บทที่ 78 ปีศาจจิ้งจอก
หลังจากทำงานมาทั้งวัน เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกเหนื่อยล้าไปทั้งตัว ในแง่หนึ่ง การไม่ได้ทำงานมานานทำให้เธอยากที่จะหลีกเลี่ยงความรู้สึกอึดอัดไม่คุ้นเคย ในอีกด้านหนึ่ง การที่ต้องเผชิญกับความลำบากใจอย่างมากแบบนี้ ทำให้เธอทนไม่ได้ด้วยเช่นกัน
แม้ว่าหัวใจจะอึดอัดอย่างยิ่ง แต่เจียงหยุนเอ๋อก็ยังต้องการที่จะยืนหยัดต่อไป แต่ยิ่งเธออยู่ในบริษัทนานเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งได้ยินข่าวลือมากขึ้นเท่านั้น
ในความเป็นจริงหลายคนในบริษัทหลายๆคนรับรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเฉียวซิน และ ลี่หยูนห่วนก่อนหน้านั้นพวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมเฉียวซินถึงต้องทำตัวเป็นปรปักษ์ใส่เจียงหยุนเอ๋อ แต่ต่อมาพวกเขาได้รู้ว่าเจียงหยุนเอ๋อได้รับการฝากฝังมาจาก ลี่หยูนห่วนดังนั้นพวกเขาจึงเข้าใจความคิดของเฉียวซินขึ้นมาแล้ว
ในเมื่อท้ายที่สุด เฉียวซินต่างหากที่เป็นแฟนตัวจริงของลี่หยูนห่วนไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากเห็นแฟนของตนปฏิบัติต่อเพศตรงข้ามอย่างดีขนาดนั้น
อีกทั้งลี่หยูนห่วนยังปรากฏตัวในบริษัทหลายครั้ง แต่ว่าทุกครั้งที่เขามาเขากลับตรงไปที่เจียงหยุนเอ๋อ และทิ้งเฉียวซินแฟนสาวไว้ด้านหนึ่ง
แบบนี้จะทำให้เฉียวซินที่เป็นแฟนอย่างเปิดเผยนั้นเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกัน?
แต่เดิมในใจของเฉียวซินก็ไม่สงบอยู่แล้ว ไม่คาดคิดเลยว่านับวันลี่หยูนห่วนก็ยิ่งทำตัวมากเกินไป พนักงานใน บริษัทก็รู้เห็นเรื่องทั้งหมดนี้อย่างลับๆ ไม่นานนัก ข่าวลือมากมายก็แพร่สะพัดในบริษัท
“เฮ้อ เจียงหยุนเอ๋อช่างเป็นปีศาจจิ้งจอกจริงๆ คุณดูสิว่าก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์ระหว่างประธานเฉียวของเรากับแฟนหนุ่มของเธอดีแค่ไหน ผลก็คือ? ลี่หยูนห่วนนั่นก็ไม่รู้ว่ามีอะไรผิดปกติกับเขา ระยะนี้มาที่บริษัทของประธานเฉียวแต่กลับไม่สนใจเธอ ซ้ำยังไปให้ความสำคัญกับเจียงหยุนเอ๋อที่มาใหม่เป็นพิเศษ”
“นั่นสิ เจียงหยุนเอ๋อถูกเขาฝากฝังมาไม่ใช่หรือ? ฉันว่า ประธานเฉียวคงถูกลี่หยูนห่วนหลอกใช้แน่ๆ หากไม่ใช่เพราะเธอชอบลี่หยูนห่วนมากเกินไป คงไม่เก็บเรื่องเหล่านี้เอาไว้เงียบๆ”
“เป็นเพราะเจียงหยุนเอ๋อเจ้าเล่ห์เกินไปต่างหาก ถึงกับกล้าสมรู้ร่วมคิดกับลี่หยูนห่วนหากฉันเป็นประธานเฉียวฉันคงไม่สามารถทนได้แน่”
เดิมทีเจียงหยุนเอ๋อพยายามบังคับตัวเองไม่ให้สนใจข่าวลือเหล่านั้น แต่เธอก็ค่อยๆค้นพบว่าเกือบทุกคนในบริษัท มองตนเองแตกต่างกันไป เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเชื่อข่าวลือพวกนั้นไปแล้วจริงๆ
หลังจากได้รับการปฏิบัติแบบนี้มาหลายวัน ในที่สุดเจียงหยุนเอ๋อก็ทนไม่ได้อีกต่อไป เธอจึงไปที่ห้องทำงานของเฉียวซินและขอพบเธอ
“อ้าว คุณหนูเจียงมาได้อย่างไรกัน? งานวันนี้เรียบร้อยแล้วหรือ?” เฉียวซินเงยหน้าขึ้นราวกับว่าแปลกใจเล็กน้อยและเอ่ยถาม
เจียงหยุนเอ๋อจ้องมองเฉียวซินเธอไม่รู้ว่าเฉียวซินได้ยินข่าวลือในบริษัทหรือไม่ แต่ว่า…เฉียวซินที่ยังคงปฏิบัติต่อเธอด้วยท่าทีสงบเช่นนี้ ก็เพียงพอที่จะทำให้เธอซาบซึ้งแล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่อยากเพิ่มความยุ่งยากลำบากให้กับเฉียวซิน
“ประธานเฉียวฉันไม่คิดว่าฉันเหมาะกับงานนี้ ดังนั้นฉันคิดว่า….พอแค่นี้เถอะค่ะ….” เจียงหยุนเอ๋อครุ่นคิดหาวิธีเอ่ยปาก
เฉียวซินเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ เธอมองไปที่เจียงหยุนเอ๋ออย่างระมัดระวัง และพยายามเกลี้ยกล่อมอีกครั้ง “แต่ฉันคิดว่าทำงานของคุณเร็วๆมานี้ไม่เลวเลย งานของคุณมีประสิทธิภาพดี หรือว่าคุณไปได้ยินสิ่งใครพูดอะไรมา? พวกเขาจะพูดอะไรคุณก็อย่าได้ไปใส่ใจ คุณต้องมีความมั่นใจในตัวเอง”
เมื่อเห็นเฉียวซินที่เชื่อมั่นในตัวเธอขนาดนี้ เจียงหยุนเอ๋อก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดมากขึ้น อันที่จริงการมีอยู่ของเธอไม่ได้มีความหมายอะไรต่อเฉียวซินเลยแม้แต่น้อย ซ้ำในทางตรงกันข้ามข่าวลือพวกนั้นยังจะไปรบกวนเธออีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการทำงานของตนก็ไม่ได้มีอะไรที่โดดเด่น หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นก็สามารถทำได้เช่นกัน
“ขอบคุณมากค่ะ ประธานเฉียวแต่ฉันคิดว่ามันไม่เหมาะสมกับฉัน ดังนั้น……ขอโทษด้วยนะคะ ฉันยังคง….ไม่ทำงานที่นี่ต่อไปในตอนนี้จะดีกว่า” เจียงหยุนเอ๋อพูดกับเฉียวซินด้วยรอยยิ้ม
เฉียวซินฉายแววความเสียใจบนใบหน้า และเอ่ย “น่าเสียดายจริงๆ….ฉันชอบคุณมากจริงๆ แต่ถ้าคุณยืนยันที่จะไปฉันก็ทำอะไรไม่ได้ ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณคิดอยากจะกลับมาก็รีบมานะคะ ที่นี่ยินดีต้อนรับ”
“ขอบคุณค่ะ ประธานเฉียว” เจียงหยุนเอ๋อโค้งให้เธอและออกจากห้องทำงาน
หลังจากเก็บข้าวของของตนเสร็จ เจียงหยุนเอ๋อก็นิ่งคิด จากนั้นจึงโทรหาลี่หยูนห่วนและบอกกับเขาสักหน่อย ในเมื่อสุดท้ายแล้วงานนี้เป็นเขาที่แนะนำให้กับเธอ การจากไปโดยไม่บอกกล่าวแบบนี้ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่
ในขณะที่ได้รับสายของเจียงหยุนเอ๋อลี่หยูนห่วนก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย นั่นเพราะในทรงจำของเขา เจียงหยุนเอ๋อไม่เคยคิดริเริ่มที่จะโทรหาเขามาก่อนสักครั้ง
หรือว่า….นี่จะเป็นก้าวที่ใกล้กับความสำเร็จไปอีกก้าว?
“สวัสดี ทำไมจู่ๆคุณถึงต้องการโทรหาผม? ตอนนี้คุณสมควรอยู่ที่บริษัทใช่ไหม? ช่วงนี้ทำงานเป็นอย่างไรบ้าง?” ลี่หยูนห่วนถามอย่างกระตือรือร้น
เจียงหยุนเอ๋อเงียบไปชั่วขณะ จากนั้นจึงเอ่ยพูดด้วยความลำบากใจ “เอ่อ…..ขอบคุณคุณนะคะที่ช่วยหางานให้ แต่ว่าตอนนี้ฉันคงต้องยอมแพ้กับงานนี้ไปก่อน เป็นเพราะฉันรู้สึกว่าตัวฉันไม่ค่อยเหมาะกับงานเท่าไหร่….ดังนั้น….”
ลี่หยูนห่วนตกตะลึง จิตใต้สำนึกของเขาต้องการรั้งเธอเอาไว้ เขาเอ่ย “มีอะไรหรือ? เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า?”
“ไม่มีค่ะ” เจียงหยุนเอ๋อปฏิเสธอย่างรวดเร็ว “ฉันก็แค่คิดว่าฉันไม่เหมาะสมกับงานจริงๆ”
“ไม่ได้ คุณอย่าเพิ่งไปไหน รอผมสักครู่ ได้ไหม?” พูดจบ ลี่หยูนห่วนก็ตัดสายไป จากนั้นจึงรีบไปที่บริษัทในทันที
เมื่อมาถึงบริษัท สิ่งแรกที่ลี่หยูนห่วนทำคือรีบมุ่งไปที่ห้องทำงานของเฉียวซินและถามเธอด้วยความโกรธ “เฉียวซินผมถามคุณ ทำไมจู่ๆเจียงหยุนเอ๋อถึงได้ออกจากงานอย่างกะทันหัน? ผมบอกให้คุณดูแลเธอดีๆไม่ใช่หรือ?”
แต่เดิมหลังจากที่รู้ว่าเจียงหยุนเอ๋อตั้งใจที่จะจากไป ในใจของเฉียวซินก็มีความสุขขึ้นมาเล็กน้อย อย่างไรเสียเธอก็ไม่ได้ขอให้เจียงหยุนเอ๋อจากไปสักหน่อย ถึงตอนนั้น ลี่หยูนห่วนก็คงไม่สามารถว่าอะไรเธอได้ แต่คิดไม่ถึงว่าต่อให้เป็นแบบนั้นลี่หยูนห่วนก็ยังคงมาตั้งคำถามกับตัวเอง
ในเวลานั้นเอง เจียงหยุนเอ๋อก็รู้ว่า ลี่หยูนห่วนได้ไปที่ห้องทำงานของเฉียวซิน จึงรีบตามไปทันที ขณะที่ไปถึงเธอก็ได้ยินคำถามของลี่หยูนห่วนเข้าพอดี เธอรีบเข้าไปอธิบาย “ลี่หยูนห่วน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับประธานเฉียว มันเป็นการตัดสินใจของฉันเพียงคนเดียว”
เมื่อเผชิญกับความโกรธของลี่หยูนห่วน เฉียวซินที่กำลังน้อยใจก็โกรธขึ้นมาด้วยเช่นกัน “ลี่หยูนห่วน ช่วยทำตัวให้ชัดเจนด้วย สรุปใครเป็นแฟนของคุณกันแน่? ตอนนี้คุณใส่ใจเจียงหยุนเอ๋อมากขนาดนี้ หรือว่าเพราะพวกคุณมีความสัมพันธ์อะไรปิดบังเอาไว้จริงๆ?”
“เพี๊ยะ”เสียงดังขึ้น ลี่หยูนห่วนยกมือขึ้นตบเฉียวซิน ซ้ำยังกัดฟันด่าอีกประโยค “เรื่องสำเร็จไม่ทำ เรื่องล้มเหลวกลับขยัน”
ชั่วพริบตา ทั้งเฉียวซินและเจียงหยุนเอ๋อล้วนตกตะลึงไปกับสถานการณ์ที่จู่ๆก็เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน