เขาเดินไปยังหาเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ตู้ขายโอสถทันที
พ่อหนุ่มน้อย ฉันขอสอบถามหน่อย สถานที่ลึกลับที่พวกเขาพูดถึงเมื่อสักครู่มันคืออะไรกันแน่?
เด็กหนุ่มพูดด้วยรอยยิ้ม คุณพูดถึงสถานที่ลึกลับเหรอ ไม่กี่วันก่อน มีสถานที่แห่งหนึ่งห่างจากเมืองชิงเฟิงไม่ถึงหนึ่งร้อยกิโลเมตร มีวิมานโบราณอันหนึ่งปรากฏตัว!
วิมานโบราณอันนั้นมีค่ายกลอันใหญ่คอยปกป้องอยู่ เมื่อมันปรากฏตัวก็มีรังสีกระบี่พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าทันที
มันปรากฏตัวสามวันติดต่อกัน จากนั้นก็ค่อยๆหายไป
การปรากฏตัวอย่างยิ่งใหญ่แบบนี้ ทำให้ข่าวสารแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว!
ตอนนี้มียอดฝีมือจำนวนมากเดินทางมาที่นี่แล้ว!
อย่างไรก็ตาม ได้ยินมาว่าค่ายกลที่อยู่ด้านนอกนั้นแข็งแกร่งมากๆ จนถึงตอนนี้ยังทำลายไม่ได้เลย!
ถ้าพวกคุณสองคนอยากจะไปละก็ ต้องรีบไปเร็วๆหน่อย!
ถ้าพวกคุณไปถึงช้า และค่ายกลถูกทำลาย สิ่งของที่อยู่ด้านในคงโดนแย่งไปหมดแล้ว!
ซิงเฟยพยักหน้าและพูด เป็นอย่างนี้นี่เอง ขอบคุณมากๆ!
เมื่อพูดจบ เธอกับหลินหยุนก็เดินออกจากหอไป่เต้าทันที
ซิงเฟยพูด ดูเหมือนว่าข่าวเรื่องนี้จะถูกแพร่กระจายไปแล้ว พวกเราจะไปดูหน่อยไหม ตรงนั้นจะต้องครึกครื้นอย่างแน่นอน!
หลินหยุนพูดเบาๆ สถานที่ลึกลับแบบนี้ น่าจะมีเยอะใช่ไหม?
ซิงเฟยครุ่นคิดชั่วครู่และพูด ถ้าจะพูดว่าเยอะก็ไม่ได้ แต่ถ้าพูดว่าน้อยก็ไม่ใช่!
มันเป็นสถานที่ลึกลับที่ยอดฝีมือสมัยก่อนทิ้งเอาไว้ ส่วนใหญ่จะเป็นสถานที่มรณภาพของยอดฝีมือเหล่านั้น บางทีก็อาจจะเป็นสถานที่เก็บตัวฝึกฝนของยอดฝีมือก็ได้!
คุณอย่านึกว่าโลกคุนชางไม่ค่อยใหญ่ แต่มันมีประวัติศาสตร์ที่นานมากๆ!
ตามตำนาน ยุคโบราณกาลมียอดฝีมือจำนวนมากที่สามารถใช้ฝ่ามือทำลายนภา!
แต่ไม่รู้เป็นเพราะอะไร จู่ๆก็เข้าสู่ยุคแตกแตนทันที
ดังนั้นก็เลยไม่มีใครรู้เลยว่ายอดฝีมือเหล่านั้นเสียชีวิตไปแล้วหรือออกจากโลกคุนชางกันแน่ เรื่องนี้ไม่สามารถตรวจสอบได้!
อย่างไรก็ตาม โลกคุนชางมียอดฝีมือจำนวนมากเสียชีวิตอยู่ที่นี่ บางทีอาจจะเป็นสถานที่ฝึกฝนของยอดฝีมือพวกนั้น และมันก็ถูกคนอื่นๆพบเห็น!
คุณดูสิ คุณปรากฏตัวแบบนี้ ซ่านเต้าคนนั้นยังสงสัยเลยว่าคุณน่าจะได้วิชาลึกลับไม่ใช่เหรอ?
หลินหยุนพยักหน้าทันที
มันเป็นเรื่องจริง สำหรับการก่อกำเนิดของโลกคุนชาง และประวัติศาสตร์การบำเพ็ญเซียนของโลกมนุษย์ เขาคาดเดาไว้หลายอย่าง
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หลินหยุนก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงเย่เยว่
ถ้าร่างแยกของเย่เยว่ยังอยู่ข้างกายเขา เขาก็สามารถถามเธอได้ เขาเชื่อว่าเย่เยว่ต้องรู้เรื่องพวกนี้อย่างแน่นอน
น่าเสียดาย
เย่เยว่……
ไม่รู้ว่าร่างจริงของเย่เยว่ ตอนนี้อยู่ที่ไหนกันแน่……
หลินหยุดถอนหายใจ เขาเก็บความรู้สึกคิดถึงและความเป็นห่วงไว้ในก้นบึ้งของหัวใจ
เขาหันไปมองซิงเฟยและพูด ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว พวกเราก็ไปดูกันเถอะ!
บางทีพวกเราอาจจะได้อะไรกลับมาก็ได้ และสถานที่แห่งนั้นก็อยู่ไม่ไกลจากที่นี่
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินหยุน ซิงเฟยรู้สึกดีใจขึ้นมาทันที เพราะเธอมีนิสัยชอบอะไรที่สนุกๆอยู่แล้ว
ทั้งสองคนเดินออกจากเมืองชิงเฟิง และมองไปยังทิศตะวันตกเฉียงใต้
พวกเขาเห็นท้องฟ้าที่อยู่ห่างไปร้อยกว่ากิโลเมตร มันยังมีแสงสีน้ำเงินอ่อนๆอยู่
ซิงเฟยรีบพูดทันที เด็กหนุ่มของหอไป่เต้าพูดว่ามีรังสีกระบี่สามวันสามคืน แต่ตอนนี้มันยังมีรังสีอ่อนๆอยู่ สถานที่ลึกลับอันนี้ต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน! น่าจะเป็นสถานที่ลึกลับของยอดฝีมือแดนยาทอง!
พวกเรารีบไปกันเถอะ บางทีพวกเราอาจจะได้ของล้ำค่าก็ได้!
หลินหยุนพยักหน้าและปล่อยรถเมฆออกมา
ด้วยระยะทางเพียงร้อยกว่ากิโลเมตร ผ่านไปไม่นาน พวกเขาสองคนก็ใกล้จะถึงแล้ว
เมื่อยิ่งเข้าใกล้ พวกเขาก็ยิ่งเจอคนจำนวนมากที่มารวมตัวกันยังสถานที่แห่งนี้
แต่พวกเขาไม่ได้เจอยอดฝีมือที่ร้ายกาจเลย ส่วนใหญ่จะเป็นยอดฝีมือแดนฝึกพลังระยะแรกหรือไม่ก็แดนฝึกพลังระยะกลาง แต่ไม่เห็นแดนฝึกพลังระยะหลังแม้แต่คนเดียว
ทั้งสองคนนั่งอยู่ในรถเมฆ และดึงดูดสายตาของคนจำนวนไม่น้อย
ผ่านไปไม่นาน พวกเขาสองคนก็เดินทางมาถึงด้านนอกของสถานที่ลึกลับ
ที่นี่คือภูเขาลูกหนึ่ง บนภูเขาเต็มไปด้วยต้นไม้ แต่ภูเขาไม่ค่อยสูงนัก
เมื่อทั้งสองคนเดินทางมาถึงตีนเขา พวกเขาก็เห็นคนจำนวนมากล้อมภูเขาลูกนี้เอาไว้
มีคนจำนวนไม่น้อยโดนขวางทางเอาไว้และไม่ยอมให้เข้าไป
พวกเขาสองคนเดินลงรถเมฆทันที และเดินไปยังด้านหน้า
ตึกปาอินอย่างพวกคุณทำเกินไปหรือเปล่า?
สถานที่ลึกลับปรากฏ คนมีวาสนาก็จะได้รับของล้ำค่าจากที่นั่น!
ตึกปาอินอย่างพวกคุณกล้าขัดขวางพวกเราไม่ให้เข้าไป พวกคุณไม่รู้จักประมาณตนบ้างเหรอ?
ถึงแม้พวกเราจะเป็นผู้ฝึกอิสระ แต่ถ้าพวกเราร่วมมือกัน ตึกปาอินของพวกคุณกล้าต่อกรกับพวกเราเหรอ ?
พูดถูกแล้ว!
ตึกปาอินทำเกินไปแล้ว!
พวกคุณคิดว่าตัวเองเป็นใคร? คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของโลกคุนชางเหรอ?
ถ้ายังไม่ยอมปล่อยให้พวกเราเข้าไป ถ้างั้นพวกเราก็จะไม่เกรงใจแล้วนะ!
ด้านล่างภูเขา มีผู้ฝึกอิสระจำนวนไม่น้อย กำลังพูดด้วยความโกรธ
ซิงเฟยพูดเบาๆ ตึกปาอินเป็นกลุ่มหนึ่งที่มีอำนาจและมีอิทธิพลมากๆ แต่พวกเขาเทียบสำนักสุริยันกับวิหารผนึกวิญญาณไม่ได้เลย
อย่าคิดว่าพวกเขาแค่ขวางไว้เฉยๆ แต่ถ้ามีตระกูลใหญ่ๆหรือคนของสำนักสุริยันกับวิหารผนึกวิญญาณมาถึง พวกเขาก็จะยอมปล่อยคนพวกนั้นเข้าไปทันที!
ตอนนี้พวกเขาขวางทางอยู่ เพราะพวกเขาไม่ต้องการให้ผู้ฝึกอิสระพวกนี้เข้าไปเท่านั้น!
ยอดฝีมือของตึกปาอิน คงกำลังหาวิธีทำลายค่ายกลอย่างแน่นอน!
หลินหยุนพยักหน้า เขาไม่ได้รู้สึกแปลกใจเลย
จากนั้นพวกเขาก็ได้ยินชายวัยกลางคนของตึกปาอินพูด ทุกคนสงบสติอารมณ์หน่อย! ช่วยสงบสติอารมณ์ก่อน!
พวกเราตึกปาอินจำเป็นต้องปิดทางเข้าสถานที่แห่งนี้ เพราะต้องการจัดระเบียบเท่านั้น!
ถ้ายอดฝีมือจากทุกฝ่ายมาถึงแล้ว หลังจากปรึกษากัน พวกเราก็จะเปิดทางให้ทันที!
ฉันหวังว่าทุกคนจะให้ความร่วมมือ!
หลังจากชายวัยกลางคนพูดจบ ก็มีคนตะโกนด้วยความโกรธ คุณพูดจาไร้สาระมากๆ คุณคิดว่าพวกเราไม่รู้ความคิดของตึกปาอินเหรอ!
ตอนนี้คนของตึกปาอินกำลังหาวิธีทำลายค่ายกลอยู่ใช่ไหม?
บางทีอาจจะทำลายค่ายกลสำเร็จแล้วก็ได้?
ตอนนี้พวกคุณขัดขวางพวกเราเอาไว้ เพราะกลัวพวกเราไปแย่งของล้ำค่าใช่ไหม?
พูดถูกแล้ว!
คุณนึกว่าพวกเราไม่รู้ความคิดของพวกคุณเหรอ!
รีบๆให้คนของตึกปาอินหลีกทางเดี๋ยวนี้!
ไม่งั้นก็อย่าหาว่าพวกเราไม่เกรงใจละกัน!
ชายวัยกลางคนได้ยินคำพูดเหล่านี้ สีหน้าของเขาก็เคร่งขรึมทันที
ยังไม่ทันที่เขาจะได้เอ่ยปากพูด มีพลังที่แข็งแกร่งมากๆมาจากทิศเหนือ
ทุกคนเงยหน้าขึ้นไปมองทันที
จากนั้น มีเด็กหนุ่มวัยรุ่นคนหนึ่งมาถึงด้านหน้าของทุกคน
เด็กหนุ่มคนนี้อายุยี่สิบเจ็ดกว่าๆ เขาใส่เสื้อผ้าชุดม่วง มีใบหน้าที่หล่อเหล่าและสง่างามมากๆ
เมื่อเขาปรากฏตัว ทำให้ทุกคนรู้สึกเกรงกลัวทันที และพลังของเขาก็แข็งแกร่งและน่ากลัวมากๆ
เขา……คือวูแสหยุนที่เป็นคุณชายของตระกูลวูใช่ไหม?
ฉันจำเขาได้ หลายปีก่อน ฉันเคยเห็นเขาครั้งหนึ่งที่ประสาทตระกูลวู!
เขาเข้าสำนักเต๋าเสินเซียวเพื่อฝึกฝนวิชานานแล้วไม่ใช่เหรอ?
ตอนนี้สำนักเต๋าเสินเซียวเป็นหนึ่งในเก้าสำนัก และอยู่ในลำดับที่ห้าด้วย!
ทำไมเขาถึงปรากฏตัวที่นี่?
เรื่องนี้ไม่มีใครรู้แน่ชัด!
อย่างไรก็ตาม ได้ข่าวมาว่าสำนักเต๋าเสินเซียวให้ความสำคัญกับวูแสหยุนมากๆ! ตอนนี้เขาได้กลายเป็นเด็กหนุ่มที่มีชื่อเสียงมากๆในลำดับเยาว์คุนชาง!
เมื่อวูแสหยุนปรากฏตัว ทำให้คนจำนวนไม่น้อยอุทานออกมาทันที
หลินหยุนหันหน้ากลับไปมองซิงเฟยและถาม ลำดับเยาว์คุนชางที่คนพวกนั้นพูดถึงคืออะไรกันแน่?