จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – บทที่ 1237 ความมักใหญ่ใฝ่สูงของเจียงยี่

บทที่ 1237 ความมักใหญ่ใฝ่สูงของเจียงยี่

ถ้าหากฉันไม่ได้อยู่ด้วยกันกับหลินหยุนเป็นเวลานานขนาดนี้ รู้ดีว่าคนผู้นี้นอกจากจะชอบทำตัวเย่อหยิ่งแล้ว ไม่มีความคิดหรือการกระทำอะไรที่ผิดแปลกไป ไม่แน่อาจจะคิดแบบนั้นก็เป็นได้

ซิงเฟยครุ่นคิดชั่วครู่ และพูดขึ้นว่า  ตอนนี้หลินหยุนเอาชนะจางเซียวยี่ได้แล้ว เธอคิดว่า เจียงยี่นั้นจะลงมือเองไหม? คนผู้นั้นมีพลังบำเพ็ญระดับไหนกันแน่?  

 เธอไม่รู้หรอกว่า หลินหยุนชอบที่จะพักอาศัยอยู่ที่เมืองเทียนหยุนนี้อย่างมาก ตอนนี้เขาไม่คิดที่จะจากที่นี่ไป ฉันเองก็หมดปัญญา!  

 ดังนั้น ฉันอยากจะรู้ว่า หลังจากที่จางเซียวยู่พ่ายแพ้ต่อหลินหยุนแล้ว เจียงยี่ที่เป็นพี่ชายของเจียงเผิงนั้น จะมีแผนการลงมืออะไรบ้างไหม!  

ติงหลิงขมวดคิ้วและพูดว่า  ฉันบอกกับเธอตั้งนานแล้วว่า! เธอควรจะรักษาระยะห่างกับหลินหยุนเอาไว้จะดีที่สุด!  

 ถ้าหากเธอเชื่อฟังที่ฉันพูด ตอนนี้ก็รีบออกไปจากเมืองเทียนหยุนซะ ตอนนี้หลินหยุนผู้นั้นกำลังเล่นอยู่กับไฟ!  

 นอกจากนี้ ฉันจำเป็นต้องบอกกับเธอว่า ศิษย์พี่เจียงยี่แข็งแกร่งกว่าศิษย์พี่จางเซียวยู่มาก อีกทั้งยังโหดเหี้ยมมากกว่าด้วย!  

 เมื่อเขาลงมือ หลินหยุนจะต้องตายอย่างแน่นอน เธอเองก็จะได้รับความเดือดร้อนไปด้วย เมื่อถึงตอนนั้นอย่าได้หาว่าฉันไม่เตือนเธอนะ!  

ซิงเฟยส่งเสียงฮึในใจ พูดในใจว่าถ้าหากเจียงยี่ลงมือจริง ๆ นั้น ก็สมบูรณ์แบบเลย!

ตอนนี้เธอกังวลว่าผู้อาวุโสคนไหนของสำนักเทียนหยุนจะเป็นผู้ลงมือ

หากเป็นอย่างนั้นแล้วไม่ใช่บอกว่าหลินหยุนจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้

เพียงแต่เมื่อหลินหยุนเอาชนะเขาได้ สภาพเหตุการณ์ก็จะเปลี่ยนแปลงไป

เมื่อถึงตอนนั้น หลินหยุนจะก็เป็นที่ดึงดูดเป็นจุดสนใจของทั้งสำนักเทียนหยุน

ซิงเฟยสูดหายใจลึก ท่าทางของเธอเริ่มจริงจังมากขึ้น

มองไปที่ติงหลิงและพูดขึ้นว่า  เสี่ยวหลิง ฉันมีเรื่องขอร้องหนึ่งเรื่อง! เธอจะต้องรับปากกับฉัน!  

ติงหลิงพลันเหลือบตาขาวใส่ และพูดว่า  หยุดก่อน! ฉันรู้ว่าเธอจะพูดอะไร? แต่ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่ช่วยเหลือเธอ แต่เป็นเพราะฉันไม่สามารถช่วยเหลือเธอได้!  

 ฉันจะบอกเธอว่า ฉันก็เป็นเพียงแค่ลูกศิษย์ธรรมดาคนหนึ่งในสำนักเทียนหยุน เพียงแต่ถนัดในการเข้าสังคมและเข้ากับคนได้ง่าย ดังนั้นก็ถือว่ามีเพื่อนฝูงมากมาย แต่ก็จำกัดแค่ในโลกแดนฝึกพลังเท่านั้น!  

 เธอคิดว่าฉันเป็นใครกันล่ะ?  

 พวกลูกศิษย์ขั้นยาทองเหล่านั้น ฉันไม่สามารถเข้าถึงและไปพบเจอกับพวกเขาได้เลย 

 เธอต้องการที่จะให้ฉันช่วยจับตามองความเคลื่อนไหวของเจียงยี่ใช่ไหม?  

 เธอประเมินค่าฉันสูงเกินไปแล้ว!  

 อย่าพูดเลยว่าจะสำเร็จ เจียงเผิงผู้นั้นเธอคิดว่าเขาโง่เขลานักหรือไง เขาก็ยังระมัดระวังตัวฉันอยู่ด้วยเหมือนกัน!  

 สรุปแล้ว เรื่องนี้ฉันไม่สามารถที่จะช่วยเหลือเธอได้!  

 ฉันเองก็จะเตือนเธอไว้เป็นครั้งสุดท้าย ไม่ว่าหลินหยุนนั้นจะไปจากที่นี่หรือไม่ และตกลงจะทำอะไร เธอนั้น รีบหนีไปซะ!  

ซิงเฟยขมวดคิ้ว  ฉันไม่เชื่อว่าเธอจะไม่มีวิธีการอะไรบ้างเลย!  

 ฉันเองก็ไม่ได้ใช้ให้เธอทำอะไรสักหน่อย เธอก็แค่ช่วยฉันจับตาดูเอาไว้ก็เท่านั้น!  

 ถ้าหากไม่ได้จริง ๆ ฉันก็จะไปจากที่นี่!  

ติงหลิงพูดอะไรไม่ออก โดยที่ไม่ได้พูดจาอะไรเพิ่ม

สงบเงียบลงไปชั่วครู่ จึงพูดขึ้นอย่างจำใจว่า  ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่ก็แล้วกัน แต่เธอก็อย่าตั้งความหวังอะไรไว้มาก!  

ซิงเฟยได้ยินดังนั้นก็ยิ้มหัวเราะขึ้น  ตกลง! นี่ถึงจะเป็นเพื่อนรักของฉัน! เท่านี้แล้วกัน ฉันขอตัวไปก่อน!  

พูดจบ ก็เดินจากไป

กลับมาถึงโรงเตี๊ยม

หลินหยุนมั่นคงหนักแน่นจริง ๆ โดยที่ยังคงบำเพ็ญฝึกฝนอยู่

แต่ อีกด้านหนึ่งนั้น

เมื่อติงหลิงกลับไปถึงสำนักก็รีบไปที่วิมานของเจียงเผิง แต่เจียงเผิงกลับไม่อยู่

เวลานี้เจียงเผิง และจางเซียวยู่ที่มีอาการบาดเจ็บสาหัส กำลังอยู่ในวิมานของเจียงยี่

เห็นจางเซียวยู่สีหน้าขาวซีดอย่างที่สุด และยังไอจามอย่างไม่หยุดด้วย เจียงยี่เองก็สีหน้าเคร่งเครียด หน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างหนัก

ผ่านไปชั่วครู่ พลันหันหน้ากลับมา มองไปที่จางเซียวยู่และพูดขึ้นว่า  เซียวยู่ แม้แต่นายเองก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของไอ้คนนั้นเหรอ?  

จางเซียวยู่พยักหน้าและยิ้มอย่างขมขื่น แล้วพูดขึ้นว่า  เช่นนั้นจริง ๆ! คนผู้นั้นหลังจากที่ถูกพันตัวด้วยผ้าแพรขาวป่วนฟ้าของฉันแล้ว ก็ใช้พลังทำลายจนขาดออก จากนั้นก็ทำร้ายฉันจนบาดเจ็บสาหัส! ฉันแสดงพลังฝนกระบี่ แต่ก็ยังคงทำอะไรฝ่ายตรงข้ามไม่ได้เลย!  

ได้ยินจางเซียวยู่พูดดังนั้น เจียงยี่ก็มีสีหน้าท่าทางที่เปลี่ยนไปทันที และพูดขึ้นอย่างเหลือเชื่อว่า  นายพูดอะไรนะ? แม้แต่ฝนกระบี่ของนายก็ยังไม่สามารถเอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้อย่างนั้นเหรอ?  

จางเซียวยู่ยิ้มอย่างขมขื่น และพยักหน้า  กระทำเรื่องที่ศิษย์พี่ฝากฝังไม่สำเร็จ เซียวยู่ละอายใจเป็นอย่างมาก!  

เจียงยี่ส่ายศีรษะไปมา  เซียวยู่อย่าได้พูดแบบนี้เลย! นายสามารถลงมือต่อสู้แทน ก็ถือว่าได้ช่วยเหลือศิษย์พี่อย่างมากแล้ว!  

ขณะที่พูด เจียงยี่ก็พลิกฝ่ามือ โอสถเม็ดหนึ่งก็กระเด็นไปทางจางเซียวยู่

 เซียวยู่นายกลับไปพักรักษาตัวเถอะ ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว!  

 ตกลง ขอบคุณศิษย์พี่มาก!  

เพียงแค่พูดคำว่าขอบคุณ โดยที่ไม่ได้พูดอะไรอย่างอื่นอีก

ไอเบา ๆ จากนั้นก็หันหลังเดินออกไปจากวิมาน

เมื่อเขาจากไปแล้ว สายตาของเจียงยี่ก็มองมาที่เจียงเผิงอีกครั้ง สีหน้าหม่นหมองลงทันที  พูดมาสิ ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?  

เจียงเผิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าย่ำแย่ว่า  พี่ชาย ก็เหมือนกับที่ศิษย์พี่เซียวยู่พูดไว้อย่างนั้น! ไอ้หนุ่มนั่นถูกผ้าแพรขาวป่วนฟ้าของศิษย์พี่เซียวยู่พันรัดตัวเอาไว้แล้วจริง ๆ!  

 แต่ตอนที่ทุกคนต่างก็คิดว่า ไอ้หนุ่มนั้นคงจะถูกศิษย์พี่เซียวยู่สังหารแน่นอนแล้ว เขากลับทำลายผ้าแพรขาวป่วนฟ้า และทำร้ายศิษย์พี่เซียวยู่จนบาดเจ็บสาหัส 

 ไอ้หนุ่มนั้นได้แสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ที่น่าเหลือเชื่อ และน่าสะพรึงกลัวอย่างที่สุด!  

แม้ว่าตอนนี้ย้อนนึกถึงภาพเหตุการณ์นั้น เจียงเผิงก็ยังคงเกิดความหวาดกลัวอยู่ในใจ

อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์นั้นของหลินหยุนช่างน่ากลัวเหลือเกิน!

เจียงยี่เงียบกริบ

ผ่านไปสักพัก ก็พูดเสียงแข็งขึ้นว่า  นายกลับไปก่อนเถอะ! ช่วงนี้อย่าได้ไปก่อเรื่องที่ไหนอีก!  

เจียงเผิงได้ยินดังนั้น สีหน้าเปลี่ยนไปทันที และพูดขึ้นอย่างรีบร้อนว่า  พี่ชาย หรือว่าจะปล่อยไปแบบนี้อย่างนั้นเหรอ?  

เจียงยี่ตวาดใส่ด้วยเสียงเย็นชา  ไสหัวไป! ทุกสิ่งอย่างรอให้ฉันออกจากการบำเพ็ญก่อนแล้วค่อยว่ากัน! ช่วงนี้หากยังจะกล้าลงจากภูเขาไปอีกล่ะก็ ฉันจะตัดขาทั้งสองข้างของแกซะ! ไสหัวออกไป!  

เจียงเผิงก็พลันดีใจ และรีบพยักหน้าตอบรับ  รับทราบ! พี่ชาย ฉันรู้แล้ว ท่านเก็บตัวบำเพ็ญฝึกฝนต่อเถอะ ฉันขอตัวไปก่อนแล้ว!  

พูดจบก็เดินออกมาจากวิมานของเจียงยี่

เจียงยี่รวบรวมสมาธิ นั่งขัดสมาธิ แล้วก็บำเพ็ญฝึกฝนเพื่อบรรลุยาทองระดับสี่ต่อไป

เขาในตอนนี้ ห่างจากยาทองระดับสี่ เพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้น

เมื่อเข้าสู่ยาทองระดับสี่แล้ว พลังบำเพ็ญของเขาจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินเลย

เมื่อถึงตอนนั้น ก็จะลงจากภูเขาเพื่อไปสังหารไอ้หนุ่มที่กำเริบเสิบสานคนนั้นก่อน

จากนั้น……

เขายังมีเรื่องสำคัญที่จะต้องทำอีก เมื่อคิดถึงผู้ที่ทำให้ตนเองได้รับบาดเจ็บแล้วนั้น สายตาของเจียงยี่ก็แสดงความโหดเหี้ยมออกมา

หลินชางฉอง! นายคิดว่า หลังจากที่นายทำร้ายฉันแล้ว เรื่องนี้ก็จะจบลงเพียงเท่านี้อย่างนั้นเหรอ?

ไม่มีทาง!

ไม่มีทางเด็ดขาด!

อีกไม่นานฉันก็จะไปหานายแล้ว!

เมื่อถึงตอนนั้น ไม่เพียงแค่นาย คนในตระกูลของนายทั้งหมด ผู้หญิงคนรักของนาย ล้วนจะตกเป็นของฉันทั้งสิ้น!

ฉันจะไม่สังหารนายลงอย่างง่ายดาย ฉันจะให้นายคุกเข่าที่เบื้องหน้าของฉัน มองดูฉันเอาอกเอาใจผู้หญิงคนรักของนาย ฉันจะทำให้นายได้รับความเจ็บปวดทรมานมากที่สุดในโลกนี้

ฉันจะทำให้นายรู้สึกถึง อะไรที่เรียกว่าไม่มีความสามารถเพียงพอ อะไรที่เรียกว่าร้องเรียกขอความช่วยเหลือ แต่ก็ไม่มีผู้ใดยื่นมือเข้าช่วย!

ไม่เพียงเท่านี้ รอให้ฉันออกไปจากที่นี่อีกครั้ง ฉันจะทำให้ทั้งโลกนี้ ล้วนศิโรราบอยู่ภายใต้ฝ่าเท้าของฉันเพียงผู้เดียว

ฉันจะกลายเป็นจักรพรรดิของโลกนี้!

ต้องบอกว่า เจียงยี่มีความมักใหญ่ใฝ่สูงมาก ช่วงเวลานี้เขาพยายามอย่างหนักและแข่งขันกับเวลาในการทะลุขั้นแดน เพื่อที่จะออกจากที่นี่ก่อนมู่หงให้ได้

เมื่อเขาถึงขั้นยาทองระดับสี่ก่อนแล้วนั้น หลังจากที่ออกไป เขาก็จะปิดกั้นช่องรอยต่อของช่องว่างในอากาศนั้นไว้

เมื่อถึงเวลานั้นทั้งโลกคุนชาง ก็จะมีเพียงแค่เขาคนเดียวที่สามารถเข้าออกได้อย่างอิสระแล้ว!

 

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

Status: Ongoing

มหากษัตริย์ชางฉองหลินหยุนที่ปราบปรามสามโลกไถ่บาปไม่สำเร็จ เกิดใหม่กลับสู่โลกมนุษย์เป็นเขยแต่งเข้าบ้าน ชาติปางก่อน ได้เมียที่สวยเซ็กซี่ดูเป็นผู้ใหญ่กลับครอบครองไม่ได้ ชาตินี้ หลินหยุนจะทำยังไง……ชาติก่อน เขาเป็นคนไร้ความสามารถที่ใครๆต่างดูถูก ชาตินี้ เขาเป็นหมอเทพหลินในวงการแพทย์ ตาทิพย์หลินในวงการของโบราณ อาจารย์หลินในวงการฮวงจุ้ย และหลินชางฉองในวงการบู๊ เมื่อเขากลับมาสู่เทวโลกอีกครั้ง พบว่าเทวโลกมีการเปลี่ยนแปลง หลายคนที่กำลังไถ่บาปรวมตัวกัน พวกเขาจะทำได้ดั่งใจหวังหรือไม่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท