จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – บทที่ 645 นี่ถึงจะเป็นนักแสดงตัวจริง

บทที่ 645 นี่ถึงจะเป็นนักแสดงตัวจริง

เสียดายที่ว่า หลันโร่หลินไม่ได้สนใจคำพูดป้อยอพวกนี้เลย พูดด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “ ฝีปากของผู้จัดการจางไม่เลวเลยนะ แต่ว่า ตอนนี้น่าจะเป็นเวลาทำงาน คุณพาพนักงานของบริษัทมารุมล้อมที่หน้าเคาน์เตอร์ คิดจะทำอะไรกันเหรอ?”

“ถ้าคุณไม่สามารถจะรับหน้าที่ตำแหน่งนี้ได้ ฉันขอแนะนำคุณไปหางานเกี่ยวกับการค้าขาย เป็นเซลล์ขายของจะดีกว่า อย่างนั้นจะทำให้คุณแสดงความสามารถทางด้านการพูดได้อย่างเต็มที่เลย”

ผู้จัดการจางตกใจ รีบพูดอย่างนอบน้อมด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า “ท่านประธานหลันพูดเล่นแล้ว ทุกคนที่มารวมกันอยู่ที่นี่ ความจริงแล้วเพราะว่าเกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อย”

“โปรดฟังผมอธิบายก่อน”

ผู้จัดการจางจึงเล่าเรื่องเหตุการณ์ที่หลินโร่สุ่ยมาจราจรตกลงร่วมงานกับเขา แต่ว่า สำหรับเรื่องที่เขาลวนลามหลินโร่สุ่ยนั้น กลับไม่ได้พูดถึงเลยแม้แต่คำเดียว

เรื่องที่พูดนั้นเหมือนกับว่าเขามีคุณธรรมมากขนาดไหน เพื่อผลประโยชน์ของบริษัทแล้ว ได้ปฏิเสธหลินโร่สุ่ยไป หลังจากนั้นกลับถูกหลินโร่สุ่ยใช้กำลังประทุษร้ายข่มขู่

แต่ว่า เขายังคงกล้าหาญชาญชัยไม่เกรงกลัวใดๆ ยังคงปฏิเสธไม่ยอมสยบต่อการใช้ความรุนแรงเช่นนี้ของหลินโร่สุ่ย

เด็กสาวที่สวยสดใสคนหนึ่งอย่างเช่นหลินโร่สุ่ย ถึงกับถูกเขาพูดจนกลายเป็นจอมมารร้าย หวงชื่อเหริน ไปแล้ว

หลันโร่หลินตอนนี้ เพิ่งจะสังเกตเห็นคนที่ยืนอยู่ด้านข้าง

เมื่อสายตาของเธอได้เห็นหลินหยุนแล้ว ถึงกับอึ้งไปทันที

ตอนที่อยู่ซีเป่ย ขณะที่หัวหยา กรุ๊ปได้จัดงานพิธีการเทคโอเวอร์บริษัทเกนเนอร์ และบริษัทหวนตี้นั้น หลันโร่หลินได้มีโอกาสเห็นฉากที่หลินหยุนแสดงปาฏิหาริย์ด้วยตาตัวเอง

อีกทั้งความประทับใจที่มีต่อหลินหยุนนั้นฝังอยู่ในความทรงจำของประธานหลันสาวสวยคนนี้อย่างไม่รู้ลืม

มิหนำซ้ำยังไม่มีวันจะจางหายไปจากความทรงจำตลอดชั่วชีวิตนี้อีกด้วย

แน่นอนหลินหยุนก็จดจำผู้จัดการสาวสวยคนนี้ได้เช่นกัน

ตอนแรกหยางหยิงเป็นคนที่แนะนำให้พวกเขาสองคนรู้จักกัน เดิมทีจุดประสงค์ของหยางหยิงคือคิดอยากจะให้หลินหยุนช่วยดูแลเพื่อนสาวคนสนิทของเธอคนนี้

คิดไม่ถึงว่าหลันโร่หลินเมื่อได้พบกับหลินหยุนแล้ว กลับรับประกันเป็นมั่นเป็นเหมาะอย่างไม่ต้องคิดเลยว่า จะช่วยดูแลหลินหยุนอย่างเต็มที่

แต่สุดท้ายเมื่อฐานะของหลินหยุนถูกเปิดเผยแล้ว หลันโร่หลินจึงรู้ว่า แท้จริงแล้ว น้องชายที่ตัวเองคิดจะช่วยดูแลนั้น เป็นถึงเจ้านายใหญ่ของตัวเอง

แน่นอนที่ว่า ตอนนี้หลันโร่หลินก็ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานบริษัทหวนตี้คนใหม่แล้ว เพราะว่าประธานคนเดิมเฉิงจิ่งว่างได้พูดดูถูกเหยียดหยามหลินหยุนไว้ ถึงแม้รู้ว่าหลินหยุนไม่เอาเรื่องเขาก็ตาม เขาก็ไม่มีหน้าที่จะอยู่ต่อไปได้อีก

ดังนั้น จึงได้ขายหุ้นที่ถือในมือออกไป แล้วก็ลาจากไป

หลังจากที่สาวสวยหลันมารับตำแหน่งแล้ว ก็เริ่มปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเป็นการใหญ่ คราวนี้ก็ถึงคิวของบริษัทย่อยที่จงโจวแล้ว ดังนั้น อาศัยโอกาสที่ประธานเหยียนไปประชุมที่สำนักงานใหญ่ จึงได้ดักพบกับประธานเหยียนด้วยตัวเอง เพื่อเข้ามาตรวจสอบภายในบริษัทย่อยที่จงโจวด้วย

สายตาของหลันโร่หลินที่ได้มองเห็นหลินหยุนในชั่วพริบตานั้น มันช่างสับสนเหลือเกิน คาดว่าต่อให้แสงสว่างที่เปล่งประกายออกมาจากดวงดาวนับร้อยล้านดวงทั้งหมดมารวมอยู่ด้วยกันก็ไม่สามารถที่จะบรรยายได้

เธอเตรียมจะเดินเข้าไปทักทายหลินหยุน แต่ว่าเมื่อคิดดูอีกที ก็อดกลั้นเอาไว้

ถ้าเปิดเผยฐานะของหลินหยุนก่อนเวลาอันควรแล้ว งั้นโฉมหน้าที่แท้จริงของคนอย่างผู้จัดการจางพวกนี้ เธอก็จะไม่ได้เห็นแล้ว

อีกทั้งก็ยังจะทำให้หลินหยุนได้เห็นสภาพที่แท้จริงของบริษัทหวนตี้อีกด้วย

หวังว่าในอนาคตหลินหยุนจะสนับสนุนเธอในการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ต่อไป

หลินหยุนก็ย่อมไม่ไปทักทายเธอก่อนอย่างแน่นอน ในเมื่อหลันโร่หลินมาถึงแล้ว งั้นเรื่องทุกอย่างก็น่าจะจัดการได้ง่ายขึ้น

อีกทั้งเขาคิดว่าเป็นโอกาสดีที่ทำให้หลันโร่หลินได้เห็นว่า ลูกน้องฝ่ายบริหารของเธอนั้นเป็นพวกเศษสวะอย่างไร

เพียงแต่ว่าผู้จัดการจางยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย ยังคงพูดจาให้ร้ายหลินหยุนอย่างไม่หยุดหย่อน

“ประธานหลันครับ เจ้าหมอนี่น่าโมโหที่สุด ไม่รู้ว่าเขาโผล่มาจากไหน ถึงกับวิ่งเข้ามาแสดงอำนาจบาตรใหญ่ในบริษัท แล้วยังจะไล่ผมออกอีกด้วย!”

“ประธานหลันครับ ท่านมาพอดีเลย ท่านต้องให้ความเป็นธรรมกับลูกน้องด้วยนะครับ! คุณดูสิบาดแผลบนใบหน้าผม ผมคิดว่ากระดูกเอ็นคงหักไปหลายเส้นแล้ว แต่ว่า ผมไม่ได้ตกลงตามที่เธอข่มขู่ไว้ ต่อให้ผมต้องตาย ผมก็ไม่มีวันที่จะทำให้บริษัทต้องเสื่อมเสีย และจะไม่ทำให้บริษัทต้องอับอายขายหน้าเป็นอันขาด”

พูดจบ ผู้จัดการจางถึงกับร้องไห้โฮขึ้นมา

หลินหยุนก็ยังรู้สึกเลื่อมใส ถ้าผู้จัดการจางเทียบกับฉันแล้ว กลับยิ่งดูเหมือนจบมาจากสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์มากกว่าเสียอีก

เทคนิคการแสดง สุดยอดไปเลย!

ประธานเหยียนก็มองไปยังหลินหยุนอย่างเยือกเย็น ตะคอกถามว่า “เจ้าหนู แกเป็นใคร? แกไม่ใช่พนักงานบริษัทของพวกเรา แกมาบริษัทพวกเราทำอะไร!”

คำพูดของประธานเหยียน เห็นได้ชัดว่าพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของหลันโร่หลิน ทำให้ความสนใจของหลันโร่หลินเปลี่ยนจากผู้จัดการจางหันมาสนใจปัญหาของผู้บุกรุกจากคนภายนอกอย่างหลินหยุนแทน

อีกทั้งประธานเหยียนที่ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ ก็ยังช่วยพูดเสริมว่า “ประธานหลันครับพนักงานของบริษัทผมรู้จักทุกคน เจ้าเด็กนี่ไม่ใช่คนของบริษัทพวกเราอย่างแน่นอน”

“น่าเจ็บใจที่สุดคือ พวกเขาถึงกับทำร้ายผู้จัดการจาง ผู้จัดการจางเป็นถึงผู้บริหารระดับสูงของบริษัทพวกเรา พฤติกรรมของสองคนนี้ ช่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายเสียจริงเลย!”

“ประธานหลันครับ คุณอยู่ที่นี่พอดี คุณจะต้องให้ความเป็นธรรมกับลูกน้อง อย่าทำให้พนักงานของบริษัทต้องเสียขวัญกำลังใจเลย!”

หลินโร่สุ่ยมองดูเหตุการณ์นี้อย่างเงียบๆ ในใจเกิดความรู้สึกช็อกสุดขีด

“เลวทรามต่ำช้ามากเลย เลวทรามจริงๆ ที่แท้คนคนหนึ่งสามารถเลวทรามได้ถึงขนาดนี้เชียว!”

สาวน้อยรู้สึกว่า เทคนิคการแสดงที่เธอได้ร่ำเรียนมาจากสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์เมื่อเทียบกับสองคนนี้แล้ว ห่างกันคนละโยชน์เลยทีเดียว

ฝีมือการแสดงของทั้งสองคนนี้ จึงจะเรียกว่ายอดเยี่ยมไม่มีที่ติ มิหนำซ้ำการแสดงของพวกเขายังทำให้ผู้คนไม่มีทางเกิดความสงสัยขึ้นมาเลย รู้สึกว่านี่เป็นเรื่องจริงทั้งนั้น

ในใจของหลันโร่หลินยิ้มเยาะเย้ย “แสดงต่อไป โชว์การแสดงของพวกคุณต่อไป อีกประเดี๋ยวถ้ารู้ฐานะของหลินหยุนแล้ว ดูสิว่าพวกแกจะทำหน้ายังไง!”

ประธานเหยียนและผู้จัดการจางทั้งสองคนพูดอยู่ครึ่งค่อนวันแล้ว แต่กลับเห็นหลันโร่หลินมองดูพวกเขาด้วยสีหน้าเยาะเย้ย ไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้อะไรเลย

ทั้งสองคนจึงรู้สึกใจคอไม่ค่อยดีแล้ว

ประธานเหยียนหัวเราะแล้วถามว่า “ประธานหลัน ท่านเห็นว่ายังไงล่ะ?”

หลันโร่หลินสีหน้าแปลกประหลาดพูดอย่างเย้ยหยันว่า “คนแบบนี้ ใจกล้าหน้าด้านจริงๆ พฤติกรรมเลวทรามต่ำช้า พวกคุณพูดต่อไปสิ ฉันกำลังฟังอยู่!”

ประธานเหยียนและผู้จัดการจางรู้สึกโล่งอกทันที น้ำเสียงของประธานหลัน เห็นได้ชัดว่ายืนอยู่ข้างพวกเขาแล้ว!

ผู้จัดการจางสีหน้าเจ้าเล่ห์พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ประธานหลันครับ ต้องขอโทษจริงๆ ท่านพึ่งมาตรวจสอบบริษัทย่อยที่จงโจว ก็ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้แล้ว หวังว่าคงไม่ส่งผลต่อสภาพจิตใจของคุณนะ”

“แต่ว่า ต่อหน้าลูกน้องมากมายเช่นนี้ ท่านก็ควรจะทำอะไรสักอย่างบ้างนะ! ไม่น่าจะยอมให้พวกหมูหมากาไก่ที่ไหนก็สามารถเข้ามาทำร้ายคนถึงบริษัทได้นะ! ถ้าเป็นอย่างนี้ทีหลังก็ไม่มีใครกล้าที่จะมาทำงานที่บริษัทพวกเราแล้วล่ะ!”

หลินโร่สุ่ยส่งเสียงฮือ แล้วพูดว่า “ความเลวทรามของพวกคุณวันนี้ฉันได้เห็นชัดเจนแล้ว แต่ว่า คนที่ทำร้ายคนคือฉัน ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลย แน่จริงพวกคุณก็เข้ามาเล่นงานฉันสิ!”

ผู้จัดการจางยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ฮื่อ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ พวกแกก็เป็นพวกเดียวกันนั่นแหละ!”

“วางใจเถอะ ตอนนี้พอดีประธานหลันพวกเรามาแล้ว พวกแกสองคน หนีไม่พ้นแม้แต่คนเดียว!”

ประธานเหยียนมองไปยังหลันโร่หลิน ถามอย่างประจบว่า “ประธานหลันครับ ในเมื่อพวกเขากล้าที่จะมาทำร้ายคนในบริษัทพวกเรา จะให้คนมาจับพวกเขาไปไหมครับ?”

หลันโร่หลินแสยะยิ้มอย่างแปลกประหลาด “ก็ควรจะจับกุมเอาไว้ มอดแมลงพวกนี้ เลี้ยงไว้ก็รังแต่เสียข้าวสุก”

ประธานเหยียนรู้สึกคำพูดของประธานหลันประหลาดชอบกล แต่ก็ไม่ได้ไปคิดอะไรมากมาย จึงตะโกนเรียกยามรักษาความปลอดภัยสองคนนั้นว่า “ยาม ยังยืนอยู่ทำไมอีกล่ะ! รีบมาจับสองคนที่ก่อเรื่องนี้ไว้สิ!”

ยามรักษาความปลอดภัยทั้งสองคนก็รีบมุ่งตรงไปยังหลินหยุนและหลินโร่สุ่ยทันที

หลินโร่สุ่ยก็ตั้งท่ารับมือต่อสู้ หลินหยุนสีหน้าเรียบเฉย ดูเหมือนไม่ได้เห็นทั้งสองคนอยู่ในสายตาเลย

ทันใดนั้น หลันโร่หลินพูดขึ้นว่า “รอเดี๋ยว!”

“พวกคุณจับผิดคนแล้วล่ะ!”

“ฉันบอกว่าให้จับมอดแมลงสองตัวของบริษัทเอาไว้”

สายตาของหลันโร่หลิน มองไปยังประธานเหยียนและผู้จัดการจาง

ทุกคนต่างตกตะลึง ยามรักษาความปลอดภัยทั้งสองคนต่างก็หันมามองหน้ากัน

ประธานเหยียนและผู้จัดการจางเป็นผู้รับผิดชอบบริษัทสาขาย่อยนี้ ทำไมจะต้องจับพวกเขาด้วยล่ะ? ประธานสาวสวยคนนี้เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?

หลันโร่หลินตะคอกด้วยเสียงเย็นชาว่า “ไม่ได้ยินที่ฉันพูดเหรอไง!”

ยามรักษาความปลอดภัยทั้งสองคนคิดช่างน้ำหนักดูสักครู่ แต่ว่า ก็เลือกตัดสินใจได้เร็วมาก

ประธานบริษัทสำนักงานใหญ่มาถึงที่นี่แล้ว ย่อมจะต้องเชื่อฟังคำพูดของเธอสิ!

ยามรักษาความปลอดภัยทั้งสองคนจึงเดินตรงเข้าไป จับกุมประธานเหยียนและผู้จัดการจางเอาไว้

สีหน้าของทั้งสองคนตกตะลึงมึนงง ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

Status: Ongoing

มหากษัตริย์ชางฉองหลินหยุนที่ปราบปรามสามโลกไถ่บาปไม่สำเร็จ เกิดใหม่กลับสู่โลกมนุษย์เป็นเขยแต่งเข้าบ้าน ชาติปางก่อน ได้เมียที่สวยเซ็กซี่ดูเป็นผู้ใหญ่กลับครอบครองไม่ได้ ชาตินี้ หลินหยุนจะทำยังไง……ชาติก่อน เขาเป็นคนไร้ความสามารถที่ใครๆต่างดูถูก ชาตินี้ เขาเป็นหมอเทพหลินในวงการแพทย์ ตาทิพย์หลินในวงการของโบราณ อาจารย์หลินในวงการฮวงจุ้ย และหลินชางฉองในวงการบู๊ เมื่อเขากลับมาสู่เทวโลกอีกครั้ง พบว่าเทวโลกมีการเปลี่ยนแปลง หลายคนที่กำลังไถ่บาปรวมตัวกัน พวกเขาจะทำได้ดั่งใจหวังหรือไม่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท