กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี – บทที่ 439 รอดกลับมาให้ได้

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

บทที่ 439 รอดกลับมาให้ได้

บทที่ 439 รอดกลับมาให้ได้

เซี่ยชิงหยวนได้รับโทรศัพท์จากอาเซียง หญิงสาวที่อยู่ปลายสายของโทรศัพท์มีน้ำเสียงเขินอายที่หายากอย่างมาก “พี่สาวเซี่ย ฉันขอเลื่อนวันกลับอีกสักหน่อยได้ไหมคะ?”

เธออธิบายด้วยความกระอักกระอ่วน “แม่ของเขาล้มและไม่มีใครคอยดูแลอยู่ที่โรงพยาบาล ฉันอยากอยู่ที่นี่เพื่อช่วยเหลือน่ะค่ะ”

เซี่ยชิงหยวนถามอย่างกังวล “ตายจริง แม่ของเขาดีขึ้นแล้วรึยัง? มันร้ายแรงมากไหม?”

อาเซียงถอนหายใจ “หมอบอกว่ากระดูกก้นกบหลุด และมีหมอนรองกระดูกเคลื่อน คาดว่าตอนเดินนานๆ คงลำบากไม่น้อยเลยค่ะ”

หลังจากได้ยินแบบนี้ เซี่ยชิงหยวนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและพูดว่า “งั้นเธอช่วยซื้อของฝากเขาให้พี่ทีสิ และอยู่ที่นั่นต่ออีกสักพักเพื่อช่วยพวกเขาแล้วกัน”

อาเซียงพูดด้วยความตื่นเต้นทันที “ขอบคุณค่ะพี่สาวเซี่ย พี่ดีที่สุดเลย!”

จากนั้นหญิงสาวก็สัญญาทันที “พี่สาวไม่ต้องกังวลนะ ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำให้งานล่าช้าแน่นอนค่ะ ฉันจะไปเรียนรู้จากเหล่าไต้ทุกวัน และเสื้อผ้าที่เราซื้อในครั้งนี้เพิ่งถูกส่งไปเมื่อวานและน่าจะไปถึงภายในไม่กี่วันแน่ค่ะ”

เซี่ยชิงหยวนรู้สึกดีใจมาก “เอาละ ไม่ต้องอธิบายแล้ว ที่นี่ยังมีพี่อยู่ มันไม่มีปัญหาอะไรหรอก”

หลังจากได้รับการอนุญาตจากเซี่ยชิงหยวนแล้ว อาเซียงก็ตักข้าวใส่กล่องอาหารอย่างมีความสุขเพื่อจะเอาส่งไปให้คุณแม่เฮ่อ

วันนี้เธอมีเวลาไม่พอ ดังนั้นพรุ่งนี้ค่อยไปหาซื้อของในนามของเซี่ยชิงหยวนเพื่อเป็นของเยี่ยมไข้แทนแล้วกัน

เมื่อหญิงสาวไปถึงโรงพยาบาล เฮ่ออวี้เฟิงก็อยู่ที่นั่นด้วย เขากำลังจะออกไปซื้ออาหารให้แม่ของเขาพอดี

อาเซียงถือกล่องอาหารก้าวเข้าไปแล้วพูดว่า “ฉันทำอาหารมาให้ค่ะ”

คุณแม่เฮ่อยิ้มแล้วพูดว่า “สองวันนี้รบกวนอาเซียงมากเลย”

อาเซียงส่ายหัว “ไม่รบกวนเลย ไม่รบกวนเลยค่ะ”

ขณะที่พูดอย่างนั้น เธอก็เหลือบมองเฮ่ออวี้เฟิงอย่างเงียบ ๆ แต่เฮ่ออวี้เฟิงไม่ได้มองเธอเลย เขาเพียงแค่จ้องมองออกไปนอกหน้าต่างเท่านั้น

ท่อนไม้อะไรอย่างนี้!

อาเซียงท้อแท้ แต่ก็รวบรวมพลังอย่างรวดเร็ว ขณะเปิดกล่องอาหาร เธอพูดกับคุณแม่เฮ่อว่า “คุณป้าคะ กินตอนที่ยังร้อนอยู่เถอะค่ะ”

คุณแม่เฮ่อสูดจมูก “ป้าได้กลิ่นซุปไก่ตั้งแต่เธอเดินเข้ามาเลย กลิ่นหอมมาก”

อาเซียงยิ้มแล้วพูดว่า “คุณป้าเก่งจังเลยค่ะ ฉันเรียนรู้วิธีทำซุปไก่นี้จากป้าข้างบ้านมา คุณป้าลองดูหน่อยนะคะว่าฉันทำถูกไหม”

เฮ่ออวี้เฟิงเห็นหญิงสาวนำอาหารมาก็รู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ เพราะเขาไม่อยากให้เธอจ่ายค่าอาหารแบบนี้

แต่อย่างไรแม่ของเขามีความสุขมาก “ไม่มีถูกหรือผิดหรอก ความตั้งใจของเธอต่างหากสำคัญที่สุด”

หลังจากนั้นหญิงชราก็ตบเฮ่ออวี้เฟิงแล้วพูดว่า “ลูกไปส่งอาเซียงกลับหลังจากนี้ด้วยนะ”

เฮ่ออวี้เฟิงพยักหน้าและตอบอย่างไม่เต็มใจ “ครับแม่”

หลังจากที่อาเซียงดูคุณแม่เฮ่อกินเสร็จ เธอก็เดินถือกล่องข้าวที่ว่างเปล่าไปประตูโรงพยาบาลพร้อมกับเฮ่ออวี้เฟิง

แต่เมื่อเธอเห็นรถมอเตอร์ไซค์ของเขา อารมณ์ร่าเริงเดิมของเธอก็หายไปทันที

เฮ่ออวี้เฟิงปรับแต่งตำแหน่งเบาะนั่งของมอเตอร์ไซค์สุดเท่คันนี้แล้วจริง ๆ เบาะนั่งตอนนี้ไม่แตกต่างจากมอเตอร์ไซค์ทั่วไปจากเบาะที่ลาดเอียงเป็นเรียบขนานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แค่เห็นก็รู้สึกปวดก้นแล้วทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ลองนั่ง

เฮ่ออวี้เฟิงขึ้นคร่อมรถแล้วพูดกับอาเซียงว่า “ขึ้นรถสิ ฉันจะพาเธอกลับ”

รถสามล้ออีกคันมักจะใช้ในร้านเพื่อขนของ และที่โรงพยาบาลก็ไม่มีที่จอดที่สะดวกสำหรับรถสามล้อ เขาจึงไม่ขับมันมา เลยจำใจต้องใช้มอเตอร์ไซค์เหมือนเดิม

อาเซียงมองไปยังสีหน้าเรียบเฉยของเฮ่ออวี้เฟิงแล้วตอบด้วยเสียงอู้อี้ “อื้ม”

จากนั้นเธอก็ปีนขึ้นไปบนเบาะหลังด้วยมือและเท้าทั้งสองข้าง

สิ่งที่ทำให้หญิงสาวประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือเฮ่ออวี้เฟิงติดตั้งที่จับไว้ที่ท้ายเบาะหลังทั้งสองข้างด้วย!

อาเซียง “…”

เฮ่ออวี้เฟิงมองววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยของเธอ และพูดโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า “มันคือที่วางแขน…”

อาเซียงโกรธมาก “ฉันรู้ว่ามันคือที่วางแขน!”

ฮึ่ม! ได้ ฉันจะไม่กอดคุณอีกก็ได้ ให้ตายเถอะผู้ชายคนนี้นี่!

เฮ่ออวี้เฟิงยืนกราน “มันจะช่วยให้เธอสบายขึ้น…”

ในครั้งนี้อาเซียงเมินเฉยเขา และแทนที่คำตอบของเธอด้วยการกระทำ

สองวันต่อมา อาเซียงขึ้นมอเตอร์ไซค์หรือรถสามล้อไปโรงพยาบาลแล้วเดินกลับด้วยตัวเองโดยไม่ให้โอกาสเฮ่ออวี้เฟิงส่งกลับบ้าน

แม้แต่แม่ของเขาก็สังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ “ลูกทำให้อาเซียงโกรธหรือเปล่า?”

เฮ่ออวี้เฟิงลังเล “เปล่า…”

ห้องหนังสือของฉีหยวนซาน

ฉีหยวนซานโยนซองกระดาษสีเหลืองลงบนโต๊ะแล้วพูดว่า “นี่คือคำสั่งโอนย้ายของแก”

ฉีจิ่นจือก้าวไปข้างหน้า หยิบซองกระดาษขึ้นมาแล้วพูดว่า “ขอบคุณครับ”

ดวงตาของฉีหยวนซานแดงก่ำ เห็นได้ชัดว่าช่วงนี้เขาไม่ได้พักผ่อนดีเลย

เขาเปิดปากแล้วถาม “แกคิดเรื่องนี้ดีแล้วจริง ๆ เหรอ?”

ต่อให้ตายไปแล้ว ก็อาจไม่สามารถเหลือชื่อไว้บนหลุมศพได้

ฉีจิ่นจือพยักหน้า “ผมคิดเรื่องนี้ดีแล้ว”

เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว ฉีหยวนซานก็มองลูกชายอย่างลึกซึ้ง “ฉันมีเงื่อนไขเพียงข้อเดียว ฉันจะให้เวลาแกห้าปี ไม่ว่าความคืบหน้าของภารกิจจะเป็นอย่างไร แต่เมื่อถึงเวลานั้นแกจะถูกย้ายกลับมาทันที”

ฉีจิ่นจือคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “ตกลง”

ฉีหยวนซานพิงหลังไปกับเก้าอี้ราวกับว่าเขาเหนื่อยมากแล้วโบกมือ “ไปเถอะ”

ฉีจิ่นจือถอยหลังหนึ่งก้าว โค้งกายให้ฉีหยวนซานก่อนจะหันหลังและจากไป

“จิ่นจือ” ฉีหยวนซานหยุดฉีจิ่นจือก่อนที่ชายหนุ่มจะก้าวออกจากห้อง

เช่นเดียวกับพ่อทั่ว ๆ ไปในโลก เสียงของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนแอที่มองไม่เห็นและวิงวอน “รอดกลับมาให้ได้นะ”

ฉีจิ่นจือไม่หันกลับมามอง เพียงหยุดที่ประตูเท่านั้น จากนั้นก้าวขาและจากไป

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

Status: Ongoing
หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ประสบอุบัติตุจนเสียชีวิต และเธอก็ได้ย้อนไปตอนที่เธออายุ 21 ปี …ลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมหย่ากับเสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธออีกเด็ดขาด! หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้จนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต ปีแล้วปีเล่าผ่านไป เสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธอก็มักจะมายี่ยมหลุมศพของเธอประจำ เธอในร่างวิญญาณออกปากไล่เขาทุกครั้งต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน เขาจำไม่ได้เลยหรืออย่างไร ว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่แล้วเธอก็ได้ย้อนกลับมาใน ในวันที่เธออายุ 21 ปี แลยังไม่ได้หย่าขาดกับเสิ่นอี้โจว ในเมื่อเธอได้โอกาสอีกครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ครั้งนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเสิ่นอื้โจวได้จงได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท