บทที่275 ฉันยินดี
ภายในโบสถ์ ลี่จุนถิงยืนอยู่ข้างหน้าพิธีกรในงานแต่ง จากนั้นก็รอเจ้าสาวเดินเข้ามา
ในขณะที่ทุกคนกำลังนั่งนิ่งนั้น ประตูก็ถูกเปิดออก มีเงาของคนคนหนึ่งเดินเข้ามา หน้าของคนคนนั้นถูกผ้าคลุมสีขาวปิดเอาไว้ ทำให้มองหน้าไม่ออกเลยว่าเป็นใคร
แต่ชุดงานแต่งที่พอดีนั้น มาใส่อยู่บนตัวเธอมันดูดีมากเลยทีเดียว ทำให้คนต่างมองตาเป็นมัน
“ว้าว เจ้าสาวสวยจริงๆ เลย!”
“นั่นสิ เข้ากันจริงๆ !”
มีแขกไม่น้อยเลยที่ต่างพูดขึ้นมา และก็ปรบมือให้ด้วย จากนั้นก็มีกลีบดอกไม้ร่วงลงมา
เมื่อเสียงพวกนี้เข้ามาในหูของ เจียงหยุนเอ๋อก็รู้สึกแปลกใจ เธอคิดไม่ถึงว่าเรื่องมันจะกลายเป็นแบบนี้
มือของเธอกำเอาไว้แน่นข้างกาย เจียงหยุนเอ๋อควบคุมความเครียดที่เกิดขึ้นไม่ได้ ในใจก็เริ่มมีความคิดที่ไม่เคยคิดมาก่อน อยากจะวิ่งหนีออกจากที่นี่จริงๆ
คนที่ยืนอยู่ข้างๆ เจียงหยุนเอ๋อนั้นเห็นว่าเธอเริ่มมีอาการแปลกไป เลยพูดเบาๆ ข้างหูของเจียงหยุนเอ๋อ: “คิดเพื่อลูกของคุณหน่อย คุณเดาต่อไปจะดีกว่านะ”
เจียงหยุนเอ๋อรู้ ว่าตัวเองถูกขู่อยู่ แต่ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเธอ ก็คือลูกที่อยู่ในท้อง เลยลังเลอยู่สักพัก ก่อนจะเดินต่อไป
ตอนที่เจียงหยุนเอ๋อลังเลนั้น มีคนไม่น้อยเลยที่เป็นห่วงว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นหรือเปล่า แต่เมื่อเห็นว่าเจียงหยุนเอ๋อเดินต่อไป ก็อดไม่ได้ที่จะวางใจลง
พวกเขาจะคิดถึงได้อย่างไร ว่าเรื่องที่รุนแรงมันจะเกิดขึ้นแบบนี้ในตอนสุดท้าย?
เจียงหยุนเอ๋อเดินต่อไปเรื่อยๆ ข้างๆ หูมีเสียงเพลงในงานแต่งคลอเบาๆ แต่ในใจเธอกลับรู้สึกหนักอึ้ง
ผู้มาร่วมงาน คนของตระกูลลี่กับตระกูลส้งนั่งอยู่ตรงแถวหน้า พวกเขาไม่รู้เลยว่าเจ้าสาวคนใหม่นั้นถูกเปลี่ยนตัวตั้งแต่เมื่อไหร่ ใบหน้าเลยยังยิ้มอยู่
ลี่จุนซินมองคนตรงนั้นด้วยแววตาสับสน เพราะไม่อยากจะยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น
จะมองส้งหวั่นหวั่นแต่งงานกับลี่จุนถิงอยู่เฉยๆ แบบนี้เหรอ?เธอไม่เข้าใจเลยจริงๆ ลี่จุนถิงที่ปฏิเสธขนาดนั้น ทำไมหลังจากที่รู้ว่าส้งหวั่นหวั่นทำเรื่องเลวๆ นั้น ยังยอมรับการแต่งงานครั้งนี้อีก
เมื่อคิดได้แบบนี้ ตัวเองก็อาจจะมีความสัมพันธ์กับส้งหวั่นหวั่นแบบแย่ๆ ต่อไป ลี่จุนซินก็รู้สึกว่ามันทำตัวไม่ถูกเลย
ในสถานการณ์แบบนั้น พ่อแม่ของเธอไม่รู้เป้าหมายที่แท้จริงของส้งหวั่นหวั่นเลย แค่คำพูดของเธอเพียงอย่างเดียว เกรงว่าจะเปลี่ยนความคิดของพ่อแม่ของส้งหวั่นหวั่นได้ยาก ไม่แน่ตัวเองยังอยากจะหนีไปไกลเลย
ใบหน้าของลี่หยูนห่วนกับลี่จีถองมีแต่รอยยิ้ม เพราะถึงอย่างไรการได้เห็นส้งหวั่นหวั่นแต่งงานเข้าไปในตระกูลลี่ มันเป็นเรื่องดีของพวกเขา
เพียงแต่ว่า เมื่อเห็นคนคนนั้นเดินเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ลี่จุนซินกลับอดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วขึ้นมา
เธอคิดว่ามันมีอะไรแปลกๆ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
แต่ก่อนหน้านี้ลี่จีถองกับลี่หยูนห่วนได้เห็นชุดเจ้าสาวที่ส้งหวั่นหวั่นเลือก เมื่อมองอย่างละเอียดในตอนนี้ กลับรู้สึกว่ามันเป็นคนละชุดกัน
ถึงแม้ว่ามองผิวเผินจะเหมือนกัน แต่อะไรเล็กๆ น้อยๆ นั้นมันไม่เหมือนกันเลย
ไม่ใช่สิ เมื่อกี้ตอนที่พวกเขาเห็นส้งหวั่นหวั่น ส้งหวั่นหวั่นก็ไม่ได้เปลี่ยนชุดเจ้าสาวสักหน่อย หรือจู่ๆ ก็เปลี่ยนความคิดงั้นเหรอ?
ทั้งสองคนตั้งใจจ้องเงานั้น ก่อนจะขมวดคิ้วขึ้นมา และรู้สึกว่ามันแปลกจริงๆ เลย
แต่ในตอนนั้นเองเพราะว่าบรรยากาศมันดีมาก พวกเขาเลยไม่กล้าพูดความแปลกใจนี้ออกมา เลยเลือกที่จะดูมันต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร
เจียงหยุนเอ๋อค่อยๆ เดินไปตรงเวทีข้างหน้า เธอไม่รู้เลยว่าตัวเองเดินมาอยู่ต่อหน้าลี่จุนถิงแล้ว แต่ในตอนนี้เอง เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกเหมือนมีใครจับมือตัวเองอยู่
ในใจของเธอไม่ได้รู้สึกขัดขืนอะไร แต่กลับคิดว่าคนคนนั้นมันคุ้นตาเสียเหลือเกิน
เจียงหยุนเอ๋ออดไม่ได้ที่จะสั่นเทา และอยากจะหลบหนีออกไป แต่มือก็ยังถูกคนจับเอาไว้แน่นเหมือนกัน
จากนั้น เธอก็ได้ยินเสียงที่ทั้งชีวิตไม่มีวันลืมได้ลงดังขึ้นมา: “ในเมื่อมาแล้ว ก็อย่าคิดหนีเลย ถ้าเกิดหนีอีก ฉันจะไม่ให้อภัยคุณแล้วนะ”
เจียงหยุนเอ๋อตัวสั่นเทา มันน่าตกใจเป็นอย่างบ้าง
นั่น……นั่นมันเป็นเหมือนที่เธอจินตนาการหรือเปล่า?
ร่างกายของเจียงหยุนเอ๋อนั้นสั่นเทา เมื่อเห็นท่าทีของเธอในแววตาของลี่จุนถิงก็รู้สึกสงสารจับใจ
ถ้าเกิดไม่อยู่ในสถานการณ์บังคับ เขาคงไม่ให้งานแต่งงานของตัวเองกับเจียงหยุนเอ๋อมันจืดชืดแบบนี้หรอก
เจียงหยุนเอ๋ออาจจะคิดไม่ถึงเลย ว่าสุดท้ายงานแต่งงานของพวกเธอจะมาจัดแบบนี้?
ลี่จุนถิงยื่นมือข้างหนึ่งออกมา จากนั้นก็เอามือสอดเข้าไปจับใบหน้าของเจียงหยุนเอ๋อเบาๆ จากนั้น ก็โอบเจียงหยุนเอ๋อมาอยู่ในอ้อมกอดของตัวเอง เพื่อให้เจียงหยุนเอ๋อเข้าใกล้ตัวเองอีก
ในตอนนั้นเอง เขามองความอ่อนแอที่ซ่อนอยู่ในใจของเจียงหยุนเอ๋อออก ดังนั้นเลยอยากจะให้กำลังใจกับเจียงหยุนเอ๋อ
ลี่จุนถิงยกมือขึ้นมาบนหลังของเจียงหยุนเอ๋อ ก่อนจะพูดปลอบโยน: “คุณไม่ต้องกลัวนะ ฉันจะอยู่ข้างๆ คุณไปตลอดเอง”
เมื่อได้ยินคำพูดของลี่จุนถิง เจียงหยุนเอ๋อก็รู้สึกว่าตัวเองมีพลังขึ้นมาในทันที ก่อนจะยกมือขึ้นมากอดลี่จุนถิงกลับ
คนของตระกูลลี่กับตระกูลส้งเมื่อได้เห็นแบบนั้น ถึงแม้ว่าจะรู้สึกแปลกใจที่จู่ๆ ลี่จุนถิงก็เปลี่ยนไป แต่การที่ลี่จุนถิงเปลี่ยนแบบนี้ได้ พวกเขาเลยยินดีที่จะเห็นไปแบบนี้
“เห้อ ฉันว่าแล้ว จุนถิงจะต้องเห็นความดีของหวั่นหวั่นเข้าสักวัน คุณดูสิ ตอนนี้พวกเขาสองคนเริ่มหวานกันขึ้นมาแล้วไม่ใช่เหรอ?” โม่เสี่ยวฮุ่ยยิ้มพลางพูดขึ้น
พิธีกรบนเวทีมองคู่รักกอดกัน เหมือนกับไม่อยากจะรบกวน แต่ก็ต้องเริ่มพูดขึ้น: “วันในวันนี้ พวกเรามาเป้นสักขีพยานกันในงานแต่ง ตอนนี้ ฉันอยากจะประกาศ ว่างานแต่งจะเริ่มขึ้นแล้ว”
จากนั้นก็เป็นพิธีการยอดฮิตของงานแต่ง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้——
สาบาน
“คุณลี่ คุณจะดูแลภรรยาของคุณอย่างอ่อนโยน เคารพรักเธอ มีเพียงแค่เธอคนเดียว ต้องเคารพครอบครัวของเธอเหมือนครอบครัวของคุณเอง คุณจะเป็นสามีตลอดชีวิต จะไม่นอกใจ แล้วก็ต้องรักษาความบริสุทธิ์ต่อไปได้ไหม?คุณยินดีที่จะสาบานต่อหน้าสักขีพยานไหม?”
พิธีกรถามลี่จุนถิงก่อน
ลี่จุนถิงมองผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าตัวเอง ก่อนจะพูดออกมาด้วยความแน่วแน่: “ฉันยินดี”
พิธีกรพยักหน้า จากนั้นก็มองไปทางเจียงหยุนเอ๋อ
“คุณหนูส้ง คุณยินยอมที่จะแต่งงานกับเขาในอายุเท่านี้ เป็นคนอ่อนโยน ทำตามเขาเคารพรักเขา ช่วยเหลือเขา มีเพียงเขาคนเดียว ต้องเห็นครอบครัวของเขาเป็นครอบครัวของตัวเอง ต้องกตัญญู และจะเป็นภรรยาตลอดไป และจะรักษาความบริสุทธิ์ต่อเขาได้ไหม? คุณยินยอมที่จะสาบานต่อหน้าผู้คนไหม?”
ถึงแม้ว่าจะพูดชื่อตัวเองออกมาไม่ได้ แต่เจียงหยุนเอ๋อก็รู้ ว่าตอนนี้คนที่ยืนอยู่ด้านหน้าลี่จุนถิง ก็คือตัวเอง
เจียงหยุนเอ๋อพึมพำเล็กน้อย แต่เธอในตอนนี้ ไม่อยากจะสนใจอะไรแล้ว เพียงแค่ได้แต่งงานกับลี่จุนถิง นั่นก็เพียงพอแล้ว!
“ฉันยินดี” เจียงหยุนเอ๋อเปิดปากพูดขึ้นมา