จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – บทที่ 894 กระจอกมากๆ

บทที่ 894 กระจอกมากๆ

จู่ๆทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็เงียบทันที

สีหน้าของทุกคนทั้งอึ้งและไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้ยิน

รวมทั้งผู้ตัดสินที่อยู่ด้านบนและป่ายหลี่เถ่ด้วย

ผ่านไปสักพัก ป่ายหลี่เถ่ได้สติคืนมาและมองไปที่หลินหยุน เขาพูดด้วยรอยยิ้ม:”คุณอยากท้าประลองฉันเหรอ?”

หลินหยุนพยักหน้าด้วยสีหน้าปกติ

จู่ๆ ทุกคนที่อยู่ข้างล่างก็หัวเราะออกมาทันที

“ฮ่าๆๆ เด็กหนุ่มคนนี้ นึกว่าตัวเองผ่านสามด่านได้ และได้รับคำชื่นชมจากเจ้าสำนักยาตันเพียงไม่กี่คำ ก็รู้สึกว่าตัวเองร้ายกาจ เป็นคนที่ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำจริงๆ!”

“เขากล้ามากที่กล้าท้าประลองกับเจ้าสำนักยาตัน!”

“เด็กหนุ่ม คุณรู้หรือเปล่า เจ้าสำนักยาตันคือยอดฝีมืออันดับหนึ่งของโลกกลั่นยา!”

“คุณอยากจะท้าประลองกับเขา กลับไปฝึกอีกหนึ่งร้อยปีก่อน!”

ผู้ตัดสินที่อยู่ด้านบนก็หัวเราะออกมาทันที

“เด็กหนุ่มคนนี้ เหมือนลูกวัวที่พึ่งเกิดและไม่เกรงกลัวเสือเลย! เขาไม่รู้จักประมาณตนและยังกล้าไปท้าประลองกับป่ายหลี่เถ่!”

“ถ้าผ่านไปสามสิบปี บางทีเขาอาจจะมีโอกาสเอาชนะป่ายหลี่เถ่ได้ แต่ตอนนี้เขายังหนุ่มเกินไป”

ผู้ตัดสินแซ่กู่มีสีหน้าที่เคร่งขรึม:”ใช่ คนที่ไม่เกรงกลัวอำนาจและยังกล้าท้าประลองกับเจ้าสำนักยาตัน เด็กหนุ่มคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ!”

“แต่เขาใจร้อนมากเกินไป ถ้าทำแบบนี้จะทำให้ป่ายหลี่เถ่ไม่พอใจเขามากๆ จากนั้นป่ายหลี่เถ่ก็จะหาวิธีกำจัดเขาทิ้ง!”

จู่ๆผู้ตัดสินแซ่กู่ก็ลุกขึ้นมา เดินไปที่ด้านหลังของป่ายหลี่เถ่ เขาพูดด้วยรอยยิ้ม:”เด็กหนุ่มอย่างสร้างชื่อเสียงให้ตนเอง มันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย!”

“เจ้าสำนักป่ายหลี่เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง คุณคงไม่ถือสากับคำพูดของเด็กหนุ่มคนนั้นใช่ไหม”

“ท้าประลองคู่ต่อสู้ที่คุณคิดว่าจะเอาชนะเขาได้ อย่าคิดแต่ทำเรื่องที่สร้างชื่อให้ตัวเองอย่างเดียว”

ผู้ตัดสินแซ่กู่ต้องการปกป้องหลินหยุน เขาก็หวังว่าป่ายหลี่เถ่จะไม่โกรธและเกลียดหลินหยุน

แต่เขากลับไม่รู้พลังที่แท้จริงของหลินหยุน

“ไม่จำเป็น ฉันมาที่นี่ ก็เพื่อท้าประลองกับเขา”

“ใช่แล้ว ฉันมาในฐานะตัวแทนของหุบเขาเทพยา”

“ฉันจะเอาบันทึกเตากลั่นยาไปคืนให้กับหุบเขาเทพยา”

หลินหยุนพูดฐานะที่แท้จริงและจุดประสงค์ของตัวเองออกมาทันที

โม่จือมิ่งตกใจมากๆ เขาอยากจะหยุดหลินหยุนไว้ แต่ทุกอย่างก็สายไปแล้ว

เขาทำได้แค่แอบกังวลใจ:”แย่แล้ว ปรมาจารย์หลินได้พูดฐานะและจุดประสงค์ทั้งหมดออกมา ป่ายหลี่เถ่ต้องระแวดระวังตัวมากขึ้นแน่นอน”

“ตอนนี้ ถ้าต้องการเอาบันทึกเตากลั่นยาคืนมา คงเป็นเรื่องยากมากๆอย่างแน่นอน!”

อันที่จริงหลินหยุนก็เข้าใจทุกอย่างเป็นอย่างดี

เมื่อได้ยินว่าหลินหยุนเป็นตัวแทนของหุบเขาเทพยา สีหน้าของผู้ตัดสินเหล่านั้นก็เปลี่ยนไปทันที

“เขาเป็นคนของหุบเขาเทพยา!”

“เป็นไปได้ยังไง! หุบเขาเทพยามีอัจฉริยะแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“ไม่แปลกใจเลยที่เขากล้าท้าประลองป่ายหลี่เถ่ เขาเป็นคนของหุบเขาเทพยานี่เอง เรื่องนี้ก็สมเหตุสมผลแล้ว”

สำหรับความแค้นระหว่างหุบเขาเทพยากับสำนักยาตันนั้น ผู้อาวุโสจำนวนมากของโลกกลั่นยาเคยได้ยินเรื่องนี้เหมือนกัน

ถึงแม้สำนักยาตันจะใช้แผนชั่วและทำเรื่องไม่ดีเอาไว้ แต่สำนักยาตันก็คือตัวแทนของโลกบู๊โบราณ ดังนั้นสำนักอื่นๆก็ไม่กล้าพูดอะไรไม่ดีเกี่ยวกับการกระทำของสำนักยาตัน

และในยุคสมัยนี้ เป็นยุคของผู้ชนะเป็นเจ้า ส่วนผู้แพ้เป็นโจร ผู้ชนะก็คือผู้ชนะ ไม่ว่าจะใช้แผนการสกปรกอะไรก็ตาม

ผู้ตัดสินแซ่กู่ก็อึ้งเหมือนกัน:”คุณเป็นคนของหุบเขาเทพยาจริงๆเหรอ!”

“น่าเสียดายจริงๆ!”

ผู้ตัดสินแซ่กู่รู้สึกเสียดาย สุดยอดอัจฉริยะคนนี้กลับเป็นคนของหุบเขาเทพยา

หุบเขาเทพยาคือผู้ทรยศในสายตาของสำนักกลั่นยาต่างๆในโลกบู๊โบราณ

ถึงแม้ตอนนี้พวกเขาจะไม่มีความแค้นกันแล้ว แต่สำนักกลั่นยาของโลกบู๊โบราณต่างก็ดูถูกเหยียดหยามหุบเขาเทพยา และยังรักษาระยะห่างจากหุบเขาเทพยาด้วย

ถึงแม้ผู้ตัดสินแซ่กู่จะชอบหลินหยุนมากๆ แต่เขาก็ไม่กล้ารับหลินหยุนเป็นลูกศิษย์และเป็นศัตรูกับทุกสำนักกลั่นยาของโลกบู๊โบราณ

ป่ายหลี่เถ่มองหน้าหลินหยุน จู่ๆเขาก็หัวเราะออกมา

“เป็นอย่างนี้นี่เอง!”

“ถ้าเป็นอย่างนี้ คุณก็คือตัวแทนของหุบเขาเทพยา มาที่นี่เพื่อแก้แค้นใช่ไหม?”

หลินหยุนพูดเบาๆ:”คุณจะคิดอย่างนั้นก็ได้”

ป่ายหลี่เถ่หัวเราะออกมา:”เดิมทีฉันคิดว่า คุณจะเป็นความหวังในอนาคตของโลกกลั่นยา แต่คิดไม่ถึงจริงๆว่าคุณจะเป็นลูกศิษย์ของพวกทรยศอย่างหุบเขาเทพยา!”

“แต่คุณคิดจะมาท้าประลองกับฉัน คุณยังไม่มีคุณสมบัติพอ”

หลินหยุนพูดเบาๆ:”ฉันไม่มีคุณสมบัติพอ หรือคุณไม่กล้าประลองกันแน่?”

ป่ายหลี่เถ่หัวเราะออกมา:”เด็กหนุ่ม คุณกล้าใช้แผนยั่วยุฉันเหรอ คุณคิดว่าฉันจะติดกับคุณเหรอ?”

“คุณยังไม่มีคุณสมบัติพอที่ฉันจะลงมือด้วยตัวเอง”

“แล้วต้องทำยังไงคุณถึงจะยอมลงมือด้วยตัวเองละ?”หลินหยุนถามกลับทันที

ป่ายหลี่เถ่หัวเราะอย่างเย็นชา:”เรื่องนี้ง่ายมากๆ ถ้าคุณสามารถเอาชนะลูกศิษย์ของฉันได้ คุณจะมีคุณสมบัติพอที่จะมาท้าประลองกับฉัน”

“ได้ ถ้าฉันเอาชนะลูกศิษย์ของคุณได้ พวกเราสองคนประลองกันและเดิมพันด้วยบันทึกเตากลั่นยา”หลินหยุนพูด

ป่ายหลี่เถ่หัวเราะอย่างเย็นชา:”รอคุณเอาชนะลูกศิษย์ของฉันให้ได้ก่อนแล้วพวกเราค่อยมาคุยกันเรื่องนี้!”

โม่จือมิ่งขมวดคิ้วทันที คนคนนี้เจ้าเล่ห์มากๆ เขาพูดจาปลิ้นปล้อนมากๆ ไม่เหลือช่องโหว่ให้คนอื่นโจมตี

โม่จือมิ่งคิดว่าถึงแม้หลินหยุนสามารถเอาชนะลูกศิษย์ของสำนักยาตันได้ ป่ายหลี่เถ่ก็อาจจะไม่ยอมประลองกับหลินหยุนก็ได้

“หึ เด็กหนุ่ม คนอย่างคุณยังอยากจะมาท้าประลองกับพ่อของฉัน ไปตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเองก่อน ว่าตัวเองคู่ควรไหม?”

หลังจากพูดจบ ป่ายหลี่หลงเซิ่งไม่สนใจซูม่านม่านที่พยายามหยุดเขาไว้ เขากระโดดขึ้นไปบนเวที และมองหน้าหลินหยุนด้วยสายตาที่ดูถูกเหยียดหยาม

“อย่าท้าประลองกับพ่อของฉัน เอาชนะฉันให้ได้ก่อน!”ป่ายหลี่หลงเซิ่งพูดด้วยสีหน้าหยิ่งยโส

ป่ายหลี่เถ่ขมวดคิ้วทันที เพราะความสามารถของลูกชายตัวเอง เขารู้ดีอยู่แก่ใจ

แต่ตอนนี้เขาก็ไม่ควรให้ป่ายหลี่หลงเซิ่งลงมาจากบนเวที ถึงแม้ป่ายหลี่หลงเซิ่งจะพ่ายแพ้ แต่อย่างน้อยก็สร้างชื่อเสียงให้ตัวเองได้บ้าง

ดีกว่ายอมแพ้ทั้งที่ยังไม่ได้ประลอง

หลังจากคิดอยู่ชั่วครู่ ป่ายหลี่เถ่ก็ไม่ได้เอ่ยปากหยุดการกระทำของป่ายหลี่หลงเซิ่ง

หลินหยุนไม่อยากสนใจป่ายหลี่หลงเซิ่งเลย เขามองไปที่ป่ายหลี่เถ่และถามว่า:”ถ้าฉันเอาชนะเขาได้ คุณจะรับคำท้าประลองของฉันใช่ไหม?”

ป่ายหลี่เถ่ไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจนแก่หลินหยุน เขายังคงพูดเหมือนเดิม:”เอาชนะเขาให้ได้ก่อนแล้วค่อยมาพูดกัน!”

หลินหยุนกระโดดเบาๆขึ้นไปยังเวทีทันที

“งั้นก็เริ่มได้เลย!”

ป่ายหลี่หลงเซิ่งหัวเราะด้วยความภาคภูมิใจ:”เด็กหนุ่ม อย่าโอหังมากเกินไป วันนี้ฉันจะทำให้คุณรู้ว่าพวกเราห่างกันมากแค่ไหน!”

“หาผู้ตัดสินมาคนหนึ่ง ฉันจะประลองกับเขาด้วยความยุติธรรม!”ป่ายหลี่หลงเซิ่งดีใจมากๆที่ตัวเองมีโอกาสสร้างชื่อเสียง

ผู้ตัดสินหลายๆคนขมวดคิ้วทันที คุณชายของตระกูลป่ายหลี่คนนี้ เป็นคนที่หยิ่งยโสจริงๆ พูดกับผู้ตัดสินเหมือนพูดกับลูกน้องตัวเอง

มีผู้ตัดสินไว้หนวดเคราคนหนึ่งเดินออกมาด้วยสีหน้าที่เย็นชาและไม่พอใจ

“ฉันจะเป็นผู้ตัดสินให้เอง!”

“พวกคุณจะประลองอะไร?”ผู้ตัดสินคนนั้นถาม

ป่ายหลี่หลงเซิ่งพูด:”ให้เขาเป็นคนเลือก ฉันกลัวว่าเขาจะแพ้แล้วไม่ยอมรับ!”

หลินหยุนพูดเบาๆ:”ไม่จำเป็น ใช้สิ่งที่คุณถนัดที่สุดมาประลองกับฉันได้เลย!”

ป่ายหลี่หลงเซิ่งหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์:”ฮ่าๆๆ คุณเป็นคนพูดเองนะ ทุกคนก็ได้ยินเหมือนกันใช่ไหม ถ้าเดี๋ยวคุณพ่ายแพ้ ก็อย่าหาว่าฉันรังแกคุณละกัน!”

“งั้นพวกเราก็ประลองกลั่นยาเชิญปราณ!”

เมื่อป่ายหลี่หลงเซิ่งพูดจบ ทำให้เกิดเสียงสนทนาและความปั่นป่วนขึ้นมาทันที

“ยาเชิญปราณคือโอสถระดับสอง คุณชายป่ายหลี่สามารถกลั่นยาเชิญปราณได้แล้วเหรอ?”

“ไม่แปลกใจเลยที่เขาเป็นเจ้าสำนักน้อยของสำนักยาตัน อายุน้อยขนาดนี้ก็สามารถกลั่นโอสถระดับสองได้แล้ว”

“ก่อนหน้านี้ฉันคิดว่าป่ายหลี่หลงเซิ่งเป็นคนโง่ที่ไม่มีความสามารถ และใช้อำนาจบาตรใหญ่ที่ตัวเองเป็นลูกชายของเจ้าสำนัก ดูเหมือนฉันมองเขาผิดไป! เขาเป็นคนที่มีความสามารถจริงๆ”

ยาเชิญปราณเป็นโอสถระดับสองในโลกกลั่นยา และในโลกกลั่นยาโอสถที่สูงที่สุดก็คือโอสถระดับห้า

โดยนักกลั่นยาส่วนใหญ่นั้นสามารถกลั่นโอสถระดับหนึ่งได้เท่านั้น

คนที่สามารถกลั่นโอสถระดับสองได้ สามารถเรียกว่านักกลั่นยาระดับสูง

คนอย่างโม่จือมิ่งก็สามารถกลั่นโอสถระดับสามได้เท่านั้น ถ้าตอนกลั่นยาโชคดี อาจจะสามารถกลั่นโอสถระดับสี่ได้

แต่การกลั่นโอสถระดับสี่ โอกาสสำเร็จมีเพียงแค่สิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น

สำหรับเปอร์เซ็นต์ที่กลั่นยาสำเร็จนี้ถือว่าสูงมากๆแล้ว

สำหรับโอสถระดับห้าที่อยู่ในตำนานนั้น เคยมีคนกลั่นสำเร็จตอนที่โลกกลั่นยาอยู่ในยุคที่รุ่งเรืองที่สุด

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

Status: Ongoing

มหากษัตริย์ชางฉองหลินหยุนที่ปราบปรามสามโลกไถ่บาปไม่สำเร็จ เกิดใหม่กลับสู่โลกมนุษย์เป็นเขยแต่งเข้าบ้าน ชาติปางก่อน ได้เมียที่สวยเซ็กซี่ดูเป็นผู้ใหญ่กลับครอบครองไม่ได้ ชาตินี้ หลินหยุนจะทำยังไง……ชาติก่อน เขาเป็นคนไร้ความสามารถที่ใครๆต่างดูถูก ชาตินี้ เขาเป็นหมอเทพหลินในวงการแพทย์ ตาทิพย์หลินในวงการของโบราณ อาจารย์หลินในวงการฮวงจุ้ย และหลินชางฉองในวงการบู๊ เมื่อเขากลับมาสู่เทวโลกอีกครั้ง พบว่าเทวโลกมีการเปลี่ยนแปลง หลายคนที่กำลังไถ่บาปรวมตัวกัน พวกเขาจะทำได้ดั่งใจหวังหรือไม่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท