จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – บทที่ 1048 วัยเด็กเมื่อครั้งอยู่ที่นี่

บทที่ 1048 วัยเด็กเมื่อครั้งอยู่ที่นี่

ภารกิจระดับ S ขั้นสุดยอดคือภารกิจขั้นสูงสุดขององค์กรเทพมรณะ เทียบเท่าได้กับภารกิจ

ขั้นสูงสุดขององค์กรนักฆ่าทั้งหมดในโลก

ผู้นำขององค์กรเทพมรณะ ก็คือราชาแห่งโลกนักฆ่า

เมื่อประกาศภารกิจนี้ออกไป ทั้งโลกนักฆ่าก็จะเกิดความบ้าคลั่งขึ้นมา

จากนี้ต่อไปหลินหยุน ก็คงจะต้องเผชิญหน้ากับการลอบฆ่าอย่างต่อเนื่อง

แต่เรื่องราวเหล่านี้ หลินหยุนเองก็ยังไม่ทราบ

เวลานี้ เขากับคาร์นอตวิลเลียม ได้มาถึงคฤหาสน์ที่มีทิวทัศน์งดงามแห่งหนึ่งที่แถบชานเมืองปารีส

สิ่งก่อสร้างของคฤหาสน์แห่งนี้ คิดไม่ถึงว่าจะยังคงรักษาลักษณะรูปแบบของยุคกลางเอาไว้ โดยมี

ปราสาทยุคกลางที่มีความลึกลับและโรแมนติกมากมาย อยู่ท่ามกลางป่าและภูเขาที่สวยงาม แห่งนี้ ซึ่งก็เหมือนกับผู้มีปัญญาที่หลับใหลมาเป็นเวลานาน

หลินหยุนกับคาร์นอตวิลเลียมยืนอยู่ที่บนเนินเขาเล็กแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างจากปราสาทโบราณเหล่านี้ประมาณห้าสิบเมตร

ทั้งสองคนมองไปยังบรรดาปราสาทโบราณทั้งหลาย โดยที่ยังไม่คิดที่จะก้าวเดินเข้าไป

สีหน้าท่าทางของคาร์นอตวิลเลียมค่อนข้างจะซับซ้อน เหมือนจะรู้สึกมีความเขินอายขึ้นมาบ้าง

หลินหยุนยืนอยู่ข้างกายของเขา สามารถรับรู้สัมผัสได้ถึงอารมณ์ในตัวเขาที่บางครั้งก็ดีใจ บางครั้ง

ก็เศร้าใจ และบางครั้งก็เกรงกลัว

 เล่าประสบการณ์ของนายให้ฟังหน่อยสิ ทำไมนายถึงไปจีนลำพังคนเดียว?   หลินหยุนถามขึ้น

คาร์นอตวิลเลียมคิดทบทวน หันหน้าไปมองหลินหยุน และพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่หยิ่งยโสว่า:  ไม่มี

อะไรที่น่าพูดถึงหรอก 

จากนั้น เขาก็พูดเสริมขึ้นว่า:  ประสบการณ์ธรรมดาทั่วไป ที่ทุกคนต่างก็มีกัน 

หลินหยุนยิ้ม:  ไม่พูดจริง ๆ เหรอ?  

ใบหน้าที่หล่อเหลาของคาร์นอตวิลเลียมเกร็งขึ้นอย่างมาก:  ไม่ใช่ไม่พูด แต่ไม่มีอะไรที่น่าพูดถึง

ต่างหาก 

 ถ้าหากนายไม่พูด ฉันก็ช่วยอะไรนายไม่ได้  หลินหยุนแสดงอาการที่หมดหนทาง

คาร์นอตวิลเลียมขมวดคิ้วขึ้นเล้กน้อย

สายลมพัดผ่านมา ผสมผสานกับกลิ่นอายของใบหญ้า อากาศของที่นี่ สดชื่นบริสุทธิ์กว่าในตัวเมือง

เป็นอย่างมาก

สายตาของคาร์นอตวิลเลียม มองไปยังปราสาทที่อยู่ไม่ไกลนัก

ความหยิ่งยโสบนใบหน้าของเขาได้จางหายไปแล้ว โดยแทนที่ด้วยความเศร้าโศกเสียใจ

ในที่สุดเขาก็เอ่ยปากพูดขึ้นแล้ว

 ที่จริงนั้น ในตระกูลแดร็กคิวล่า ฉันก็คือคนแปลกต่างเผ่าพันธุ์ คนที่ไม่ได้เรื่องได้ราว 

หลินหยุนพูดขึ้นว่า:  ทำไมจะต้องพูดว่าตัวเองแบบนี้ด้วย? นายเป็นถึงเจ้าชายของเผ่าโลหิต 

คาร์นอตวิลเลียมส่ายศีรษะ:  ไม่ มันคือความจริง 

 ก็เป็นเพราะฉันคือเจ้าชาย ดังนั้นฉันถึงเป็นคนที่ไม่ได้เรื่องได้ราว ถ้าหากฉันเป็นเพียงแค่ดยุกทั่วไป ฉันก็จะไม่พูดแบบนี้ 

หลินหยุนไม่ได้พูดอะไร รอให้คาร์นอตวิลเลียมเล่าเรื่องต่อไป

 นายน่าจะรู้ดีว่า พลังความสามารถของพวกเราเผ่าโลหิต ถูกกำหนดโดยพรสวรรค์ทางสายเลือด 

 ฉันเป็นเจ้าชาย พรสวรรค์ทางสายเลือดของฉันก็คงจะมีความแข็งแกร่งมากที่สุดในตระกูล 

 แต่ในความเป็นจริงแล้ว ตอนที่ฉันเพิ่งเกิดออกมานั้น พลังความสามารถของฉันยังเทียบไม่ได้

กับลูกของดยุกขั้นเล็กเลย 

 ฉันถูกคนในตระกูลดูถูกเหยียดหยามอย่างหนัก ชีวิตประจำวันของฉันยากลำบากมาก 

 ดังนั้น ฉันจึงได้เดินทางไกลไปยังประเทศจีนของพวกนาย คิดที่จะตามหาต้นแห่งชีวิต เพื่อเพิ่ม

พลังความสามารถให้กับตัวเอง 

หลินหยุนพูดเบา ๆ ว่า:  แล้วนายเกลียดสถานที่แห่งนี้ไหม? ฉันสามารถช่วยนายทำลายที่แห่งนี้

ลงได้ 

 ไม่!  

คาร์นอตวิลเลียมพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า:  ฉันไม่เกลียด 

ใบหน้าของเขาแสดงออกถึงการระลึกนึกถึงอดีต:  ที่จริงแล้วตอนที่ฉันเพิ่งจะเกิดนั้น คนในตระกูล

ดีกับฉันมาก ถึงขนาดที่ถือว่าฉันเป็นความหวังของพวกเขาเลย

 ในตอนนั้น ฉันก็คือสมบัติล้ำค่าของชาติดั่งที่พวกนายชาวจีนพูดกันว่าเป็นที่รักของผู้คนนับหมื่น

นับพัน 

 แต่ว่า ตระกูลของพวกเราถึงอย่างไรก็จะต้องถือเอาพลังความสามารถมาเป็นตัวชี้วัด 

 เมื่อฉันเติบโตขึ้น ทุกคนพบว่าพลังความสามารถของฉันยังเทียบไม่ได้กับลูกของดยุกที่มีอายุ

เท่าเทียมกันเลย!  

 ครั้นแล้ว ฉันก็ถูกทอดทิ้ง 

คาร์นอตวิลเลียมพูดจบ ก็ถอนหายใจยาว ใบหน้าแสดงออกถึงความหดหู่อย่างยิ่ง

หลินหยุนพูดขึ้นว่า:  ไม่เพียงแต่ตระกูลของพวกนายเท่านั้นที่ใช้พลังความสามารถเป็นตัวชี้วัด แม้แต่โลกนี้ไปจนถึงทั่วทั้งจักรวาล ต่างก็อาศัยพลังความสามารถเป็นตัวตัดสินทั้งนั้น 

 คนในตระกูลของนาย ก็เพียงแค่ทำในเรื่องที่พวกเขาเห็นว่าถูกต้อง 

 นายสามารถที่จะเกลียดพวกเขาได้ สามารถฆ่าพวกเขาได้ และยังสามารถเลือกที่จะให้อภัย

พวกเขาได้ 

 โดยสิ่งสำคัญอย่างแรกคือ นายจะต้องมีความสามารถที่มากพอ และมีพลังที่ทำให้พวกเขา

หวาดกลัวได้ 

 ซึ่งนายในตอนนี้นั้น เพียบพร้อมด้วยพลังความสามารถเหล่านี้แล้ว 

 ดังนั้น นายสามารถที่จะเดินเข้าไปทางประตูใหญ่ได้อย่างภาคภูมิใจ โดยไม่มีใครกล้าที่จะ

ดูถูกนายได้อีก 

คาร์นอตวิลเลียมยกมือสองข้างของตนเองขึ้น แล้วก็มองดูซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 จริงด้วย ตอนนี้ฉันมีพลังความสามารถที่แข็งแกร่งแล้ว นอกจากดยุกแดร็กคิวล่า ฉันสามารถ

ที่จะจัดการทุกคนได้อย่างง่ายดาย 

 ฉันไม่ต้องเกรงกลัวอีกต่อไปแล้ว ฉันสามารถที่จะเดินกลับเข้าไปได้อย่างสง่าผ่าเผย 

หลินหยุนพูดขึ้นว่า:  ไปเถอะ ใช้พลังของนาย พิชิตพวกคนเหล่านั้นที่ดูถูกนาย ทำให้พวกเขา

หุบปากซะ!  

 อืม  แววตาของคาร์นอตวิลเลียม เผยให้เห็นถึงความแน่วแน่

พลังความสามารถต่างหาก ที่เป็นพื้นฐานในการตัดสินทุกอย่าง

 ตระกูลแดร็กคิวล่า ฉัน แดร็กคิวล่า คาร์นอตวิลเลียม กลับมาแล้ว!  

ประตูใหญ่ของปราสาทที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายประวัติศาสตร์โบราณได้ถูกเปิดออก

คาร์นอตวิลเลียมกับหลินหยุนก้าวเดินเข้าไปด้านใน

แม้ว่าจะได้เตรียมทำใจมาล่วงหน้าแล้ว แต่ว่า ขณะที่ก้าวเดินเข้าไปในประตูนั้น กลับยังคงรู้สึก

ประหม่าอยู่บ้าง

 โอ้ว ดูเร็ว นั่นคือใคร!  

เด็กน้อยผมแดงคนหนึ่ง ที่ดูแล้วน่าจะมีอายุประมาณหกเจ็ดปี มองไปที่คาร์นอตวิลเลียมพร้อมกับ

ยิ้มเยาะเหยียดหยาม

แต่ หลินหยุนรู้ว่า จากอายุของเผ่าโลหิตนั้น อายุที่แท้จริงของเด็กน้อยคนนี้บางทีอาจจะมากกว่า

เขาด้วยซ้ำ

เด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่งเดินมา โดยเขามองไปที่คาร์นอตวิลเลียม แล้วก็แสดงรอยยิ้ม

ที่เหยียดหยามออกมาเช่นกัน:  ที่แท้ก็คือเจ้าชายที่ไม่ได้เรื่องได้ราวของพวกเรานั้นกลับมาแล้ว 

 ฝ่าบาท ฉันคิดว่าคุณคงจะไม่กลับมาแล้วเสียอีก?  

 ฮ่าฮ่า เจ้าชายที่ไม่ได้เรื่องได้ราวเมื่อออกจากตระกูลแดร็กคิวล่าของพวกเราไปแล้ว จะสามารถ

ดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างไรล่ะ!  

 เขาต้องกลับมาอย่างแน่นอน 

ผู้ชายสองคนและผู้หญิงสองคนเหาะเหินออกมาจากปราสาท ผู้ชายหล่อเหลา และผู้หญิงก็งดงาม

ไม่นาน ปราสาทหลังอื่น ๆ ก็มีคนเหาะเหินออกมาเช่นกัน

เหมือนว่าคนของเผ่าโลหิต ไม่ว่าจะผู้ชายหรือผู้หญิงล้วนมีหน้าตาดีทั้งนั้น

หลินหยุนกับคาร์นอตวิลเลียมถูกล้อมตัวไว้

พวกคนเหล่านี้มีทั้งผู้ใหญ่ มีทั้งเด็ก โดยมีวัยรุ่นจำนวนมากที่สุด ในเผ่าโลหิตเหมือนจะไม่มีคนแก่

พวกเขามองไปที่คาร์นอตวิลเลียม โดยที่ทุกคนล้วนแสดงรอยยิ้มที่เหยียดหยามออกมา

เด็กหนุ่มผมสีเงินที่ก่อนหน้านี้ได้พูดขึ้นนั้น เดินขึ้นมาด้านหน้า แล้วยื่นมือไปตบที่ใบหน้าของ

คาร์นอตวิลเลียม พร้อมกับพูดขึ้นอย่างเหยียดหยามว่า:  หากฉันเป็นนาย เมื่อจากไปแล้วก็คงจะ

ไม่กลับมาอีกตลอดชีวิต 

 คนไม่ได้เรื่องได้ราว ก็ยังคงเป็นคนที่ไม่ได้เรื่องได้ราวอยู่วันยังค่ำ 

 แม้ว่าจะมีสายเลือดเจ้าชายที่สูงศักดิ์ ก็ยังคงเป็นคนที่ไม่ได้เรื่องได้ราวเหมือนเคย 

พวกคนที่รายล้อมอยู่ด้านข้าง ต่างก็หัวเราะเยาะ โดยพากันมองไปที่คาร์นอตวิลเลียม ด้วยใบหน้า

ที่เต็มไปด้วยความดีใจเมื่อเห็นคนอื่นเป็นทุกข์

คาร์นอตวิลเลียมจับมือของเด็กหนุ่มคนนั้นที่ตบหน้าเขา จากนั้น ก็ปล่อยหมัดอันรุนแรง ชกเข้าใส่

หน้าของเด็กหนุ่มคนนั้นทันที

ตุบ!

เด็กหนุ่มคนนั้นถูกชกกระเด็นลอยไปไกล

จากนั้น คาร์นอตวิลเลียมก็แวบหายตัวไป แล้วพลันปรากฏตัวขึ้นที่ด้านล่างของเด็กหนุ่มคนนั้น

ตุบ!

คาร์นอตวิลเลียมชกเข้าใส่อีกครั้ง จนร่างของเด็กหนุ่มคนนั้นพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า

ตุบ!

คาร์นอตวิลเลียมใช้ความเร็วอีกครั้ง มาอยู่ด้านบนของเด็กหนุ่มคนนั้น แล้วก็ใช้เท้า กระทืบไปที่

ท้องของเด็กหนุ่มคนนั้นอย่างแรง

เด็กหนุ่มนั้นราวกับลูกกระสุนปืนใหญ่ ร่วงตกลงมากระแทกกับพื้นดังโครม จนบนพื้นหญ้าเกิดเป็น

หลุมร่างคนขึ้น

คาร์นอตวิลเลียมยืนอยู่ด้านข้างหลุม แล้วมองไปยังเด็กหนุ่มที่สภาพย่ำแย่ ไม่รู้ว่าจะเป็นหรือตาย ที่อยู่ในหลุมนั้น พร้อมกับพูดอย่างเย็นชาขึ้นว่า:  รู้อยู่แก่ใจว่าฉันคือเจ้าชาย นายที่เป็นเพียงแค่

มาร์ควิสต่ำต้อยคนหนึ่งยังจะกล้าไม่เคารพต่อฉันอีก ช่างรนหาที่ตายชัด ๆ!  

 

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

Status: Ongoing

มหากษัตริย์ชางฉองหลินหยุนที่ปราบปรามสามโลกไถ่บาปไม่สำเร็จ เกิดใหม่กลับสู่โลกมนุษย์เป็นเขยแต่งเข้าบ้าน ชาติปางก่อน ได้เมียที่สวยเซ็กซี่ดูเป็นผู้ใหญ่กลับครอบครองไม่ได้ ชาตินี้ หลินหยุนจะทำยังไง……ชาติก่อน เขาเป็นคนไร้ความสามารถที่ใครๆต่างดูถูก ชาตินี้ เขาเป็นหมอเทพหลินในวงการแพทย์ ตาทิพย์หลินในวงการของโบราณ อาจารย์หลินในวงการฮวงจุ้ย และหลินชางฉองในวงการบู๊ เมื่อเขากลับมาสู่เทวโลกอีกครั้ง พบว่าเทวโลกมีการเปลี่ยนแปลง หลายคนที่กำลังไถ่บาปรวมตัวกัน พวกเขาจะทำได้ดั่งใจหวังหรือไม่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท