“แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน!”
ในฝูงชนมีคนอุทาน
หยางเฟยเย่นมองไปที่หลี่อู๋จี๋และพูดเสียงเบา“คุณชายอู๋จี๋คุณคิดว่าเขาจะสามารถทำลายค่ายกลฮู่ซานได้หรือไม่?”
หลี่อู๋จี๋มองชายชราที่มีใบหน้าแดงที่อยู่ข้างๆ“ปรมาจารย์เย่คุณคิดว่าเขามีความหวังที่จะทำลายค่ายกลได้หรือไม่?”
ดวงตาของปรมาจารย์เย่หรี่ลงเล็กน้อยด้วยใบหน้าเย่อหยิ่ง“เขารู้วิธีทำลายค่ายกลเล็กน้อยแต่การใช้หุ่นไม้เพื่อทำลายค่ายกลเป็นวิธีการใช้สำหรับผู้ฝึกฝนที่พึ่งได้สัมผัสค่ายกลต้องการทำลายค่ายกลฮู่ซานตรงนี้มันเป็นไปไม่ได้!”
ผู้อาวุโสเก้าประหลาดใจเล็กน้อยและพูดว่า“คิดไม่ถึงว่าบุคคลนี้จะเชี่ยวชาญค่ายกลไม่รู้ว่าเขาจะสามารถทำลายค่ายกลนี้ได้หรือไม่?”
หุ่นไม้นั้นยังคงเคลื่อนไหวต่อไปเพียงแต่ว่าเมื่อมันขึ้นไปถึงบันไดหินชั้นที่สามทันใดนั้นมีเสียงตูมก็มีไฟลุกขึ้นมา
“อ๊ะ……”ชายชราตกใจเมื่อมองไปยังพื้นที่ด้านหน้าตำหนักสี่เหลี่ยมด้วยสีหน้าตื่นตระหนก“โครงสร้างการป้องกันของค่ายกลนี้แน่นหนามาก!”
ชายชรามองไปที่ผู้อาวุโสเก้าและพูดด้วยท่าทีเศร้าหมอง“ฉันไร้ความสามารถ!”
พูดจบก็เดินกลับไปที่ฝูงชน
ทุกคนตกตะลึงแค่หุ่นไม้ตัวเล็กๆค่ายกลฮู่ซานก็สามารถมีปฏิกิริยาตอบสนองหากเป็นคนที่มีชีวิตทันทีที่เข้าสู่บริเวณค่ายกลมันอาจกระตุ้นการโต้กลับของค่ายกลทันที
ผู้อาวุโสเก้ารู้สึกผิดหวังเล็กน้อยมองไปที่หลี่อู๋จี๋และถามเสียงดัง“ยังมีใครอยากลองอีกไหม?”
หลี่อู๋จี๋พูดว่า“ฉันเอง!”
“คราวนี้ฉันเชิญปรมาจารย์เย่ที่เชี่ยวชาญในด้านค่ายกลเป็นพิเศษมา!”
ผู้อาวุโสเก้าประหลาดใจ“ใช่เย่สวนฉีปรมาจารย์เย่หรือเปล่า?”
“ใช่ฉันเอง!”ชายชราที่มีใบหน้าแสงสีแดงกระโดดออกมาจากฝูงชนมองไปที่ผู้อาวุโสเก้าด้วยใบหน้าเย่อหยิ่ง
“ใช่เย่สวนฉีจริงๆ!”ผู้อาวุโสเก้าก็ตกใจจากนั้นใบหน้าก็เต็มไปด้วยความสุข
“ปรมาจารย์แห่งค่ายกลเย่สวนฉี!”ผู้อาวุโสสามก็ตกตะลึงเช่นกัน“ไหนบอกว่าเย่สวนฉีไปเก็บตัวฝึกฝนนานแล้ว?ผู้อาวุโสใหญ่ไปเชิญด้วยตัวเองแต่หาไม่พบทำไมคนจากตระกูลหลี่ถึงเชิญมาได้?”
หลี่อู๋จี๋ยิ้มอย่างมีชัย“ผู้อาวุโสทุกท่านไม่ต้องกังวลเรื่องนี้หากพวกเราสามารถทำลายค่ายกลฮู่ซานอย่าลืมคำสัญญาของพวกคุณ!”
ใบหน้าของผู้อาวุโสหลายคนเปลี่ยนไปเล็กน้อยทัศนคติของหลี่อู๋จี๋เย่อหยิ่งมากจากเหตุการณ์นี้จะเห็นได้ว่าความแข็งแกร่งของตระกูลหลี่น่าจะเกิดการพัฒนาครั้งใหญ่
คนที่แม้แต่สำนักอู๋จี๋ก็ไม่สามารถเชิญมาได้แต่คนตระกูลหลี่สามารถเชิญมาได้ดูเหมือนว่าตระกูลหลี่น่าจะมีไพ่ใบเด็ดอยู่ในมือ
ผู้อาวุโสเก้าพูดอย่างเย็นชา“วางใจเถอะสำนักอู่จี๋พูดคำไหนคำนั้นเชิญทำลายค่ายกล!”
หลี่อู๋จี๋เอามือประสานกันโค้งคำนับและพูดว่า“ปรมาจารย์เย่ขึ้นอยู่กับท่านแล้ว!”
“อืม”เย่สวนฉีพยักหน้าและค่อยๆเดินไปข้างหน้า
ซูจื่อเหลียงสงสัยเล็กน้อยและถามเสียงเบา“นี่ก็คือปรมาจารย์ค่ายกลเหรอ?เขาสามารถทำลายค่ายกลฮู่ซานได้จริงหรือ?ฉันก็เคยลองมาก่อนค่ายกลฮู่ซานนี้มันผิดปกติ!”
“เขาทำลายมันไม่ได้หรอก!”น้ำเสียงของหลินหยุนมั่นใจมากและไม่ได้พูดเสียงเบา
ทุกคนในสถานที่ได้ยินเกือบหมด
โล่เสว่ฉีเอามือปิดหน้าอันสวยงามของเธอและอดไม่ได้ที่จะกลอกตาให้หลินหยุนได้โปรดพี่ชายเวลาคุณพูดนินทาของคนอื่นลับหลังช่วยพูดเสียงเบาๆหน่อยได้ไหม!
คุณทำเช่นนี้คนอื่นได้ยินหมดแล้ว
เย่สวนฉีหันมามองหลินหยุนและเอ่ยอย่างเย็นชา“หากว่าแม้แต่ฉันยังไม่สามารถทำลายค่ายกลฮู่ซานได้ก็ไม่มีผู้ใดในโลกนี้ที่สามารถทำลายมันได้!”
“ไอ้เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมคิดว่าตัวเองมีความแข็งแกร่งเล็กน้อยก็กล้าพูดจาไร้ยางอายวันนี้ฉันจะให้แกเห็นเป็นบุญตาปู่อย่างฉันจะแสดงฝีมือในการทำลายค่ายกล!”
โชคดีที่เมื่อกี้หลินหยุนเพิ่งแสดงความแข็งแกร่งออกมามิฉะนั้นคำพูดนี้เย่สวนฉีคงไม่มีวันปล่อยเขาแน่
หลี่อู๋จี๋ยิ้มอย่างประจบสอพลอ“ปรมาจารย์เย่อย่าโกรธเลยเป็นแค่เด็กเมื่อวานซืนที่ไม่เคยเห็นโลกภายนอกคิดว่าเขามีความแข็งแกร่งในทักษะการต่อสู้เล็กน้อยก็กล้าที่จะดูถูกเหล่าฮีโร่ของโลกเขาไม่รู้ว่าฝีมือด้านค่ายกลของท่านยิ่งใหญ่แค่ไหน!”
“ฮึ่มฉันไม่ไปถือสาคนแบบนี้หรอก!”เย่สวนฉีจ้องไปที่หลินหยุนอย่างดูถูกจากนั้นจึงหันไปมองที่ตำหนักสี่เหลี่ยม
หลินหยุนเพิกเฉยต่อความเห็นถากถางดูถูกของคนกลุ่มนี้เพียงแค่เอามือกอดอกมองดูเย่สวนฉีโอ้อวดอย่างเงียบๆ
นี่เป็นค่ายกลที่สร้างขึ้นโดยคนรักของเขาพูดได้ว่ายกเว้นนางฟ้าเย่เยว่ไม่มีใครในโลกนี้ที่จะรู้ดีไปกว่าหลินหยุน
แค่นักบู๊คนเดียวบนโลกเป็นไปได้อย่างไรที่จะทำลายค่ายกลที่สร้างโดยผู้บำเพ็ญเซียน!
เย่สวนฉียืนอยู่ด้านนอกบันไดหินหยิบเมล็ดถั่วออกมาหนึ่งกำมือแล้วโยนออกไปในความว่างเปล่าตรงหน้า
โบๆๆ……
มีเสียงก้อนหินตกลงมาในสระน้ำและเมล็ดถั่วเหล่านั้นก็กระเด็นออกไป
เย่สวนฉีก็เปลี่ยนตำแหน่งหลายตำแหน่งและทำการทดลองต่อไป
ในปากพึมพำอะไรบางอย่างและพึมพำเป็นศัพท์
“ดาวเก้ายุค?(คำนามฮวงจุ้ย)ไม่ดาวเก้ายุคตรงข้าม?ก็ไม่เหมือนแปดทิศ?ไม่ถูกต้องห้าธาตุก็ไม่ใช่……”
เย่สวนฉีเริ่มขมวดคิ้วและคิ้วยิ่งย่นมากยิ่งขึ้นและเม็ดเหงื่อก็ค่อยๆปกคลุมบนหน้าผากของเขา
ทันใดนั้นเย่สวนฉีก็ตะโกนไปที่ความว่างเปล่า“บ้าชะมัดไร้เหตุผลสิ้นดี!จะมีวิธีจัดเรียงได้อย่างไร?”
“อ๊ะ!”
เย่สวนฉีตะโกนเสียงดังและใช้ฝ่ามือกระแทกเข้าไปในความว่างเปล่า
เขามีความแข็งแกร่งเพียงพรสวรรค์สูงสุดแต่หมัดนี้ไม่ควรมองข้ามและกระตุ้นการโต้กลับของค่ายกลฮู่ซานทันที
ตูม!
แรงต้านที่รุนแรงกระแทกมาทำให้เย่สวนฉีกระเด็นออกไปกระแทกลงกับพื้นอย่างหมดท่า
หลี่อู๋จี๋ขมวดคิ้วก้าวไปข้างหน้าและช่วยพยุงเย่สวนฉีขึ้นมา“ปรมาจารย์เย่ท่านไม่เป็นไรใช่ไหม?”
เย่สวนฉีอ้าปากและพ่นเลือดออกมาเต็มปากส่ายหัวแล้วพูดว่า“ฉันสบายดีแต่ว่าค่ายกลนี้แปลกประหลาดมากฉันได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับค่ายกลทั้งหมดแล้วและไม่เคยเห็นค่ายกลที่แปลกประหลาดเช่นนี้มาก่อน!”
“ขออภัยค่ายกลนี้ฉันไม่สามารถทำลายได้อีกอย่างและไม่มีใครในโลกนี้สามารถทำลายมันได้!”เย่สวนฉีพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ
หลี่อู่จี๋ดูตกใจ“แม้แต่ปรมาจารย์เย่ก็ไม่สามารถทำลายค่ายกลนี้ได้!ถ้างั้นในโลกนี้คงไม่มีใครสามารถทำลายมันได้”
ผู้อาวุโสสำนักอู๋จี๋เหล่านั้นขมวดคิ้วเมื่อได้ยินสิ่งนี้
เย่สวนฉีพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม“ถ้าฉันจำไม่ผิดนี่คงเป็นค่ายกลซั่งกู่มันไม่ใช่สิ่งที่คนอย่างพวกเราจะทำลายได้!”
“ค่ายกลซั่งกู่!การสืบทอดของพวกเราขาดหายจะทำลายค่ายกลซั่งกู่ได้อย่างไร!”หลี่อู๋จี๋พูดด้วยความเสียใจ
คนในสำนักอู๋จี๋เหล่านั้นก็ถอนใจอย่างไม่เต็มใจเซียนป้ายเยว่เป็นเซียนท่านหนึ่งในขณะนี้ได้ข่าวมาว่าความแข็งแกร่งได้มาถึงเทพเซียนยอดชั้นดิน
หากสามารถเปิดถ้ำเทพของเซียนป้ายเยว่ได้และได้รับการสืบทอดความแข็งแกร่งของสำนักอู๋จี๋จะดีขึ้นในระดับหนึ่งบางทีอาจได้ขนานนามเป็นหัวหน้าของห้าสำนักใหญ่และแม้แต่โครงสร้างของโลกบู๊โบราณก็อาจเกิดการเปลี่ยนแปลง
อย่างไรก็ตามแม้แต่เย่สวนฉีก็ไม่สามารถทำลายค่ายกลฮู่ซานนี้ได้ผู้อาวุโสสำนักอู๋จี๋แม้จะแข็งแกร่งแต่ก็ทำอะรไม่ได้เลย
หยางเฟยเย่นไม่เต็มใจนักพี่ชายของเขาเสียชีวิตเพราะถ้ำเทพลูกนี้ตอนนี้ไม่สามารถทำลายค่ายกลฮู่ซานนี้ได้ถ้าอย่างนั้นพี่ชายของเธอก็ตายฟรีๆหรือ?
“ปรมาจารย์เย่พวกเรามีคนมากมายถ้าพวกเรารวมพลังทำลายค่ายกลนี้ล่ะ?หากการแบกรับพลังของค่ายกลฮู่ซานถึงขีดจำกัดมันจะถูกบีบจนถูกทำลายหรือไม่?”หยางเฟยเย่นถาม
เย่สวนฉียิ้มเยาะเย้ย“คุณมองค่ายกลซั่งกู่นี้ง่ายเกินไป!”
“เมื่อพลังโจมตีเกินขีดจำกัดที่ค่ายกลฮู่ซานจะต้านได้ค่ายกลฮู่ซานจะเข้าสู่สถานะการทำลายตนเองในเวลานั้นถ้ำเทพจะไม่มีอีกต่อไปและทุกคนจะถูกฝังไปพร้อมกับค่ายกลฮู่ซาน!”
หยางเฟยเย่นดูตกใจและพูดว่า“ในเมื่อจะกลายเป็นแบบนี้!ดังนั้นพวกเราทำได้เพียงทำลายค่ายกลฮู่ซานเท่านั้นแต่ใช่พลังที่รุนแรงโจมตีไม่ได้!”
“แต่ว่าปรมาจารย์เย่เป็นถึงปรมาจารย์ค่ายกลยังไม่สามารถทำลายค่ายกลฮู่ซานได้ในโลกนี้คงไม่มีใครสามารถทำลายมันได้!”
ทุกคนเงียบใบหน้าดูหดหู่เล็กน้อย
แม้แต่เย่สวนฉีก็ไม่สามารถทำลายมันได้คิดว่าค่ายกลนี้คงจะไม่มีใครทำลายมันได้
เย่สวนฉีพูดว่า“ยอมแพ้เถอะหลังจากที่ฉันกลับไปแล้วจะไปค้นหาแผนค่ายกลซั่งกู่คงมีสักวันบางทีอาจจะทำลายค่ายกลนี้ได้!”
หลี่อู๋จี๋พูดอย่างจนปัญญา“ก็คงต้องทำตามนี้แหละ”
ซูจื่อเหลียงทนไม่ได้แล้วปรมาจารย์เย่คนนี้คิดว่าตัวเองเก่งกาจเกินไปแล้วนอกจากเขาแล้วไม่มีใครในโลกนี้สามารถทำลายได้
“ทุเรศ!”
“ฮึ่มระดับความสามารถของตัวเองมีจำกัดทำลายค่ายกลไม่ได้ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นไม่สามารถทำลายมันได้!ขี้โม้โดยไม่รู้จักอายพูดราวกับว่าในโลกนี้มีเพียงแกคนเดียวที่เข้าใจเรื่องการจะทำลายค่ายกล!”