เซียวจิ่งสือไปเค้นถามหลินหว่านว่าทำไมถึงหลบหน้าเขา แต่กลับไม่ได้ความอะไร แถมยังทะเลาะกับหลินหว่านเสียใหญ่โต กลับมาอย่างพ่ายแพ้หมดรูป
กลับถึงบ้าน ยังไม่ดึกมากนัก เซียวจิ่งสือไม่ต้องการคิดเรื่องทะเลาะกับหลินหว่านเมื่อตอนเย็น พอกลับถึงห้องหนังสือก็เริ่มทำงาน
ทันใดนั้น เสียงมือถือของเขาก็ดังขึ้น เซียวจิ่งสือเห็นว่าเป็นผู้ช่วยโทรมา เขารับสาย ถามไปด้วยน้ำเสียงไม่ดีนัก “มีอะไร”
ผู้ช่วยของเซียวจิ่งสือพอได้ยินน้ำเสียงที่ไม่ดีนักของเซียวจิ่งสือ ก็รู้ว่าท่านประธานของเขากำลังโกรธ จึงรีบตอบด้วยน้ำเสียงกริ่งเกรง “ท่านประธานครับ วันนี้ท่านผู้อำนวยการใหญ่ให้ผมถามคุณว่ามีเวลาว่างเมื่อไหร่ ท่านจะหาเวลาให้คุณพบปะกับคุณหนูใหญ่ของบ้านตระกูลอัน…”
“คุณว่าไงนะ?” เซียวจิ่งสือฟังแล้วถามอย่างสงสัย คุณหนูใหญ่ของบ้านตระกูลอันอะไรกัน นั่นมันอันซิงไม่ใช่หรือไง พ่อของเขาไปมีความคิดแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ทำไมเขาไม่รู้มาก่อน
ผู้ช่วยของเซียวจิ่งสือทวนคำพูดเมื่อครู่อีกครั้งหนึ่ง พอเห็นว่าเซียวจิ่งสือยังไม่แสดงท่าทีอะไรก็พูดขึ้นอีกว่า “ท่านประธานครับ เมื่อหลายวันก่อน ท่านผู้อำนวยการใหญ่แชร์โพสต์ในเวยปั๋วของคุณ ตอนนี้บนอินเทอร์เน็ตพากันลือว่าอีกไม่นานคุณกับคุณหนูใหญ่บ้านตระกูลอันจะแต่งงานเชื่อมความสัมพันธ์ของสองตระกูล คุณไม่ทราบเหรอครับ”
“งั้นเหรอ มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ” เซียวจิ่งสือฟังแล้วขมวดคิ้วมุ่น ถามกลับเสียงเย็น
ระยะนี้เขามัวยุ่งกับเรื่องงานในบริษัท ใจก็คอยห่วงหลินหว่าน จึงไม่รู้ว่าพ่อของเขาแชร์โพสต์ในเวยปั๋วของเขา ยิ่งไม่รู้ว่าบนอินเทอร์เน็ตมีข่าวลือแบบนี้ด้วย
ผู้ช่วยเห็นว่าเสียงของเซียวจิ่งสือยิ่งเย็นชากว่าเดิม เขาถามอย่างหวาดหวั่นว่า “ใช่ครับ งั้นท่านประธาน เรื่องท่านผู้อำนวยการใหญ่…”
“เรื่องนี้คุณไม่ต้องยุ่ง ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น” พูดจบ เซียวจิ่งสือก็ตัดสายอย่างไม่สนใจใยดี
นึกถึงคำพูดของผู้ช่วยแล้ว เซียวจิ่งสือก็เปิดดูเวยปั๋ว แล้วก็เห็นว่าพ่อเขาโพสต์ข้อความทิ้งไว้ที่ด้านล่างเวยปั๋วของเขา บนเวยปั๋วนั้นยังมีข่าวลือมากมายว่าเขาจะแต่งงานกับอันซิง
เซียวจิ่งสืออ่านดูข้อความเหล่านี้แล้ว นึกแค่นหัวเราะอยู่ในใจ ดูแล้วทั้งหมดนี้เป็นฝีมือพ่อของเขาเอง มิน่าเล่าบนอินเทอร์เน็ตไม่น่าจะลือกันไปใหญ่โตขนาดนี้
แต่ว่า เขาไม่เคยรู้เลยว่าพ่อของเขามีความคิดที่จะให้เขากับอันซิงแต่งงานกันตั้งแต่เมื่อไหร่
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เรื่องที่จะให้เขากับอันซิงแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์สองตระกูล ไม่สิ ต่อให้ไปพบหน้าอันซิงสักครั้ง เรื่องแบบนี้เขาไม่ยอมทำเด็ดขาด
พร้อมกันนั้น เซียวจิ่งสือก็นึกถึงตอนทะเลาะกับหลินหว่านเมื่อเย็นนี้ หลินหว่านบอกเขาอยู่เรื่อยว่าเขาจะแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น ตอนนั้นเซียวจิ่งสือเข้าใจว่าหลินหว่านพูดเรื่องไม่เป็นเรื่อง และไม่ได้รู้สึกผิดปกติอะไร ตอนนี้ดูไปแล้ว เธอน่าจะเห็นข่าวลือบนเวยปั๋ว แล้วหึงเขาเลยทะเลาะกับเขาล่ะมั้ง แล้วยังบอกว่าจะรักษาระยะห่างกับเขาอีก
พอนึกถึงสถานการณ์ในตอนนั้นแล้ว เซียวจิ่งสือก็รู้สึกทั้งเสียใจและรู้สึกผิด ถ้าหากรู้เรื่องข่าวลือบนอินเทอร์เน็ตเสียก่อน เขาจะไม่ทะเลาะกับหลินหว่านเด็ดขาด
แต่ตอนนี้ เซียวจิ่งสือเห็นว่าเขาต้องบอกพ่อให้ชัดเจนไปเลยดีกว่า ว่าเขาไม่เห็นด้วยกับเรื่องแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลอัน
พอคิดได้เช่นนี้แล้ว เซียวจิ่งสือก็ออกจากบ้าน ขับรถมาที่คฤหาสน์ตระกูลเซียว
เซียวจิ่งสือไม่สนว่าเป็นเวลาดึกดื่นแค่ไหน พอมาถึงบ้านตระกูลเซียว เขาก็ถอดเสื้อนอกออก ถามพ่อบ้านว่าตอนนี้พ่อเขาอยู่ที่ไหน
พ่อบ้านรับเอาเสื้อของเซียวจิ่งสือมา แล้วบอกเขาว่าพ่อเขาอยู่ในห้องหนังสือ จากนั้นเพียงชั่วครู่เดียวเซียวจิ่งสือก็หายตัวไปอย่างรวดเร็ว
ห้องหนังสือของเซียวเฉียงไม่ได้ล็อก เซียวจิ่งสือผลักเปิดประตูเข้าไป พอเห็นเซียวเฉียงเขาก็ถามพ่อไปตรงๆ ว่า “พ่อครับ พักนี้พ่อทำอะไรน่ะ ทำไมจะให้ผมแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับบ้านตระกูลอัน”
เซียวเฉียงเห็นว่าลูกชายบุกเข้าห้องหนังสือเขามาก็ปิดแฟ้มเอกสารในมือ ขมวดคิ้วพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจนัก “ฉันสั่งสอนแกมาอย่างไร ทำไมไม่รู้จักระเบียบมารยาทบ้างเลย ก่อนเข้ามาไม่รู้จักเคาะประตูหรือไง”
ตอนนี้เซียวจิ่งสือไม่มีอารมณ์จะไปสนระเบียบวินัยอะไรอีก เขาถามเอากับพ่อไปตรงๆ อย่างไม่สนมารยาทแต่อย่างใด “พ่อ ทำไมพ่อจะให้ผมแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับบ้านตระกูลอัน ผมบอกเลยนะ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ผมไม่ยอมหรอก!”
เซียวเฉียงฟังแล้วหัวคิ้วยิ่งขมวดแน่นเข้าไปอีก เขามองเซียวจิ่งสือ พูดด้วยเสียงเด็ดขาด “พอแล้ว เซียวจิ่งสือ เรื่องแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับบ้านตระกูลอัน ไม่ว่าแกจะยอมหรือไม่ยอม เรื่องนี้ก็กำหนดไว้แล้ว แกห้ามขัดคำสั่งฉัน!”
“พ่อครับ ทำไมล่ะ” เซียวจิ่งสือเห็นท่าทางแข็งกร้าวของพ่อก็ถามอย่างสงสัย เมื่อก่อน พ่อเขายังอยากจะให้เขาแต่งงานกับผู้หญิงอื่นอยู่เลยไม่ใช่หรือไง ทำไมจู่ๆ ก็เปลี่ยนความคิดจะให้เขาแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลอัน ไม่ใช่แค่เปลี่ยนท่าทีกะทันหันเท่านั้น แถมยังแน่วแน่ขนาดนี้อีกด้วย
เซียวเฉียงมองสำรวจเซียวจิ่งสือรอบหนึ่ง ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มที่คาดเดาไม่ถูก จากนั้นยื่นแฟ้มเอกสารในมือที่เมื่อครู่ที่เขาเพิ่งพับปิดส่งให้เซียวจิ่งสือ พูดว่า “แกดูนี่ก่อน”
เซียวจิ่งสือยิ่งรู้สึกสงสัยมากขึ้น เขารับเอกสารมา พลิกเปิดดูคร่าวๆ อย่างไม่เข้าใจนัก เพียงแต่…พออ่านดูแล้ว เซียวจิ่งสือก็เข้าใจเป้าหมายที่แท้จริงของพ่อเขา
ชื่อของเอกสารชุดนี้คือ ‘หนังสือแผนจัดซื้อเครือบริษัทเทียนซิงกรุ๊ป’ ดูท่าว่าพ่อเขาจะให้เขาแต่งงานกับอันซิง ไม่เพียงแค่ต้องการกลุ่มอำนาจของบ้านตระกูลอัน เขายังคิดจะฮุบเครือเทียนซิงกรุ๊ปทั้งหมดด้วย
เทียนซิงกรุ๊ปเป็นชีวิตและเลือดเนื้อหลายสิบปีของอันโฮ่วสยง ยิ่งกว่านั้นยังเป็นเหมือนจุดชีวิตที่ชี้ความเป็นตายของบ้านตระกูลอัน ถึงกับอาจกล่าวได้ว่าถ้าไม่มีเทียนซิงกรุ๊ป ก็เหมือนเด็ดปีกที่คุ้มครองคนของบ้านตระกูลอันมาตลอดทิ้งไป
หากมองจากมุมของหลินหว่านกับวั่นหย่ากรุ๊ป เซียวจิ่งสือเห็นด้วยอย่างยิ่งที่จะซื้อเทียนซิงกรุ๊ป แต่ต้องไม่อยู่บนเงื่อนไขว่าเขาต้องแต่งงานกับอันซิง!
ถ้าจะให้เขาใช้การแต่งงานมาแลกกับการซื้อเทียนซิงกรุ๊ป เขาทำไม่ได้เด็ดขาด! เซียวจิ่งสือพูดกับเซียวเฉียง “พ่อ พ่อจะซื้อเทียนซิงกรุ๊ป ผมเห็นด้วย แต่ทำไมพ่อต้องให้ผมแต่งงานกับอันซิงด้วยล่ะ เรื่องนี้ ไม่ว่าอย่างไรผมก็ไม่เห็นด้วยหรอก”
เซียวเฉียงเห็นท่าทีแข็งกร้าวของลูกชาย ก็พูดด้วยรอยยิ้มเย็น “จิ่งสือ เรื่องซื้อเทียนซิงกรุ๊ป ได้ดำเนินการตามแผนของฉันไปแล้วทีละขั้นตอน แต่แกรู้ไหมว่าขั้นตอนสำคัญที่สุดคืออะไร”
เหมือนจะรู้ว่าเซียวเฉียงจะพูดอะไร เซียวจิ่งสือแค่มองพ่อเขาด้วยสายตาเย็นชา ไม่ตอบสักคำ
เซียวเฉียวมองเซียวจิ่งสือแล้วพูดต่อว่า “ต้องได้ตัวทายาทคนสำคัญสุดของตระกูลอัน หลานสาวที่อันโฮ่วสยงรักที่สุด นั่นก็คือ อันซิง! ดังนั้น งานแต่งนี้ แกขัดขืนไม่ได้หรอก!”
เหมือนจะรู้ล่วงหน้าว่าเซียวเฉียงจะพูดแบบนี้ เซียวจิ่งสือฟังแล้วพูดกับพ่อเขาว่า “พ่อ พ่อไม่รู้สึกหรือไงว่าแผนของพ่อมันชั่วร้ายเกินไปหน่อยน่ะ ใช้การแต่งงานมาเป็นเหยื่อล่อ เพื่อฮุบกิจการของเทียนซิงกรุ๊ป ขอโทษด้วย ผมทำตามแผนของพ่อไม่ได้!”
จากนั้นเซียวจิ่งสือก็โยนแผนจัดซื้อนั้นมาตรงหน้าพ่อของเขาแล้วพูดต่อว่า “แล้วก็…ผมจะพูดแบบเปิดอกเลยนะ ผมมีคนที่ชอบอยู่แล้ว ผมแต่งงานเพื่อธุรกิจกับคนอื่นไม่ได้หรอก และยิ่งต้องแต่งงานกับคนอื่นด้วยแผนการของพ่อด้วยแล้ว พ่อหาคนอื่นไปทำเถอะ! ชาตินี้คนที่ผมอยากแต่งด้วย มีแค่เธอคนเดียวเท่านั้น!”