บทที่ 109 ผลการแข่งขันที่สามารถไปแข่งขันในระดับโอลิมปิกได้!
บทที่ 109 ผลการแข่งขันที่สามารถไปแข่งขันในระดับโอลิมปิกได้!
“เกาเฟย 45.21 วินาที” เมื่อได้ยินผลลัพธ์นี้ ทุกคนรวมถึงอาจารย์หม่าต่างก็ตกตะลึง
45.21 วินาที?
เร็วมาก!
แม้แต่อาจารย์หม่าเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน
สถิติการแข่งวิ่งสี่ร้อยเมตรในการแข่งขันกีฬาระหว่างมหาวิทยาลัยระดับชาติคือ 45.25 วินาที แต่เกาเฟยทำลายสถิตินี้ไปแล้ว!
นี่ก็ถือว่าปาฏิหาริย์แล้ว!
ขณะที่ทุกคนกำลังตกตะลึง
“ฟางชิว 44.11 วินาที” ผู้จับเวลาก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง เป็นเหตุให้ทั่วทั้งสนามกีฬาเงียบเสียงลงทันที
สถิติของการแข่งวิ่งสี่ร้อยเมตรในการแข่งขันโอลิมปิก คือ 43.03 วินาที!!!
แต่ฟางชิวใช้เวลา 44.11 วินาที!
ไม่แปลกเลยที่ฟางชิวจะกล้ารอเกาเฟยที่เส้นชัย!!
ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าฟางชิวมีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก และยังมีโอกาสในการชิงแชมป์โอลิมปิกอีกด้วย!!!
ทุกคนรู้สึกช็อกกับผลลัพธ์ของฟางชิว
พวกเขาพากันช็อกสุดขีด เพราะไม่มีใครคาดคิดว่าชายหนุ่มจะทำเวลาได้ดีขนาดนี้
นี่มันยิ่งกว่าปาฏิหาริย์!
ผลลัพธ์ของฟางชิวทำให้เกาเฟยตกตะลึง หัวใจพลันร่วงหล่นไปถึงตาตุ่ม
เขาไม่เคยคิดว่าฟางชิวจะทำเวลาเทียบเท่าในการแข่งขันโอลิมปิกได้
มันจะเป็นไปได้อย่างไร?
นี่มันเป็นไปไม่ได้แน่นอน!
เขาทำลายสถิติระดับประเทศได้แล้วอย่างไรต่อ? เพราะเทียบกับโอลิมปิกแล้ว สถิติของเขามันก็เป็นแค่ขยะเท่านั้น!
ถึงจะเป็นแค่เสี้ยววินาที แต่มันก็ให้ผลต่างกันราวฟ้ากับเหว!
เกาเฟยสงสัยว่าปีนี้เขาฝึกไปเพื่ออะไร
เพราะเขายังเอาชนะนักศึกษาธรรมดาคนหนึ่งไม่ได้ด้วยซ้ำ!
ที่ผ่านมาการฝึกตลอดหลายปีของเขามันไม่มีประโยชน์เลยหรือ?
“ผมยังมีธุระที่ต้องทำ ผมขอตัวก่อนนะครับ” ฟางชิวพูดกับอาจารย์หม่าที่กำลังอึ้ง
และก่อนที่อาจารย์หม่าจะพูดอะไรออกมา จู่ ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาเสียก่อน
“เดี๋ยวก่อน!” ทุกคนหันมองไปเกาเฟยที่มีสีหน้ามืดมนด้วยความประหลาดใจ
พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมเกาเฟยถึงยังกล้าส่งเสียงพูดออกมา ทั้ง ๆ ที่เขาก็แพ้ไปตั้งสามครั้งแล้ว
ภายใต้สายตาที่งงงวยของทุกคน เกาเฟยก็จ้องไปที่ฟางชิว กัดฟันพูดออกมาว่า “คราวนี้แข่งครั้งสุดท้ายแล้ว มาแข่งวิ่งหนึ่งหมื่นเมตรกัน!”
“ถึงพลังระเบิดความเร็วของนายจะแข็งแกร่ง แต่ฉันก็ไม่เชื่อว่าความอดทนของนายจะแข็งแกร่งเหมือนกัน!”
รายการอื่น?
เมื่อได้ยินอย่างนั้นแล้ว พวกเขาจึงหันไปมองเกาเฟยกันอย่างพร้อมเพรียง ไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคำ
เกาเฟยพ่ายแพ้หลายครั้งติดกัน ความภาคภูมิใจของเขาจึงถูกทำลาย การแข่งขันวิ่งระยะไกลนับว่าเป็นจุดแข็งของเกาเฟย เป็นสิ่งที่เขาภาคภูมิใจมากที่สุดอีกด้วย
ถ้าครั้งนี้ยังแพ้อีก เกาเฟยก็จะสูญเสียความมั่นใจทั้งหมดของเขาทันที
อาจารย์หม่าไม่พูดอะไร แต่มองไปที่ฟางชิวอย่างตื่นเต้นแล้วรอคำตอบจากเขา
นักศึกษาเอกกีฬาทุกคนต่างก็จ้องมองไปที่ฟางชิวเช่นกัน
พวกเขาทุกคนหวังว่าฟางชิวจะยอมรับคำท้าของการแข่งวิ่งระยะทางหนึ่งหมื่นเมตร และพวกเขาก็ยังหวังว่าเกาเฟยจะเอาชนะฟางชิวในการแข่งรายการนี้ เพื่อเป็นการพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่านักศึกษาเอกกีฬาอย่างพวกเขาก็ยังมีความสามารถเหมือนกัน!
ก็เป็นอย่างที่เกาเฟยพูด แม้ว่าฟางชิวจะชนะสามครั้งติดต่อกันแล้ว แต่ทั้งสามรายการการแข่งขันล้วนแต่เป็นการวิ่งในระยะสั้น
แล้วทั้งสามรายการการแข่งนี้ ฟางชิวก็ได้พิสูจน์ให้พวกเขาเห็นแล้วว่าการพลังระเบิดความเร็วของเขาน่าสะพรึงกลัวเพียงใด ตอนนี้ทุกคนมองชายหนุ่มราวกับว่าเขาเป็นสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งไปแล้ว
ฟางชิวพิสูจน์เรื่องพลังระเบิดความเร็วแล้ว แล้วความอดทนล่ะ?
แม้ว่าจะมีพลังระเบิดความเร็วที่แข็งแกร่ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีความอดทนที่แข็งแกร่งด้วยเช่นกัน!
มันจะมีความแตกต่างกันมากระหว่างคนที่ผ่านการฝึกซ้อมมาแล้ว กับคนที่ไม่ได้ผ่านการฝึกซ้อมเลย!
ดังนั้น นี่จึงเป็นโอกาสที่เกาเฟยจะเอาชนะฟางชิวในการแข่งขันครั้งนี้!
“ตกลง! เอาตามที่นายต้องการเลย” ฟางชิวกล่าวพลางพยักหน้า
ทันทีที่คำพูดนี้ของฟางชิวดังออกมา ทุกคนก็ต่างตั้งหน้าตั้งตารอชมการแข่งขันทันที
ทางด้านของอาจารย์หม่าเองก็รู้สึกตื่นเต้นมากเช่นกัน
อาจารย์หม่าได้เห็นผลลัพธ์ที่เขาต้องการจะเห็นแล้ว แต่เขาก็ต่างจากนักศึกษาคนอื่น ๆ เพราะเขาต้องการดูว่าความแข็งแกร่งของฟางชิวจะไปถึงระดับไหน แล้วฟางชิวจะสามารถเอาชนะเกาเฟยได้อีกครั้งหรือไม่
“ในเมื่อพวกเธอทั้งสองคนก็ตกลงกันแล้ว ถ้างั้นพวกเรามาแข่งกันอีกครั้งเถอะ” อาจารย์หม่ายิ้มและลุกขึ้นยืน เขาพูดไปมองฟางชิวไปด้วย
“การแข่งขันสองสามรายการก่อนหน้านี้ก็ถือว่าเป็นแค่การอุ่นเครื่อง แข่งวิ่งทางไกลหนึ่งหมื่นเมตรนี้ ไม่จำเป็นต้องวอร์มร่างกายแล้ว เอาล่ะ พวกเธอไปเตรียมตัวที่ตำแหน่งของตัวเองได้แล้ว”
ฟางชิวกับเกาเฟยจึงไปที่จุดสตาร์ตอีกครั้ง
คราวนี้เกาเฟยไม่ได้มองไปที่ฟางชิวเลย ดวงตาของเขาจ้องมองไปด้านหน้าอย่างเดียว เพราะเขาจะมุ่งไปแต่ด้านหน้าเท่านั้น
ปี๊บ!
เสียงเป่านกหวีดดังขึ้น
การแข่งขันวิ่งในระยะทางหนึ่งหมื่นเมตรจึงเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ
ในครั้งนี้ ฟางชิวกับเกาเฟยไม่ได้รีบวิ่งออกไป แต่พวกเขาก็วิ่งด้วยความเร็วที่นับว่าค่อนข้างเร็วกว่าคนทั่วไปอยู่ดี
ระหว่างทางเกาเฟยก็หายใจเข้าออกเป็นจังหวะ
อย่างไรก็ตาม ฟางชิวเริ่มเร่งฝีเท้าเร็วขึ้นและวิ่งนำหน้าเกาเฟยไปอย่างรวดเร็ว ทำให้เกาเฟยถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
แต่เกาเฟยไม่รีบร้อน เนื่องจากการวิ่งหนึ่งหมื่นเมตรไม่ใช่เรื่องง่าย มันต้องใช้เทคนิคเท่านั้น!
เกาเฟยต้องการออมแรงไว้จนถึงกิโลเมตรสุดท้าย เพื่อที่เขาจะได้แซงหน้าฟางชิวได้
หลังจากวิ่งจนครบหนึ่งรอบแล้ว
ฟางชิวก็ยิ่งเร่งความเร็วมากขึ้นกว่าเดิม เกาเฟยก็เริ่มเร่งความเร็วเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้เร็วมากนัก
“เกาเฟยสมควรได้เป็นตัวแทนของทีมกรีฑา เพราะเขามีความเชี่ยวชาญในการค่อย ๆ ปรับสภาพร่างกายให้เข้าสู่สภาวะการวิ่ง”
“ใช่แล้ว การวิ่งในระยะทางหนึ่งหมื่นเมตร นักวิ่งต้องแบ่งพลังงานให้ดี เพราะถ้านักวิ่งใช้พลังงานมากเกินไปตั้งแต่เริ่มออกตัว นักวิ่งก็จะหมดแรงในภายหลังได้”
“พลังระเบิดความเร็วของฟางชิวก็ยังสุดยอดเหมือนเคย ผ่านไปสามรอบแล้ว เขายังเร่งความเร็วได้อีก”
“ฟางชิวอาจจะไม่ชนะ ถ้าเขายังวิ่งด้วยความเร็วอย่างนี้ต่อไปเรื่อย ๆ”
“ทำไมล่ะ?”
“ก็ดูสิ ถึงฟางชิวจะเร่งความเร็วอย่างต่อเนื่อง แต่เขาก็วิ่งได้แค่สามรอบ ทุกรอบมีระยะทางหนึ่งกิโลเมตร การแข่งขันมีทั้งหมดสิบรอบ ถึงเกาเฟยจะวิ่งช้า แต่ความเร็วของเขาก็ค่อย ๆ เพิ่มขึ้น ถ้าเป็นไปตามนี้ ในสองรอบสุดท้าย เกาเฟยก็จะสามารถแซงหน้าฟางชิว และเข้าเส้นชัยไปอย่างง่ายดาย ”
เมื่อมองดูภาพรวมการแข่งแล้ว นักศึกษาเอกกีฬาทุกคนต่างก็ถกเถียงกันถึงเรื่องนี้
อีกด้านหนึ่ง ความสนใจของอาจารย์หม่ายังคงอยู่ที่ฟางชิว เขาแอบพยักหน้าเบา ๆ
การแข่งขันยังคงดำเนินต่อไป
รอบที่สี่… รอบที่ห้า…
ผ่านไปครึ่งการแข่งขัน ฟางชิวก็แซงหน้าเกาเฟยไปถึงสองรอบเต็ม ๆ และความเร็วของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“พระเจ้า! ผ่านไปแล้วห้ารอบ แต่ทำไมความเร็วของฟางชิวถึงไม่ลดลงเลยล่ะ”
“เขาจะวิ่งเก่งเกินไปแล้ว!”
“ดูเกาเฟยสิ ตอนนี้เขาวิ่งได้แค่สามรอบเอง เร็วขึ้นก็ไล่ไม่ทันเลย”
“ไม่ต้องกังวล ผ่านรอบที่ห้า เกาเฟยคงเร่งความเร็วเองแหละ”
…
รอบที่หก
รอบที่เจ็ด
เมื่อฟางชิววิ่งครบเจ็ดรอบครึ่ง เกาเฟยก็วิ่งจบห้ารอบแรกในที่สุด เป็นไปที่ทีมกรีฑาคาดไว้ หลังจากรอบที่ห้า เกาเฟยก็เร่งความเร็วขึ้นทันทีและเริ่มไล่ตามฟางชิวไป
เกาเฟยถอนหายใจด้วยสีหน้าเย็นชาใส่ฟางชิวแล้วเร่งความเร็วขึ้นทันที ชายหนุ่มคิดในใจว่า
‘ดูซิว่าฉันจะทิ้งนายเอาไว้ข้างหลังยังไง’
…
“เอาแล้ว”
“ความเร็วของเกาเฟยเพิ่มขึ้นมากจริง ๆ แต่ทำไม… ฉันถึงรู้สึกว่าเขายังเร็วไม่เท่าฟางชิวล่ะ?”
“เป็นไปไม่ได้ ทำไมฟางชิวถึงเร่งความเร็วอีกแล้ว?”
“ฟางชิวเร็วกว่าเกาเฟยได้ไง”
เมื่อมองไปยังคนสองคนที่อยู่ในสนาม นักศึกษาเอกการกีฬาต่างก็ตกใจกับสิ่งที่เห็น
เพราะพวกเขาพบว่า ความเร็วของเกาเฟยเพิ่มขึ้นในระดับที่สูงมาก และตอนนี้เกาเฟยก็กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการวิ่งรอบสุดท้าย แต่ในเวลาเดียวกัน ชายหนุ่มก็ยังไม่หยุดเร่งความเร็วเลย แล้วตอนนี้เขาก็วิ่งเร็วกว่าเกาเฟย
ภาพนี้ทำให้ทุกคนตะลึง
หลังจากวิ่งมานาน ฟางชิวก็ยังเร่งความเร็วได้อีกหรือ ทำไมเขาดูไม่เหนื่อยเลยล่ะ นี่มันไม่น่ากลัวเกินไปหน่อยรึไง?
‘ยอดเยี่ยม!’ ภายในใจของอาจารย์หม่าก็รู้สึกตื่นเต้นมาก
เขาพบว่าร่างกายฟางชิวได้มาถึงระดับที่สมบูรณ์แบบแล้ว ทำให้เขาเดาได้ว่า นอกจากฟางชิวจะมีการประสานงานทางกายภาพที่แข็งแกร่งแล้ว เขาก็ยังมีความอดทนที่ไม่เลวเลยเช่นกัน นี่มันเกินความคาดหมายของเขาไปไกลมาก
ฟางชิววิ่งเร็วมากจริง ๆ
ระหว่างนั้น
“อะไรวะเนี่ย?!” เกาเฟยที่กำลังเร่งความเร็วเพื่อที่จะไล่ตามฟางชิวให้ทัน พบว่าระยะห่างระหว่างตนกับฟางชิวอยู่ไกลออกไปเรื่อย ๆ
สิ่งนี้ทำให้เขาประหลาดใจมาก การหายใจของเขาจึงผิดจังหวะไปทันที แต่เขาก็ไม่อยากสนใจจนลืมเป้าหมาย
เขาต้องพุ่งไปข้างหน้าเท่านั้น!
เกาเฟยไม่กล้าที่จะชะล่าใจอีกต่อไป เขาเค้นพลังออกมาจนหมด เพื่อไล่ตามฟางชิวอย่างบ้าคลั่ง
ทว่าฟางชิวก็ยังคงเร่งความเร็วไม่หยุด
“แปดรอบแล้ว ฟางชิวควรวิ่งช้าลงได้แล้ว”
“อะไรนะ? นี่เขายังเร่งความเร็วอยู่อีกเหรอเนี่ย!”
“พระเจ้า สรุปความเร็วในการวิ่งรอบแรก ๆ เป็นความเร็วที่ช้าที่สุดของฟางชิวเหรอ”
“เก้ารอบแล้ว ฟางชิววิ่งใกล้จะครบสิบรอบแล้ว”
“เกาเฟยวิ่งได้แค่หกรอบครึ่งเอง”
“ฟางชิวเร่งความเร็วอีกแล้ว เร็วเท่าตอนวิ่งสี่ร้อยเมตรเลย”
“เขาเป็นสัตว์ประหลาด!”
บนพื้นหญ้าที่รอบล้อมสนามแข่ง ผู้ชมทั้งหมดต่างตกตะลึง
พวกเขาคิดว่าในสองรอบสุดท้ายฟางชิวจะวิ่งช้าลงเพราะขาดความแข็งแกร่งทางกายภาพ แต่สิ่งที่พวกเขาเห็นกลับตรงกันข้าม
ไม่เพียงแต่ฟางชิวจะไม่วิ่งช้าลง แต่เขายังเร่งความเร็วขึ้นอีกด้วย
วิ่งไปแปดกิโลเมตรแล้ว ยังใช้พลังระเบิดความเร็วได้อีกหรือ
แล้วพวกเขาทั้งหมดก็เห็นว่าฟางชิววิ่งเข้าเส้นชัยไปด้วยความเร็วที่น่าสะพรึงกลัว
เวลานี้ ทุกคนต่างตกตะลึงงัน แม้แต่อาจารย์หม่าเองก็เช่นกัน
ไม่มีใครสามารถอธิบายความรู้สึกในตอนนี้เป็นคำพูดออกมาได้เลย พวกเขาทำได้เพียงอ้าปากค้างระหว่างที่มองฟางชิวไปด้วย
ผ่านไปครู่ใหญ่ ทุกคนจึงหันไปมองเกาเฟย แล้วพวกเขาก็พบว่าเกาเฟยได้หยุดวิ่งแล้ว ชายหนุ่มกำลังนั่งที่พื้นด้วยความสิ้นหวัง
เกาเฟยรู้สึกหดหู่มาก
ฟางชิววิ่งหนึ่งหมื่นเมตรครบแล้ว แต่เขาวิ่งได้แค่เจ็ดกิโลเมตรเท่านั้น ช่องว่างระหว่างพวกเรามันชัดเจนเกินไป
ในฐานะนักศึกษาเอกกีฬา ฉันทำได้แค่นี้หรือ?
ในตอนที่เกาเฟยพบว่าเขาไม่สามารถตามฟางชิวทัน เขาก็ยอมแพ้ทันที
เขายอมแพ้อย่างสมบูรณ์
ความสามารถของฟางชิวเป็นดั่งพายุฝนที่ตกลงมาดับเปลวไฟความโกรธของเกาเฟยจนหมดสิ้น
เกาเฟยเคยภูมิใจในตัวเองมาตลอด ในฐานะที่เป็นนักศึกษาที่วิ่งชนะมาตลอด แต่ตอนนี้ ความภาคภูมิใจและความเย่อหยิ่งของเขาถูกทำลายอย่างไร้ความปรานี ด้วยฝีมือของฟางชิว
ล้มเหลว!
ตอนนี้เขาล้มเหลวแล้วจริง ๆ!
ทำไมกัน?
เป็นเพราะอะไรกันแน่?
เกาเฟยนั่งร้องไห้อยู่ที่พื้นอย่างน่าเวทนา และเขาก็เฝ้าถามตัวเองในใจอยู่เสมอว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่?
ทำไมเขาไม่สามารถเอาชนะนักศึกษาธรรมดาได้ทั้ง ๆ ที่ฝึกฝนมาตั้งหลายปี?
เขาเป็นนักศึกษาเอกกีฬา… เขาเป็นนักศึกษาเอกกีฬานะ!
เมื่อคิดถึงความทุกข์ยากและความเจ็บปวดที่ได้รับมา เขาก็รู้สึกท้อแท้ขึ้นมา
หลังจากฝึกซ้อมอย่างหนักและทนทุกข์กับความยากลำบากมาหลายปี แต่การฝึกที่เริ่มตั้งแต่เช้าจรดค่ำนี้ก็ไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง
เขาเอาชนะนักศึกษาที่เรียนแพทย์แผนจีนไม่ได้ด้วยซ้ำ!
เกาเฟยรู้สึกหมดหวัง ความถนัดที่เขามั่นใจกับภาคภูมิใจของเขาถูกฟางชิวบดขยี้อย่างไร้ความเมตตา
ชายหนุ่มได้นั่งอยู่คนเดียวด้วยความรู้สึกสิ้นหวัง
ฟางชิวมองไปที่เกาเฟยหลังจากที่วิ่งเสร็จแล้ว จากนั้นก็เข้าไปหาผู้พ่ายแพ้
