ถ้าหากฉันไม่ได้อยู่ด้วยกันกับหลินหยุนเป็นเวลานานขนาดนี้ รู้ดีว่าคนผู้นี้นอกจากจะชอบทำตัวเย่อหยิ่งแล้ว ไม่มีความคิดหรือการกระทำอะไรที่ผิดแปลกไป ไม่แน่อาจจะคิดแบบนั้นก็เป็นได้
ซิงเฟยครุ่นคิดชั่วครู่ และพูดขึ้นว่า ตอนนี้หลินหยุนเอาชนะจางเซียวยี่ได้แล้ว เธอคิดว่า เจียงยี่นั้นจะลงมือเองไหม? คนผู้นั้นมีพลังบำเพ็ญระดับไหนกันแน่?
เธอไม่รู้หรอกว่า หลินหยุนชอบที่จะพักอาศัยอยู่ที่เมืองเทียนหยุนนี้อย่างมาก ตอนนี้เขาไม่คิดที่จะจากที่นี่ไป ฉันเองก็หมดปัญญา!
ดังนั้น ฉันอยากจะรู้ว่า หลังจากที่จางเซียวยู่พ่ายแพ้ต่อหลินหยุนแล้ว เจียงยี่ที่เป็นพี่ชายของเจียงเผิงนั้น จะมีแผนการลงมืออะไรบ้างไหม!
ติงหลิงขมวดคิ้วและพูดว่า ฉันบอกกับเธอตั้งนานแล้วว่า! เธอควรจะรักษาระยะห่างกับหลินหยุนเอาไว้จะดีที่สุด!
ถ้าหากเธอเชื่อฟังที่ฉันพูด ตอนนี้ก็รีบออกไปจากเมืองเทียนหยุนซะ ตอนนี้หลินหยุนผู้นั้นกำลังเล่นอยู่กับไฟ!
นอกจากนี้ ฉันจำเป็นต้องบอกกับเธอว่า ศิษย์พี่เจียงยี่แข็งแกร่งกว่าศิษย์พี่จางเซียวยู่มาก อีกทั้งยังโหดเหี้ยมมากกว่าด้วย!
เมื่อเขาลงมือ หลินหยุนจะต้องตายอย่างแน่นอน เธอเองก็จะได้รับความเดือดร้อนไปด้วย เมื่อถึงตอนนั้นอย่าได้หาว่าฉันไม่เตือนเธอนะ!
ซิงเฟยส่งเสียงฮึในใจ พูดในใจว่าถ้าหากเจียงยี่ลงมือจริง ๆ นั้น ก็สมบูรณ์แบบเลย!
ตอนนี้เธอกังวลว่าผู้อาวุโสคนไหนของสำนักเทียนหยุนจะเป็นผู้ลงมือ
หากเป็นอย่างนั้นแล้วไม่ใช่บอกว่าหลินหยุนจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้
เพียงแต่เมื่อหลินหยุนเอาชนะเขาได้ สภาพเหตุการณ์ก็จะเปลี่ยนแปลงไป
เมื่อถึงตอนนั้น หลินหยุนจะก็เป็นที่ดึงดูดเป็นจุดสนใจของทั้งสำนักเทียนหยุน
ซิงเฟยสูดหายใจลึก ท่าทางของเธอเริ่มจริงจังมากขึ้น
มองไปที่ติงหลิงและพูดขึ้นว่า เสี่ยวหลิง ฉันมีเรื่องขอร้องหนึ่งเรื่อง! เธอจะต้องรับปากกับฉัน!
ติงหลิงพลันเหลือบตาขาวใส่ และพูดว่า หยุดก่อน! ฉันรู้ว่าเธอจะพูดอะไร? แต่ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่ช่วยเหลือเธอ แต่เป็นเพราะฉันไม่สามารถช่วยเหลือเธอได้!
ฉันจะบอกเธอว่า ฉันก็เป็นเพียงแค่ลูกศิษย์ธรรมดาคนหนึ่งในสำนักเทียนหยุน เพียงแต่ถนัดในการเข้าสังคมและเข้ากับคนได้ง่าย ดังนั้นก็ถือว่ามีเพื่อนฝูงมากมาย แต่ก็จำกัดแค่ในโลกแดนฝึกพลังเท่านั้น!
เธอคิดว่าฉันเป็นใครกันล่ะ?
พวกลูกศิษย์ขั้นยาทองเหล่านั้น ฉันไม่สามารถเข้าถึงและไปพบเจอกับพวกเขาได้เลย
เธอต้องการที่จะให้ฉันช่วยจับตามองความเคลื่อนไหวของเจียงยี่ใช่ไหม?
เธอประเมินค่าฉันสูงเกินไปแล้ว!
อย่าพูดเลยว่าจะสำเร็จ เจียงเผิงผู้นั้นเธอคิดว่าเขาโง่เขลานักหรือไง เขาก็ยังระมัดระวังตัวฉันอยู่ด้วยเหมือนกัน!
สรุปแล้ว เรื่องนี้ฉันไม่สามารถที่จะช่วยเหลือเธอได้!
ฉันเองก็จะเตือนเธอไว้เป็นครั้งสุดท้าย ไม่ว่าหลินหยุนนั้นจะไปจากที่นี่หรือไม่ และตกลงจะทำอะไร เธอนั้น รีบหนีไปซะ!
ซิงเฟยขมวดคิ้ว ฉันไม่เชื่อว่าเธอจะไม่มีวิธีการอะไรบ้างเลย!
ฉันเองก็ไม่ได้ใช้ให้เธอทำอะไรสักหน่อย เธอก็แค่ช่วยฉันจับตาดูเอาไว้ก็เท่านั้น!
ถ้าหากไม่ได้จริง ๆ ฉันก็จะไปจากที่นี่!
ติงหลิงพูดอะไรไม่ออก โดยที่ไม่ได้พูดจาอะไรเพิ่ม
สงบเงียบลงไปชั่วครู่ จึงพูดขึ้นอย่างจำใจว่า ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่ก็แล้วกัน แต่เธอก็อย่าตั้งความหวังอะไรไว้มาก!
ซิงเฟยได้ยินดังนั้นก็ยิ้มหัวเราะขึ้น ตกลง! นี่ถึงจะเป็นเพื่อนรักของฉัน! เท่านี้แล้วกัน ฉันขอตัวไปก่อน!
พูดจบ ก็เดินจากไป
กลับมาถึงโรงเตี๊ยม
หลินหยุนมั่นคงหนักแน่นจริง ๆ โดยที่ยังคงบำเพ็ญฝึกฝนอยู่
แต่ อีกด้านหนึ่งนั้น
เมื่อติงหลิงกลับไปถึงสำนักก็รีบไปที่วิมานของเจียงเผิง แต่เจียงเผิงกลับไม่อยู่
เวลานี้เจียงเผิง และจางเซียวยู่ที่มีอาการบาดเจ็บสาหัส กำลังอยู่ในวิมานของเจียงยี่
เห็นจางเซียวยู่สีหน้าขาวซีดอย่างที่สุด และยังไอจามอย่างไม่หยุดด้วย เจียงยี่เองก็สีหน้าเคร่งเครียด หน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างหนัก
ผ่านไปชั่วครู่ พลันหันหน้ากลับมา มองไปที่จางเซียวยู่และพูดขึ้นว่า เซียวยู่ แม้แต่นายเองก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของไอ้คนนั้นเหรอ?
จางเซียวยู่พยักหน้าและยิ้มอย่างขมขื่น แล้วพูดขึ้นว่า เช่นนั้นจริง ๆ! คนผู้นั้นหลังจากที่ถูกพันตัวด้วยผ้าแพรขาวป่วนฟ้าของฉันแล้ว ก็ใช้พลังทำลายจนขาดออก จากนั้นก็ทำร้ายฉันจนบาดเจ็บสาหัส! ฉันแสดงพลังฝนกระบี่ แต่ก็ยังคงทำอะไรฝ่ายตรงข้ามไม่ได้เลย!
ได้ยินจางเซียวยู่พูดดังนั้น เจียงยี่ก็มีสีหน้าท่าทางที่เปลี่ยนไปทันที และพูดขึ้นอย่างเหลือเชื่อว่า นายพูดอะไรนะ? แม้แต่ฝนกระบี่ของนายก็ยังไม่สามารถเอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้อย่างนั้นเหรอ?
จางเซียวยู่ยิ้มอย่างขมขื่น และพยักหน้า กระทำเรื่องที่ศิษย์พี่ฝากฝังไม่สำเร็จ เซียวยู่ละอายใจเป็นอย่างมาก!
เจียงยี่ส่ายศีรษะไปมา เซียวยู่อย่าได้พูดแบบนี้เลย! นายสามารถลงมือต่อสู้แทน ก็ถือว่าได้ช่วยเหลือศิษย์พี่อย่างมากแล้ว!
ขณะที่พูด เจียงยี่ก็พลิกฝ่ามือ โอสถเม็ดหนึ่งก็กระเด็นไปทางจางเซียวยู่
เซียวยู่นายกลับไปพักรักษาตัวเถอะ ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว!
ตกลง ขอบคุณศิษย์พี่มาก!
เพียงแค่พูดคำว่าขอบคุณ โดยที่ไม่ได้พูดอะไรอย่างอื่นอีก
ไอเบา ๆ จากนั้นก็หันหลังเดินออกไปจากวิมาน
เมื่อเขาจากไปแล้ว สายตาของเจียงยี่ก็มองมาที่เจียงเผิงอีกครั้ง สีหน้าหม่นหมองลงทันที พูดมาสิ ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
เจียงเผิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าย่ำแย่ว่า พี่ชาย ก็เหมือนกับที่ศิษย์พี่เซียวยู่พูดไว้อย่างนั้น! ไอ้หนุ่มนั่นถูกผ้าแพรขาวป่วนฟ้าของศิษย์พี่เซียวยู่พันรัดตัวเอาไว้แล้วจริง ๆ!
แต่ตอนที่ทุกคนต่างก็คิดว่า ไอ้หนุ่มนั้นคงจะถูกศิษย์พี่เซียวยู่สังหารแน่นอนแล้ว เขากลับทำลายผ้าแพรขาวป่วนฟ้า และทำร้ายศิษย์พี่เซียวยู่จนบาดเจ็บสาหัส
ไอ้หนุ่มนั้นได้แสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ที่น่าเหลือเชื่อ และน่าสะพรึงกลัวอย่างที่สุด!
แม้ว่าตอนนี้ย้อนนึกถึงภาพเหตุการณ์นั้น เจียงเผิงก็ยังคงเกิดความหวาดกลัวอยู่ในใจ
อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์นั้นของหลินหยุนช่างน่ากลัวเหลือเกิน!
เจียงยี่เงียบกริบ
ผ่านไปสักพัก ก็พูดเสียงแข็งขึ้นว่า นายกลับไปก่อนเถอะ! ช่วงนี้อย่าได้ไปก่อเรื่องที่ไหนอีก!
เจียงเผิงได้ยินดังนั้น สีหน้าเปลี่ยนไปทันที และพูดขึ้นอย่างรีบร้อนว่า พี่ชาย หรือว่าจะปล่อยไปแบบนี้อย่างนั้นเหรอ?
เจียงยี่ตวาดใส่ด้วยเสียงเย็นชา ไสหัวไป! ทุกสิ่งอย่างรอให้ฉันออกจากการบำเพ็ญก่อนแล้วค่อยว่ากัน! ช่วงนี้หากยังจะกล้าลงจากภูเขาไปอีกล่ะก็ ฉันจะตัดขาทั้งสองข้างของแกซะ! ไสหัวออกไป!
เจียงเผิงก็พลันดีใจ และรีบพยักหน้าตอบรับ รับทราบ! พี่ชาย ฉันรู้แล้ว ท่านเก็บตัวบำเพ็ญฝึกฝนต่อเถอะ ฉันขอตัวไปก่อนแล้ว!
พูดจบก็เดินออกมาจากวิมานของเจียงยี่
เจียงยี่รวบรวมสมาธิ นั่งขัดสมาธิ แล้วก็บำเพ็ญฝึกฝนเพื่อบรรลุยาทองระดับสี่ต่อไป
เขาในตอนนี้ ห่างจากยาทองระดับสี่ เพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้น
เมื่อเข้าสู่ยาทองระดับสี่แล้ว พลังบำเพ็ญของเขาจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินเลย
เมื่อถึงตอนนั้น ก็จะลงจากภูเขาเพื่อไปสังหารไอ้หนุ่มที่กำเริบเสิบสานคนนั้นก่อน
จากนั้น……
เขายังมีเรื่องสำคัญที่จะต้องทำอีก เมื่อคิดถึงผู้ที่ทำให้ตนเองได้รับบาดเจ็บแล้วนั้น สายตาของเจียงยี่ก็แสดงความโหดเหี้ยมออกมา
หลินชางฉอง! นายคิดว่า หลังจากที่นายทำร้ายฉันแล้ว เรื่องนี้ก็จะจบลงเพียงเท่านี้อย่างนั้นเหรอ?
ไม่มีทาง!
ไม่มีทางเด็ดขาด!
อีกไม่นานฉันก็จะไปหานายแล้ว!
เมื่อถึงตอนนั้น ไม่เพียงแค่นาย คนในตระกูลของนายทั้งหมด ผู้หญิงคนรักของนาย ล้วนจะตกเป็นของฉันทั้งสิ้น!
ฉันจะไม่สังหารนายลงอย่างง่ายดาย ฉันจะให้นายคุกเข่าที่เบื้องหน้าของฉัน มองดูฉันเอาอกเอาใจผู้หญิงคนรักของนาย ฉันจะทำให้นายได้รับความเจ็บปวดทรมานมากที่สุดในโลกนี้
ฉันจะทำให้นายรู้สึกถึง อะไรที่เรียกว่าไม่มีความสามารถเพียงพอ อะไรที่เรียกว่าร้องเรียกขอความช่วยเหลือ แต่ก็ไม่มีผู้ใดยื่นมือเข้าช่วย!
ไม่เพียงเท่านี้ รอให้ฉันออกไปจากที่นี่อีกครั้ง ฉันจะทำให้ทั้งโลกนี้ ล้วนศิโรราบอยู่ภายใต้ฝ่าเท้าของฉันเพียงผู้เดียว
ฉันจะกลายเป็นจักรพรรดิของโลกนี้!
ต้องบอกว่า เจียงยี่มีความมักใหญ่ใฝ่สูงมาก ช่วงเวลานี้เขาพยายามอย่างหนักและแข่งขันกับเวลาในการทะลุขั้นแดน เพื่อที่จะออกจากที่นี่ก่อนมู่หงให้ได้
เมื่อเขาถึงขั้นยาทองระดับสี่ก่อนแล้วนั้น หลังจากที่ออกไป เขาก็จะปิดกั้นช่องรอยต่อของช่องว่างในอากาศนั้นไว้
เมื่อถึงเวลานั้นทั้งโลกคุนชาง ก็จะมีเพียงแค่เขาคนเดียวที่สามารถเข้าออกได้อย่างอิสระแล้ว!