ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี [炼气练了三千年] – บทที่ 265 เซียนสวรรค์แห่งแคว้นหวงเทียน

ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี [炼气练了三千年]

บทที่ 265 เซียนสวรรค์แห่งแคว้นหวงเทียน

บทที่ 265 เซียนสวรรค์แห่งแคว้นหวงเทียน

“เรียกข้าว่าอาจารย์งั้นหรือ?”

ไป๋ชิวหรานคิดไตร่ตรอง ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ

“เจ้าเป็นศิษย์ของไป๋ลี่?”

“ถูกต้องแล้ว”

เซียนหงเฉินก้มศีรษะก่อนจะกล่าวต่อว่า

“ข้าคือศิษย์คนที่สามของจักรพรรดิเซียนไป๋ลี่ เมื่อสองแสนเจ็ดหมื่นปีที่แล้ว ข้าโชคดีได้เข้าสู่ประตูของจักรพรรดิเซียน”

“ข้าเห็นขั้นการฝึกฝนของเจ้า ยามนี้คงจะเป็นจักรพรรดิเซียนแล้วใช่หรือไม่?”

ไป๋ชิวหรานมองเซียนหงเฉินอย่างพิจารณา

“เป็นเช่นนั้น”

เซียนหงเฉินตอบกลับ

“ปัจจุบันนี้ศิษย์อยู่ในขอบเขตจักรพรรดิเซียนสวรรค์”

“แล้วไป๋ลี่ล่ะ?”

ไป๋ชิวหรานถามด้วยความใคร่รู้

“ยามนี้สถานะของอาจารย์เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? เจ้าไปถึงซากปรักหักพังหวนคืนหรือยัง?”

เป็นเพราะไป๋ชิวหรานยังสำรวจซากปรักหักพังหวนคืนไม่เสร็จสิ้น เขาเพียงสำรวจมันได้ครึ่งทางเท่านั้น ทว่าผู้ฝึกตนส่วนใหญ่แล้วจะสนใจในเรื่องนี้ แม้แต่ไป๋ชิวหรานยังไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน นอกจากนี้ยังต้องการทราบระดับของซากปรักหักพังหวนคืนหลังจากฝึกฝนเสร็จสิ้นด้วย เขาอยากรู้ว่าศิษย์ของตนไปถึงระดับนั้นแล้วหรือยัง

“ยัง”

เซียนหงเฉินส่ายศีรษะพร้อมตอบกลับ

“หากตามข่าวที่ศิษย์ได้รับฟัง เขายังคงเป็นจักรพรรดิเซียนแห่งแคว้นหวงเทียน”

“เดี๋ยว! หยุดก่อน!”

ไป๋ชิวหรานรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

“เหตุใดจักรพรรดิเซียนถึงแบ่งออกเป็นสองขั้นรากฐาน? ข้าคิดว่าพวกเจ้าไม่ชอบชื่อ ‘แคว้นหวงเทียน’ ที่ข้าใช้ในคราวแรก ดังนั้นพวกเจ้าจึงเปลี่ยนเป็นขอบเขตจักรพรรดิเซียนสวรรค์… ขอบเขตจักรพรรดิเซียนสวรรค์แตกต่างจากจักรพรรดิแคว้นหวงเทียนอย่างไร?”

“ท่านอาจารย์เข้าใจผิดแล้ว ชื่อขั้นรากฐานที่ท่านตั้งเอาไว้ แม้จะน่าเกลียดเพียงใด ทว่าพวกเราย่อมไม่กล้าเปลี่ยนแปลง”

ไป๋ชิวหราน “…”

เซียนหงเฉินตอบกลับ

“เป็นเพราะภายหลังจากท่านอาจารย์ฝึกฝนจนถึงระดับจักรพรรดิเซียนแคว้นหวงเทียนแล้ว ความยากของการฝึกฝนในแคว้นหวงเทียนจริง ๆ แล้วแบ่งเป็นสองขั้นรากฐานหลัก แคว้นหวงเทียนจึงถูกแบ่งออกเป็นระหว่างจักรพรรดิเซียนแคว้นหวงเทียนกับวัฏสังสารแห่งการเกิดและตาย แล้วจึงเพิ่มเติมเป็นขอบเขตจักรพรรดิเซียนสวรรค์ ทุกสิ่งยังคงเป็นไปตามสิ่งเดิมที่ท่านได้สร้างเอาไว้ วัฏจักรสวรรค์ศึกดวงดาวในคฤหาสน์ม่วงคือขอบเขตจักรพรรดิ หลังจากฝึกตนและหล่อเลี้ยงพลังเซียนในร่างกายให้ถึงจุดสูงสุด เช่นนั้นจะบรรลุถึงแคว้นหวงเทียน”

“โอ้ ข้าเข้าใจแล้ว เหมือนกับขั้นรากฐานเสมือน”

ไป๋ชิวหรานรู้สึกผ่อนคลายอย่างยิ่ง

“ศิษย์ของข้ากระทำได้เหนือความคาดหมาย”

“ท่านอาจารย์ ขั้นรากฐานเสมือนหมายความว่าอย่างไร?”

เซียนหงเฉินไม่เข้าใจ

“มันเป็นสิ่งที่ข้าได้คิดค้นขึ้นมาหลังจากกลับมาคราวนี้”

ชายหนุ่มอธิบายอย่างภาคภูมิใจ

“ถือได้ว่าเป็นขั้นรากฐานที่แท้จริง”

“ท่านอาจารย์มีพรสวรรค์ยิ่งนัก”

เซียนหงเฉินกล่าวชื่นชมพร้อมกับถามออกมาอีกครั้ง

“แต่ข้าไม่ทราบว่าขั้นรากฐานเสมือนนี้จะไปสิ้นสุดที่ขอบเขตใด?”

“เพราะเป็นการสร้างรากฐาน จึงเป็นเรื่องปกติระหว่างการกลั่นลมปราณและการสร้างรากฐาน”

ไป๋ชิวหรานตอบกลับอย่างสบาย ๆ

“หืม? เป็นไปได้หรือไม่ว่าหลังจากผ่านพ้นขั้นกลั่นลมปราณแล้วเราจะเข้าสู่ขั้นสร้างรากฐานได้?”

เซียนหงเฉินกล่าวอย่างตกตะลึง

“เจ้าจะไปรู้อะไร?”

ไป๋ชิวหรานหัวเราะ

“ใครก็ตามที่ไม่สนใจการสร้างรากฐาน คนผู้นั้นก็ไม่ต่างอะไรจากเศษขยะ”

ภรรยาของท่านด้วยไม่ใช่หรือ…

ประโยคนี้เซียนหงเฉินเพียงลอบกล่าวมันในใจ และด้วยความแข็งแกร่งของไป๋ชิวหรานเขาย่อมไม่ยอมรับคำพูดนี้อย่างแน่นอน

“ท่านอาจารย์กล่าวถูกต้องแล้ว”

เขาโค้งศีรษะลงอีกครั้ง

“เอาล่ะ ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องนี้แล้ว รีบลุกขึ้นเร็วเข้า”

ไป๋ชิวหรานโบกมือพร้อมกับถามอีกครั้ง

“กล่าวถึงเรื่องนี้แล้ว ตอนนี้เจ้าก็เป็นจักรพรรดิเซียนแล้ว เหตุใดถึงไม่ไปที่แดนเซียนกับเขา? เจ้ามาทำอะไรในแดนมนุษย์เช่นนี้? หรือมีสิ่งต้องทำ?”

“ข้ามาที่นี่ภายใต้คำสั่งของท่านอาจารย์ และมีบางสิ่งที่สำคัญสำหรับข้าอยู่ที่นี่”

เซียนหงเฉินราวกับตระหนักได้ถึงบางอย่าง เขาจึงกล่าวถาม

“ท่านอาจารย์ก็อยู่ในโลกมนุษย์เช่นกันไม่ใช่หรือ?”

“ข้าไม่เหมือนกับเจ้า”

ไป๋ชิวหรานกล่าวออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ

“ข้ายังไม่ได้เข้าสู่ขั้นสร้างรากฐาน คงไม่เป็นไรหากจะอยู่ที่นี่ใช่หรือไม่?”

“???”

เซียนหงเฉินรู้สึกไม่เข้าใจ เขาไม่รู้ว่าไป๋ชิวหรานกล่าวถึงอะไร

อย่างไรก็ตาม มีบางอย่างที่บอกกับเขาว่าเพื่อความปลอดภัยของชีวิต เขาไม่ควรจะถามเซ้าซี้ไปมากกว่านี้

“แล้วเหตุใดเจ้าเด็กไป๋ลี่จึงปล่อยให้เจ้าอยู่ในโลกใบนี้?”

ชายหนุ่มกล่าวถามอีกครั้ง

“ปกติแล้วมันคือการปกป้องท่านอาจารย์”

เซียนหงเฉินกล่าวตอบ

“ความปลอดภัยของข้า?”

ไป๋ชิวหรานรู้สึกไม่เข้าใจ หลังจากฝึกฝนมาเนิ่นนาน เขารู้สึกว่าจักรพรรดิเซียนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตน ไป๋ลี่น่าจะทราบดีถึงความคิดที่ไป๋ชิวหรานมีต่อเขา ผู้ชายคนนี้ไม่ควรปลดปล่อยการต่อสู้ในระดับจักรพรรดิเซียนภายในโลกมนุษย์

เมื่อเห็นว่าไป๋ชิวหรานเต็มไปด้วยความสงสัย เซียนหงเฉินจึงคาดเดาว่าเขาอาจจะคิดอะไรบางอย่าง ดังนั้นจึงอธิบายว่า

“ท่านอาจารย์อย่าเพิ่งเข้าใจผิด ยามนี้เพียงกลอุบายเล็กน้อยของศิษย์ไม่อาจปิดกั้นสายตาของท่านได้ แต่สิ่งที่ศิษย์ต้องปกป้องไม่ใช่ท่านในปัจจุบัน แต่เป็นท่านในอดีต”

“หืม? เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”

“ตอนท่านยังเยาว์ เป็นศิษย์ผู้นี้ที่คอยเฝ้าดูท่านเติบโตขึ้น…”

เซียนหงเฉินกล่าวคำนี้อย่างระมัดระวัง และจากนั้นก็เริ่มอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้กับไป๋ชิวหรานฟังทีละน้อย

ปรากฏว่าหลังจากที่เขาออกจากยุคเผ่าเทพ ในที่สุดไป๋ลี่ก็เป็นผู้นำเผ่าพันธุ์มนุษย์ เมื่อเผ่าปีศาจและเผ่าอื่น ๆ เอาชนะเหล่าเทพได้ ระฆังของจักรพรรดิตะวันออกที่ถูกวางไว้ในปราสาทสวรรค์ก็ดังขึ้นสามครั้ง มันเปิดใช้งานพลังแห่งช้างเผือก กลายเป็นว่าเหล่าเซียนจากแดนสวรรค์ร่วงหล่นสู่พื้นดินอีกครั้ง…

ไป๋ลี่พบว่าเซียนจากแดนสวรรค์ลงมาสู่พื้นโลกด้วยระฆังของจักรพรรดิตะวันออก แต่พบว่าความแข็งแกร่งของเขาในเวลานั้นเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำลายระฆังจักรพรรดิตะวันออกได้

ยิ่งกว่านั้น ระฆังของจักรพรรดิตะวันออกยังไม่สามารถย้ายที่ได้ มันใช้พลังการเนรเทศห้วงเวลาปิดกั้นตนเองเอาไว้ แม้แต่ไป๋ลี่ที่เป็นจักรพรรดิเซียนในตอนนั้นยังไม่สามารถจัดการกับมันได้

ไป๋ลี่จำต้องยอมแพ้อย่างไม่เต็มใจ และข่าวนี้ก็ไปถึงหูของเจียงหลานที่อาศัยอยู่อย่างสันโดษบนต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ฝูซาง

หลังจากพิจารณาอยู่นาน เจียงหลานก็พบกับไป๋ลี่ และเปิดเผยกับเขาว่าไป๋ชิวหรานมาจากอนาคต

ระฆังของจักรพรรดิตะวันออกมีความสามารถที่จะทำให้เดินทางข้ามเวลามาได้ ไม่ว่าไป๋ชิวหรานจะอยู่ในยุคใด แต่เขาจะสามารถกลับมาในยุคนี้ผ่านสิ่งนี้ ในที่สุดระฆังนั่นก็โจมตีจักรพรรดิตะวันออกไท่อีจนตายตก เขาจึงเกรงว่าจะมีคนทราบว่าไป๋ชิวหรานไม่ได้อยู่ในช่วงกาลเวลานี้

แม้ว่าไท่อีจะตายไปแล้ว แต่มันก็ยากจะกล่าว เขาไม่ได้บอกกล่าวเรื่องนี้กับผู้ใด แม้เหล่าทวยเทพจะพ่ายแพ้ในเวลานั้น แต่ก็ยังมีอีกหลายสิบคนที่ต้องการจะสร้างปราสาทสวรรค์ขึ้นมาใหม่

หากเทพเจ้าทำอะไรบางอย่างและใช้ความสามารถของระฆังจักรพรรดิตะวันออกเพื่อเดินทางข้ามเวลาไปสู่อดีต หากเขาพบเจอไป๋ชิวหรานและจัดการอีกฝ่าย นั่นคือการสูญพันธ์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์

แม้วิถีสวรรค์จะมีอำนาจควบคุมแม่น้ำแห่งกาลเวลา แต่ความคิดที่มีต่อผู้เดินทางข้ามกาลเวลาก็ถูกกำหนดไว้โดยความแข็งแกร่งของผู้ที่เดินทางเช่นกัน

สิ่งมีชีวิตเช่นไท่อีและจักรพรรดิเซียนไป๋ลี่จะตายตกทันที หากกล้าหาญที่จะเข้าสู่แม่น้ำแห่งกาลเวลา แต่สำหรับเทพเจ้าธรรมดาระดับต่ำที่เดินทางข้ามกาลเวลา วิถีสวรรค์อาจจะเลือกที่จะปลดปล่อยคลื่นพลังสักเล็กน้อย แล้วเลือกที่จะปิดตาข้างหนึ่งเสมอ

หากเขาโชคดี นั่นมีโอกาสสูงมากที่เทพเจ้าองค์นี้จะได้พบกับไป๋ชิวหรานที่เป็นเด็กกำพร้าในสนามรบ

“นี่เป็นเหตุผลที่อาจารย์มอบหมายภารกิจนี้ให้กับข้าหลังจากที่เขาเข้าสู่แดนเซียน”

เซียนหงเฉินอธิบายต่อว่า

“ไม่ว่าจะเป็นเช่นไร ความปลอดภัยของท่านคือสิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องการ ความจริงแล้วแม้ท่านอาจารย์ยอมรับท่านในฐานะอาจารย์ ทว่าข้าก็เฝ้ามองท่านอยู่ในระยะประชิดเสมอมา…”

ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี [炼气练了三千年]

ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี [炼气练了三千年]

Status: Ongoing
ณ สำนักกระบี่ชิงหมิง ที่แห่งนี้ยังมี ‘อาจารย์ลุง’ ซึ่งเป็นที่กล่าวขวัญและพบหน้าค่าตาได้ยากอยู่คนหนึ่ง …ที่ถึงแม้จะอยู่เพียงแค่ขั้นพลังชั้นต่ำสุดอย่างกลั่นลมปราณ แต่จะหาใครแกร่งเท่า คงไม่มีอีกแล้ว! ‘ไป๋ชิวหราน’ ชื่อนี้ไม่มีใครที่เป็นศิษย์ในสำนักกระบี่ชิงหมิงจะไม่รู้จัก ศิษย์ลูกรักของผู้ก่อตั้งสำนัก อีกทั้งยังเคยเป็นถึงความหวังของสำนักอีกด้วย ใครต่อใครก็บอกว่าเขาเป็นคนมีพรสวรรค์ แต่การที่ไปชิวหรานผู้นี้ต้องมาติดแหง็กอยู่ที่ขั้น ๆ เดิมมาถึงสามพันปี มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ ๆ สวรรค์ต้องเล่นตลกกับเขาอยู่แน่นอน นอกจากจะต้องเร่งบรรลุไปที่ขั้นสูงกว่านี้ให้ไว ๆ เพื่อหลีกหนีความตายแล้ว ยังต้องมารับมือกับเรื่องวุ่นวายทางโลกที่ ‘คนอื่น ๆ’ ชอบพามาหาเขาแบบไม่หยุดไม่หย่อนอีก เห็นเขาใจดีแบบนี้ใช่ว่าจะทำอะไรกับเขาก็ได้นะ! เส้นทางการฝึกตนนั้นไม่เคยง่ายดาย ไป๋ชิวหรานผู้นี้รู้ซึ้งดี ฉะนั้นใครก็ตามที่กล้ามาดูถูกขั้นพลังของเขา ก็เตรียมตัวชักกระบี่มาคุยกันได้เลย! ความตายที่คอยรังควาญไป๋ชิวหรานคือสิ่งใด ขั้นพลังที่เขามักแอบตัดพ้อถึงมันนั้นสูงส่งหรือต่ำเตี้ยเรี่ยดินเพียงไหน โปรดติดตามได้ใน ‘ข้าก็แค่กลั่นลมปราณสามพันปี’

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท