูกต้อง ยังไงฉันก็ควรติดตามคุณไป! ”

“งั้นตกลง คุณหลินเองก็ต้องระวังตัวด้วยนะ หากพบเจอเหตุการณ์ที่ยุ่งยากมีปัญหา ห้ามปะทะรุนแรงกับพวกเขาเด็ดขาด ให้รีบโทรศัพท์มาหาฉันเป็นการด่วน”

“อืม”

เมื่อแยกย้ายกับหยางหยิง หลินหยุนก็เดินชมงานในห้องโถงเรื่อยเปื่อย โดยแอบเดินตามหลังหวางซูเฟินบ้างเป็นครั้งคราว

หวางซูเฟินพาฉินหลัน เดินอยู่ท่ามกลางพวกเศรษฐีและผู้มีชื่อเสียง ร่วมวงดื่มไวน์สนทนาแลกเปลี่ยนกันอย่างครึกครื้น ด้วยท่าทางสุภาพเป็นสง่าและไม่สะทกสะท้าน

“ดูเหมือนว่าที่คุณแม่ได้รับการขนานนามว่าเป็นคลื่นลูกใหม่แห่งวงการอสังหาริมทรัพย์ของมณฑลจงโจวนี้ ไม่ใช่ว่าจะเรียกขานกันแบบเกินเลย”

ผ่านไปสักพัก หวางซูเฟินรับสายโทรศัพท์ จากนั้นพูดสั่งงานกับฉินหลันไม่กี่คำ ตนเองก็พาลูกน้องสองคนกลับออกไปก่อน

หวางซูเฟินทำความรู้จักสร้างความสัมพันธ์กับเศรษฐีหลายราย ซึ่งฉินหลันเป็นผู้ที่รับผิดชอบต้อนรับดูแลต่อ

ระดับการสื่อสารเชื่อมสัมพันธ์ของฉินหลันไม่ได้ด้อยไปกว่าหวางซูเฟินสักเท่าไหร่ สนทนาพูดคุยกับพวกเศรษฐีเหล่านั้นได้อย่างไม่เป็นปัญหา บวกกับฉินหลันที่ยังสาวและสวยงาม การต้อนรับขับสู้ก็ยิ่งจะสบายมากขึ้น ซึ่งลูกศิษย์เหนือกว่าอาจารย์ผู้อบรมสั่งสอน

ฉินหลันเดินชมภายในงานต่อไป และพูดคุยทักทายกับผู้อื่นอยู่ตลอด แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าต้องการที่จะเร่งให้บริษัท ตงหวาง กรุ๊ปเข้าสู่วงการสังคมชั้นสูงของมณฑลจงโจวให้เร็วที่สุด

หลินหยุนก็เดินตามต่อไป เรื่องแรกเป็นแพราะไม่พบเจอกันมานานว่าแปดร้อยปีแล้ว ซึ่งต้องการที่จะมองดูคนที่ใกล้ชิดสนิทสนมกับตนเองที่สุดเมื่อชาติที่แล้ว

เรื่องที่สอง เพราะกังวลว่าฉินหลันจะประสบกับเหตุร้ายอันตรายใด ๆ โดยเฉพาะ ผู้หญิงอย่างฉินหลันที่ทั้งสาวทั้งสวยงาม แถมยังมีความสามารถมากมายอีก ซึ่งหลายคนที่ต้องการได้เธอมาครอบครอง ถึงขนาดยอมทำทุกอย่างทุกวิถีทางเลยทีเดียว

ทันใดนั้นฉินหลันได้บอกให้ลูกน้องรอกันอยู่ที่ห้องโถง ส่วนตัวเธอเดินตรงไปยังระเบียงที่อยู่ด้านข้างของห้องโถง

หลินหยุนจึงรีบเดินตามไป

แต่ว่า ขณะกำลังเดินเข้าสู่ระเบียง ก็มีกลิ่นหอมโชยมา เงาร่างสูงบางของฉินหลันก็ปรากฏอยู่เบื้องหน้าของหลินหยุน

“เจ้าหนุ่มน้อย ทำไมนายถึงเดินตามอยู่ข้างหลังฉันตลอดเวลา? ” ฉินหลันถามเตือนขึ้นอย่างระมัดระวัง

หลินหยุนตะลึงเล็กน้อย ตนเองจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว นึกไม่ถึงว่าจะถูกฉินหลันเล่นงานเข้า

หากเรื่องนี้เป็นที่ล่วงรู้ทั่วกันในโลกบำเพ็ญเซียนต่าง ๆ เกรงว่าจะถูกคนอื่นหัวเราะเยาะกันยกใหญ่

“ฉันไม่ได้มีเจตนาร้าย คุณวางใจเถอะ” หลินหยุนยิ้มและพูดขึ้นอย่างสัตย์ซื่อ

ฉินหลันมองไปที่หลินหยุนด้วยความสงสัย ซึ่งไม่ทราบเหมือนกันว่าเธอจะเชื่อหรือไม่เชื่อ

แต่ว่า คู่ดวงตาที่ใหญ่โตมีสีขาวและสีดำชัดเจน จ้องมองมาที่หลินหยุนจนรู้สึกเกรงกลัว หากว่าต่อไปเปิดเผยทำความรู้จักกัน แล้วพี่ฉินหลันย้อนคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ คงไม่แปลกหากว่าจะดึงหูของหลินหยุนจนฉีกขาด!

ขณะที่หลินหยุนกำลังครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้ฉินหลันเชื่อมั่นในตนเอง ฉินหลันพูดขึ้นกะทันหันว่า: “ฉันเห็นนายชกพวกลูกน้องหกคนของเฉียนเจียเหาจนกระเด็นลอยไปไกล ทักษะการต่อสู้ของนายคงจะไม่เลวเลยใช่ไหม? ”

ทักษะการต่อสู้เหรอ? นั่นไม่เลวอย่างแน่นอน! อย่างน้อยบนโลกใบนี้ หลินหยุนรู้สึกว่าน่าจะไม่มีใครที่เป็นคู่ต่อกร!

“พอใช้ได้” หลินหยุนตอบอย่างถ่อมตัว

แววตาของฉินหลันเป็นประกายขึ้นแวบหนึ่ง มองไปที่หลินหยุนและพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน: “หยางหยิงให้เงินเดือนนายเท่าไหร่? ฉันจะให้เพิ่มเป็นสองเท่า มาเป็นบอดี้การ์ดให้กับฉันเอาไหม? ”

ที่จริงแล้วพี่ฉินหลันเห็นความสำคัญในทักษะการต่อสู้ของฉัน!

หลินหยุนยิ้ม

มีสายตาที่ไม่เลวเลยทีเดียว!

แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ใช่บอดี้การ์ดของหยางหยิง และบอดี้การ์ดแบบเขานี้ เกรงว่าจะไม่มีใครสามารถว่าจ้างได้

แต่ว่า ลองเป็นบอดี้การ์ดของพี่ฉินหลัน เหมือนว่าจะไม่เลวเหมือนกัน

ชาติที่แล้วเป็นพี่ฉินหลันที่คอยปกป้องดูแลฉัน ครั้งนี้ สมควรเปลี่ยนเป็นฉันที่จะคอยปกป้องดูแลพี่ฉินหลันแล้ว

“ดีเลย คุณหยางหยิงให้ฉันวันละห้าร้อย อย่างน้อยคุณต้องให้ฉันหกร้อย” หลินหยุนพูดต่อรองราคาอย่างจริงจัง

“หนึ่งพัน! ” ฉินหลันพูดขึ้นอย่างเด็ดขาด

“แต่ว่า ทุกอย่างต้องฟังคำสั่งของฉัน หากไม่มีคำสั่งของฉัน นายห้ามที่จะคิดเองลงมือทำเองโดยเด็ดขาด”

“ตกลง” หลินหยุนตอบรับ

เวลานี้ บนเวทีมีเสียงเพลงที่คุ้นเคยดังขึ้น

ฉินหลันมองไปบนเวทีเห็นหยางหยิงที่สวยงดงามราวกับนางฟ้าลงมาจุติ จึงพูดขึ้นด้วยความอิจฉาว่า: “คุณหยางหยิงสวยงดงามเสียจริง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเฉียนเจียเหาจึงยอมเสี่ยงต่ออันตรายเพื่อที่ต้องการจะครอบครองตัวเธอ!

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

Status: Ongoing

มหากษัตริย์ชางฉองหลินหยุนที่ปราบปรามสามโลกไถ่บาปไม่สำเร็จ เกิดใหม่กลับสู่โลกมนุษย์เป็นเขยแต่งเข้าบ้าน ชาติปางก่อน ได้เมียที่สวยเซ็กซี่ดูเป็นผู้ใหญ่กลับครอบครองไม่ได้ ชาตินี้ หลินหยุนจะทำยังไง……ชาติก่อน เขาเป็นคนไร้ความสามารถที่ใครๆต่างดูถูก ชาตินี้ เขาเป็นหมอเทพหลินในวงการแพทย์ ตาทิพย์หลินในวงการของโบราณ อาจารย์หลินในวงการฮวงจุ้ย และหลินชางฉองในวงการบู๊ เมื่อเขากลับมาสู่เทวโลกอีกครั้ง พบว่าเทวโลกมีการเปลี่ยนแปลง หลายคนที่กำลังไถ่บาปรวมตัวกัน พวกเขาจะทำได้ดั่งใจหวังหรือไม่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท