รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 587 คลื่นยักษ์ปะทุขึ้นมาเงียบๆ
แต่ทว่า ถ้าลุงพัฒน์กับน้าวิกามีลูกสาว เขาก็ยินดีมากที่จะเป็นลูกเขยของพวกเขา เรียกน้าวิกาว่าคุณแม่ต่อไป!
พัฒน์: ……เก็บหมาป่ามาเลี้ยงสินะ!
รอให้เทวิกาเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมา ยศพัฒน์ก็เปลี่ยนเสร็จแล้ว
“คุณ ถ้าฉันใส่หน้ากากผีเสื้อสีเงิน คุณว่าจะหลอกพี่ฉันได้ไหม?”
เป็นครั้งแรกที่เทวิกาสวมชุดรัดรูปสีดำ เมื่อกี้ที่ส่องกระจกอยู่ข้างใน เธอรู้สึกว่าตอนนี้ตนเองเจ๋งใช้ได้เลย
“หลอกไม่ได้หรอก ตอนที่ผู้ชายคนหนึ่งสนใจผู้หญิงคนหนึ่งน่ะ จะคุ้นเคยกับเสียงสีหน้ารูปร่างของเธอ มองออกได้อย่างง่ายดาย ยังจำเรื่องที่พวกคุณไปตามหาหนุ่มได้สินะ หลังจากเหตุการณ์นั้นคุณบอกว่ากนกอรขี้โม้ จนเป็นเหตุให้นฤเบศวร์สงสัยน่ะ”
“ตอนนั้นนฤเบศวร์ยังไม่ได้รู้สึกว่าเขาชอบกนกอร แต่เขารู้สึกคุ้นเคยกนกอร ต่อให้กนกอรแต่งหน้า แค่เธอเอ่ยปาก เสียงของเธอ รวมไปถึงรูปร่างของเธอ นฤเบศวร์ก็จำเธอได้”
เทวิกาเบะปาก “อยากหยอกพี่เล่นสักหน่อย ก็ไม่รู้ว่าพวกเขาสองคนพัฒนาไปจนถึงระดับไหนแล้ว”
ยศพัฒน์จูงมือเธอมาที่ด้านหน้าหน้าต่าง รูดม่าน ผลักหน้าต่างออกไป “พวกเขาสองคนจะมีอะไรคืบหน้าล่ะ? แม้แต่ใบหน้าที่แท้จริงพี่ชายคุณยังไม่เคยเห็นเลย อีกฝ่ายก็ยังระวังตัวจากพี่คุณอยู่ ยังไม่เชื่อใจพี่คุณอย่างเต็มที่”
ถ้าเชื่อใจซึ่งกันและกันแล้ว อีกฝ่ายต้องเป็นคนถอดหน้ากากลง เผยโฉมหน้าที่แท้จริง
เทวิกามองไปนอกหน้าต่าง พูดเบาๆ: “คุณ นี่มันชั้นสองนะ ถ้าพวกเรากระโดดลงไป จะขาหักหรือเปล่า?”
พูดจบ ก็มีเชือกเส้นหนึ่งโยนเข้ามา เชือกเส้นนั้นมีตะขออยู่ด้วย
คนที่รับเชือกคือยศพัฒน์ เขายังเป็นคนที่ดึงเทวิกาออกมาจากริมหน้าต่างด้วย กลัวว่าเธอจะโดนตะขอเหล็กกระแทกเข้า
เทวิกามองด้วยความตกใจจนพูดไม่ออก
“นี่ นี่ ใครโยนเข้ามา?”
เธอไม่เห็นมีใคร แต่เห็นเชือกเส้นนี้เหมือนโยนออกมาจากด้านข้าง หน้าต่างห้องที่สองสามีภรรยาอยู่เฉียงกับต้นไม้ใหญ่หลายต้น ตอนที่เข้ามาอยู่ พัฒน์ยังรำคาญที่ต้นไม้พวกนั้นเติบโตแตกกิ่งก้าน จนบดบังแสงไปไม่น้อย ทำให้แสงสว่างภายในห้องไม่เพียงพอ อยากตัดทิ้ง แต่พี่ดันห้ามเอาไว้
“คนของพี่น่ะ”
“คนของพี่……ซ่อนอยู่ตรงนั้นเหรอ?”
เทวิกาไม่ได้โง่ ตอบสนองกลับมาในทันที
พัฒน์อืมออกมา เขาทดลองความแข็งแรงของตะขอ มั่นใจแล้วว่ามันจะไม่เปลี่ยนรูปร่างอย่างกะทันหัน จึงเกี่ยวตะขอไว้ที่ขอบหน้าต่าง เขาพูดกับภรรยาที่รัก: “วิกา ผมจะลงไปก่อน อีกเดี๋ยวคุณจับเชือกเส้นนี้ไว้ เหยียบบนกำแพงค่อยๆไต่ลงมานะ หรืออาจจะจับเชือกเอาไว้แล้วสไลด์ลงมาเลยก็ได้ ผมจะรอรับคุณอยู่ข้างล่าง”
“รู้สึกเหมือนพวกเราเป็นโจรเลย”
“เพื่อไม่ให้คนอื่นสงสัยพวกเราไงล่ะ”
สองสามีภรรยาอุ้มพิรัตน์ที่กำลังหลับขึ้นมาข้างบนใครๆก็เห็นทั้งนั้น ป้าอ้อยยังตามขึ้นมาดูอีกต่างหาก เพื่อยืนยันว่าสองสามีภรรยาเข้าห้องไปแล้ว ภายหลังก็ไม่ได้ลงมาข้างล่างอีกเลย ต่อให้ชลโดนภรรยาเขาคิดบัญชี ก็ไม่มีใครสงสัยพวกเขา
เทวิกายิ้ม เธอก็รู้สึกตื่นเต้น
แค่หัวเราะเพียงชั่วครู่ เธอก็ไม่กล้าหัวเราะอีก สีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นมา เคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง
ทางด้านนี้ สองสามีภรรยาลงมาจากทางหน้าต่างอย่างเงียบๆ ฝั่งคุณนายสามด้านนั้นรอให้บทเพลงจบลง จึงยกไวน์สองแก้วเดินมาตรงหน้าสามีกับพลอยไพลิน
ตอนที่พลอยไพลินเดินผ่านคุณนายสาม ก็เชิดคาง ถึงจะไม่พูดอะไร แต่ท่าทางนั้นกลับยั่วโมโหคุณนายสาม
คนรอบๆข้างเห็นฉากนี้แล้ว เสียงพูดคุยกันจึงเบาบางลง เบนความสนใจมามองสามคนนี้แทน
“เต้นได้ไม่เลว พวกคุณเหมาะสมกันมาก”
คุณนายสามส่งแก้วไวน์หนึ่งในนั้นไปให้พลอยไพลิน “ขอบคุณคุณพลอยที่ดูแลตาแก่แทนฉัน ทำให้เขามีความสุข อิ่มเอมใจนะคะ”
พลอยไพลินไม่ได้รับไวน์แก้วนั้น ได้ฟังคำพูดของคุณนายสามแล้ว เธอหัวเราะออกมา: “ชลไม่ถือว่าแก่หรอกค่ะ ร่างกายแข็งแรงดีทีเดียว ไม่ใช่ฉันที่ดูแลเขา หยอกเย้าให้เขามีความสุขหรอกค่ะ เป็นเขาต่างหากที่ดูแลฉัน คอยหยอกให้ฉันหัวเราะ ทุกวันเขาจะพยายามคิดหาวิธีทำให้ฉันได้หัวเราะ ทำให้ฉันมีความสุขอยู่ตลอดเลยค่ะ”
ประโยคที่ว่า “ชลยังร่างกายแข็งแรงดีทีเดียว” ของเธอ ทำให้คุณนายสามต้องกัดฟันอยู่เงียบๆ ด่าพลอยไพลินว่าแพศยา หน้าด้านอยู่ในใจ ทั้งยังด่าผู้ชายของตนเองที่เจ้าชู้ด้วย มีผู้หญิงตั้งเยอะแยะกลับไม่พอ ยังมาแตะต้องพลอยไพลินนังแพศยานี่อีก
“ไวน์ที่คุณเอามาให้ฉันดื่ม ฉันไม่กล้าดื่มหรอกค่ะ ฉันกลัวในไวน์มีพิษ หากพิษทำให้ลูกในท้องฉันเป็นอะไรไปจะทำยังไง? ชลให้ความสำคัญกับลูกในท้องฉันมาก ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง เขาก็รักทั้งนั้น”
พลอยไพลินลูบๆท้องน้อยที่ยังคงแบนราบของตนเอง
แต่กลับด่าเด็กในท้องอยู่ในใจ ที่เธอจงใจมีอะไรกับชลอย่างรุนแรง ก็คิดจะทำให้เด็กทรมาน และเพื่อให้ชลตำหนิตนเอง เขาจะได้ดีกับเธอมากขึ้น เชื่อฟังคำพูดของเธอมากขึ้น น่าเสียดายที่สิ่งเล็กๆในท้องซึ่งยังไม่เป็นรูปเป็นร่างอันนั้น ตายยากมาก น่าตกใจที่ไม่โดนทรมานจนหลุดออกมา
พลอยไพลินค่อนข้างหงุดหงิด นี่อยากให้ตนเองเอาออกเองงั้นเหรอ?
หรือว่า จะมอบความหายนะนี่ให้คุณนายสามไปดี?
อย่างนี้อาจจะทำให้ชลกับภรรยาทะเลาะกันหนักกว่าเดิมก็ได้
“คุณพลอยถ้ากลัวว่าในไวน์นี้จะมีพิษ งั้น ก็ให้ชลดื่มให้คุณดูหน่อยว่ามีพิษหรือเปล่า ดูสิว่าเขาจะกล้าตายเพื่อคุณไหม พิสูจน์สักหน่อยว่าหญิงสาวอย่างคุณมาอยู่กับเขา มันคุ้มค่าหรือเปล่า”
คุณนายสามชำเลืองมองสามี เหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม
ชลพูดอย่างเย็นชา: “ณิชกานต์ คืนนี้ฉันไม่อยากทะเลาะกับคุณ ถ้าคุณกล้าทำร้ายพลอยอีก อย่ามาโทษว่าฉันไม่คำนึงถึงความรักระหว่างสามีภรรยานะ ฉันจะไม่เกรงใจคุณแล้ว”
คุณนายสามหัวเราะ พูดเยาะเย้ยตัวเอง: “คุณยังนึกถึงความรักระหว่างเราอีกงั้นเหรอ?”
ในทันที เธอก็พูดต่อ: “ชล คุณพลอย ไม่ว่าพวกคุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ฉันก็ไม่มีทางวางยาลงไปในไวน์หรอก ฉันรู้สึกว่าถ้าพวกเราสามคนจะเป็นอย่างนี้ต่อไปมันก็ไม่ใช่เรื่อง ไม่งั้น เราสามคนกลับไปที่บ้านของเรา นั่งลงแล้วค่อยๆคุยกันดีๆไหม?”
เงียบเล็กน้อย คุณนายสามจึงพูดเบาๆ: “ฉันก็ไม่อยากทรมานอีกแล้ว ในเมื่อคุณสองคนรักกันด้วยใจจริง ฉันยินยอมที่จะถอยออกมา ทำให้พวกคุณสมปรารถนา เพียงแค่ชลแบ่งทรัพย์สินที่มีร่วมกันหลังแต่งงานให้ฉันเท่าๆกัน ฉันก็ยินยอมหย่า”
“ชล ใบหย่า ฉันเขียนไว้เรียบร้อยแล้ว วางอยู่ในห้องหนังสือของคุณ ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ตอนนี้ก็กลับไปดูได้เลย”
คุณนายสามพูดจบ จึงดื่มไวน์แก้วนั้นซึ่งเดิมทีจะส่งให้พลอยไพลิน
ต่อหน้าหญิงร้ายชายเลวคู่นั้น เธอดื่มไวน์แก้วนั้นจนหมด และหมุนตัวเดินออกไปเลย
ชลประหลาดใจมาก
ภรรยายอมหย่าแล้วจริงๆเหรอ?
เขาคิดว่าเธอจะถ่วงเอาไว้จนถึงช่วงสุดท้ายของชีวิตซะอีก
ดูท่า วิธีของพลอยจะได้ผล ถ้าเขาไม่กลับบ้านอีก ก็ไม่ต้องเจอภรรยา ณิชกานต์ก็จะทนไม่ไหว ยอมตกลงหย่าจนได้
แม้จะต้องแบ่งสมบัตินิดหน่อยให้ณิชกานต์ แต่ได้หย่าขาด ทำให้เขาได้แต่งงานกับพลอยไพลิน ชลก็สมัครใจที่จะยอมรับ
“ชล คุณเชื่อคำพูดของเธองั้นเหรอ?”
“พวกเรากลับไปดูก็รู้แล้ว”
ชลพูดอย่างอ่อนโยน: “พลอย ถ้าคุณไม่อยากคุยกับเธอ คุณไปรออยู่ข้างๆพ่อคุณนะ ผมจะกลับไปดู ถ้าเจอใบหย่าในห้องหนังสือ ก็คือเธอตกลงหย่าแล้วจริงๆ”
“ถ้าหลอกผม ผมจะแสดงให้เธอรู้ถึงความไม่พอใจ”
