ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 580 สับสนวุ่นวาย (กลาง)

ตอนที่ 580 สับสนวุ่นวาย (กลาง)

“​เรื่อง​นี้​ยัง​ไม่​จบ​ ​ท่าน​โหว​เอง​ก็​อย่า​รู้สึก​ท้อใจ​จน​เกินไป​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ปลอบใจ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​ถึงแม้ว่า​จะ​ถูก​ค้น​บ้าน​ยึดทรัพย์​และ​ถูก​เนรเทศ​ ​ขอ​เพียงแค่​คนยัง​มีชีวิต​อยู่​ ​สักวันหนึ่ง​ก็​จะ​สามารถ​กลับมา​ยืนหยัด​ได้​อีกครั้ง​”

“​ก็​จริง​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ถอนหายใจ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​“​ขอ​เพียงแค่​คนยัง​อยู่​ ​ก็​ไม่จำเป็น​ต้อง​กลัว​อะไร​ทั้งนั้น​”

สือ​อี​เหนียง​สังเกตเห็น​ว่า​สีหน้า​ของ​เขา​ไม่​ค่อย​ดี​เท่าไร​นัก​ ​นาง​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​รวบ​ผม​เพื่อ​เตรียมตัว​เข้านอน​ ​“​ท่าน​โหว​รีบ​พักผ่อน​เถิด​เจ้าค่ะ​!​ ​พรุ่งนี้​เกรง​ว่า​ท่าน​โหว​ยัง​ต้อง​ไป​ช่วย​เรื่อง​ของ​สกุล​หวัง​อีก​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​ว่า​สีหน้า​ของ​นาง​ค่อนข้าง​สดใส​ ​ก็​เลย​รู้สึก​ว่า​ตน​นั้น​เอาแต่​กังวล​กับ​เรื่อง​ที่​ยัง​ไม่ทัน​จะ​เกิดขึ้น

ไม่ว่า​เหล่า​บรรดา​ขุนนาง​ใน​ราชสำนัก​จะ​พูด​อะไร​ ​สุดท้าย​ก็​ต้อง​รอกา​รตัด​สิน​จาก​ฮ่องเต้​อยู่ดี

สิ่ง​ไหน​ที่​ตน​ควรจะ​ช่วย​ก็ได้​ช่วย​แล้ว​ ​สิ่ง​ไหน​ที่​ต้อง​ดูแล​ก็​ดูแล​ให้​แล้ว​ ​มัว​แต่​จมปลัก​กับ​เรื่อง​เหล่านี้​ก็​ไม่​ก่อให้เกิด​ผลดี​อะไร​ขึ้น​มา​ ​สิ่ง​สำคัญ​ที่สุด​ใน​ตอนนี้​ก็​คือ​พยายาม​ช่วย​หา​หนทาง​และ​โอกาส​ให้​สกุล​หวัง​ลุกขึ้น​มายืน​หยัด​ได้​อีกครั้ง

เมื่อ​เขา​คิดได้​เช่นนี้​ ​สีหน้า​แววตา​ก็​ดู​สุขุม​และ​สงบ​ขึ้น​มาทัน​ที

เขา​ยิ้ม​ขึ้น​พลาง​โน้มตัว​ไป​ดับไฟ​ตะเกียง​ ​จากนั้น​ก็​ชวน​สือ​อี​เหนียง​คุย​ถึง​เรื่อง​ใน​จวน​ขึ้น​มา​ ​“​พรุ่งนี้​อากาศ​ดี​ ​เจ้า​ถือโอกาส​นี้​เอา​ตะกร้า​เตรียม​สอบ​และ​ม่าน​บัง​ลม​ของ​อวี​้​เกอ​ออกมา​จัดเตรียม​เสียหน่อย​ ​แล้วก็​ไป​กราบไหว้​เทพ​ดวงดาว​เหวิน​ฉวี​่​ซิง​ที่​วัด​ ​เสี่ยง​เซียมซี​ให้​เขา​สัก​ไม้​…​ผ่าน​ด่าน​นี้​ไป​ ​เขา​ก็​จะ​กลายเป็น​บัณฑิต​ซิ่ว​ไฉ​แล้ว​”

ปกติ​แล้ว​เขา​มักจะ​ไม่​ค่อย​พูด​อะไร​ ​แต่​ใน​ใจ​ก็​ยังคง​เป็นห่วง​อยู่​เสมอ​!

สือ​อี​เหนียง​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ท่าน​โหว​พูด​ช้า​ไป​นิด​เจ้าค่ะ​ ​ข้า​จัดเตรียม​ของใช้​ของ​อวี​้​เกอ​ตั้งแต่​วันที่​หก​เดือน​หก​เรียบร้อย​แล้ว​ ​ส่วน​เรื่อง​เสี่ยง​เซียมซี​ ​ข้า​อยาก​จะ​ให้ท่าน​โหว​เป็น​คน​พา​อวี​้​เกอ​ไป​เอง​!​ ​ไป​ขอด​้วย​ตัวเอง​เพื่อ​เป็นการ​แสดง​ความจริงใจ​ ​ข้า​เป็นมา​รดา​ ​พา​เขา​ไป​ ​ก็​เป็นการ​ไป​คำนับ​ก็​เท่านั้น​ ​ท่าน​โหว​และ​อวี​้​เกอ​ไป​ด้วยกัน​ ​ระหว่างทาง​ก็​จะ​ได้​พูดคุย​กัน​ ​ยัง​พากัน​ไป​เดินเล่น​รอบ​ๆ​ ​ลานวัด​ได้​อีกด้วย​ ​บรรยากาศ​เช่นนี้​ ​ผู้คน​ต่าง​ก็​พากัน​หนี​ร้อน​ไป​ที่​วัด​กัน​ทั้งนั้น​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เขา​ตั้งใจ​ร่ำเรียน​มาโดยตลอด​ ​เดินทาง​ไป​เล่อ​อาน​ครั้ง​ล่าสุด​นี้​ ​อาจารย์​จ้าว​ก็​ให้​เขา​อยู่​เรียน​ชดเชย​ที่นั่น​หนึ่ง​ปี​เต็ม​ ​คำพูด​ที่จะ​พูด​ก็​ล่วงเลย​ผ่าน​มา​หมด​แล้ว​…​”​ ​น้ำเสียง​ของ​เขา​เต็มไปด้วย​ความลังเลใจ​ ​ราวกับว่า​ไม่มี​อะไร​จะ​พูด​กับ​สวี​ซื่อ​อวี​้​อย่างไร​อย่างนั้น

“​เช่นนั้น​ก็​ไม่ต้อง​พูด​อะไร​ทั้งนั้น​!​”​ ​ไม่รู้​ว่า​ท้อง​ใคร​มีพ​ยา​ธิ​กัน​แน่​ ​หาก​ไม่​แสดงออก​มา​ ​แล้ว​ใคร​จะ​ไปรู​้​ว่า​กำลัง​คิด​อะไร​อยู่​ ​บางครั้ง​ ​มัน​ก็​เป็น​เพียง​สิ่ง​ที่​แสดงออก​มาก​็​เท่านั้น​ ​สือ​อี​เหนียง​ไม่​อยาก​ให้​เหล่า​บรรดา​เด็ก​ๆ​ ​ใช้ชีวิต​ใน​จวน​แห่ง​นี้​ด้วย​ความเคียดแค้น​ ​“​แค่​ออก​ไปเป็นเพื่อน​เขา​จุด​ธูป​แล้ว​กลับมา​ก็​พอ​เจ้าค่ะ​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่ได้​ตอบ​อะไร

ผ่าน​ไป​เพียง​ไม่​กี่​วัน​ ​จู่ๆ​ ​เขา​ก็​เอ่ยถึง​เรื่อง​ที่จะ​พาส​วี​ซื่อ​อวี​้​จะ​ไป​กราบไหว้​เทพ​ดวงดาว​เหวิน​ฉวี​่​ซิง​ขึ้น​มา

ทุกคน​ต่าง​ก็​พากัน​ตกตะลึง

หลังจากที่​สวี​ซื่อ​อวี​้​กลับ​ไป​ถึง​ห้อง​ตำรา​ ​ก็ได้​หยิบ​หนังสือ​ตำรา​มา​อ่าน​ ​แต่กลับ​ไม่มี​สมาธิ​เลย​แม้แต่น้อย

พระอาทิตย์​ยาม​อัสดง​ ​มี​ฝนตก​ระลอก​ใหญ่​ ​บรรยากาศ​สดชื่น​เย็นสบาย​ ​ใบ​ของ​ดอก​แมงมุม​แดง​ถูก​ชะล้าง​จน​สะอาดหมดจด​ ​เขียวขจี​เงางาม​กระจ่าง​ตา

สวี​ซื่อ​อวี​้​ตัดสินใจ​วาง​หนังสือ​ใน​มือ​ลง​ ​จากนั้น​ก็​เดินเล่น​ไป​ตาม​ระเบียง​ทางเดิน

เดิน​มา​จนถึง​เรือน​ต้านปั​๋ว​ไจ​อย่าง​ไม่รู้​ตัว

ที่นั่น​มีสาว​ใช้​น้อย​จำนวน​หนึ่ง​กำลัง​เด็ด​ดอก​ปิ่น​หยก​พร้อมกับ​หัวเราะ​คิกคัก​ด้วย​ความชอบ​ใจ​ ​พอ​เห็น​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​ก็​มีสาว​ใช้ใบ​หน้า​งดงาม​ราวกับ​หยก​เดิน​เข้าไป​หา​เขา​ ​“​คุณชาย​น้อย​สอง​ ​ท่าน​มาหา​คุณชาย​น้อย​สี่​หรือ​เจ้า​คะ​”

เมื่อ​สวี​ซื่อ​อวี​้​มอง​ดี​ๆ​ ​ก็​เห็น​ว่า​เป็น​เก๋อ​จิน​ ​สาวใช้​ที่​ไท่ฮู​หยิน​ยก​ให้​สวี​ซื่อ​จุน

หาก​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ไม่ใช่​ ​ก็​พลอย​แต่​จะ​ทำให้​ผู้อื่น​รู้สึก​ว่า​ตน​นั้น​ไร้เหตุผล

เขา​จึง​ถาม​ออก​ไป​ด้วย​ความคลุมเครือ​ว่า​ ​“​น้อง​สี่​อยู่​หรือไม่​”

“​คุณชาย​น้อย​ห้า​กำลัง​ฝึก​ปั้น​กาน้ำ​ชากั​บอา​จารย์​จ้าว​”​ ​เก๋อ​จินต​อบ​กลับ​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“​คุณชาย​น้อย​สี่​ค่อนข้าง​เป็นห่วง​ ​กลัว​ว่า​คุณชาย​น้อย​ห้า​จะ​ใช้​ดิน​ที่​ส่ง​มาจาก​เมือง​อี๋​ซิ่ง​ของ​อาจารย์​จ้าว​อย่าง​สิ้นเปลือง​ ​ก็​เลย​ตาม​ไป​ที่​เรือน​ชั้นใน​ด้วย​เจ้าค่ะ​”

จู่ๆ​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ก็​รู้สึก​อิจฉา​ขึ้น​มา

หลาย​ปี​มานี​้​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​คอย​ติดตาม​อาจารย์​จ้าว​มาโดยตลอด​ ​วันนี้​ทำ​ขลุ่ย​ไม้​ไผ่​ ​พรุ่งนี้​ปั้น​กาน้ำ​ชา​ ​ไม่​เหมือน​เขา​ที่​ต้อง​ทุ่มเท​ความตั้งใจ​ให้​กับ​การเรียน​ทั้งหมด​ ​น้อยมาก​ที่จะ​มี​เวลาว่าง​เป็น​ของ​ตัวเอง

เมื่อ​นึกถึง​ตรงนี้​ ​เขา​ก็​รู้สึก​สนใจ​ขึ้น​มาทัน​ที

รีบ​เดิน​ออกจาก​เรือน​ต้านปั​๋ว​ไจ​ ​ตรง​ไป​ที่​เรือน​ของ​สือ​อี​เหนียง​ทันที

สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​อยู่​ที่​เรือน​ ​นาง​พา​จิ​่น​เกอ​ไป​เยี่ยม​กาน​ไท่ฮู​หยิน​ที่​จวน​จง​ฉินปั​๋ว

ชิว​อวี​่​ก็​พาส​วี​ซื่อ​อวี​้​ไป​ยัง​เรือน​ปีก​ห้อง​แรก​ทาง​ฝั่ง​ทิศตะวันตก​ของ​เรือน​แถว​ส่วนหลัง​ ​“ฮู​หยิน​จัด​ห้อง​นี้​ให้​กับ​คุณชาย​น้อย​ห้า​ ​คุณชาย​น้อย​ห้ามัก​จะ​มา​เป่าขลุ่ย​และ​ทำ​ประทีป​ลอยน้ำ​อยู่​ที่นี่​เป็นประจำ​เจ้าค่ะ​”

ประตู​ของ​เรือน​ปีก​ถูก​เปิด​ทิ้ง​ไว้​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยกำ​ลัง​ตั้งหน้าตั้งตา​ผสม​ดินเหนียว​ ​แต่กลับ​ไม่เห็น​เงา​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​เลย​แม้แต่น้อย

“​น้อง​สี่​ไม่ได้​มาที​่​นี่​หรือ​”​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​หย่อน​ตัว​นั่งลง​บน​เก้าอี้​ที่​วาง​อยู่​ข้างๆ​ ​เขา​จิบ​ชา​พลาง​เชยชม​ว่าว​จุฬา​ที่​แขวน​อยู่​ตาม​ผนังห้อง​และ​ประทีป​ลอยน้ำ​ที่​วาง​อยู่​บน​ตู้​ลิ้นชัก

ถึงแม้ว่า​เขา​จะ​มีนิ​สัย​ที่​อ่อนโยน​ ​แต่​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​ลับ​รู้สึก​ว่า​พี่ชาย​ของ​เขา​คน​นี้​มักจะ​เคร่งขรึม​อยู่​ตลอดเวลา​ ​ไม่​เหมือน​พี่​สี่​ที่​มักจะ​โอนอ่อน​ตาม​เขา​อยู่​เสมอ​ ​เวลา​ที่​เขา​อยู่​กับ​พี่​สี่​ ​อยาก​จะ​พูด​อะไร​ก็​กล้า​พูด​ ​อยาก​ทำ​อะไร​ก็ได้​ทำ​ ​รู้สึก​อิสระ​กว่า​มาก​…

“​เมื่อครู่นี้​พี่​สี่​พึ่ง​จะ​ทำ​ประทีป​ลอยน้ำ​เสร็จ​ ​ตอนนี้​กำลัง​นำ​ไป​ลอง​ลอยน้ำ​ที่​ทะเลสาบ​ปี้​อี​ขอรับ​!​”

สวี​ซื่อ​อวี​้​ค่อนข้าง​รู้สึก​แปลกใจ

หลังจากที่​เขา​กลับมา​ ​ก็ได้​ยิน​เหล่า​บรรดา​สาวใช้​และ​บ่าว​รับใช้​ชาย​ต่าง​ก็​เล่า​เป็น​เสียง​เดียวกัน​ว่า​ตลอด​หนึ่ง​ปี​ที่ผ่านมา​นี้​สวี​ซื่อ​จุน​มักจะ​ติดตาม​สวี​ลิ่ง​อี๋​ออก​ไป​พบปะ​ผู้คน​อยู่​เสมอ​ ​ได้​รู้จัก​กับ​เหล่า​คุณชาย​ที่​ประสบผลสำเร็จ​ตั้งแต่​อายุ​ยังน้อย​อยู่​หลาย​คน​ ​อีกทั้ง​ยัง​เริ่ม​ฝึก​ศิลปะ​การต่อสู้​กับ​ท่าน​อาจารย์​…​นึกไม่ถึง​ว่า​เขา​ยัง​ชอบ​ประทีป​ลอยน้ำ​มาก​ขนาด​นี้

*****

สวี​ซื่อ​จุน​กำลัง​พา​หวัง​ซู่​บ่าว​รับใช้​ชาย​ไป​ยัง​ทะเลสาบ​ปี้​อี​พลาง​พูด​ขึ้น​พึมพำ​ว่า​ ​“​หาก​ข้า​ไป​เร็ว​กว่านี​้​ก็​คงจะ​ดี​ ​ไม่แน่​บางที​น้อง​ห้า​อาจจะ​ยัง​ไม่​เริ่ม​ผสม​ดินเหนียว​ ​เขา​อาจจะ​ได้​ไป​ลอย​ประทีป​ใหม่​พร้อม​ข้า​ก็ได้​!​”

หวัง​ซู่​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ ​“​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​อาจารย์​จ้าว​สั่ง​ให้​คุณชาย​ห้า​ส่ง​งานปั้น​กาน้ำ​ชาตั​้ง​แต่เช้า​ตรู่​ของ​วันพรุ่งนี้​ ​คุณชาย​น้อย​ห้า​ก็​คงจะ​ไม่​ลำบากใจ​ขนาด​นี้​…​”​ ​ยัง​ไม่ทัน​ที่​เขา​จะ​พูด​จบ​ ​จู่ๆ​ ​ก็​มีเสียง​ร้อง​ที่​ก้องกังวาน​ของ​นก​กระ​เรียน​ดัง​มาจาก​สวนป่า​ที่อยู่​ข้างๆ

ทั้งสอง​ตกใจ​เป็นอย่างมาก​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ก็​รีบ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​พวกเรา​รีบ​ไปดู​กัน​!​”

นก​กระ​เรียน​ทั้งสอง​ตัว​ที่​ถูก​เลี้ยง​อยู่​ใน​จวน​ล้วนแล้วแต่​เป็น​ของ​จิ​่น​เกอ​ ​คน​ทั่วไป​ไม่กล้า​ที่จะ​ไป​แหย่​เล่น​อย่างแน่นอน

หวัง​ซู่​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​เขา​อยาก​จะ​เกลี้ยกล่อม​ให้​สวี​ซื่อ​จุน​ไม่ต้อง​เข้าไป​ยุ่ง​จะ​ดีกว่า​ ​ให้​เขา​ลอง​เข้าไป​ดูก่อน​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​อีกที​ ​แต่​เวลานี้​สวี​ซื่อ​จุน​ได้​มุ่งหน้า​ตรง​ไป​ยัง​ทิศทาง​ของ​นก​กระ​เรียน​เป็น​ที่​เรียบร้อย​แล้ว​ ​เขา​จึง​ทำได้​เพียง​รีบ​วิ่ง​ตามหลัง​ไป

เวลา​นั้น​เอง​ ​พวกเขา​ทั้งคู่​ก็ได้​ยิน​เสียง​ที่​ใสแจ๋ว​ของ​เด็กผู้หญิง​กำลัง​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ขุ่นเคือง​ว่า​ ​“​เจ้า​ยัง​จะ​หนี​อีก​…​”

สวี​ซื่อ​จุน​ชะงัก​ไป​ชั่วขณะ

เห็นได้ชัด​ว่า​เป็น​เสียง​ของ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์

เขา​จึง​เร่งฝีเท้า​เข้าไป​ใน​ดง​ต้นไม้​ทันที

“​น้อง​หญิง​สอง​ ​เจ้า​กำลัง​ทำ​อะไร​อยู่​หรือ​”

ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ที่​กำลัง​ถือ​ไม้​กระบอง​วิ่งไล่​ตีน​กก​ระ​เรียน​อยู่​นั้น​ก็ได้​หันกลับ​มาดู​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​เป็น​สวี​ซื่อ​จุน​ ​นาง​ก็​เม้น​ปาก​แน่น​ ​สีหน้า​เต็มไปด้วย​ความดื้อ​รั้น

สีหน้า​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​เคร่งขรึม​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​หันไป​ตำหนิ​สาวใช้​ที่​ติดตาม​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เสียงดัง​ลั่น​ ​“​ยัง​ไม่​รีบ​ไป​เอา​ไม้​ตะบอง​จาก​คุณหนู​สอง​มา​อีก​ ​ให้​พวก​เจ้า​ติดตาม​คุณหนู​สอง​มาก​็​เพื่อให้​พวก​เจ้า​คอย​ดูแล​ปรนนิบัติ​รับใช้​คุณหนู​สอง​ ​เจ้า​ดู​คุณหนู​สอง​ของ​พวก​เจ้า​ ​ตอนนี้​สภาพ​เป็น​อย่างไร​แล้ว​”

สาวใช้​น้อย​ทั้งสอง​ก็​หันมา​สบตา​กัน​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​มอง​คอเสื้อ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ที่​ยุ่งเหยิง​ไป​หมด​ ​ทั้งคู่​ก็​รีบ​พากั​นขา​นรั​บอย​่าง​พร้อมเพรียง​ว่า​ ​“​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สาวใช้​คน​หนึ่ง​รีบ​เข้าไป​ยึด​ไม้​ตะบอง​ใน​มือ​ของ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​ส่วน​สาวใช้​อีก​คน​ก็​รีบ​เข้าไป​โน้มน้าว​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ว่า​ ​“​คุณหนู​ ​เรา​รีบ​กลับกัน​เถิด​เจ้าค่ะ​!​ ​หากฮู​หยิน​รู้​ว่า​พวกเรา​พากั​นอ​อก​มา​ข้างนอก​ ​ก็​จะ​ถูก​สั่ง​กักบริเวณ​อีก​รอบ​นะ​เจ้า​คะ​…​”

ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ได้ยิน​แล้ว​สีหน้า​ก็​เปลี่ยนไป​ในทันที​ ​ยก​ไม้​ขึ้น​มา​จะ​ตีสาว​ใช้​ ​“​ข้า​จะ​ฟ้อง​ท่าน​พ่อ​!​ ​ข้า​จะ​ฟ้อง​ท่าน​พ่อ​!​”

สาวใช้​ไม่กล้า​ที่จะ​หลบ​ ​แต่​ก็​กลัว​ว่า​ไม้​จะ​โดน​หน้า​ ​ก็​เลย​หันหลัง​แทน

คิ้ว​งาม​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​ก็​ขมวด​ขึ้น​มาทัน​ที

เขา​รีบ​เข้าไป​ดึง​ไม้​ที่อยู่​ใน​มือ​ของ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​จาก​นั่น​ก็​หันไป​สั่ง​กับ​สาวใช้​ว่า​ ​“​พวก​เจ้า​ถอย​ออก​ไป​ก่อน​!​ ​ทาง​นี้​ข้า​จะ​จัดการ​เอง​!​”

สาวใช้​ที่​ถูก​ตี​ก็​ลังเลใจ​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​สาวใช้​อีก​คน​ก็​รีบ​เข้าไป​ดึง​เสื้อ​ของ​นาง​พร้อมกับ​พูด​ขึ้นเสียง​เบา​ว่า​ ​“​ตรงนี้​มีท​่าน​ซื่อ​จื่อ​อยู่​แล้ว​!​ ​ทาง​ฝั่งฮู​หยิน​ห้า​เรา​ต้อง​รีบ​ไปรา​ยงา​นก​่อน​จึง​จะ​ถูก​”

สาวใช้​ที่​ถูก​ตี​จึง​ไม่​ลังเล​ต่อ​ ​รีบ​ย่อ​ตัว​ทำความเคารพ​ ​จากนั้น​ก็​ถอย​ออก​ไป​พร้อมกับ​สาวใช้​อีก​คน

ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​โมโห​จน​เหลืออด​ ​หาก​เข้าไป​แย่ง​ไม้​ที่อยู่​ใน​มือ​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​ก็​คงจะ​ไม่มีแรง​พอ​ ​ครั้ง​จะ​ไม่​แย่ง​ ​ก็​รู้สึก​ว่า​ทน​ยอม​ไม่ได้

นาง​เลย​ปล่อย​ไม้​พร้อมกับ​ร้องไห้​เสียงดัง​ลั่น

สวี​ซื่อ​จุน​ก็​หันไป​สั่ง​กับ​หวัง​ซู่​ว่า​ ​“​เจ้า​เอง​ก็​ถอย​ออก​ไป​ด้วย​!​”

หวัง​ซู่​ไม่กล้า​ออก​ไป​ไกล​มาก​ ​เขา​ไป​หลบ​อยู่​หลัง​ต้นไม้​ใหญ่​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​แทน

สวี​ซื่อ​จุน​เข้าไป​กอด​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไว้​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​พอแล้ว​ ​พอแล้ว​ ​หยุด​ร้องไห้​ได้​แล้ว​ ​หาก​ดวงตา​น้อย​ๆ​ ​ร้องไห้​จน​แดงก่ำ​ ​ใคร​เห็น​เข้า​จะ​หัวเราะเยาะ​เอา​ได้​!​”​ ​เขา​พูด​พลาง​ลูบ​หลัง​ของ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เบา​ๆ

“​พวก​ท่าน​ล้วนแต่​รังแก​ข้า​!​”​ ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไม่ได้​ซาบซึ้ง​แต่อย่างใด​ ​นาง​พยายาม​ดิ้น​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​ไม่​หยุด​ ​“​จิ​่น​เกอ​เป็น​คน​ตี​ข้า​ก่อน​แท้ๆ​ ​ท่าน​แม่​กลับ​สั่ง​กักบริเวณ​ข้า​ ​ทั้งๆ​ ​ที่​ท่าน​เป็น​คน​ผิด​แท้ๆ​ ​แต่กลับ​มา​แย่ง​ไม้​ของ​ข้า​…​”

“​ล้วนแล้วแต่​เป็นความ​ผิด​ของ​พี่​สี่​คนเดียว​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​อ่อนโยน​ ​เข้าข้าง​ความคิด​ของ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์

ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​จึง​ค่อยๆ​ ​หยุด​ร้องไห้​ลง

สวี​ซื่อ​จุน​ก็​หยิบ​ผ้าเช็ดหน้า​ออกมา​ช่วย​นาง​เช็ดหน้า​เช็ด​ตา

ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​กลับ​แย่ง​ผ้าเช็ดหน้า​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​ไป​เช็ด​คราบ​น้ำตา​ด้วย​ตนเอง

สวี​ซื่อ​จุน​เห็น​ว่า​อารมณ์​จิตใจ​ของ​นาง​สงบ​ลงมาก​แล้ว​ ​ก็​เลย​จูงมือ​ของ​นาง​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เรา​ไป​ลอย​ประทีป​กัน​!​”

ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไม่​อยาก​สนใจ​เขา

สวี​ซื่อ​จุน​จึง​ยก​ประทีป​ใน​มือขึ้น​มา​ ​“​เจ้า​ดู​สิ​ ​น่าสนใจ​หรือไม่​”

ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไม่​อยาก​ดู​ ​แต่​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​รู้สึก​สงสัย​ ​จึง​เหลือบ​ไปดู​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​เวลา​นั้น​เอง​ ​ดวงตา​ของ​นาง​ก็​เบิก​กว้าง​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​สีหน้า​เต็มไปด้วย​ความ​ตะลึง

สวี​ซื่อ​จุน​ก็​แสดง​สีหน้า​ภูมิใจ​ขึ้น​มาทัน​ที

“​น่าสนใจ​ใช่​หรือไม่​!​ ​ข้า​พึ่ง​ทำ​เสร็จ​เมื่อ​สักครู่​ ​ดูแล​้ว​เหมือน​ตอไม้​เก่าแก่​ ​แต่กลับ​เป็น​ประทีป​ลอยน้ำ​”​ ​เขา​พูด​พลาง​จูงมือ​ของ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เดิน​ออกจาก​สวนป่า​ไป​ ​“​ข้าวา​ดอยู​่​ครึ่ง​ค่อนวัน​เห็นจะ​ได้​ ​พึ่ง​ลง​สีน้ำตาล​เสร็จ​ ​แต่กลับ​ไม่​ค่อย​สมดุล​กัน​ ​ข้า​ติดขอน​ไม้​เข้าไป​หนึ่ง​ท่อน​ ​ตาม​หลัก​แล้ว​มัน​น่าจะ​ไม่​จมน้ำ​…​เรา​ลอง​นำ​ไป​ลอยน้ำ​ดู​ ​ว่า​มัน​จะ​ลอย​ได้​หรือไม่​!​”

ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เดิน​ออก​ไป​ด้านนอก​พร้อมกับ​สวี​ซื่อ​จุน​พลาง​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​มัน​ออกจะ​น่าเกลียด​ ​ไม่เห็น​สวย​เลย​!​”

“​เช่นนั้น​น้อง​หญิง​สอง​ชอบ​อะไร​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ถาม​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​อ่อนโยน​ ​“​ข้า​จะ​ได้​ทำให้​น้อง​หญิง​สอง​โดยเฉพาะ​!​”

ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ข้า​ชอบ​ดอก​โบตั๋น​ ​พี่​สี่​ทำให้​ข้า​ได้​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

“​อันนี้​ยาก​หน่อย​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ตอบกลับ​ ​“​ประเดี๋ยว​เรา​ไปหา​น้อง​ห้า​ ​เขา​มี​ห้องทำงาน​โดยเฉพาะ​ ​ที่นั่น​มีทั​้ง​ตอก​ไม้​ไผ่​และ​มีด​เล็ก​ ​ข้า​จะ​ช่วย​เจ้า​ทำ​ทันที​เลย​!​”

ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​หยุด​เดิน​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ไม่เอา​ ​ข้า​ไม่​ไป​ที่​เรือน​ของ​จิ​่น​เกอ​!​”​ ​นาง​เบะ​ปาก​จน​ริมฝีปาก​คว่ำ​ลง

สวี​ซื่อ​จุน​จึง​หยุด​ฝีเท้า​ลง​ ​“​เช่นนั้น​ก็​ต้อง​รอ​อีก​สอง​สาม​วัน​…​รอ​ข้า​เตรียม​อุปกรณ์​ที่จะ​ทำ​โคมไฟ​ให้​ครบ​ก่อน​ ​แล้ว​ค่อย​เริ่ม​ลงมือทำ​ให้​เจ้า​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ไม่ได้​บังคับ​นาง​แต่อย่างใด

ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ได้ยิน​แล้วก็​ยิ้ม​กว้าง​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​แก้ม​เล็ก​ๆ​ ​นูน​ขึ้น​ ​ดู​น่ารักน่าชัง​เป็นอย่างมาก

“​เรา​ไป​กัน​เถิด​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​เอง​ก็​ยิ้ม​ตาม​ ​เขา​จูงมือ​ของ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เรา​ไป​ลอย​ประทีป​กัน​!​”

*****

ทะเลสาบ​ปี้​อี​ยาม​พระอาทิตย์​อัสดง​ ​เต็มไปด้วย​แสงสีทอง​ที่​สาดส่อง​ไป​ทั่ว

ประทีป​รูปทรง​ตอไม้​เก่าแก่​ค่อยๆ​ ​ลอย​ไป​ยัง​กลาง​ทะเลสาบ​ปี้​อี​อย่าง​ช้าๆ

“​สำเร็จ​แล้ว​!​ ​สำเร็จ​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”​ ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ยืน​ตบมือ​อยู่​ริมฝั่ง​ของ​ทะเลสาบ​ ​ใบหน้า​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​ก็​ปรากฏ​สีหน้า​ภาคภูมิใจ​ขึ้น​มา​ ​“​ข้า​นึกไว้​แล้ว​ ​ว่า​มัน​จะ​ต้อง​ลอยน้ำ​ได้​อย่างแน่นอน​!​”

ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ดึง​แขน​เสื้อ​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​เบา​ๆ​ ​“​พี่​สี่​เจ้า​คะ​ ​เช่นนั้น​ท่าน​จะ​ต้อง​รีบ​ทำ​ประทีป​ดอก​โบตั๋น​ให้​ข้า​เร็ว​ๆ​!​”

“​ได้​สิ​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ยิ้ม​พร้อมกับ​จูงมือ​ของ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไป​นั่ง​เก้าอี้​หิน​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​“​เช่นนั้น​ต่อไป​เจ้า​ห้าม​ไป​ตีสัตว​์​เลี้ยง​ของ​จิ​่น​เกอ​อีกแล้ว​นะ​!​”

ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ได้ยิน​แล้วก็​หงุดหงิด​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​“​ใคร​ใช้​ให้​จิ​่น​เกอ​ทำ​ข้า​โมโห​ก่อน​เล่า​!​”

“​แต่​นก​กระ​เรียน​ไม่ได้​ทำ​เจ้า​โมโห​เสียหน่อย​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​พูด​ขึ้น​ ​“​ปกติ​แล้ว​ ​ตอนที่​เจ้า​เดินเล่น​อยู่​ใน​ลาน​สวน​ ​นก​กระ​เรียน​ทั้งสอง​เดิน​เข้าหา​เจ้า​เสียด​้วย​ซ้ำ​ ​ตอนนี้​เจ้า​ตี​พวก​มัน​แล้ว​ ​วันข้างหน้า​พวก​มัน​ก็​จะ​ไม่สน​ใจ​เจ้า​อีก​ ​เจ้า​ชอบ​ให้​ทุกคน​เมิน​เจ้า​หรือไม่​”

ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ถาม​ขึ้น​ว่า​ ​“​จริง​หรือ​…​”

“​หาก​เจ้า​ไม่เชื่อ​ ​ก็​ลอง​ไปหา​นก​กระ​เรียน​พร้อม​ข้า​ดู​”

สีหน้า​ของ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เต็มไปด้วย​ความสงสัย​ ​นาง​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่ใหญ่​ ​จากนั้น​ก็​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ ​“​ได้​เจ้าค่ะ​ ​ข้า​จะ​ไปหา​นก​กระ​เรียน​กับ​ท่าน​!​”​ ​น้ำเสียง​ไม่​ค่อย​พอใจ​เท่าไร​นัก

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท