ตอนบ่าย เซียวจิ่งสือโทรสายในหาอินเสี่ยวเสี่ยวอีก ให้เธอส่งเอกสารมาให้เขา
นับตั้งแต่อินเสี่ยวเสี่ยวมาทำงานที่บริษัทนี้ เซียวจิ่งสือต้องให้อินเสี่ยวเสี่ยวไปส่งเอกสารที่ห้องทำงานเข้าวันละสองหนเป็นอย่างน้อย อินเสี่ยวเสี่ยวจึงไม่ชอบหน้าเซียวจิ่งสือเอามากๆ มักจะบ่นว่าเขาอยู่ในใจบ่อยๆ
“ประธานเซียวคะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวก่อนนะคะ” ภายในห้องทำงานของเซียวจิ่งสือ อินเสี่ยวเสี่ยววางเอกสารแล้วพูดขึ้น
“รอเดี๋ยว มือเธอเป็นอะไร” เซียวจิ่งสือถามพลางจ้องเขม็งมาที่มือของเธอ
อินเสี่ยวเสี่ยวพลิกหลังมือไปด้านหลัง ตอบว่า “ไม่มีอะไรนี่คะ”
เซียวจิ่งสือเห็นเช่นนั้นก็ยื่นมือออกไปคว้าข้อมือของอินเสี่ยวเสี่ยวดึงมาตรงหน้าเขา พอเห็นว่าหลังมือที่บวมแดงของเธอเข้า ก็ถามอย่างโมโหว่า “นี่เรียกว่าไม่มีอะไรเหรอ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่”
อินเสี่ยวเสี่ยวคิดจะดึงมือตัวเองจากมือของเซียวจิ่งสือ แต่ดิ้นไม่หลุด จึงจำต้องตอบว่า “ตอนชงกาแฟไม่ทันระวังโดนลวกเข้าค่ะ”
“งั้นเหรอ?” เซียวจิ่งสือมองอินเสี่ยวเสี่ยวอย่างสงสัย แล้วปล่อยข้อมือเธอ
อินเสี่ยวเสี่ยวรีบฉวยโอกาสออกจากห้องทำงานของเซียวจิ่งสือ
เดิมทีเธอก็ไม่ชอบหน้าเซียวจิ่งสืออยู่แล้ว เมื่อครู่ตอนที่เขาคว้าข้อมือเธอนั้น อินเสี่ยวเสี่ยวรู้สึกว่าเซียวจิ่งสือเป็นพวกโรคจิต ดื้อรั้นไม่ฟังใครแล้วยังชอบหาเศษหาเลยพนักงานผู้หญิงอีกต่างหาก! เขาทำกับพนักงานผู้หญิงคนอื่นแบบนี้ด้วยหรือเปล่านะ?
อินเสี่ยวเสี่ยวออกไปแล้ว เซียวจิ่งสือก็เรียกเลขาเข้ามา ให้เขาไปสืบดูว่าเรื่องมือของอินเสี่ยวเสี่ยวเกิดอะไรขึ้นกันแน่
สำหรับเซียวจิ่งสือแล้ว เรื่องเล็กขนาดไหนก็ตามขอเพียงเกี่ยวข้องกับหลินหว่าน ก็เป็นเรื่องใหญ่สำหรับเขา
เลขารับคำสั่งแล้วก็ได้แต่ไปสืบดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับอินเสี่ยวเสี่ยว
ผ่านไปชั่วครู่หนึ่ง เลขากลับมาแล้วเล่าเรื่องที่อินเสี่ยวเสี่ยวถูกเพื่อนร่วมงานกีดกันและกลั่นแกล้ง ให้ชงกาแฟให้กับส่งเอกสารให้เซียวจิ่งสือฟัง
เซียวจิ่งสือได้ฟังแล้วโกรธมาก อินเสี่ยวเสี่ยวไม่รู้จักต่อต้านหรือไงนะ? เธอยอมถูกแกล้งแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
“คุณไปบอกผู้จัดการฝ่ายบุคคล ให้เขาไล่คนพวกนั้นออกให้หมด!” เซียวจิ่งสือคิดจะระบายความโกรธแทนอินเสี่ยวเสี่ยว โดยไล่คนที่แกล้งเธอออกทั้งหมด
“ท่านประธานเซียว แบบนี้ไม่ดีมั้งครับ…” เลขารีบออกปากยั้งเซียวจิ่งสือ “ไล่พนักงานออกคราวเดียวมากขนาดนี้ จะส่งผลกระทบกับชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของบริษัทได้นะครับ นอกจากนี้ บริษัทยังไม่มีพนักงานใหม่มาทดแทนตำแหน่งงานที่ขาดไปอีกด้วย”
“ท่านประธานครับ ผมว่าให้พวกพนักงานเก่านี้อยู่ต่อเถอะ ก่อนที่คุณหลินจะสูญเสียความทรงจำค่อนข้างจะสนิทสนมคุ้นเคยกับพวกเขา ถ้าให้พวกเขาได้อยู่ด้วยกันสักพัก ไม่แน่ว่าจะนึกเรื่องอะไรขึ้นมาได้” เลขาพูดเสริมขึ้น
เซียวจิ่งสือถูกคำพูดสุดท้ายของเลขาทำให้คิดได้ หลังจากหลินหว่านเสียความทรงจำ เขาเคยถามหมอว่าจะทำอย่างไรจึงจะให้เธอฟื้นฟูความทรงจำกลับคืนมา คุณหมอบอกว่า ถ้าหากคนที่สูญเสียความทรงจำได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เคยคุ้นก็อาจฟื้นฟูความทรงจำกลับคืนมาได้
ดังนั้นเอง เซียวจิ่งสือจึงเลิกคิดว่าจะไล่พวกเขาออก แค่เพียงไล่พนักงานคนแรกที่บอกให้อินเสี่ยวเสี่ยวชงกาแฟออกเพราะ ‘ทำความผิด’
นอกจากนี้ เพื่อไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก เซียวจิ่งสือยังแอบมาที่ออฟฟิศบ่อยๆ สังเกตดูว่าอินเสี่ยวเสี่ยวถูกแกล้งหรือไม่
คนอื่นๆ ในออฟฟิศเห็นเช่นนั้น ก็พากันตัวเกร็ง หวั่นเกรงว่าตัวเองทำผิดพลาดที่ตรงไหนจะถูกเซียวจิ่ง
สือไล่ออก มีแต่อินเสี่ยวเสี่ยวที่คิดว่าเซียวจิ่งสือแค่บ้าอำนาจทำตามใจตัว เป็นพวกวิปริตที่ชอบแอบถ้ำมองพนักงานผู้หญิง
เพื่อให้หลินหว่านฟื้นฟูความทรงจำ วันนี้หลังเลิกงาน เซียวจิ่งสือเรียกตัวอินเสี่ยวเสี่ยวเอาไว้ ถามว่า “เสี่ยวเสี่ยว เธออยากฟื้นฟูความทรงจำกลับมาไหม?”
อินเสี่ยวเสี่ยวประหลาดใจมากที่เซียวจิ่งสือมาพูดเรื่องนี้กับเธอ เซียวจิ่งสือถามเธอเรื่องนี้ทำไมนะ? เขาจะช่วยเธอฟื้นความทรงจำหรือไง? เขาใจดีขนาดนี้เชียว?
“เสี่ยวเสี่ยว บอกผมสิ เธออยากฟื้นความทรงจำไหม” เซียวจิ่งสือพูดย้ำอีกรอบ
ตั้งแต่หลินหว่านสูญเสียความทรงจำ คนที่อยู่ข้างกายเธอ รวมทั้งฮั่วเทียนอวี่ไม่เคยคิดจะช่วยเธอฟื้นความทรงจำสักคน แค่พากันปลอบใจเธอตลอดเท่านั้น
ตอนนี้ ต่อหน้าเซียวจิ่งสือ อินเสี่ยวเสี่ยวผงกศีรษะอย่างลังเลสงสัย มีแต่เธอเท่านั้นที่รู้ว่า ตัวเองอยากจะฟื้นความทรงจำเก่าก่อนขนาดไหน เธอไม่อยากเป็นคนไม่มีอดีต
เซียวจิ่งสือเห็นเช่นนั้นก็ดึงเธอขึ้นรถ ขับรถพาเธอไป โดยไม่รู้ว่าจะพาเธอไปที่ไหน
อินเสี่ยวเสี่ยวก็ไม่ถาม เธอแค่รู้สึกว่า การได้นั่งอยู่ข้างกายเซียวจิ่งสือ ทำให้เธอมีความรู้สึกจิตใจสงบชนิดหนึ่ง เหมือนเธอคุ้นเคยอย่างมาก
พอมาถึงที่ อินเสี่ยวเสี่ยวก็เห็นท้องทะเลกว้างสุดตา
ตอนที่น้ำทะเลสีฟ้าใสม้วนตัวเป็นเกลียวคลื่นเข้าสู่สายตาของอินเสี่ยวเสี่ยว ความรู้สึกหวาดกลัวชนิดหนึ่งพุ่งเข้าสู่ใจเธอ แต่แล้วหายวับไปอย่างรวดเร็ว
อินเสี่ยวเสี่ยวไม่ทันสังเกตความรู้สึกชนิดนี้ เธอแค่ถามเซียวจิ่งสืออย่างประหลาดใจว่า “ประธานเซียว คุณพาฉันมาริมทะเลทำไมคะ?”
เซียวจิ่งสือสังเกตท่าทีของอินเสี่ยวเสี่ยวอย่างละเอียด เห็นสีหน้าเธอเป็นปกติดี ก็ถามอย่างผิดหวังอยู่บ้าง “เสี่ยวเสี่ยว เธอ…คิดอะไรไม่ออกจริงๆ เหรอ?”
อินเสี่ยวเสี่ยวมองดูท้องทะเลกว้างสุดสายตาตรงหน้า เกลียวคลื่นซัดซ่าถาโถม เธอพยายามคิด แต่ก็หาความทรงจำที่เกี่ยวกับท้องทะเลในสมองไม่ได้สักอย่าง
พอเห็นอินเสี่ยวเสี่ยวส่ายหน้า เซียวจิ่งสือรู้สึกผิดหวังอย่างแรง
ต่อเมื่อทั้งสองเที่ยวเล่นอยู่ริมทะเลพอสมควรแล้ว เซียวจิ่งสือก็บอกอินเสี่ยวเสี่ยวว่า เธอสูญเสียความทรงจำ ก็เพราะมีคนอยากจะตายไปพร้อมกับเธอ และพาตัวพุ่งชนเธอให้ตกทะเลไปด้วยกัน อินเสี่ยวเสี่ยวได้ฟังแล้วตื่นตกใจสุดๆ
จากนั้น เซียวจิ่งสือก็พาอินเสี่ยวเสี่ยวมาที่โรงงานรกร้างแห่งหนึ่ง เซียวจิ่งสือเล่าเรื่องราวที่ผู้หญิงชื่ออันซิงร่วมมือกับรุ่นพี่ของเธอจับตัวเธอมา ให้อินเสี่ยวเสี่ยวฟัง
อินเสี่ยวเสี่ยวฟังแล้วรู้สึกเหมือนเป็นเรื่องของคนอื่นอย่างนั้น ในหัวสมองไม่มีความทรงจำพวกนี้เลยสักนิด
เซียวจิ่งสือพาหลินหว่านมายังสถานที่ก่อนเธอจะสูญเสียความทรงจำ เขารู้สึกว่าบางทีที่นี่อาจกระตุ้นให้เธอคิดอะไรออกก็ได้ จะได้ฟื้นฟูความจำกลับมา แต่เห็นได้ชัดว่าดูเหมือนเรื่องนี้ไม่มีผลต่ออินเสี่ยวเสี่ยวสักเท่าไร
วันต่อมา เซียวจิ่งสือพาอินเสี่ยวเสี่ยวมายังสถานที่เธอเคยถ่ายหนัง เขารู้สึกว่า การพาเธอมายังสถานที่ที่เธอคุ้นเคยที่สุด อาจทำให้อินเสี่ยวเสี่ยวนึกอะไรออกบ้าง
แต่อินเสี่ยวเสี่ยวมองดูทุกอย่างแล้วรู้สึกแค่แปลกใหม่น่าสนใจเท่านั้น ไม่ได้นึกถึงเรื่องในอดีตของเธอเลย
จากนั้นอีกหลายวันต่อมา เซียวจิ่งสือพาอินเสี่ยวเสี่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ ที่เขากับหลินหว่านเคยไปด้วยกัน ที่ที่เขาสารภาพรักกับหลินหว่านเป็นครั้งแรก ที่ที่เขาพบกับหลินหว่านครั้งแรก ร้านอาหารที่เขากับหลินหว่านชอบไปที่สุด สวนสนุกที่เขากับหลินหว่านเคยไปด้วยกัน ฯลฯ
หลายวันผ่านไป อินเสี่ยวเสี่ยวยังไม่มีทีท่าว่าความทรงจำจะฟื้นกลับมา แม้แต่ความประทับใจสักเล็กน้อยนิดก็ไม่มี เซียวจิ่งสือรู้สึกอดเสียใจไม่ได้ ว่าเมื่อก่อนเขาไม่ได้ออกไปไหนกับหลินหว่านสักเท่าไร จะได้เหลือความทรงจำที่สวยงามไว้ให้มากกว่านี้
อันที่จริงหลายวันมานี้ เซียวจิ่งสือไปสถานที่หนึ่งกับอินเสี่ยวเสี่ยวทุกวัน หาวิธีให้เธอฟื้นความทรงจำ ทำให้อินเสี่ยวเสี่ยวซาบซึ้งใจมาก ความประทับใจที่มีต่อเซียวจิ่งสือก็เปลี่ยนไปอย่างมากด้วย