จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – บทที่ 390 อาชูร่ามารโลหิต

บทที่ 390 อาชูร่ามารโลหิต

หงซานเหอไม่เข้าใจเล็กน้อย เขากำลังรายงานเหตุการณ์ที่จะทำให้โลกเกิดความวุ่นวาย แต่ว่าประธานาธิบดีจีนกลับให้เขาดูเอกสาร

ข่าวอะไรกัน? มันสำคัญกว่าคำบัญชาเทพยาของหุบเขาเทพยาด้วยเหรอ?

แต่ว่า พอหงซานเหอได้เห็นเอกสารนั้น จู่ๆก็ร้องออกมาด้วยความตกใจ “ฉิวเชียนซา!ทำไมตัวร้ายอย่างเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”

ประธานาธิบดีจีนพูดว่า “วันนี้เพิ่งได้รับข่าวนี้มา ฉิวเชียนซาอยู่ตรงท่าเรือเซินเฉิงของมณฑลตงไห่ หลังจากที่ฆ่าชาวประมงไปคนหนึ่ง ก็มุ่งหน้าไปยังใจกลางเมืองเซินเฉิง และข่มขู่หัวหน้าผู้รับผิดชอบของใจกลางเมืองเซินเฉิง ให้ส่งข่าวไปหาหลินหยุน”

“หนึ่งวันหลังจากนี้ ที่ภูเขาหนันผิงในเมืองเซินเฉิง จะทำการประลองฝีมือกับหลินหยุน ถ้าเกิดหลินหยุนไม่มา เขาจะเริ่มฆ่าคน”

หงซานเหอทำหน้าเคร่งเครียด “ได้ข่าวนี้ตั้งแต่เมื่อไร?”

ประธานาธิบดีจีนพูดว่า “ข่าวนี้ถูกส่งมาจากคนของเผ่ามังกรเมื่อคืนนี้ พวกหลงสืออีได้ส่งคนไปแล้ว”

“หลินหยุนล่ะ? เขาได้รับข่าวนี้หรือยัง?อีกอย่าง เขามีปฏิกิริยายังไง?” หงเซาเหอถาม

ประธานาธิบดีจีนเผยรอยยิ้มที่ลึกลับออกมา “ตอนนี้ น่าจะได้รับข่าวสารแล้ว”

หงซานเหอพูดด้วยความกังวล “ดาวร้ายอย่างฉิวเชียนซา จะต้องมาเพื่อแก้แค้นให้กับศิษย์ของเขาอย่างแน่นอน ตอนนั้นขนาดเจียงร่อโจ๋ยังเอาเขาแทบไม่อยู่ คราวนี้เขากลับมาที่ประเทศจีนอีกครั้ง ยังมีใครที่จะสามารถรับมือเขาได้อีก?”

“เจ้าเด็กนั้นมันตัวหายนะชัดๆ!” แม้ว่าหงซานเหอจะไม่เคยเจอหลินหยุนมาก่อน แต่กลับมีความแคลงใจต่อหลินหยุนเป็นอย่างมาก

จู่ๆประธานาธิบดีจีนก็หัวเราะออกมา “ท่านหง ทุกเรื่องล้วนมีสองด้าน คุณอย่าดูแค่ด้านเดียว อีกอย่าง ถ้าเกิดคุณไม่สามารถมองปัญหาด้วยความใจเย็นได้ งั้นคุณก็จะทำให้เกิดปัญหาขึ้นมากมายทั้งๆที่ไม่น่าเกิด”

หงซานเหอพูดด้วยความสงสัยว่า “หมายความว่าไงครับ?แค่คำบัญชาเทพยาก็ทำให้พวกเราเจอปัญหาใหญ่แล้ว ตอนนี้ยังมีฉิวเชียนซาอีก นี่กะจะทำให้ทั้งประเทศจีนต้องตกอยู่ในความวุ่นวายรึไง?”

ประธานาธิบดีส่ายหัว “ความจริงครั้งนี้ฉิวเชียนซามาได้ถูกจังหวะพอดี สำหรับพวกเราแล้ว ไม่ใช่เรื่องแย่ แต่กลับเป็นเรื่องดี”

“เรื่องดี?จะเป็นอย่างงั้นได้ยังไง!” หงซานเหอเกือบจะหัวเราะออกมาเพราะคิดว่าเป็นเรื่องตลก

ประธานาธิบดีพูดต่อ “ท่านหง ผมเคยบอกแล้ว เฉพาะตอนที่คุณสงบสติอารมณ์ได้ ถึงจะมองปัญหาได้อย่างชัดเจน ถึงจะคิดหาทางแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง”

หงซานเหอพยายามทำให้ตัวเองใจเย็น แล้วใช้ความคิด แต่ก็คิดไม่ออกว่าการมาของฉิวเชียนซา จะกลายเป็นเรื่องดีได้ยังไง

“ท่านประธานาธิบดี ท่านพูดตรงๆเถอะ ครั้งนี้ผมสงบสติอารมณ์ได้ยากจริงๆ”

ประธานาธิบดีจีนยิ้มแล้วพูดว่า “ความจริงปัญหาที่จัดการยากที่สุดก็คือคำบัญชาเทพยาของหุบเขาเทพยา ยังไงซะนั่นก็เป็นถึงนักบู๊ครึ่งหนึ่งของโลกบู๊ ไม่สามารถควบคุมได้ด้วยซ้ำ ถ้าเกิดจัดการไม่ดี จะต้องกลายเป็นเรื่องใหญ่แน่”

“แต่ว่า การมาของฉิวเชียนซา กลับเป็นการช่วยพวกเราจัดการคำบัญชาเทพยา ถ้าเกิดเป็นอย่างที่คาดการณ์เอาไว้ ตอนนี้เหล่านักบู๊ที่ได้รับคำบัญชาเทพยา น่าจะดูลาดเลาอยู่สักพัก เพื่อรอชมการต่อสู้ระหว่างฉิวเชียนซากับหลินหยุน!”

“คุณลองคิดดู ชื่อเสียงของฉิวเชียนซาดังไปทั้งโลก สามสิบปีก่อนได้ฆ่าชาวจีนจนทำให้ทั่วทั้งโลกบู๊เกิดความหวาดกลัว ตอนนั้นเยนหนานเทียนปิดตัวฝึกฝน ประเทศจีนจึงมีแค่เจียงร่อโจ๋ที่สามารถเอาชนะเขาได้”

“สามสิบปีต่อมาฉิวเชียนซากลับมาอีกครั้ง เยนหนานเทียนยังคงปิดตัวฝึกฝน เจียงร่อโจ๋กลายเป็นเทพแห่งสงครามของประเทศจีน ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ตามใจชอบ ถามหน่อยว่าทั้งโลกบู๊ของประเทศจีน ยังมีใครที่จะสามารถเอาชนะฉิวเชียนซาได้อีก?”

“เหล่านักบู๊พวกนั้น ในเวลาแบบนี้จะกล้า ไปหาเรื่องหลินหยุนเหรอ ถ้าเกิดทำให้ฉิวเชียนซาโกรธขึ้นมา งั้นพวกเขาก็เหมือนกับเอาชีวิตไปทิ้งน่ะสิ?”

“ขอแค่หลินหยุนสามารถเอาชนะฉิวเชียนซาได้ ถึงเวลานั้น แม้แต่ปรมาจารย์ของหอพันกลก็จะมีการเคลื่อนไหว คนของโลกบู๊ จะยังมีใครกล้ารับคำบัญชาเทพยา เพื่อไปฆ่าหลินหยุนที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าฉิวเชียนซาอีก?”

ประโยคเดียว พอลองวิเคราะห์อย่างลึกซึ้ง หงซานเหอก็เข้าใจได้อย่างชัดเจน

อารมณ์ที่ร้อนรนในตอนแรก ในที่สุดก็สงบลงได้สักที

พอได้ฟังคำพูดของประธานาธิบดีจีน การมาของฉิวเชียนซา เป็นเรื่องดีจริงดีด้วย!

“แต่ว่า เรื่องทั้งหมดนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าหลินหยุนต้องเอาชนะฉิวเชียนซาให้ได้ ถ้าเกิดหลินหยุนแพ้ เกรงว่าคำบัญชาเทพยาก็คงจะต้องดำเนินการในทันที” หงซานเหอพูด

สายตาของประธานาธิบดีจีนมองไกลออกไป น้ำเสียงดูขุ่นเล็กหน่อย “ถ้าเกิดหลินหยุนแพ้ ก็คงไม่ต้องรอคำบัญชาเทพยาอีก”

นั่นสิ ถ้าเกิดฉิวเชียนซาฆ่าเขาในทันที งั้นยังต้องรอคำบัญชาเทพยาอะไรอีก?

หงซานเหอทำความเคารพด้วยท่าทหาร แล้วพูดด้วยเสียงจริงจัง “ผมจะรีบสั่งการให้สมาชิกของเผ่ามังกร ให้พวกเขาเพิ่มความระมัดระวัง ถ้าเกิดไม่ได้รับคำสั่งจากผม อย่าเคลื่อนไหวตามอำเภอใจ”

“พวกเรา จะเฝ้าสังเกตการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างเงียบๆ!

“รบกวนท่านหงด้วย” ประธานาธิบดีจีนพยักหน้า

ครั้งนี้ หลินหยุนก่อเรื่องใหญ่จริงๆ นักบู๊ครึ่งหนึ่งของโลกบู๊ ต่างก็ออกมาพร้อมกัน แต่ว่า หลังจากได้ข่าวว่าฉิวเชียนซาได้นับประลองกับหลินหยุน

โลกบู๊ที่เดิมกำลังเกิดความโกลาหล จู่ๆก็สงบลง

ทุกคนดูเหมือนจะเข้าใจได้โดยปริยาย ต่างก็เฝ้ารอผลของการต่อสู้

ถ้าเกิดเปลี่ยนฉิวเชียนซาเป็นคนอื่น ต่อให้เปลี่ยนเป็นเยนหนานเทียน เกรงว่าคงไม่เกิดความเปลี่ยนแปลงขนาดนี้

ยังไงซะชื่อเสียงที่น่ากลัวของฉิวเชียนซา ได้รับมาจากตอนที่ทำให้ทั่วทั้งโลกบู๊กลายเป็นทะเลเลือด สะสมจนกลายเป็นแบบนี้

ฉายาอาชูร่ามารโลหิต มันถูกสร้างมาจากซากกระดูกนับไม่ถ้วน ต่อให้เป็นเยนหนานเทียน หรือว่าเทพแห่งสงครามเจียงร่อโจ๋ก็ไม่สามารถทำให้เกิดผลลัพธ์แบบนี้

ถ้าเกิดจะบอกว่าเหล่านักบู๊ต้องการจะยืมมือคนอื่น พูดว่าเหล่านักบู๊โดนความหวาดกลัวจากชื่อเสียงที่น่ากลัวของฉิวเชียนซาน่าจะถูกกว่า

หลินหยุนได้รับข่าวนี้ตอนแปดโมงเช้า

และเขา กำลังพักอยู่บ้านเจี่ยงสงในหลินโจว

ในห้องนั่งเล่น หลินหยุนนั่งอยู่ ส่วนเจี่ยงสงกำลังยืนอยู่ข้างๆด้วยความเคารพ

“ปรมาจารย์หลิน ท่านเรียกหาข้าตั้งแต่เช้าตรู่ ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไร?” เจี่ยงสงถามด้วยความเกรงใจ

“นั่งสิ” หลินหยุนพูดด้วยเสียงเรียบๆ

เจี่ยงสงนั่งอยู่ตรงหน้าของหลินหยุน นั่งลงไปด้วยความระมัดระวัง

หลินหยุนหยิบขวดหยกเล็กสีขาวออกมา แล้ววางลงบนโต๊ะ

“ท่านลองชิมดู” หลินหยุนพูด

เจี่ยงสงสงสัยเล็กน้อย หรือว่าจะเป็นยาพิษ?

แต่พอคิดว่าถ้าเกิดหลินหยุนต้องการฆ่าเขา การวางยามันดูยุ่งยากเกินไป

จึงหยิบขวดหยกเล็กนั้นขึ้นมา แล้วดื่มมันเข้าไป

จากนั้น ตัวของเจี่ยงสงก็เหมือนลอยขึ้นมา

นั่นเป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถบรรยายได้ ถ้าเกิดใช้คำว่าสดชื่น มันก็ดูไม่เหมาะสม

ถ้าเกิดใช้คำว่าสบาย ก็ยังดูไม่เหมาะสม เอาเป็นว่ามันทั้งสดชื่นและสบาย ยอดเยี่ยมจนถึงขีดสุด ราวกับกำลังนอนอยู่บนก้อนเมฆ จิตวิญญาณเองก็กำลังล่องลอยไปมา

ร่างกายที่ไม่ค่อยจะแข็งแรงของเจี่ยงสง พอดื่มแค่คำเดียว จากนั้นจู่ๆร่างกายก็เหมือนอ่อนลงสิบปี ทั่วทั้งร่างกายเหมือนมีเรี่ยวแรงที่ใช้ยังไงก็ไม่หมด

สิ่งที่เจี่ยงสงดื่มเข้าไปเป็นน้ำชี่ทิพย์บริสุทธิ์ ไม่ได้ผ่านสิ่งเจือปน เปรียบได้กับเป็นยาเทพเซียน!

“ปร ปรมาจารย์หลิน นี่มันคืออะไร?” เจี่ยงสงพอได้สติ ก็ถามด้วยใบหน้าที่ตกใจ เขารู้สึกว่าข้างในขวดหยกนี้ มีความเป็นไปสูงว่าจะเป็นสารเสพติดชนิดหนึ่งที่ทำให้เกิดภาพหลอน

หลินหยุนพูดด้วยเสียงเรียบๆว่า “อย่ารีบร้อน นี่คือน้ำชี่ทิพย์ หลังจากที่คนธรรมดาดื่มเข้าไป สามารถรักษาโรคได้ และทำให้ชีวิตยืดยาว”

“อะไรนะ!” พอได้ยินว่าสามารถรักษาโรคได้ กับยืดชีวิตให้ยาวขึ้น แววตาของเจี่ยงสงก็เผยความโลภออกมา ก็เหมือนกับผู้ชายที่ไม่ได้แตะต้องผู้หญิงมากว่าสิบปี แล้วจู่ๆก็ได้เจอผู้หญิงที่งดงาม

“ปรมาจารย์หลิน ท่านเอาน้ำชี่ทิพย์มาจากที่ไหนกัน? สามารถแบ่งให้ข้าสักเล็กหน่อยไหม? จริงสิ ข้ายินดีจ่ายเงิน ไม่ว่าเท่าไรก็ยินดีจ่าย!”

ด้วยฐานะของเจี่ยงสงในตอนนี้ ความน่าดึงดูดของอำนาจและเงินทองสำหรับเขา มันไม่เท่าเหมือนเมื่อก่อนแล้ว

ตอนนี้เขาอยากได้เงินก็ได้เงิน อยากได้อำนาจก็ได้อำนาจ แต่ว่าร่างกายกลับแย่ลงทุกวัน ถดถอยลงไปเรื่อยๆ

ไม่มีร่างกายที่แข็งแรง ต่อให้มีเงินเยอะขนาดไหน หรือจะมีอำนาจขนาดไหน แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร?

นี่ก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ จักรพรรดิในยุคโบราณตามหามาชั่วชีวิต

แต่ว่า ยาไม่แก่ไม่ตายที่พวกเขาตามหา กลับเป็นแค่ตำนานที่เขาลือกัน ส่วนสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเจี่ยงสง กลับเป็นน้ำชี่ทิพย์ของจริง

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

Status: Ongoing

มหากษัตริย์ชางฉองหลินหยุนที่ปราบปรามสามโลกไถ่บาปไม่สำเร็จ เกิดใหม่กลับสู่โลกมนุษย์เป็นเขยแต่งเข้าบ้าน ชาติปางก่อน ได้เมียที่สวยเซ็กซี่ดูเป็นผู้ใหญ่กลับครอบครองไม่ได้ ชาตินี้ หลินหยุนจะทำยังไง……ชาติก่อน เขาเป็นคนไร้ความสามารถที่ใครๆต่างดูถูก ชาตินี้ เขาเป็นหมอเทพหลินในวงการแพทย์ ตาทิพย์หลินในวงการของโบราณ อาจารย์หลินในวงการฮวงจุ้ย และหลินชางฉองในวงการบู๊ เมื่อเขากลับมาสู่เทวโลกอีกครั้ง พบว่าเทวโลกมีการเปลี่ยนแปลง หลายคนที่กำลังไถ่บาปรวมตัวกัน พวกเขาจะทำได้ดั่งใจหวังหรือไม่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท