รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 496 คุณหนูใหญ่กลับมา
ครอบครัวสี่คนแยกกันนั่งมา หากญาณินไม่ต้องมากับเทวิกา เดิมทีเธอก็จะนั่งเครื่องบินตามลำพัง
ไซม่อนและประยสย์ลงจากเครื่องบินก่อน
ก่อนสองพ่อลูกจะขึ้นเครื่อง ยังคงทำสีหน้าอ่อนโยน พอกลับมาที่เมืองซูเพร่า ลงจากเครื่องบินแล้ว สองพ่อลูกก็ล้วนมีสีหน้าเคร่งขรึมเหมือนกัน
ประยสย์ถูกเรียกว่าใบหน้าขรึมเย็นชา
สองพ่อลูกสวมชุดสูทรองเท้าหนังเหมือนกัน มีบอดี้การ์ดหนึ่งแถวยืนอยู่ด้านหลังพวกเขา เป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของสองพ่อลูก
เหล่าบอดี้การ์ดแต่ละคนตัวสูงใหญ่ทรงพลัง แววตาจ้องเขม็งเปล่งประกาย
เห็นแขนเทวิกาควงแขนพยุงคุณแม่ ค่อยๆ เดินออกมาจากห้องโดยสารเครื่องบิน ประยสย์ก็ก้าวไปข้างหน้า
“แม่ วิกา”
ไซม่อนยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน
สมาชิกในตระกูลสาระทาเหล่านั้นกำลังรอต้อนรับครอบครัวทั้งสี่คนกลับมาที่สนามบิน นอกจากคุณปู่และคุณย่าไม่ได้ออกมาต้อนรับ ยังไงพวกเขาก็เป็นผู้ใหญ่ แต่คนอื่นๆ นำโดยอาสองล้วนออกมาต้อนรับกันหมด
สมาชิกในวงศ์ตระกูล ผู้สืบทอดสายเลือดโดยตรงที่สื่อสารร่วมกันได้ก็มากันหมด
กลุ่มคนแน่นขนัด
ถ้าเทวิกาเพิ่งรู้ประวัติชีวิตตัวเองแล้วกลับมาที่เมืองซูเพร่า จะต้องตกใจในความยิ่งใหญ่นี้แน่นอน
“พี่”
อาสองกับชลรีบเดินมาหา หยุดอยู่ด้านหลังไซม่อนเพียงไม่กี่ก้าว ยิ้มและเรียกเขาด้วยความสนิทสนม
ไซม่อนตอบอืม ไม่ได้หันไปมองพวกเขาเลย
“คุณท่านครับ”
คนอื่นๆ ก็ไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบกันอย่างพร้อมเพรียงด้วยความนอบน้อม
ไซม่อนเห็นภรรยาและลูกสาวเดินลงมาจากเครื่องบินแล้ว เขาก็หันไปเลิกคิ้วอย่างเข้มงวด พูดขึ้นเสียงเข้ม “เป็นใบ้กันเหรอ?”
ทุกคน: “……”
อาสองตอบสนองได้ไว
เขารีบตะโกนเสียงดัง “ยินดีต้อนรับพี่สะใภ้ใหญ่และวิกากลับมาครับ”
ทุกคนก็ตอบสนอง
ตะโกนกันอย่างพร้อมเพรียง “ยินดีต้อนรับคุณนาย คุณหนูใหญ่กลับบ้าน”
เสียงดังขึ้นต่อเนื่องกันเป็นระลอก
ไซม่อนพึงพอใจเล็กน้อย
ในตอนนี้ เขาถึงเดินไปหาภรรยาและลูกสาว
เขาอยากจูงมือภรรยาขึ้นมา แต่ญาณินไม่เพียงแต่หลบหลีกมือเขา แต่ยังดึงมือลูกสาวเดินผ่านเขาแล้วมุ่งหน้าไป
สำหรับคำทักทายจากทุกคน ญาณินไม่ได้ตอบสนอง
เทวิกายิ้มอย่างมีมารยาท พยักหน้าให้กับทุกคน แล้วกล่าวตอบ “สวัสดีค่ะทุกคน”
ความแข็งทื่อของไซม่อนเกิดขึ้นเพียงชั่วขณะหนึ่ง
เขาเดินตามฝีเท้าภรรยาและลูกสาวไปอย่างว่องไว
เดินเคียงข้างภรรยา
จูงมือไม่ได้ก็ไม่จูง เดินเคียงข้างเธอก็พอ
ทุกคนหลีกทางให้หมด
เทวิกาควงแขนคุณแม่ ยิ้มนิดๆ ไปตลอดทาง
สมาชิกในตระกูลสาระทาเห็นยศพัฒน์ตามมาด้วยก็รู้สึกประหลาดใจมาก แต่พอคิดดูแล้วก็ไม่ประหลาดใจ เขาเป็นลูกเขยตามกฎหมายของตระกูลสาระทาแล้ว เนตรดาวกลับมาตระกูลสาระทา เขาในฐานะสามี ก็ต้องกลับมาพร้อมกับเนตรดาวอยู่แล้ว
สถานะของยศพัฒน์ทำให้บางคนรู้สึกหวาดกลัว แต่พอคิดว่าอำนาจของตระกูลอริยชัยกุลอยู่ที่เมืองแอคเซสซ์ซึ่งห่างไกล ยศพัฒน์ถือเป็นคนในครอบครัว เขาอาจจะกลับมากับเนตรดาวเพื่อทำความรู้จักกับญาติ อีกไม่กี่วันก็คงกลับเมืองแอคเซสซ์ จึงไม่มีความคิดอื่นๆ
ที่ยศพัฒน์ต้องการสร้างบริษัทสาขาย่อยในเมืองซูเพร่า เนื่องจากยังไม่ได้สร้าง จึงยังไม่ดึงดูดความสนใจพวกผู้มีอิทธิพลในตระกูลสาระทา
ตระกูลสาระทาเป็นผู้ทรงอำนาจในแวดวงธุรกิจแห่งเมืองซูเพร่า ไม่ได้หมายความว่าไม่มีบริษัทเล็ก มีคนมาที่เมืองซูเพร่าเพื่อลงทุนสร้างโรงงานอยู่บ่อยครั้ง ผู้ที่ไม่ประสบความสำเร็จ จะไม่ได้รับความสนใจจากตระกูลสาระทา ผู้มีความสามารถเพียงเล็กน้อย ถ้าบริหารธุรกิจเหมือนกับตระกูลสาระทา ก็จะถูกควบคุมปราบปราม
สุดท้ายก็จะถูกตระกูลสาระทาซื้อกิจการเข้าสู่อาณาเขตตระกูลสาระทา ไม่ก็ล้มละลายและหนีออกจากเมืองซูเพร่า
บี.เอ.เอ็ม.กรุ๊ปยื่นมือมาหา แถมยังมีพ่อตาและพี่ชายภรรยาคุ้มครองอยู่ ตอนนี้ยังถือว่าปลอดภัย
เมื่อครอบครัวสี่คนเดินไปไกลแล้ว สมาชิกในตระกูลบางคนก็นินทาเสียงเบา “คุณนายสติกลับมาแล้วไม่ใช่เหรอ สติกลับมาแล้วทำไมยังไม่ทำตามกฎระเบียบ? เธอเดินเคียงข้างคุณท่านได้ยังไง?”
ตามกฎระเบียบตระกูลสาระทา ถึงแม้จะเป็นคุณนาย ก็ห้ามอยู่ระดับเดียวกับคุณท่าน ในพื้นที่สาธารณะ จะต้องเว้นระยะห่างอยู่ด้านหลังคุณท่านสองสามก้าว
เมื่ออยู่กันสองคนสามีภรรยาในพื้นที่ส่วนตัว พวกเขาอยากทำอะไรก็ทำ ไม่มีใครไปยุ่ง
ในขณะนี้ ผู้สืบทอดสายเลือดทางตรงและเครือญาติในตระกูลสาระทาล้วนอยู่ที่นี่กันหมด ถือว่าเป็นพื้นที่สาธารณะ อยู่ในสายตาพวกเขา คุณนายควรปฏิบัติตามกฎระเบียบ ห้ามเดินเคียงบ่ากับคุณท่าน
“เธอไม่ได้ดูละเอียดล่ะสิ ฉันตาดี เห็นแล้วว่าคุณท่านอยากจูงมือคุณนาย คุณนายหลบหลีก จากนั้นก็เดินผ่านคุณท่านไปเลย”
“ฉันก็เห็นเหมือนกัน ฉันนึกว่าฉันตาฝาด ไม่คิดว่าคุณนายที่เป็นบ้าไปยี่สิบกว่าปี สติกลับมาแล้ว ไม่คิดว่าจะกล้าท้าทายกฎระเบียบในตระกูลเรา”
และมีคนพูดขึ้นเสียงเบา “คุณนายอยากหย่ากับคุณท่าน ถ้าคุณหนูใหญ่ไม่กลับมา คุณนายก็ไม่อยากกลับ ใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองแอคเซสซ์อย่างมีความสุขจนลืมกลับ เธอต้องการจะหย่าแล้ว เรายังหวังให้เธอปฏิบัติตามกฎระเบียบตระกูลเราได้เหรอ”
ทุกคน: “……”
ก็จริง คุณนายต้องการหย่ากับคุณท่าน พวกเขาคิดจะเอากฎระเบียบมาควบคุมคุณนาย นั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ตอนนี้คุณหนูใหญ่กลับมาแล้ว คุณนายมีคุณชายและคุณหนูใหญ่อยู่เคียงข้าง ก็สามารถยืดเอวตั้งตรง ยังไงลูกชายลูกสาวของเธอก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว
ทุกคนคาดไม่ถึงเช่นกันว่าจะสามารถตามหาคุณหนูใหญ่กลับมาได้
นึกว่าตายไปนานแล้ว
ส่วนคุณชาย ทุกคนนึกว่าเขาจะถูกคุณท่านทอดทิ้ง ผลสุดท้ายก็นั่งตำแหน่งคุณชายได้อย่างมั่นคงเหมือนเคย แถมยังมีหวังช่วงชิงตำแหน่งคุณชายเจนสันที่ถูกคุณท่านไล่ไปที่บริษัทสาขาย่อยในเครือโอเอ กรุ๊ปอีกด้วย
บางคนที่ฉลาดไม่มากพอ กว่าจะรู้ตัวในภายหลัง ลูกชายลูกสาวของคุณนาย สถานะในตระกูลสาระทา ก็คงไม่มีใครสามารถสั่นสะเทือนมันได้
“ได้ยินว่าคุณท่านไม่อยากหย่ากับคุณนาย เมื่อก่อนคุณนายเป็นบ้า คุณท่านก็ไม่หย่ากับเธอ ตอนนี้ยิ่งไม่หย่าเลยล่ะ อย่าลืมสิว่าคุณพลอยไพลินกับคุณชล……”
ประโยคด้านหลัง คนคนนั้นพูดเสียงเบามาก
คุณพลอยไพลินที่มีหวังมาแทนที่คุณนายได้มากที่สุดมีอะไรกันกับคุณชลทั้งคืน แถมแพร่กระจายจนทุกคนรู้กันหมด คุณท่านไม่อาจแต่งงานกับพลอยไพลินได้อีกแล้ว
แต่คุณชลอยากแต่งงานกับพลอยไพลิน
แต่คุณนายสามไม่ใช่คนที่จัดการง่าย ตอนนี้โวยวายจนใหญ่โตแล้ว
คุณนายสามมีลูกสามคน ลูกชายคนโตคือคุณชายเจนสัน คือคนที่มีหวังมาแทนที่ในตำแหน่งคุณชายมากที่สุดในตอนแรก เขาจะยอมให้พ่อแม่ตัวเองหย่ากัน แล้วให้พลอยไพลินแต่งเข้าตระกูลเหรอ?
พลอยไพลินคือลูกสาวตระกูลเลิศธนโยธา ชอบเรียกตัวเองว่าเป็นคุณนายต่อหน้าพวกเขาสมาชิกในตระกูลสาระทาอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้เธอจะเสียตัวให้กับคุณชล และยินยอมแต่งงานกับคุณชล ก็ต้องการเป็นเมียหลวง จะยอมเป็นเมียน้อยได้ยังไง?
กล่าวโดยสรุปคือต้องก่อเรื่องให้วุ่นวาย
ในสถานการณ์แบบนี้ คุณท่านไม่ยอมหย่ากับคุณนายก็เป็นเรื่องปกติ
“พวกเราคอยดูเถอะ”
ถึงแม้พวกเขาจะเป็นสมาชิกในวงศ์ตระกูลสาระทา แต่ก็เป็นแค่ญาติ ปกติใช้ชีวิตอวดเบ่งแอบอ้างอิทธิพลจากผู้สืบสายเลือดทางตรง ยังไงก็ไม่ใช่ผู้ใหญ่ในตระกูล ต่อหน้าสามพี่น้องผู้สืบสายเลือดทางตรง ถึงแม้จะคุยกันได้บ้าง แต่ก็ไม่สามารถไปยุ่งเรื่องของสามพี่น้องได้
ทำได้แค่ดูเรื่องสนุกๆ เท่านั้น
แน่นอนว่าสำหรับพวกเขา ผู้สืบสายเลือดทางตรงสามพี่น้องยิ่งทะเลาะกันแรงเท่าไรยิ่งดี แบบนั้นญาติอย่างพวกเขาอาจจะได้ฉวยโอกาสแย่งอำนาจมาได้นิดหน่อย