ยังไม่ทันคิดอะไร อาธิปก็เปิดประตูเข้ามา เข้าเปียกไปทั้งตัว เขาไม่มองมาทางฉันเลยซะนิดเดียว เข้าห้องมาก็เดินเข้าห้องน้ำเลย
จากนั้นก็มีแต่เสียงน้ำไหลจากก๊อกน้ำส่งเสียงออกมา
เขากลับมาตอนนี้ ฉันก็นอนต่อไม่ได้อีกแล้ว เลยลุกขึ้นมาแต่งตัวให้เรียบร้อย แล้วเอาชุดนอนเขาออกจากตู้เสื้อผ้า วางไว้หน้าห้องน้ำให้เขา เสร็จแล้วฉันก็เดินออกไปอยู่ตรงชานระเบียง
ช่วงนี้หน้าฝน ข้างนอกเริ่มมีฝนปรอยลงมา ฟ้ามืดครึ้มมาก จะได้ยินเสียงน้ำฝนตกใส่หลังคาแวบ ๆ
ฉันได้ยินเสียงส่งมาจากข้างหลัง ฉันเลยหันหน้าไป เห็นอาธิปเดินออกมาจากห้องน้ำ คลุมท่อนล่างด้วยผ้าเช็ดตัว ผมยังเปียกน้ำอยู่ มีหยดน้ำหล่นจากเส้นผมลงสู่หุ่นร่างกายที่กล้ามเนื้อเรียงตัวไว้อย่างสวยงาม ช่างเย้ายวนอารมณ์จริง ๆ
เขาคงรู้สึกได้ว่าฉันกำลังจัองมองเขาอยู่ เขาเลยมองมาทางฉัน ขมวดคิ้วตา พร้อมพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “มานี่”
ฉันเป็นคนที่เชื่อฟังคำสั่งเขาทุกอย่าง ก็เลยเดินไปหาเขา เขาโยนผ้าเช็ดตัวมาให้ฉัน พูดด้วยน้ำเสียงต่ำๆ ว่า “เช็ดตัวให้ผมด้วย”
เขาเป็นแบบนี้ตลอด ฉันชินไปละ เขานั่งไว้ตรงริมขอบเตียง ฉันขึ้นเตียงไป คลุกเข่านั่งยองๆไว้หลังตัวเขา แล้วช่วยเช็ดผมให้เขา
“พรุ่งนี้งานศพของอาก๋งนะคะ เราต้องไปบ้านเก่าแต่เช้านะคะ” ฉันพูดเตือนเขา ฉันก็ไม่ได้ตั้งใจจะหาเรื่องคุยกับเขาหรอก
แต่เห็นว่าช่วงนี้เค้าใส่ใจแต่เรื่องนัชชา ถ้าฉันไม่เตือนเขาหน่อย ก็กลัวว่าเขาจะลืม
“อืม” เขาตอบฉันด้วยคำเดียว และไม่พูดอะไรต่อเลย
ฉันรู้ว่าเขาไม่ชอบคุยอะไรกับฉันมากมาย ฉันก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เช็ดผมให้แห้งแล้ว ฉันก็ขึ้นเตียงเตรียมตัวเข้านอน
อาจจะเป็นเพราะว่ากำลังท้องอยู่ เลยจะรู้สึกง่วงๆ อยู่ตลอด ปกติหลังอาบน้ำเสร็จ อาธิปมักจะชอบไปอยู่ห้องอ่านหนังสือจนถึงเที่ยงคืน แต่วันนี้ไม่รู้เขาเป็นอะไร
เขาเปลี่ยนชุดนอนแล้วก็นอนเลยเหมือนกัน
ฉันรู้สึกแปลกใจมาก แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมาก อยู่ดีๆ เขาก็มากอดฉัน และจูบเบาๆ ลงที่ฝีปากฉัน
เขาดึงชุดนอนฉันถอดออก ฉันตกใจเลย รีบจับห้ามมือที่กำลังเลื่อนไปหาตรงนั้นไว้ และมองหน้าเขาแบบงงๆ
“อาธิป ฉัน…”
“ไม่อยากเหรอ” เขาถาม ลูกตาสีดำทั้งคู่ส่งสายตาแบบดุเดือด
ฉันมองลงไปข้างล่าง ไม่อยากนะ แต่ฉันปฏิเสธไม่ได้น่ะสิ
“ก็ได้ แต่ขอเบาๆหน่อยได้ไหมคะ” ลูกเพิ่งจะได้หกสัปดาห์เอง ถ้าไม่ระวัง อาจเกิดอันตรายได้
เขาขมวดคิ้วตา ไม่พูดอะไร ก็แค่พลิกตัว แล้วทำธุระแบบหื่นๆ ฉันเจ็บจนต้องอตัวไว้ นอกนั้นก็ทำอะไรไม่ได้ ก็ทำได้แค่พยายามปกป้องลูกในท้องไว้
ตามด้วยความหื่นหนักของเขา ฝนข้างนอกก็ตกหนักไปยิ่งๆขึ้น ฟ้าร้อง ฟ้าแลบก็เริ่มมา แสงสว่างกระพริบตา ปริบๆ เสร็จงาน เขาก็ลุกขึ้นมาเดินไปห้องน้ำ
ฉันเจ็บจนเหงื่อแตก ว่าจะกินยาแก้ปวด แต่พอคิดถึงว่ายาอาจไม่ดีต่อลูกในท้อง ก็เลยไม่ได้กิน
“ติ๊ดดด….” มือถือที่วางไว้บนโต๊ะข้างเตียงมีสายเข้า นั่นคือมือถือของอาธิป ฉันมองดูนาฬิกา เวลานี้ ห้าทุ่มแล้ว
คนที่สามารถโทรมาเวลานี้ก็มีแต่นัชชาเท่านั้นแหละ
เสียงน้ำไหลในห้องน้ำหยุด อาธิปเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมคลุมตัวด้วยผ้าเช็ดตัว เช็ดมือให้แห้งแล้วรับโทรศัพท์ ไม่รู้ว่าโทรศัพท์ฝั่งโน้นพูดอะไรกับเขา
เห็นอาธิปขมวดคิ้วตา และพูดว่า “ นัชชาอย่าดื้อนะครับ”
พูดเสร็จ เขาก็วางสาย และเปลี่ยนชุดเตรียมตัวจะออกไปข้างนอก ปกติฉันจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น แต่ตอนนี้ ฉันจับแขนอาธิปไว้ และพูดอ่อนหวานขอเขาว่า
“ คืนนี้ขออยู่กับฉันได้ไหมคะ”
อาธิปขมวดคิ้วตา สีหน้าแสดงความไม่พอใจออกมาบนใบหน้ารูปหล่อ “แค่ดีกับเธอนิดหน่อย เธอก็ลืมตัวเลยเหรอ”
เขาพูดอย่างประชดประชันและอารมณ์เสียเป็นอย่างมาก
ฉันตกตะลึงทันใดนั้น อดรู้สึกว่าตัวเองเป็นตัวตลกไม่ได้ เงยหน้าขึ้นมามองเขา พูดว่า “ พรุ่งนี้งานศพอาก๋งแล้วนะคะ ถึงคุณจะลืมเขาไม่ได้ แต่ก็ต้องรู้ด้วยว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำนะคะ
“เธอคิดจะขู่ฉันงั้นเหรอ?” เขาหรี่ตาลง จับคางฉันแล้วบีบอย่างรุนแรง พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงดุดันว่า “ดารัณ เธออย่ามากล้าท้าทายฉันให้มันมากนักนะ!”
