จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – บทที่ 602 เจ้าทำอะไรลงไป

บทที่ 602 เจ้าทำอะไรลงไป

ร่างเหล่าจู่ของตระกูลโม่ จู่ๆก็เริ่มขยายใหญ่ขึ้น

เพียงพริบตาเดียว ก็สูงราวๆสองเมตร จากนั้น ก็ดูดกลืนพลังอย่างบ้าคลั่ง

ชี่ทิพย์ที่อยู่รอบๆทั้งอากาศและผืนดินเกิดความผิดปกติ โดยมีตึกเป็นใจกลาง ต้นไม้ที่อยู่ในรัศมีร้อยเมตรเกิดการสั่นไหวอย่างบ้าคลั่ง

หลินหยุนสัมผัสได้แม้กระทั่ง ต้นไม้เขียวชอุ่มที่อยู่รอบๆ กำลังช่วยเสริมพลังให้กับเขา

ทันใดนั้นเอง ก็เกิดเสียงลมที่บ้าคลั่ง ป่าไม้เกิดเสียงดังสนั่น ท้องฟ้าที่สดใสก็แปลเปลี่ยนเป็นความมืดมิด

โม่ซิวอู่และผู้อาวุโสสาม พอเห็นภาพแบบนี้ สีหน้าก็เต็มไปด้วยความตกใจ

“นี่มันวิชาอะไรกัน? ถึงสามารถทำให้ฟ้าและดินสั่นสะเทือนได้!” โม่ซิวอู่ไม่เคยนึกมาก่อนว่า พลังของนักบู๊จะสามารถแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้!

ผู้อาวุโสสามพูดด้วยสีหน้าตกใจว่า “เจ้าหุบเขา ความแข็งแกร่งของท่านเหล่าจู่ ไม่แน่ว่าอาจจะถึงแดนระดับตำนานที่เล่าขานแล้วก็ได้?”

โม่ซิวอู่ไม่ได้พูดอะไร เขาเองก็รู้สึกว่ามีเพียงแค่แดนในระดับตำนานที่เล่าขานนั่นเท่านั้น ถึงสามารถทำให้ท้องฟ้าและผืนแผ่นดินสั่นสะเทือนได้

มีสายฟ้าผ่ากลางอากาศ กระบี่ยักษ์สีฟ้าที่มีขนาดแปดจั้ง ลอยอยู่เหนือหัวเหล่าจู่ของตระกูลโม่

“เจ้าหนุ่ม ลองรับกระบี่ของข้าดูหน่อย!”

มือทั้งสองข้างเหล่าจู่ของตระกูลโม่จับด้ามกระบี่ยักษ์ ใช้พลังทั้งหมด เพื่อฟันใส่หลินหยุน

“สังหาร!”

หลินหยุนจ้องมองกระบี่ยักษ์ที่เหมือนจะผ่าท้องฟ้าเป็นสองซี่ได้ด้วยความใจเย็น เขารู้ดีว่านั่นไม่ใช่กระบี่ที่แท้จริง แต่เป็นสิ่งที่เหล่าจู่ของตระกูลโม่สร้างขึ้นมาจากต้าเต๋า

จิตกระบี่ชิงมู่ เป็นวิชาที่รวบรวมพลังจากคุณสมบัติของธาตุไม้ในรัศมีร้อยเมตร เข้ามาที่ร่างกายเพื่อแปลเปลี่ยนเป็นพลังโจมตีของตัวเอง

วิชาที่เขาฝึกฝน คงจะเป็นวิชาธาตุไม้อย่างแน่นอน

ไม่แปลกใจที่ที่นี่เต็มไปด้วยต้นไม้ยักษ์ และยังมีป่าทึบนี่อีก ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้เหล่าจู่ของตระกูลโม่ฝึกฝนได้สะดวกยิ่งขึ้น

จ้องมองกระบี่ที่น่าหวาดกลัวนั้น หลินหยุนไม่มีความคิดที่จะหลบมันแม้แต่น้อย

เสียงเรียบๆของเขาจู่ๆก็ดังขึ้นมาอย่างชัดเจน “เจ้ามีกระบี่ ข้าเองก็มีกระบี่!”

“กระบี่ต้าเต๋า!”

หลังจากที่สิ้นเสียง ก็มีกระบี่ยาวเจ็ดฟุต ปรากฏออกมาตรงหน้าของหลินหยุน แล้วแทงเข้าไปปะทะกับจิตกระบี่ชิงมู่ของเหล่าจู่ตระกูลโม่

พอเหล่าจู่ตระกูลโม่ใช้กระบวนท่านี้ออกมา ก็หล่นลงมาอยู่ตรงพื้น หายใจหอบด้วยความเหน็ดเหนื่อย

“คราวนี้ ปรมาจารย์หลินคงจะตายแล้วอย่างแน่นอน!” โม่ซิวอู่ถามด้วยความไม่แน่ใจ

เหล่าจู่ตระกูลโม่ส่ายหัว ถึงแม้เขาจะมีความมั่นใจกับการโจมตีของตัวเอง แต่ว่า หลินหยุนมักจะให้ความรู้สึกแปลกๆกับเขา

ความรู้สึกแบบนี้ทำให้เขารู้สึกว่า หลินหยุนเป็นคนที่ยากจะหยั่งรู้

ผู้อาวุโสสามหัวเราะเย็นชาด้วยความดูถูก “เจ้าหนุ่มนั้นพยายามใช้กระบี่เล็กๆแบบนั้น เพื่อต้านกระบี่ยักษ์ที่น่ากลัวของท่านเหล่าจู่ นี่มันรนหาที่ตายชัดๆไม่ใช่หรือไง?”

เหล่าจู่ตระกูลโม่พูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “แม้แต่ตะปูเล็กๆ ก็ยังสามารถตอกไม้เข้าไปได้อย่างง่ายดาย ความแข็งแกร่งของพลัง ต้องมองที่แก่นแท้ ไม่ใช่รูปลักษณ์”

ในตอนที่หลินหยุนใช้กระบี่สีทองที่ยาวเพียงแค่เจ็ดฟุต เพื่อต้านกระบี่ยักษ์สีฟ้าที่ยาวประมาณแปดถึงเก้าจั้ง มันก็เหมือนกับมีดที่ใช้ผ่าเต้าหู้ ที่ผ่าได้อย่างง่ายดาย

รูปร่างของจิตกระบี่ชิงมู่หายไปอย่างรวดเร็ว สลายหายไปจนไม่เหลือรูปร่าง

“อะไรกัน!”

เหล่าจู่ตระกูลโม่ไม่อยากเชื่อภาพที่อยู่ตรงหน้า “นี่มันวิชาอะไรกัน? ข้าปิดตัวฝึกฝนมานับร้อยปีกว่าจะตระหนักถึงจิตกระบี่ชิงมู่ แต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้เลย!”

กระบี่ต้าเต๋า เอาไว้ใช้ฟันชี่เป็นหลัก มันเป็นวิถีต้าเต๋า

จิตกระบี่ชิงมู่ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากวิถีต้าเต๋า กระบี่ต้าเต๋าก็คือคู่ปรับของมัน

นอกซะจาก ความแข็งแกร่งของเหล่าจู่ตระกูลโม่ จะเหนือกว่าหลินหยุน ถึงจะสามารถต้านการโจมตีของกระบี่ต้าเต๋าได้ หรือ การหยั่งรู้วิถีต้าเต๋าของเหล่าจู่ตระกูลโม่ จะเหนือกว่าหลินหยุน

แต่ว่า นี่มันเป็นไปไม่ได้ การหยั่งรู้วิถีต้าเต๋าของมหากษัตริย์ชางฉอง ในจักรวาลนี้คนที่เหนือกว่าเขา เกรงว่าคงมีอยู่แค่ไม่กี่คน

หลินหยุนจ้องมองใบหน้าตกใจของเหล่าจู่ตระกูลโม่ แล้วพูดด้วยเสียงเรียบๆว่า “เจ้ามีความแข็งแกร่งไม่เบา แต่น่าเสียดายคู่ต่อสู้ของเจ้าเป็นข้า”

“มาทำให้มันจบกันเถอะ!”

หลินหยุนยกมือออกมา เสียงเรียบๆดังขึ้นมาอีกครั้ง “ท่าสยบเขา!”

“เฮิง มีความสามารถแค่นี้ ก็คิดจะเอาชนะข้าอย่างนั้นเหรอ ยังเร็วไปหน่อยนะ!” เหล่าจู่ตระกูลโม่ตะโกนเสียงเย็นชา แล้วปล่อยหมัดสวนหลินหยุน

บูม!

เหล่าจู่ตระกูลโม่ถอยไปหลายก้าว แต่ ก็ไม่ได้บาดเจ็บอะไร

เห็นได้ชัดว่า เป็นคนที่แข็งแกร่งมากจริงๆ ขนาดโล่อู๋จี๋ในตอนนั้น ก็ยังไม่สามารถรับกระบวนท่าสิบแปดต้าเต๋าของหลินหยุนได้แม้แต่กระบวนท่าเดียว

“ไม่เลว” หลินหยุนพูดด้วยเสียงเรียบๆ

“เอาอีกรอบ!”

“กระบวนท่าที่สอง ท่าแยกน้ำ!”

เหล่าจู่ตระกูลโม่หวาดกลัวในใจ “ใครเป็นคนเลี้ยงดูเจ้าหนุ่มนี่จนกลายมาเป็นสัตว์ประหลาดแบบนี้! ยังมีกระบวนท่าของเขาอีก ทำไมถึงแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้!”

“ทุกกระบวนท่ามีความแข็งแกร่งพอๆกับจิตกระบี่ชิงมู่ที่ข้าใช้เวลาเป็นร้อยปีกว่าจะหยั่งถึง แถมมันยังเหนือกว่าเล็กน้อย!”

“เขาดูแล้วก็เป็นแค่ชายหนุ่มที่มีอายุประมาณยี่สิบต้นๆ เขาทำแบบนี้ได้ยังไงกันแน่!”

แต่ว่า ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เหล่าจู่ตระกูลโม่จะมานั่งครุ่นคิด การโจมตีนี้ของหลินหยุน แข็งแกร่งมากกว่าการโจมตีครั้งที่แล้วสักอีก

เหล่าจู่ตระกูลโม่จำเป็นต้องใช้พลังทั้งหมดเพื่อรับมือ

บูม!

ครั้งนี้ ชี่และเลือดที่อยู่ข้างในร่างของเหล่าจู่ตระกูลโม่เกิดความปั่นป่วนขึ้นมา แต่ว่า ยังไม่ทันรอให้เขาตั้งตัว เสียงเรียบๆของหลินหยุนก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง “ค้อนดาวร่วง!”

เหล่าจู่ตระกูลโม่ยังไม่ทันได้ฟื้นฟูชี่แท้ที่กำลังปั่นป่วนอยู่ในร่างกาย เงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกว่าจู่ๆบนท้องฟ้าก็มีกลิ่นอันตรายโผล่ออกมา ก็เหมือนกับภูเขายักษ์ที่มองไม่เห็น กำลังร่วงใส่หัวตัวเอง

“โอ้ย!”

เหล่าจู่ตระกูลโม่ร้องด้วยเสียงแปลกประหลาด ปล่อยหมัดใส่ท้องฟ้าที่อยู่เหนือหัวตัวเอง

บูม!

เหล่าจู่ตระกูลโม่โดนกดทับจนติดกับพื้น สนามหญ้าที่อยู่ข้างหน้าตึก เกิดหลุดยักษ์ที่ลึกประมาณสิบเมตร

เหล่าจู่ตระกูลโม่ยืนอยู่ตรงกลางหลุดด้วยเสื้อผ้าที่ฉีกขาด ดูเสียหน้าเป็นอย่างมาก

เหล่าจู่ตระกูลโม่จ้องมองหลินหยุนด้วยความหวัดกลัว การบำเพ็ญที่อยู่ในร่างแทบไม่เหลือ

“กระบวนท่าแบบนี้ เขายังมีอีกกี่กระบวนท่า? น่าจะไม่มีแล้ว!”

พอความคิดนี้เกิดขึ้นในหัว เสียงเรียบๆของหลินหยุนก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง

“พลิกฟ้าผ่าตะวัน!”

“อะไรกัน? ยังมีอีกเหรอ!” ใบหน้าของเหล่าจู่ตระกูลโม่เต็มไปด้วยความดุร้าย ครั้งนี้เขาไม่กล้ารับซึ่งๆหน้าอีกแล้ว พุ่งกระโดดออกจากหลุดยักษ์ เพื่อหลบไปยังข้างๆ

แต่ว่า ถึงแม้เขาจะหลบการโจมตีที่อยู่ตรงหน้าได้ แต่ก็ยังไม่สามารถหลบได้ทั้งหมดอยู่ดี

ร่างทั้งร่างโดนซัดจนปลิวออกไป กระแทกเข้ากับหน้าต่างของตึก แล้วหล่นอยู่ตรงตึก ไม่รู้เป็นหรือตาย

“ท่านเหล่าจู่!”

โม่ซิวอู่ตะโกนออกมาด้วยความตกใจ

สีหน้าของผู้อาวุโสสามเองก็เต็มไปด้วยความตกใจ “แม้แต่ท่านเหล่าจู่ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา บนโลกนี้ ยังมีใครสามารถเอาชนะเขาได้อีก!”

หลินหยุนจ้องมองโม่ซิวอู่และผู้อาวุโสสาม แล้วพูดด้วยเสียงเรียบๆว่า “พวกเจ้ายังมีไพ่ตายอะไรอีก?”

“ถ้าเกิดไม่มี งั้นก็ตายซะ!”

หลินหยุนไม่เคยเป็นคนใจบุญ เจ้าสองคนนี้คิดหาวิธีฆ่าเขามาโดยตลอด แถมยังโลภมาก อยากจะขังเขาไว้ที่นี่ เพื่อบีบบังคับให้เขามอบเพลงฝึกและสูตรปรุงยา

สมควรตาย!

โม่ซิวอู่พูดด้วยเสียงเย็นชา “ในเมื่อสู้เจ้าไม่ได้ จะฆ่าจะแกง ก็แล้วแต่เจ้า!”

ผู้อาวุโสสามไม่ได้มีความกล้าแบบนี้ เมื่อกี้ตอนที่เหล่าจู่พ่ายแพ้ ส่งผลกระทบกับเขาเป็นอย่างมาก

ผู้อาวุโสสามคุกเข่าลงตรงหน้าของหลินหยุน แล้วร้องขอชีวิต “อย่าฆ่าข้าเลย ข้ายอมแพ้แล้ว!”

โม่ซิวอู่ตะโกนด้วยความโมโห “เจ้า เจ้าช่างไร้ยางอายซะจริง!”

หลินหยุนไม่ได้ยอมรับการยอมแพ้ของเขา และก็ไม่ได้ลงมือสังหารโม่ซิวอู่ แต่จู่ๆก็หันไปมองตึกด้วยสีหน้าจริงจัง จ้องมองสถานที่ที่เหล่าจู่ตระกูลโม่หายไป

ออร่าที่น่ากลัว จู่ๆก็พุ่งออกมาทั่วทิศทางอย่างบ้าคลั่ง

ต้นไม้ใบหญ้านับไม่ถ้วนที่อยู่รอบๆเติบโตขึ้นอย่างบ้าคลั่ง ต้นหญ้าที่ยาวแค่หนึ่งนิ้ว เพียงพริบตาเดียว ก็สูงประมาณครึ่งหนึ่งของคน

แต่ว่า ต้นไม้ยักษ์เขียวชอุ่มที่อยู่รอบๆ และป่าทึบนั้น จู่ๆก็เหี่ยวเฉาอย่างรวดเร็ว

เพียงพริบตาเดียว ต้นไม้ที่อยู่ในรัศมีร้อยเมตร จู่ๆก็เหี่ยวเฉาตายไปจนหมด กลายเป็นเศษขี้เถ้า ต้นไม้นับหมื่นต้น เหี่ยวเฉาราวกับฤดูหนาวที่มาอย่างกะทันหัน

ข้างล่างผืนดิน ดูเหมือนจะมีพลังชีวิตที่ยิ่งใหญ่ กำลังตื่นขึ้นมา

ในตึก เหล่าจู่ตระกูลโม่กุมร่างที่บาดเจ็บ แล้วเดินออกมา

หลินหยุนไม่แสดงสีหน้าใดๆ ถามด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “เจ้าทำอะไรลงไป?”

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

Status: Ongoing

มหากษัตริย์ชางฉองหลินหยุนที่ปราบปรามสามโลกไถ่บาปไม่สำเร็จ เกิดใหม่กลับสู่โลกมนุษย์เป็นเขยแต่งเข้าบ้าน ชาติปางก่อน ได้เมียที่สวยเซ็กซี่ดูเป็นผู้ใหญ่กลับครอบครองไม่ได้ ชาตินี้ หลินหยุนจะทำยังไง……ชาติก่อน เขาเป็นคนไร้ความสามารถที่ใครๆต่างดูถูก ชาตินี้ เขาเป็นหมอเทพหลินในวงการแพทย์ ตาทิพย์หลินในวงการของโบราณ อาจารย์หลินในวงการฮวงจุ้ย และหลินชางฉองในวงการบู๊ เมื่อเขากลับมาสู่เทวโลกอีกครั้ง พบว่าเทวโลกมีการเปลี่ยนแปลง หลายคนที่กำลังไถ่บาปรวมตัวกัน พวกเขาจะทำได้ดั่งใจหวังหรือไม่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท