จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – บทที่ 668 คำเชิญชวนของหลินโร่สุ่ย

บทที่ 668 คำเชิญชวนของหลินโร่สุ่ย

หลินหยุนมองไปที่เจี่ยงหลินหลิน ทันใดนั้นก็ถามขึ้นว่า “ถ้าให้เธอช่วยฉันดูแลตระกูลเจี่ยง เธอเต็มใจไหม?”

เจี่ยงหลินหลินตกตะลึง และมองไปที่หลินหยุนอย่างเหลือเชื่อ

หลังจากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เจี่ยงหลินหลินมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น

เธอรู้ว่าหลินหยุนไม่ได้ล้อเล่นกับเธอ หลินหยุนต้องการให้เธอมาดูแลตระกูลเจี่ยงจริงๆ

เจี่ยงหลินหลินพูดด้วยใบหน้าที่จริงจัง “ถ้าคุณวางใจที่จะมอบตระกูลเจี่ยงให้ฉันดูแล ฉันย่อมเต็มใจ”

เรื่องในครั้งนี้ ทำให้เจี่ยงหลินหลินเข้าใจว่า เมื่อสูญเสียพลังอำนาจ มันก็ด้อยค่าจนแม้แต่สุนัขก็เทียบไม่ได้

อย่างน้อยที่สุด ก็ไม่มีใครไปทรมานสุนัข แต่ว่า มีสัตว์เดรัจฉานมากมาย ที่ชอบทรมานผู้หญิงคนหนึ่ง!

หลินหยุนไม่มีอะไรต้องกังวล ประสบการณ์ของเจี่ยงหลินหลิน แม้จะไม่ทำให้เธอเกลียดชังตระกูลเจี่ยงจนเข้ากระดูกดำ แต่จะทำให้เธอไม่มีความรู้สึกดีๆให้กับตระกูลเจี่ยงอีกต่อไป

ดังนั้น เจี่ยงหลินหลินในตอนนี้ ไม่ใช่คนของตระกูลเจี่ยงอีกต่อไป

ยิ่งไปกว่านั้น หลินหยุนเชื่อว่า เจี่ยงหลินหลินจะไม่กล้าทรยศเขาอย่างแน่นอน

หากผ่านประสบการณ์สิ่งต่างๆมากมาย ถ้าเจี่ยงหลินหลินยังมีจิตใจอกุศล ถ้าเช่นนั้นเธอไม่ใช่คนฉลาด แต่โง่เขลา

“ฉันเชื่อเธอ” หลินหยุนพูดเบาๆ

เจี่ยงหลินหลินส่ายหัว “นายเชื่อฉันยังไม่เพียงพอ ถ้านยจากไปแล้ว ฉันไม่สามารถควบคุมคนเหล่านั้น และบางทีฉันอาจจะถูกพวกเขาทำร้ายอีก”

หลินหยุนพูดว่า “เธอวางใจ ฉันจะให้ ปรมาจารย์ชิงอยู่ที่นี่คอยช่วยเหลือเธอ”

เจี่ยงหลินหลินพยักหน้า”ตกลง มีปรมาจารย์ชิงอยู่ด้วย ฉันสามารถช่วยนายควบคุมดูแลตระกูลเจี่ยง”

ปรมาจารย์ชิงท่านนั้นยังไม่กล้าจากไป ไม่ได้รับอนุญาตจากหลินหยุน เขายังคงรออยู่ที่บ้านตระกูลเจี่ยง

ความเกรงกลัวต่อปรมาจารย์สำหรับคนทั่วไปนั้น ไม่มากเท่านักบู๊ ในฐานะที่เป็นคนในโลกบู๊เท่านั้น ที่สามารถเข้าใจได้ว่าปรมาจารย์นั้นมีพลังอำนาจขนาดไหน

หลินหยุนให้ปรมาจารย์ชิงอยู่ช่วยเจี่ยงหลินหลิน ปรมาจารย์ชิงไม่กล้าปฏิเสธแน่นอน นอกจากนี้ หลินหยุนยังช่วยเขาปรับเปลี่ยนวิธีการฝึกฝนของเขาด้วย

ยิ่งทำให้ปรมาจารย์ชิงประหลาดใจมาก และชื่นชมหลินหยุนอย่างสุดซึ้ง

หลังจากวางแผนจัดการเรียบร้อย หลินหยุนก็เรียกเจี่ยงหลินหลินไปที่ออฟฟิตเพียงลำพัง

“ในอนาคตเรื่องของตระกูลเจี่ยง เธอใช้อำนาจจัดการได้เต็มที่ และไม่จำเป็นต้องรายงานต่อฉัน”

เจี่ยงหลินหลินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ไม่คาดคิดว่าหลินหยุนจะเชื่อใจเธอขนาดนี้

เจี่ยงหลินหลินพยักหน้า “เข้าใจแล้ว!”

หลินหยุนพูดอีกครั้ง “หากพบเจอปัญหาที่แม้แต่ปรมาจารย์ชิงยังแก้ไขไม่ได้ เธอค่อยแจ้งบอกฉัน”

“ค่ะ!” เจี่ยงหลินหลินตอบและโค้งคำนับ

หลังจากสั่งงานเรียบร้อย หลินหยุนก็เตรียมพร้อมที่จะจากไป

ยังมีเวลาอีกหนึ่งเดือนก่อนงานประจำปีของตระกูลหลิน เดือนนี้ หลินหยุนจะรวบรวมการฝึกฝนให้แน่นขึ้น เตรียมพร้อมสำหรับการสร้างตัวอ่อนยาทอง

เพียงแต่ว่า ขณะที่หลินหยุนกำลังจะกลับไปที่คฤหาสน์เย่หยาหู หลินโร่สุ่ยก็โทรหาเขา

ครั้งก่อนที่ได้พบกับหลินโร่สุ่ย หลินหยุนได้ให้หมายเลขโทรศัพท์มือถือกับเธอ

น้ำเสียงของหลินโร่สุ่ยกังวลใจ “หลินหยุน ช่วงนี้คุณว่างไหม?”

จากน้ำเสียงของหลินโร่สุ่ยหลินหยุนสามารถเดาได้ว่า เธอคงมีธุระต้องการขอความช่วยเหลือจากตัวเอง

“มี” คำตอบของหลินหยุนนั้นเรียบง่าย เช่นเดียวกับนิสัยของเขา

หลินโร่สุ่ยทำเสียงสูงเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าตื่นเต้น “ถ้าอย่างนั้นอีกสองสามวันคุณเป็นเพื่อนไปงานเลี้ยงค็อกเทลกับฉันได้ไหม?”

ราวกับว่ากังวลว่าหลินหยุนจะปฏิเสธ หลินโร่สุ่ยหลินรีบพูดเสริมว่า “เป็นงานเลี้ยงค็อกเทลชนชั้นสูงที่กลุ่มหนุ่มสาวจัดขึ้น พวกเขาไม่เคยเชิญฉันมาก่อน เพราะฉันไม่มีคุณสมบัติพอ นี่เป็นครั้งแรกที่เชิญฉัน ฉันรู้สึกกังวลเล็กน้อย”

ตามคำพูดของหลินโร่สุ่ย หลินหยุนก็เข้าใจทันที คงเป็นเพราะตัวเองให้พวกนายท่านเสี้ยงไปอุดหนุนหลินโร่สุ่ย ทำให้คนบางคนเข้าใจผิดคิดว่าหลินโร่สุ่ยรู้จักคนใหญ่คนโต

ดังนั้น จึงเริ่มให้ความสำคัญกับหลินโร่สุ่ย และจัดให้เธอเข้าแวดวงชนชั้นสูง

หากหลินหยุนเดาไม่ผิด แวดวงที่เรียกว่าชนชั้นสูงนี้ คงประกอบไปด้วยคนหนุ่มสาวที่มีความสามารถค่อนข้างสูง

ไม่พูดก็รู้แล้วว่า หลินโร่หลันกับหลินโล่เฉิน คงต้องอยู่ในกลุ่มนี้แน่นอน

เป็นครั้งแรกที่หลินโร่สุ่ยไปงานเลี้ยงค็อกเทลแบบนี้ และจะต้องถูกรังแกอย่างแน่นอน

เพียงแต่ว่า ในเวลานี้เธอสามารถนึกถึงหลินหยุน จะเห็นได้ว่า ความรู้สึกที่สาวน้อยมีต่อหลินหยุน ไม่ธรรมดา

อันที่จริง งานเลี้ยงค็อกเทลแบบนี้ เดิมทีหลินโร่สุ่ยไม่ได้คิดจะเข้าร่วม

อย่างไรก็ตาม เธอมีแผนของเธอเอง เธอต้องการใช้โอกาสในงานค็อกเทลนี้ เพื่อให้ได้ใกล้ชิดหลินหยุน เพื่อดูว่าคุณหลินผู้ลึกลับคนนี้ คือหลินหยุนหรือเปล่า

หลินหยุนพูดเบาๆ “ตกลง ฉันจะไปกับคุณ”

“เยี่ยมมาก!” น้ำเสียงของหลินโร่สุ่ยดีใจมาก หลินหยุนสามารถสัมผัสได้ผ่านทางโทรศัพท์

หลังจากผ่านไปสักพัก หลินโร่สุ่ยอารมณ์เย็นลง และพูดว่า “ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน? พรุ่งนี้ฉันไปรับคุณไหม?”

หลินหยุนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และพูดว่า “พรุ่งนี้เธอไปรอฉันที่หน้าประตูบริษัทตงหวางกรุ๊ป”

“โอเค ถ้างั้นก็นัดกันแล้วนะ ไม่เจอไม่กลับ!” หลินโร่สุ่ยพูดอย่างขี้เล่น ราวกับว่ากลัวหลินหยุนจะกลับคำ”

“ไม่เจอไม่กลับ” หลินหยุนพูด

หลังจากวางสายแล้ว หลินหยุนก็ล้มเลิกที่จะกลับไปที่คฤหาสน์เย่หยาหู ในชาติที่แล้วหลินหยุนเป็นหนี้บุญคุณหลินโร่สุ่ย ในชาตินี้ หลินหยุนพยายามเอาใจเธอให้มากที่สุด

หลินหยุนกลับไปที่จงโจว ไปพักที่ซูจื่อเหลียงหนึ่งคืน และวันรุ่งขึ้นก็ไปที่บริษัทตงหวางกรุ๊ป

เมื่อหลินหยุนมาถึงบริษัทตงหวางกรุ๊ป หลินโร่สุ่ยรอหลินหยุนอยู่แล้ว

“พี่!”

หลินโร่สุ่ยลงจากรถออดี้สีขาว และทักทายหลินหยุนด้วยรอยยิ้ม

“พี่?”หลินหยุนขยับลูกตา ชื่อที่หลินโร่สุ่ยเรียกทักทาย มันดูแปลกๆเล็กน้อย

หลินโร่สุ่ยรีบอธิบายว่า “ฉันได้ยินมาว่าท่านประธานหวางของบริษัทตงหวางกรุ๊ป รับคุณเป็นลูกบุญธรรมเหรอ!”

“ฉันเรียกท่านประธานหวางว่าคุณป้า ดังนั้น นับจากนี้ไปคุณก็เป็นพี่ชายของฉันแล้ว”

หลินหยุนคิดในใจ “ที่แท้คุณแม่ได้นำข่าวนี้ แพร่ออกไป”

สำหรับการกระทำเช่นนี้ของหวางซูเฟิน หลินหยุนสามารถเข้าใจความลำบากใจของหวางซูเฟิน

คนในตระกูลหวางฝั่งนั้น น่าจะกลายเป็นศัตรูกันแล้ว อย่างไรก็ตาม ทางฝั่งญาติของหลินตงหัว ยังมีอีกเยอะ

หวางซูเฟินทำเช่นนี้ เพราะเขาต้องการให้คนในตระกูลหลิน ยอมรับหลินหยุนก่อน

เพียงแต่ว่า คนของตระกูลหลินจะยอมรับตัวเองหรือไม่นั้น หลินหยุนไม่ได้สนใจ เขาสนใจแค่คนไม่กี่คนเท่านั้น และเขาเชื่อว่าคนไม่กี่คนนั้นจะต้องยอมรับเขาแน่นอน

สำหรับคนอื่นๆ นับประสาอะไรกับที่เขาเป็นแค่ลูกบุญธรรมหวางซูเฟิน แม้ว่าเขาจะเป็นลูกชายแท้ๆของหวางซูเฟินแล้วจะทำอะไรได้?

ในชาติที่แล้ว ก็ถูกคนในตระกูลหลินดูถูก และถูกรังแกมาตลอด

ไม่น่าแปลกใจที่หลินโร่สุ่ยต้องการให้ตัวเองไปเป็นเพื่อน ดูเหมือนว่า นี่คงเป็นปัจจัยหนึ่งเช่นกัน

เมื่อมองไปที่หลินโร่สุ่ยที่ตื่นเต้นเล็กน้อย หลินหยุนอมยิ้มและพูดว่า “เธอไม่รังเกียจพี่ชายคนนี้ก็ดีมากแล้ว”

“ไม่หรอก? ไปกันเถอะ! ฉันจะพาคุณไปที่บริษัทของฉันก่อน”

หลินโร่สุ่ยดึงหลินหยุนขึ้นรถอย่างสนิทสนม จากนั้นไปที่บริษัท โร่สุ่ย เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด

บริษัท โร่สุ่ย เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัดในปัจจุบัน มีขนาดค่อนข้างใหญ่ เนื่องจากนายท่านเสี้ยงและคนอื่นๆได้มาอุดหนุนหลินโร่สุ่ยเป็นการส่วนตัว บริษัทบริษัท โร่สุ่ย เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัดยังไม่ได้เริ่มดำเนินการ ก็กลายเป็นที่นิยมในวงการบันเทิงแล้ว

เพราะหลินหยุน มีคนมากมายริเริ่มที่จะมาช่วยเหลือหลินโร่สุ่ย แม้กระทั่งภายใต้งานของหลินโร่สุ่ย ก็มีดาราแถวหน้าหลายคนเข้าร่วมด้วย

แม้ว่าจะอยู่ในอันดับหนึ่งในสิบของบริษัท เอ็นเตอร์เทนเมนท์ในประเทศจีน สามารถมีดาราระดับแถวหน้าหนึ่งคนก็สุดยอดแล้ว

และบริษัท โร่สุ่ย เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัดแบบนี้ยังไม่ได้ดำเนินการก็มีดาราแถวหน้าเข้าร่วม มันเป็นปาฏิหาริย์ในวงการนี้จริงๆ

แน่นอนว่า หลินโร่สุ่ยรู้ดีว่า ทั้งหมดนี้ เกิดจากคุณหลินผู้ลึกลับคนนั้น

“เชิญเข้ามา!” หลินโร่สุ่ยนำทางหลินหยุน

ทั้งสองมาถึงออฟฟิตของหลินโร่สุ่ย หลินโร่สุ่ยเหมือนผึ้งตัวเล็กๆ รีบรินชาให้หลินหยุน และทักทายหลินหยุน

หลินหยุนมองดูเธอที่กำลังยุ่งมาก อมยิ้มและพูดว่า “ไม่ต้องรีบร้อน ฉันดื่มน้ำอุ่นก็พอ”

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

Status: Ongoing

มหากษัตริย์ชางฉองหลินหยุนที่ปราบปรามสามโลกไถ่บาปไม่สำเร็จ เกิดใหม่กลับสู่โลกมนุษย์เป็นเขยแต่งเข้าบ้าน ชาติปางก่อน ได้เมียที่สวยเซ็กซี่ดูเป็นผู้ใหญ่กลับครอบครองไม่ได้ ชาตินี้ หลินหยุนจะทำยังไง……ชาติก่อน เขาเป็นคนไร้ความสามารถที่ใครๆต่างดูถูก ชาตินี้ เขาเป็นหมอเทพหลินในวงการแพทย์ ตาทิพย์หลินในวงการของโบราณ อาจารย์หลินในวงการฮวงจุ้ย และหลินชางฉองในวงการบู๊ เมื่อเขากลับมาสู่เทวโลกอีกครั้ง พบว่าเทวโลกมีการเปลี่ยนแปลง หลายคนที่กำลังไถ่บาปรวมตัวกัน พวกเขาจะทำได้ดั่งใจหวังหรือไม่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท