กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี – บทที่ 311 คืนนี้อีกครั้ง

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

บทที่ 311 คืนนี้อีกครั้ง

บทที่ 311 คืนนี้อีกครั้ง

ทันทีที่ชายเจ้าของร้านได้ยิน เขาก็เหลือบดูป้ายเงื่อนไขการเช่าที่แปะด้วยตัวเองที่ประตูแล้วหัวเราะ “คุณสนใจจะเช่าร้านเราเหรอ?”

เซี่ยชิงหยวนพยักหน้า “มาทำความเข้าใจกันก่อนดีกว่าค่ะ ตอนนี้ฉันแค่ต้องการถามข้อมูลก่อนเท่านั้น ถ้ามันไม่เหมาะกับฉันก็คงต้องปล่อยไปค่ะ”

ชายเจ้าของร้านคือคนที่คุ้นเคยกับการทำธุรกิจดี ดังนั้นจึงเข้าใจความหมายของเซี่ยชิงหยวน

ตอนนี้การค้าของร้านเขาเองก็ไม่ค่อยดีนัก จึงย้ายเก้าอี้สองตัวที่ว่างอยู่มาตั้งแยกและพูดด้วยรอยยิ้ม “นั่งลงก่อนสิ ค่อย ๆ คุยกันก็ได้”

เก้าอี้เป็นไม้ทั่วไป ส่วนตรงเบาะนั่งค่อนข้างเก่าแล้ว และมีคราบติดอยู่ตามอายุการใช้งาน ซึ่งไม่สามารถเช็ดให้สะอาดได้

ป้าอู๋ก้าวเร็วกว่าเซี่ยชิงหยวน หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาแล้วเช็ดเก้าอี้สองสามครั้ง พลันพูดว่า “คุณนาย เชิญนั่งค่ะ”

เซี่ยชิงหยวนยิ้มให้ป้าอู๋และนั่งลงอย่างสง่างาม “ขอบคุณค่ะ ป้าอู๋”

ชายเจ้าของร้านมองเซี่ยชิงหยวนขึ้นลง ก่อนจะพูดว่า “คุณเช่าเองหรือมาช่วยดูให้คนอื่นเหรอครับ?”

เมื่อมองดูรูปลักษณ์โดยรวมของเซี่ยชิงหยวนที่ดูดีเกินไปแล้ว เธอดูไม่เหมือนคนที่จะทำธุรกิจด้วยตัวเองแบบนี้เลย

เซี่ยชิงหยวนพยักหน้า “ฉันจะเช่าเองค่ะ”

ชายคนนั้นดวงตาเป็นประกายทันที “คุณนี่ตาแหลมจริง ๆ ร้านของผมอยู่ในตำแหน่งที่คนเห็นมากมายเลยล่ะ”

จากนั้นเขาชี้นิ้วไปด้านใน “อย่าดูแค่หน้าร้านที่เล็กเลย ด้านหลังร้านของผมมีพื้นที่ว่างอีกหลายตารางเมตร ก่อนหน้านี้ก็มีคนสนใจร้านของผมเหมือนกัน แถมผมกับเขายังต่อรองราคากันไปแล้วด้วย เขาบอกว่าจะมาเซ็นสัญญาพรุ่งนี้ เพราะงั้นถ้าคุณสนใจจะเช่าก็ต้องรีบหน่อย แต่ทำภายในวันนี้นะ”

เมื่อได้ยินประโยคนี้ เซี่ยชิงหยวนก็หัวเราะแล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้น ฉันขออวยพรให้เถ้าแก่โชคดีก็แล้วกันค่ะ”

หลังจากพูดจบ เธอก็ลุกขึ้นทันที

“เดี๋ยวก่อน ๆ อย่าเพิ่งรีบร้อนสิครับคุณนาย” เจ้าของร้านหยุดเธอ “ผมกับเขายังไม่ได้เซ็นสัญญากันเลย ถ้าคุณชอบร้านของผมจริง ๆ เราก็คุยกันได้นะ คุณไม่คิดอย่างนั้นเหรอ?”

สีหน้าของเซี่ยชิงหยวนยังคงไม่เปลี่ยนแปลง “งั้นเหรอคะ? แต่ฉันยังไม่รู้เลยนะว่าคุณจะให้ฉันเช่าในราคาเท่าไหร่?”

ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยเจอคนแบบนี้มาก่อน พวกคนที่พยายามสร้างภาพลวงตาว่าร้านดีมากจนมีคนมาต่อคิวรอเช่าเพื่อถือโอกาสเพิ่มราคากับคนที่ร้อนรนเชื่อคำลวง

ชายเจ้าของร้านยกนิ้วสองนิ้วให้กับเซี่ยชิงหยวนและทำท่าทางสองท่าทาง “ถ้าจ่ายค่าเช่าเต็มหนึ่งปีทีเดียวก็ราคาสองพันสองร้อยหยวน แต่ถ้าจ่ายทีละครึ่งปีค่าเช่าเต็มปีคือสองพันห้าร้อยหยวน”

เมื่อได้ยินแบบนี้ เซี่ยชิงหยวนก็เม้มริมฝีปากและกำลังจะลุกขึ้นยืนอีกครั้ง

ชายเจ้าของร้านรีบเสนออีกรอบ “สองพันหนึ่งร้อยสำหรับจ่ายทีเดียวหนึ่งปี สองพันสี่ร้อยสำหรับจ่ายทีละครึ่งปี?”

ตอนนี้เซี่ยชิงหยวนยืนขึ้นแล้ว “ฉันมาดูร้านด้วยความจริงใจ แต่ดูเหมือนว่าเถ้าแก่ไม่รีบร้อนที่จะปล่อยเช่ามันนะคะ งั้นเอาไว้ฉันมาดูอีกครั้งทีหลังดีกว่าค่ะ”

พอพูดจบ หญิงสาวก็จับมือเสิ่นอี้หลินไว้แล้วจากไป

จนในที่สุดชายเจ้าของร้านก็เริ่มวิตกกังวล “ถ้างั้นก็ยึดตามราคาค่าเช่ากลางมาตรฐานแถวนี้ก็ได้!”

เซี่ยชิงหยวนมองย้อนกลับไปที่เขา ริมฝีปากของเธอแยกออก “หนึ่งพันแปดร้อยต่อหนึ่งปี และฉันจะเพิ่มค่าเช่าให้หนึ่งร้อยทุกปี”

ชายเจ้าของร้าน “… ”

ภรรยาเจ้าของร้าน “…”

ป้าอู๋และคนอื่น ๆ “…”

เซี่ยชิงหยวนหยิบถุงใส่เงินขึ้นมาแสดงให้ชายเจ้าของร้านดู “ฉันนำเงินติดตัวมาด้วยนะ”

ชายเจ้าของร้านและภรรยามองหน้ากันอย่างตื่นเต้น แต่ก็ลังเล

ร้านนี้เป็นของเขาเอง แต่ธุรกิจไม่ค่อยดีนัก จึงอยากปล่อยเช่า

แต่เขาประกาศปล่อยเช่ามาสักพักแล้ว แม้มีคนมาดูบ้างแต่สุดท้ายอีกฝ่ายก็ไม่ชอบใจ

เพราะต่างรู้สึกว่าไม่คุ้มที่จะเสียเงินมากมาย เช่าร้านที่ดูเหมือนทำเงินได้ไม่มากเท่าที่ควร

เดิมทีเขาคิดว่าเซี่ยชิงหยวนดูเหมือนจะไม่ได้ขาดเงิน ดังนั้นเขาจึงวางแผนลวงจะขึ้นราคาค่าเช่า

แต่ใครจะรู้ สายตาของผู้หญิงตรงหน้าเฉียบแหลมจริง ๆ

เซี่ยชิงหยวนกดราคาลงอย่างหนัก แต่เขาก็รู้สึกประทับใจเช่นกัน

เขาไม่รู้ว่าถ้าพลาดโอกาสนี้ไปจะยังมีคนมาสนใจเช่าร้านเขาอย่างจริงจังแบบนี้อีกไหม

ในที่สุดเขาก็กัดฟัน “ก็ได้! ผมจะให้คุณเช่า!”

การพลิกกลับอย่างกะทันหันทำให้คนที่เหลือตกตะลึงบราวนี่ออนไลน์

เซี่ยชิงหยวนยิ้มอย่างจริงใจ “งั้นมาเซ็นสัญญากันเถอะค่ะ”

เมื่อหลินตงซิ่วรับสัญญาเช่าร้าน สีหน้าของเธอยังคงมีความประหลาดใจอยู่

วันนี้เธอแค่อยากออกมาเดินเล่นกับเซี่ยชิงหยวนด้วย แต่เธอจะรู้ได้ยังไงว่ามันจะกลายเป็นการได้เซ็นสัญญาเช่าร้านเลย

เสิ่นอี้หลินรู้สึกตื่นเต้นมาก “พี่สะใภ้สุดยอดมาก!”

เซี่ยชิงหยวนหัวเราะ “แน่นอนอยู่แล้ว”

หลังจากกลุ่มของเซี่ยชิงหยวนออกไปแล้ว ชายเจ้าของร้านก็ถูกภรรยาของเขาหยิกแขนอย่างแรง “คุณเห็นว่าเธอสวยก็เลยปล่อยให้เช่าร้านง่าย ๆ ใช่ไหม!”

ชายเจ้าของร้านรู้สึกเจ็บและลูบแขนตัวเอง “แล้วคุณจะให้ทำไง? ปฏิเสธไปเหรอ? เราประกาศปล่อยเช่ามากี่วันแล้ว? ยิ่งไปกว่านั้นเธอจะเพิ่มค่าเช่าให้เราอีกตั้งปีละร้อยหยวนนะ!”

ฝั่งภรรยารู้ดีว่าสามีพูดถูก เธอทำหน้ามุ่ยพ่นลมหายใจแล้วกระทืบเท้ากลับเข้าไปหลังร้าน

เสิ่นอี้โจวกลับมาบ้าน และเห็นเซี่ยชิงหยวนนั่งอยู่ที่โต๊ะในห้องหนังสือกำลังวาดรูปอยู่

เมื่อเขามองดูใกล้ ๆ มันเป็นแบบร่างของการตกแต่งร้านที่เรียบง่าย แต่สวยงาม

เสิ่นอี้โจวเอ่ยถาม “คุณหาเช่าร้านได้เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?”

เซี่ยชิงหยวนพยักหน้า “ใช่แล้ว ถ้าเจอแล้วก็ต้องลงมืออย่างรวดเร็วสิ”

ขณะเดียวกันก็มีรอยยิ้มบนริมฝีปากของเธอ ซึ่งดูเหมือนกำลังร้องขอคำชมเชย

เสิ่นอี้โจวหยิบภาพวาดดูอย่างระมัดระวังแล้วพยักหน้า “มันไม่เลวเลย”

หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็วางภาพวาดลงบนโต๊ะแล้วดึงเซี่ยชิงหยวนมากอดไว้ในอ้อมแขน

“แต่ผมให้ป้าอู๋ไปกับคุณเอง คุณก็ถูกแนะนำได้ดีใช่ไหม?”

เซี่ยชิงหยวน “?”

เสิ่นอี้โจวกำลังขอคำชมจากเธอเหรอ?

ทำไมสถานการณ์จึงกลับตาลปัตรแบบนี้ได้ล่ะ?

วันนี้เซี่ยชิงหยวนอารมณ์ดี ดังนั้นเธอจึงไม่ต่อต้านเขา

หญิงสาวเอามือโอบรอบคอของเขา และกดริมฝีปากของตัวเองเข้ากับริมฝีปากบางของสามีอย่างแรง

เสียง ‘จุ๊บ’ ค่อนข้างดังไม่น้อย

เมื่อได้ยินเสียงนี้ เธอก็รู้สึกเขินอายขึ้นมา แต่เสิ่นอี้โจวชี้ไปที่ริมฝีปากของตัวเอง “ภรรยาของผม จูบผมอีกทีสิ”

เซี่ยชิงหยวนหน้าแดงกับคำขอที่ตรงไปตรงมาของเขาทันที

เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องจูบเขาอีกครั้ง

แต่ในครั้งที่สอง เห็นได้ชัดว่าเธอไม่กล้าเหมือนตอนที่จูบเมื่อครู่ พลันอดไม่ได้ที่จะหลับตา

ริมฝีปากอันอ่อนนุ่มประกบกัน สัมผัสนี้ชวนให้ความรู้สึกที่ดีไม่น้อย

เซี่ยชิงหยวนเผยอปากตัวเองเล็กน้อย และสัมผัสที่ริมฝีปากของเขาเบา ๆ

จากนั้นก็ผละตัวออกไปหลังจากผ่านไปสัมผัสเดียว

แต่เสิ่นอี้โจวกลับจับเอวของเธอไว้ พลางยันมือกักขังเธอที่โต๊ะ และโน้มน้าวให้เธอทำต่อ

เขาก้มศีรษะลงแล้วมอบจูบอีกครั้ง

เซี่ยชิงหยวนต่อยเขาด้วยแรงที่มีทันที “แม่กับคนอื่น ๆ ยังอยู่ข้างล่างนะ”

เสิ่นอี้โจวรั้งหลังคอของเธอไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้หญิงสาวตรงหน้าหนีหาย “แม่กำลังช่วยป้าอู๋อยู่ในครัวนี่”

เขามองดูริมฝีปากอันแดงก่ำที่เพิ่งถูกจูบของเธอ จากนั้นก็ก้มลงขบกัดเบา ๆ “คืนนี้พวกเขากำลังทำเกี๊ยวกันอยู่ น่าจะยุ่งอยู่อีกสักพักเลยล่ะ”

ขณะที่เขาพูด มือใหญ่ก็สอดไปอยู่ใต้ชายกระโปรงของภรรยาแล้ว เธอกลัวมากจนรีบคว้ามือของเขาไว้

เธอถามเขาอย่างสั่นเทา “คุณจะทำอะไรเนี่ย!”

เสิ่นอี้โจวจูบปลายจมูกของเธอ “ผมจะกินของว่างก่อน ตกลงนะ?”

เซี่ยชิงหยวน “!”

เธอยังคงยืนกรานและอ้อนวอน “เป็นตอนกลางคืนไม่ได้เหรอ?”

เสิ่นอี้โจวพยักหน้า “ก็ได้”

จากนั้นเขาก็จับเข่าของเธอด้วยมือข้างหนึ่งแล้วแยกมันออกจากกันด้วยแรงเพียงครั้งเดียว “ไว้ทำอีกทีคืนนี้”

เสิ่นอี้โจวโน้มใบหน้าไปจูบเบา ๆ ที่ติ่งหูของเธอ “คืนพรุ่งนี้ไปเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำกับผมด้วยล่ะ”

เซี่ยชิงหยวน “อะไรนะ?”

ในขณะที่เธอกำลังตกตะลึง เสิ่นอี้โจวก็รุกเข้าใส่แล้ว

———————

บทที่ 306 คุณนายเสิ่นงดงามราวกับดอกไม้

บทที่ 306 คุณนายเสิ่นงดงามราวกับดอกไม้

สำหรับเซี่ยชิงหยวนแล้ว โจวจิ่นจือคือลูกพี่ใหญ่ของเมืองกว่างโจว

ตลอดมาเธอได้ยินเหล่าไต้และคนอื่น ๆ เรียกเขาว่าพี่โจวหรือพี่ใหญ่โจว และเธอก็ไม่เคยตั้งใจจะถามชื่อจริง ๆ ของเขา

เธอคิดว่านามสกุลของเขาคือโจวหรือโจ่ว แต่เธอไม่คาดคิดว่าเขาจะกลายเป็นลูกชายของผู้อำนวยการฉีเลย

คนร้ายที่กลายเป็นลูกชายหัวหน้าสำนักงานความมั่นคงสาธารณะเนี่ยนะ?

ขนาดละครทีวียังไม่เคยไร้สาระขนาดนี้มาก่อนเลยด้วยซ้ำ!

เซี่ยชิงหยวนสงสัยว่าเธอดูผิด จึงขยี้ตาแล้วมองฉีจิ่นจืออย่างระมัดระวังตั้งแต่หัวจรดเท้า

เธอตกใจอีกครั้งกับสิ่งที่พบ

คล้ายกันมาก!

เป็นไปไม่ได้ที่คนสองคนที่เหมือนกันจะอยู่ในโลกและในเวลาเดียวกัน แม้ว่าพวกเขาจะเป็นฝาแฝด แต่ก็ต้องมีความแตกต่างบ้างสิ!

เธอตัวแข็งอยู่กับที่ และเฝ้าดูฉีจิ่นจือเดินตามฉีหยวนซานเดินเข้ามาหาพวกเธอ

เธอนึกถึงฉากที่เขาอยู่ท่ามกลางกองเพลิงและถือมีดในวันนั้นทันที

แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเพื่อเปลี่ยนจากโจวจิ่นจือของเมืองกว่างโจวให้กลายเป็นฉีจิ่นจือแห่งมณฑลอวิ๋น แต่เธอก็รู้ดีว่าหลังจากได้รู้เรื่องที่เขาฆ่าใครบางคนและรู้เกี่ยวกับอดีตอันดำมืดของเขา เธออาจจะถูกตระกูลฉีปิดปากก็ได้!

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เซี่ยชิงหยวนก็อดไม่ได้ที่จะเหงื่อออก

ฉีหยวนซานนำฉีจิ่นจือและเผ่ยอิ่งเดินเข้ามาหาเซี่ยเจิ้งกับเสิ่นอี้โจว และพูดด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณเลขาธิการเสิ่นมากนะ นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งจริง ๆ ที่คุณมาด้วย!”

เซี่ยเจิ้งและเสิ่นอี้โจวรีบพูดทักทายกลับอย่างสุภาพ และผู้ชายทั้งสามคนก็สนทนากลับไปมาอย่างให้เกียรติกันและกัน

คุณหญิงเผ่ยยืนเคียงข้างอย่างนิ่งเงียบ

เธอเสียลูกชายในขณะที่อายุเยอะ ดังนั้นสภาพของเธอจึงดูไม่ดีนัก

มือข้างหนึ่งของฉีจิ่นจือล้วงไว้ในกระเป๋ากางเกง หรี่ตาลง และดูเฉยเมยราวกับว่าไม่มีอะไรดึงดูดสายตาของเขาได้

แม้ว่าฉีหยวนซานและคนอื่น ๆ กำลังคุยกัน เขาก็ดึงปกเสื้อด้วยความเบื่อหน่าย

กระดุมสองเม็ดบนของเสื้อเชิ้ตไม่ได้ติดกระดุม และในขณะที่เขาเคลื่อนไหว รอยบุ๋มทั้งสองบนสะบักก็ปรากฏขึ้น ซึ่งเป็นกระดูกไหปลาร้าที่ละเอียดอ่อนมาก

รูปลักษณ์ที่ดูขบถหน่อย ๆ และไม่ถูกจำกัดของเขาทำให้หูของเซี่ยจื่ออี้เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ

เมื่อไม่กี่วันก่อน เธอเคยเห็นเขาที่บ้านตระกูลฉีครั้งหนึ่งแล้ว

ตอนนั้นหญิงสาวได้ยินมาว่าเขาเพิ่งกลับมาจากเมืองหลวง และได้รับบาดเจ็บ ต้องใช้เวลานานกว่าจะหายดี

ส่วนเรื่องการเจรจาเรื่องการแต่งงานระหว่างทั้งสองครอบครัว เขาแค่ยิ้มอย่างมีความหมาย ไม่พูดอะไร พลันหันหลังกลับขึ้นไปชั้นบน

เธอยังคงไม่เข้าใจความคิดของฉีจิ่นจือ ทำให้หญิงสาวไม่สบายใจมาก

นอกจากเสิ่นอี้โจวแล้ว เขาเป็นคนที่สองที่ทำให้เธอรู้สึกแบบนี้ได้

ความทุกข์ที่เกิดจากเซี่ยชิงหยวนเมื่อกี้มลายหายไปทันที เธอรีบดึงมือของฉินซูอวี้และส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายหยุดพูดเรื่องไร้สาระเหมือนเด็กสาวที่ไม่รู้ความ พลันส่งสายตาเขินอายไปที่ฉีจิ่นจือ

ฉีจิ่นจือมองไปทางอื่นราวกับว่าเขาไม่เห็นมัน

เซี่ยชิงหยวนก็มองไปที่ฉีจิ่นจือโดยไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ

ก่อนที่เธอจะละสายตาออกไป เธอก็ได้พบกับสายตาจ้องมองของฉีจิ่นจือ

เซี่ยชิงหยวนทำได้เพียงกัดฟันและพยักหน้าให้เขาเท่านั้น

ถ้าศัตรูไม่เคลื่อนไหว เธอเองก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เช่นกัน

การแสดงออกของฉีจิ่นจือยังคงเฉยเมย เขาไม่ได้แสดงสีหน้าใด ๆ ให้เธอด้วยซ้ำ และหันหน้าหนีไป

นี่คืออะไร?

เขากำลังวางแผนที่จะชำระบัญชีหลังจากงานเลี้ยงเลิกรา หรือว่าเธอแต่งหน้าแล้วเขาก็จำเธอไม่ได้กัน?

ขณะที่กำลังงุนงง เธอก็ได้ยินเสิ่นอี้โจวเรียก

หญิงสาวดึงตัวเองออกจากความคิดของตัวเองอย่างรวดเร็ว เพราะตอนนี้เสิ่นอี้โจวกำลังแนะนำตัวเธอกับทุกคน

เซี่ยชิงหยวนยิ้มและพยักหน้าให้ฉีหยวนซาน “สวัสดีค่ะผู้อำนวยการฉี”

ฉีหยวนซานก็พยักหน้าให้เธอเช่นกัน แล้วหันกลับไปเรียกลูกชาย “จิ่นจือมานี่และทักทายเลขาธิการเสิ่นสิ”

จากนั้นเขาผายมือไปที่เซี่ยชิงหยวนแล้วพูดว่า ” นี่คือภรรยาของเลขาธิการเสิ่น”

ฉีจิ่นจือเดินมาที่ด้านข้างของฉีหยวนซาน พยักหน้าแล้วพูดทักทาย “เลขาธิการเสิ่น”

ดวงตาที่เย็นชาของเขาจ้องมองเซี่ยชิงหยวน ริมฝีปากของเขาพลันยกขึ้นและชมเชยเธอราวกับไม่สนใครที่อยู่รอบ ๆ “คุณนายเสิ่นงดงามราวกับดอกไม้จริง ๆ”

คำว่า ‘ราวกับดอกไม้’ ดูเหมือนจะม้วนอยู่ระหว่างริมฝีปากและฟันของเขา ซึ่งเมื่อพูดออกไปมันดูมีความหมายที่พิเศษ

เซี่ยชิงหยวน “!”

เขาชมเธอเหรอ?

หรือว่าเขากำลังเตือนตัวเธอว่าเขาจำได้ที่เธอเคยบอกกับเขาว่าชื่อหรูฮวา ซึ่งแปลว่าดอกไม้ก่อนหน้านี้?

ขณะเดียวกัน เซี่ยจื่ออี้ก็สังเกตเห็นคลื่นใต้น้ำระหว่างทั้งสองและยิ้มออกมา

“ดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะเคยรู้จักกันมาก่อนนะคะ?”

“ไม่!”

“ไม่” เซี่ยชิงหยวนและฉีจิ่นจือพูดพร้อมกัน

เซี่ยจื่ออี้พยักหน้าและยิ้มอย่างขอโทษ “ฉันขอโทษด้วยนะคะ บางทีฉันก็เข้าใจผิดไปน่ะค่ะ”

จากนั้นเธอก็กล่าวเสริม “แต่มันก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วสิเนอะ จิ่นจือเคยอยู่แต่ที่เมืองหลวง เป็นไปไม่ได้ที่จะเคยพบกับชิงหยวน”

สายตาของเซี่ยจื่ออี้เฉียบคมมาก เธอสังเกตดวงตาของฉีจิ่นจือและเซี่ยชิงหยวนที่เปลี่ยนแปลงอยู่ครู่หนึ่ง

แม้ว่าตอนนี้เธอจะไม่ได้ชอบเขามากนัก แต่ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากให้ผู้ชายในอนาคตของตัวเองมีความคิดเกินเลยกับผู้หญิงคนอื่นหรอก

ประโยคคำถามที่เธอเพิ่งถามออกไปครึ่งหนึ่งเป็นการทดสอบเท่านั้น และครึ่งหนึ่งเป็นเรื่องตลก

เมื่อเห็นปฏิกิริยาของฉีจิ่นจือ เซี่ยชิงหยวนก็เม้มริมฝีปาก เธอไม่ได้ตั้งใจที่จะตอบพร้อมกับเขาสักหน่อย

แต่ถึงอย่างนั้นเซี่ยเจิ้งก็หัวเราะเสียงดัง “ใช่แล้ว จิ่นจืออาศัยอยู่แต่ในเมืองหลวงมาตั้งแต่เด็ก และคุณนายเสิ่นอยู่แต่ในมณฑลยูนนาน เป็นไปไม่ได้ที่จะรู้จักกันหรอก”

เสิ่นอี้โจวยังกล่าวเสริมอีกว่า “นั่นเป็นเรื่องที่ปกติเลยล่ะครับ”

หลายคนที่อยู่รอบ ๆ ยิ้มและเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที

เสิ่นอี้โจวสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในดวงตาของเซี่ยชิงหยวน ขณะที่คนอื่นกำลังพูดกันอยู่

เขาหันไปแล้วถามเซี่ยชิงหยวนเบา ๆ ว่า “มีอะไรรึเปล่า?”

ตอนนี้ไม่เหมาะที่จะพูดคุยกัน เซี่ยชิงหยวนจึงส่ายหัวปฏิเสธ “ไม่มีอะไร”

เธอทำได้เพียงรอจนกว่าจะกลับถึงบ้านก่อนแล้วค่อยบอกเสิ่นอี้โจว

เมื่อแขกมาถึงงานเลี้ยงครบแล้ว อาหารค่ำก็จะเริ่มเร็ว ๆ นี้

ฉีหยวนซานขึ้นมาบนเวทีและพูดอะไรบางอย่าง จากนั้นแนะนำฉีจิ่นจือให้กับทุกคนอย่างเป็นพิธีการ

นี่แสดงให้เห็นว่าลูกพี่ใหญ่ที่เคยปกครองโลกใต้ดินของกว่างโจวกำลังจะเปลี่ยนตัวตนกลายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐในนามลูกชายคนที่สองของตระกูลฉี

เซี่ยเจิ้งและเซี่ยจื่ออี้นั่งโต๊ะที่ใกล้ที่สุด พวกเขารอจนกระทั่งฉีหยวนซานและฉีจิ่นจือลงจากเวที แต่กลับไม่ได้ยินสิ่งที่พวกเขาต้องการจะได้ยินเลยแม้แต่น้อย

สีหน้าของเซี่ยเจิ้งมืดหม่น และเซี่ยจื่ออี้กำผ้าเช็ดหน้าในมือแน่น

ขณะที่นั่งอยู่โต๊ะข้าง ๆ เซี่ยชิงหยวนรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นสีหน้าบอกบุญไม่รับของเซี่ยจื่ออี้ แต่ยังคงรักษารอยยิ้มที่ดีไว้ได้

เธออดไม่ได้ที่จะหันไปถามเสิ่นอี้โจวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ฉันได้ยินมาว่าทั้งสองครอบครัวของพวกเขาอยากแต่งงานกันไม่ใช่เหรอ?”

เสิ่นอี้โจวเล่นกับแก้วในมือของเขาแล้วมองอย่างจริงจัง “ผมเกรงว่าลูกชายคนเล็กของตระกูลฉีจะไม่เห็นด้วยนะ”

เซี่ยชิงหยวนพยักหน้าเพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอเข้าใจแล้ว จากนั้นก้มศีรษะลงแล้วกินอาหาร

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตระกูลฉีและฉีจิ่นจื่อ เธอจะต้องเติมอาหารให้ท้องของตัวเองก่อนเผื่อเวลาตายจะได้ไม่เป็นผีหิวโหย

นอกจากนี้ เสิ่นอี้โจวก็อยู่ที่นี่ด้วย

ถ้ากล้าแตะต้องเธอ ผู้ชายของเธอคงไม่อยู่เฉยแน่นอนใช่ไหม?

ใต้โต๊ะ หญิงสาวถอดรองเท้าส้นสูงออกเพื่อให้เท้าได้พัก

นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอสวมรองเท้าส้นสูง และเมื่อกี้เธอติดตามเสิ่นอี้โจวและพบปะผู้คนมากมาย รองเท้าก็ใหม่ มันเลยกัดเท้าของเธอจนผิวหนังถลอกหมดแล้ว

ในช่วงบ่ายวันนี้ เธอล้างเท้าอย่างพิถีพิถัน และใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีกลิ่นหอม ซึ่งจะไม่ส่งกลิ่นเหม็น

ด้วยความกังวลว่าจะมีใครไม่พอใจหรือมองไม่ดี เธอจึงขยับเท้าไปในทิศทางของเสิ่นอี้โจว

ด้วยระยะการเคลื่อนไหวที่กว้างเกินไป เธอจึงไปโดนน่องของเสิ่นอี้โจวโดยไม่ได้ตั้งใจเข้า

เขาหยุดชะงักแล้วมองใต้โต๊ะ

รอยยิ้มพลันปรากฏบนคิ้วของเขาทันที

เขามองไปที่ภรรยา “เจ็บเหรอ?”

เซี่ยชิงหยวนพยักหน้าทันที

เธอลูบเอวอีกครั้ง “เอวก็เจ็บเหมือนกันนะ”

หลังจากยืนบนรองเท้าส้นสูงเป็นเวลานาน มันจะเจ็บแน่นอน

เธอนั่งทางซ้ายมือของเสิ่นอี้โจว ทันทีที่พูดจบปลายนิ้วอันแข็งแกร่งของเขาก็แตะที่หลังเธอ จากนั้นเลื่อนไปที่เอวแล้วนวดด้วยแรงเล็กน้อย

เซี่ยชิงหยวน “!”

นี่คือที่สาธารณะนะ!

เธอตำหนิเขาด้วยสายตาอย่างรวดเร็ว

เสิ่นอี้โจวยิ้มอ่อน “ผมถูเอวภรรยาของผม มันผิดกฎหมายหรือไง?”

ท่าทางของเขาควบคุมอย่างดี มีเพียงปลายนิ้วที่อยู่ใกล้กับเอวของเซี่ยชิงหยวนเท่านั้น ซึ่งหากใช้ทั้งฝ่ามือแทนมันน่าจะชวนตื่นเต้นมากกว่านี้

ฉีจิ่นจือนั่งที่โต๊ะเดียวกับเซี่ยเจิ้งและลูกสาวของเขาพร้อมกับฉีหยวนซาน

ราวไม่ได้ตั้งใจ สายตาของเขาพลางเห็นสามีภรรยาคู่หนึ่งของโต๊ะถัดไป จากนั้นเขามองไล่ต่ำลงไปเรื่อย ๆ และหยุดชั่วครู่เมื่อเห็นมือของเสิ่นอี้โจววางบนเอวของเซี่ยชิงหยวน

เขาก้มศีรษะลงพร้อมรอยยิ้มเยาะเย้ยบนริมฝีปาก พลันหยิบแก้วขึ้นมาแล้วดื่มลงคอ

———————

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

Status: Ongoing
หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ประสบอุบัติตุจนเสียชีวิต และเธอก็ได้ย้อนไปตอนที่เธออายุ 21 ปี …ลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมหย่ากับเสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธออีกเด็ดขาด! หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้จนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต ปีแล้วปีเล่าผ่านไป เสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธอก็มักจะมายี่ยมหลุมศพของเธอประจำ เธอในร่างวิญญาณออกปากไล่เขาทุกครั้งต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน เขาจำไม่ได้เลยหรืออย่างไร ว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่แล้วเธอก็ได้ย้อนกลับมาใน ในวันที่เธออายุ 21 ปี แลยังไม่ได้หย่าขาดกับเสิ่นอี้โจว ในเมื่อเธอได้โอกาสอีกครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ครั้งนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเสิ่นอื้โจวได้จงได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท