จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – บทที่ 1156 ตายไปหนึ่ง หนีรอดไปหนึ่ง

บทที่ 1156 ตายไปหนึ่ง หนีรอดไปหนึ่ง

ทุกคนต่างก็คิดว่าพลังแรงมหาศาลของฉื้อซานนั้นทำให้หลินหยุนตกใจจนเสียสติไปแล้ว!

จนกระทั่งลืมลงมือตอบโต้กลับไป

แต่ว่า!

ทันทีที่พลังงานน่าสะพรึงกลัวกำลังเข้าใกล้นั้น

ในที่สุดหลินหยุนก็ขยับตัวแล้ว!

ได้ยินเขาตะโกนพูดด้วยเสียงหนักแน่นว่า  ท่าแยกน้ำของสิบแปดท่าต้าเต๋า! 

พอสิ้นเสียง ก็ปรากฏมีพลังแรงที่อ่อนโยนอยากที่จะจับต้องได้เข้าสลายพลังค้อนมหาจักรอันน่าสะพรึงกลัวของฉื้อซานออกไปจนหมดสิ้น

ในขณะเดียวกัน หลินหยุนก็พูดต่อไปว่า  ท่าสยบเขาของสิบแปดท่าต้าเต๋า! 

พลังแรงอันน่าสะพรึงกลัวที่สามารถถล่มเขาทลายแม่น้ำก็ปรากฏขึ้นมา แล้วไปปะทะกับประกายแสงที่ปลดปล่อยออกมาจากค้อนมหาจักรจนแตกละเอียดไปหมดภายในชั่วพริบตา!

จากนั้นก็พุ่งไปยังร่างของฉื้อซาน

 ปั้ง! 

ทันใดนั้นก็เกิดเสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหวขึ้นมา

ร่างของฉื้อซานราวกับว่าวที่สายป่านขาดลอยละล่องออกไปไกลกว่าพันเมตร

แล้วตกลงบนพื้นอย่างแรง

กระอักเลือดออกมาเต็มปาก

สายตาที่ฝ้าฟางของเขานั้น เต็มไปด้วยอาการเหลือเชื่อออกมา

 แก…..แคะๆ…..ทำไมแกถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้…….. 

 นี่เป็นไปไม่ได้! 

ไม่เพียงแต่เขาไม่เชื่อ

อู๋หุนที่ยืนอยู่กลางอากาศก็ยังเบิ่งตาโตขึ้นด้วยความรู้สึกช็อกอย่างมาก ในใจก็รู้สึกตื่นตกใจอย่างรุนแรง

สายตาแสดงออกถึงความหวาดกลัวออกมาอย่างเห็นได้ชัด

ไม่อยากจะเชื่อเลย

ยอดฝีมือที่มุงดูอยู่จำนวนมากนั้นต่างก็อ้าปากค้างอย่างพร้อมเพรียงกัน

ไม่มีใครเชื่อว่าฉากนี้เป็นความจริงเลย

 เจ้าเด็กนี่……..แข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง? 

 เห็นอยู่ว่าเขายังไม่ได้เข้าแดนยาทองเลย แต่กลับสามารถเอาชนะฉื้อซานที่มีค้อนมหาจักรในมือได้ภายในชั่วพริบตา……. 

 นี่ก็น่ากลัวเกินไปแล้ว! 

 เขาเป็นสัตว์ประหลาดตัวอะไรกันแน่! 

 ความเป็นมาของเจ้าเด็กนี้ต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน! 

 ไม่เพียงแต่ไม่ธรรมดา การต่อสู้ที่ข้ามทะลุแดนยิ่งใหญ่เช่นนี้ ยังไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย! 

พูดถึงในระดับแดนเดียวกันแล้ว ถ้าสามารถต่อสู้ข้ามแดนเล็กไปได้ นั่นยังไม่ใช่เป็นเรื่องที่เข้าใจยากเท่าไหร่นัก!

ความจริงแล้วอัจฉริยะสุดยอดบางคนก็สามารถทำเช่นนั้นได้

แต่ว่าหลินหยุนไม่ใช่เช่นนั้น!

เขาก้าวทะลุข้ามแดนระดับใหญ่ไปเลย!

คู่ต่อสู้ก็ไม่ใช่พวกยอดฝีมือที่เพิ่งย่างเข้าแดนยาทองระดับหนึ่งหรือสองพวกนั้นด้วยซ้ำ!

แต่เป็นฉื้อซานที่มีค้อนมหาจักรในมือ และพลังมหาศาลที่ถล่มฟ้าดินเมื่อครู่นี้ ก็มากพอที่จะสังหารยอดฝีมือของแดนยาทองระดับสามได้เลยทีเดียว!

นี่หมายความว่าอะไร?

ขณะนี้ ทุกคนต่างก็รู้สึกว่าสมองตัวเองมึนตึ้บไปหมดแล้ว!

น่ากลัวเกินไปแล้ว!

ในเวลานี้เอง ฉื้อซานพลิกตัวขึ้นมา ร่างกายก็สลายกลายเป็นลำแสงลำหนึ่ง รีบมุดหนีไปด้วยความหวาดกลัว!

 ไอ้เด็กหลินหยุน ฝากไว้ก่อนเถอะ! 

 สำนักสุริยันเราจะไม่ปล่อยแกอย่างแน่นอน! 

 ฉันจะต้องกลับมาหาแกอีก! 

 ถึงเวลานั้น ก็จะเป็นวันตายของแก! 

ลำแสงหลบหนีไปไกล ได้ยินแต่เสียงที่โกรธแค้นของฉื้อซานแว่วดังออกมา

หลินหยุนยืนอยู่กลางอากาศ ส่งเสียงเยาะเย้ย

 คิดจะหนีเหรอ? 

 ฉันอนุญาตให้แกไปแล้วเหรอ? 

หลินหยุนสายตาส่องประกายวาววับ จากนั้นก็ชกหมัดอย่างแรงออกไปหนึ่งที

พลังหมัดที่สามารถทลายฟ้าดินได้ก็ระเบิดออกมาทันที

ทันใดนั้น ก็ทุบลงไปยังฉื้อซานที่ได้หลบหนีไปไกลนั้นร่วงหล่นลงมา

ฉื้อซานร้องเสียงโหยหวนดังลั่น

ทันใดนั้น เนื้อตัวทั้งร่างก็แหลกละเอียดแตกกระจายออกไปทั่ว

ยาทองก็เผยตัวออกมา

จิตวิญญาณของเขาก็สิงอยู่ในยาท้องนั้น แล้วรีบมุดหนีต่อไปอย่างรวดเร็ว!

สายตาหลินหยุนส่องประกายวาววับ ชกหมัดออกไปอีกหนึ่งที ยาทองก็แตกละเอียดกระจายออกไปทันที

ฉื้อซาน ดับสูญแล้ว!

ยื่นมือออกไป แหวนเก็บของวงหนึ่งที่ตกลงมาก็ถูกเขาคว้ากลับมาได้

เมื่อเห็นฉากเช่นนี้แล้ว ทุกคนต่างก็ส่งเสียงดังแตกตื่นออกมาอีกครั้ง

และต่างก็กลืนน้ำลายเฮือกอย่างแรง

ไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าว่าจะเป็นความจริง

สายตาที่มองไปยังหลินหยุนก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

ฉื้อซานที่มีค้อนมหาจักรในมือ และฝีมืออยู่เหนือกว่าแดนยาทองระดับห้า ก็ต้องจบชีวิตลงด้วยน้ำมือของหลินหยุนเช่นนี้

ไม่เพียงแต่ค้อนมหาจักรและแหวนเก็บของที่ต้องสูญหายไป แม้แต่เลือดเนื้อทั่วร่างก็ยังไม่สามารถรักษาไว้ได้เลย!

แม้แต่ยาทองยังไม่สามารถหนีรอดไปได้

หลินหยุนนี้ น่ากลัวเกินไปแล้วจริงๆ!

ในขณะนี้

หลินหยุนที่ลอยอยู่กลางอากาศนั้นสีหน้าไร้ความรู้สึกใดๆเลย หันไปมองอู๋หุน แล้วพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า  เนื้อตัวทั้งร่างของจินอู่เซิงถูกฉันระเบิดจนแตกละเอียดไปแล้ว! 

 เขาเป็นคนของวิหารผนึกวิญญาณพวกแก! 

 แกมาที่นี่เพราะฉัน! 

 ตอนนี้แกลงมือได้เลย! 

สีหน้าของอู๋หุนก็บูดบึ้งสุดๆ

เขาในตอนนี้ ไร้ซึ่งความเย่อหยิ่งเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว

สายตาที่มองดูหลินหยุนนั้น กลับเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

มองดูหลินหยุนแวบเดียว อู๋หุนไม่พูดพร่ำทำเพลง หันหลังกลับแล้วรีบวิ่งหนีไปเลย!

เมื่อเห็นฉากนี้แล้ว ผู้คนทั้งหลายที่มุ่งดูอยู่นั้นต่างก็มึนงงไปหมด

อู๋หุน!

ก็ยังมีบางคนที่พอรู้จักฐานะที่แท้จริงของเขาอยู่บ้าง

ทูตผนึกวิญญาณลำดับสี่ของวิหารอีสานแห่งวิหารผนึกวิญญาณ

คิดไม่ถึงว่า ถึงกับไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะลงมือเลย

ก็รีบหนีเอาตัวรอดไปแล้ว!

เมื่อเห็นอู๋หุนหลบหนีไป หลินหยุนก็ไม่ได้ลงมือไปหยุดยั้งเขาไว้

เงาร่างก็หายวับไปแล้วมุ้งตรงเข้าไปในเมือง

กลับไปยังโรงกลั่นยาตระกูลหยุน

หยุนถิงและหยุนหลานสองคนพ่อลูก กำลังรอคอยด้วยความร้อนใจ

ภายในโรงกลั่นยาในตอนนี้ นอกจากพวกเขาสองคนพ่อลูกแล้ว ก็ยังมีคนของตระกูลหยุนอีกจำนวนไม่น้อยเลย

หยุนหลานกำลังคุกเข่าลงบนพื้น

คนที่นั่งตำแหน่งประธานนั้น เป็นชายวัยชราที่มีผมและหนวดขาวโพลนคนหนึ่ง

ไม่ว่าจะเป็นชายชรา หรือว่าชายวัยกลางคนที่เหลืออีกหลายคน ตอนนี้สีหน้าต่างก็แลดู ย่ำแย่มาก

 หยุนหลาน! 

 แกทำให้ทุกคนผิดหวังมากจริงๆ! 

 แกทำไมถึงได้ใจกล้าจัง! 

 รู้ทั้งรู้ว่าหลินหยุนนั่นได้ล่วงเกินสำนักสุริยันและวิหารผนึกวิญญาณแล้ว ถึงกับยังกล้าอยู่ใกล้เขาอีก! 

 ตอนนี้พลังอำนาจทั้งสองฝ่ายนี้ได้ลงมือกับหลินหยุนพร้อมกันแล้ว แกว่ามาซิ ต่อจากนี้ไปตระกูลหยุนเราจะรองรับความโกรธแค้นของพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ทั้งสองนี้ได้ยังไง? 

 ตระกูลหยุนคงต้องพังพินาศด้วยน้ำมือของแกแล้ว! 

ชายวัยกลางคนคนหนึ่งสีหน้าดำมืดด้วยความโกรธอย่างมหันต์!

หลังจากพูดตำหนิหยุนหลานแล้ว ก็สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ จากนั้นก็หันไปมองหยุนถิงด้วยสีหน้าที่ไม่เป็นมิตร

 พี่ใหญ่ เสี่ยวหยุนอายุยังน้อย มีเรื่องบางอย่างเธอคงคิดไม่ถึงและดูไม่ออก ไม่รู้ความร้ายกาจที่ซ่อนอยู่ข้างใน! 

 แต่พี่เป็นถึงเจ้าบ้านของพวกเรานะ! 

 พี่ตัดสินใจโดยไม่คำนึงถึงผลที่ตามมาอย่างนี้ได้ยังไง? 

 ตระกูลหยุนพวกเราตอนนี้ ก็ตกอยู่ในสภาพที่ลำบากย่ำแย่มากอยู่แล้ว! 

 หรือว่าพี่กลัวตระกูลหยุนพวกเราจะล่มจมช้าไปกว่านี้เหรอ? 

 พวกพี่สองคนพ่อลูก ถ้าหากตระกูลหลินล่มสลายไปละก็ พวกพี่ก็คือคนที่บาปที่สุดแล้ว! 

ชายวัยกลางคนยิ่งพูดก็ยิ่งโกรธจัด

จนถึงขั้นที่ไม่สามารถระงับความโกรธได้เลย

หยุนถิงสีหน้าไร้ความรู้สึก ไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว

เมื่อรอให้อีกฝ่ายหนึ่งพูดจบ เขาจึงเอ่ยปากพูดด้วยเสียงเคร่งเครียดว่า  จะล่มสลายช้าหรือเร็ว แล้วมีความแตกต่างยังไงเหรอ? 

หยุนถิงพูดเยาะเย้ย

 ถ้าตระกูลหยุนไม่สามารถกลับมาผงาดใหม่อีกครั้งได้ ล่มสลายก็ล่มสลายไปสิ! 

 คนบาปคนนี้ก็ยกให้ฉันหยุนถิงแบกรับไว้แต่เพียงคนเดียวก็พอแล้ว! 

 สำหรับหยุนหลานแล้ว เธอก็เป็นเพียงแค่เด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้นเอง! 

 ความผิดทั้งหมดนี้ก็ให้ฉันแบกรับไว้แต่เพียงคนเดียวก็แล้วกัน! 

ชายวัยกลางคนได้ยินแล้ว ก็พูดเยาะเย้ยด้วยความโกรธว่า

 ในฐานะที่เป็นเจ้าบ้าน! พี่ก็ต้องแบกรับความรับผิดชอบไว้อยู่แล้ว! 

 แต่ว่า ความรับผิดชอบนี้พี่จะแบกรับไหวเหรอ? 

 ไหนพี่บอกกับทุกคนสิว่า พี่จะแบกรับไว้ยังไง? 

พูดพลางก็หันไปมองชายชราที่นั่งอยู่ตำแหน่งประธานแล้วพูดว่า

 พ่อครับ ผมรู้สึกว่าพี่ใหญ่ไม่เหมาะสมที่จะเป็นตำแหน่งเจ้าบ้านอีกแล้ว! 

 ตระกูลหยุนจำเป็นต้องเชิญให้ท่านออกหน้าอีกครั้ง อาจไม่แน่ว่ายังมีโอกาสที่จะเยียวยาได้บ้าง! 

ชายชรารูปร่างผอมบางมาก อ่อนแอจนแทบจะยืนไม่ไหวแล้ว

ภายในร่างกายเต็มไปด้วยกลิ่นอายพิษร้อนที่รุนแรง

แล้วไอออกมาอย่างต่อเนื่องสักพักหนึ่ง

ชายชราก็หายใจหอบแรง

สายตาที่ฝ้าฟางก็กวาดมองไปผู้คนทั้งหลาย แล้วเอ่ยปากถามว่า  พวกคุณ ทุกคนก็มีความคิดเห็นเช่นนี้เหรอ? 

เมื่อได้ยินชายชราพูดเช่นนั้น หยุนหลานก็รีบพูดว่า  คุณปู่คะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพ่อ หลานเลยแม้แต่นิดเดียว เป็นเพราะว่าหลานบีบบังคับให้พ่อทำเช่นนี้เองค่ะ! 

 ถ้าท่านจะลงโทษละก็ งั้นก็ลงโทษหลานเพียงคนเดียวก็พอแล้ว! 

 

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

Status: Ongoing

มหากษัตริย์ชางฉองหลินหยุนที่ปราบปรามสามโลกไถ่บาปไม่สำเร็จ เกิดใหม่กลับสู่โลกมนุษย์เป็นเขยแต่งเข้าบ้าน ชาติปางก่อน ได้เมียที่สวยเซ็กซี่ดูเป็นผู้ใหญ่กลับครอบครองไม่ได้ ชาตินี้ หลินหยุนจะทำยังไง……ชาติก่อน เขาเป็นคนไร้ความสามารถที่ใครๆต่างดูถูก ชาตินี้ เขาเป็นหมอเทพหลินในวงการแพทย์ ตาทิพย์หลินในวงการของโบราณ อาจารย์หลินในวงการฮวงจุ้ย และหลินชางฉองในวงการบู๊ เมื่อเขากลับมาสู่เทวโลกอีกครั้ง พบว่าเทวโลกมีการเปลี่ยนแปลง หลายคนที่กำลังไถ่บาปรวมตัวกัน พวกเขาจะทำได้ดั่งใจหวังหรือไม่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท