ความเร็วของเจ็ตสกีค่อย ๆ ช้าลง มีนารู้ได้ทันทีว่าสถานการณ์กำลังตึงเครียด เธอกอดเขาเอาไว้แน่น : “ฉันไม่ไป หากต้องตาย ฉันก็จะขอตายพร้อมกับคุณ !”
เขายิ้มเยาะออกมา : “ใครบอกว่าจะตาย ? ผมเพิ่มจะมีภรรยา ยังไม่ทันจะเสพสุขได้เต็มที่เลย”
เธอเบื่อหน่ายเขาจริง ๆ เวลาเช่นนี้ยังหัวเราะออกมาได้
“รีบกระโดดลงไปดี ๆ แล้วขึ้นฝั่งเร็วเข้า ผมยังต้องสนุกกับพวกสวะกลุ่มนี้อีกสักพัก”
เธอเชื่ออย่างสุดหัวใจว่า บนโลกไปนี้ไม่เรื่องที่ณภัทรไม่สามารถจัดการได้ เขาได้กลายเป็นเหมือนเทพเจ้าในใจของเธอไปแล้ว
เธอจับหัวของเขาหันมา แล้วบรรจงจูบลงไปบนริมฝีปากอย่างดูดดื่ม : “ณภัทร คุณจำให้ดี ๆ นะ ชาตินี้อย่าหวังว่าจะสลัดฉันทิ้งได้ ถ้าคุณกล้าตาย ไม่ว่าจะขึ้นสวรรค์หรือลงนรก ฉันก็จะไม่มีวันปล่อยคุณไปแน่นอน !”
แม้ว่าท้องฟ้ายามค่ำคืนจะมืดมิด และมีอันตรายรออยู่ข้างหน้า แต่เขากลับรู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางดอกไม้ที่ผลิบาน นี่เป็นคำบอกรักที่ไพเราะที่สุดเท่าที่เขาเคยได้ยินมา ทำให้เขารู้สึกเหมือนได้เห็นดวงจันทร์ที่ปรากฏออกมาท่ามกลางหมู่เมฆ
เขายื่นคีย์การ์ดให้เธอหนึ่งใบ : “เด็กดี กลับไปอาบน้ำให้หอม ๆ รอผมนะ พอผมจัดการพวกเศษสวะพวกนี้เรียบร้อยแล้ว จะรีบกลับไปหาคุณทันที”
เธอกระโดดลงไปในน้ำ และว่ายน้ำเข้าหาฝั่ง ราวกับปลาที่กำลังตื่นเต้น
หลังจากที่เธอขึ้นไปบนฝั่งอย่างปลอดภัยแล้ว เขาจึงหันหลังกลับ แล้วเร่งความเร็วพุ่งเข้าใส่คนกลุ่มนั้น
การโจมตีอย่างรวดเร็วของเขา ทำให้พวกของไบร์ทตั้งตัวไม่ทัน
“เขารนหาที่ตายจริง ๆ ! ชนเข้าไป จำไว้ว่าจะต้องจับเป็นณภัทรให้ได้ !”
“ครับ หัวหน้า !”
คนสิบกว่าคนขับเจ็ตสกีพุ่งเข้าหาณภัทรอย่างไม่กลัวตาย
นี่เป็นการต่อสู้กับแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน เกิดละอองน้ำขนาดใหญ่ขึ้นเหนือผิวน้ำ ต่างก็ไม่มีใครยอมแพ้ใคร
ถึงแม้ตอนนี้ณภัทรจะมีเพียงแรงอาฆาตและเจตนาฆ่าที่รุนแรง แต่พลังที่ส่งผ่านออกมาก็เพียงพอที่จะทำให้ทุกคนรู้สึกเกรงกลัว
เขาเคยผูกศีรษะกับเข็มขัด และผ่านความเป็นความตายมานับครั้งไม่ถ้วน สำหรับเขาแล้ว ความเป็นความตายก็เหมือนการเล่นพนัน อีกทั้งโอกาสชนะของเขาก็มีมากกว่าอีกด้วย
ลูกสมุนที่พุ่งเข้ามาชนเขาตัวสั่น ทิศทางมีการเบี่ยงเบนออกไปเล็กน้อย ณภัทรอาศัยจังหวะนี้เตะเขากระเด็นออกไป เจ็ตสกีของชายคนนั้นสูญเสียการควบคุม และหมุนเคว้งคว้างในทะเลหนึ่งรอบ ณภัทรกระโดดขึ้นนั่งอย่างมั่นคง เขายิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย : “ถ้าไม่อยากตายก็ถอยไปซะ !”
หลังจากเห็นทักษะและความกล้าหาญในการต่อสู้ของเขา คนเหล่านั้นก็รู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย บนโลกนี้มีคนที่ไม่กลัวตายอยู่จริง ๆ อีกทั้งยิ่งเข้าใกล้ความตายยิ่งรู้สึกตื่นเต้น ณภัทรคือคนประเภทนี้
คนประเภทนี้ไม่เกรงกลัวความตาย แล้วจะกลัวอะไรได้อีก ? การดำรงอยู่ของเขามีแต่จะทำให้คนอื่นรู้สึกหวาดกลัว
ไบร์ทหรี่ตาลงเล็กน้อย ณภัทรก็คือณภัทร ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็เป็นราชา แต่น่าเสียดายที่ไพ่ราชาของเขาไปใน จะต้องถูกทำลายลงในคืนนี้
“หากชนเขาไม่ตาย พวกแกก็ไปตายซะ !”
คำพูดนี้ของเขา ตัดช่องทางการล่าถอยของทุกคน คนสิบกว่าคนเข้าไปล้อมณภัทรเอาไว้ จากนั้นจึงเร่งเครื่องแล้วพุ่งชนเขา
นี่เป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้าย ที่จะต้องมีการตายกันไปข้างหนึ่ง ทุกคนจึงใช้แรงทั้งหมดที่มี !
เจ็ตสกีหลายสิบลำเร่งเครื่องจนเกิดเป็นคลื่นน้ำขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ณภัทรกลับไม่ขยับ และมุมปากของเขาก็เผยรอยยิ้มที่แปลกประหลาดออกมา
ณภัทรรู้สึกสังหรณ์ใจ แต่จะออกคำสั่งในตอนนี้ก็ดูจะสายไปเสียแล้ว และในขณะที่พวกเขากำลังพุ่งเข้าชนณภัทร จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงตู้มดังขึ้น เกิดประกายไฟขนาดใหญ่ขึ้นเหนือผิวน้ำ ส่งแสงสว่างงดงามอยู่ภายใต้ค่ำคืนที่มืดมิด
บนร่างกายของคนสิบกว่าคนนั้นมีไฟลุกท่วมอยู่ พวกเขากระโดดลงไปในน้ำด้วยความเจ็บปวด เสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดดังระงมขึ้น มีกลิ่นยางที่ถูกเผาไหม้ลอยขึ้นไปในอากาศ โดยมีกลิ่นแปลก ๆ ของเนื้อมนุษย์ที่ถูกเผาจนไหม้เกรียมแทรกอยู่ด้วย ไบร์ทอดไม่ได้ที่จะอาเจียนออกมา
“รีบไปหาณภัทรเร็วเข้า หากยังมีชีวิตอยู่ต้องเจอคน หากตายแล้วต้องเจอศพ !”
“หัวหน้า พวกเรารีบกระโดดเถอะครับ ประกายไฟตรงนี้คงดึงดูดคนที่อยู่บนเรือเรียบร้อยแล้ว ไม่ช้าพวกเขาก็คงจะตามมา”
เมื่อเห็นเรือที่เคลื่อนเข้ามาใกล้ ไบร์ทจึงจำต้องยอมรามือ : “ไป !”
ปกฝั่ง มีนามองดูประกายไฟที่พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า และรู้สึกเหมือนหัวใจร่วงลงไปอยู่ที่ตาตุ่มทันที : “ณภัทร คุณจะต้องกลับมาอย่าปลอดภัยนะ”
คนของไบร์ทค่อย ๆ ขึ้นฝั่ง มีนาจึงรีบหลบซ่อนตัว เธอได้ยินไบร์ทออกคำสั่ง : “หลังจากคนของเสือจากไปแล้ว สั่งพี่น้องทุกคนให้ทำการออกค้นหาในทะเลทุกตารางนิ้ว ต้องหาณภัทรให้เจอให้ได้”
“ครับ !”
ดูเหมือนว่าไบร์ทจะทำการตรวจสอบพื้นที่โดยรอบทะเลอย่างละเอียด เธอจำเป็นต้องไปจากที่นี่แล้ว ถ้าหากถูกไบร์ทจับได้ ก็จะกลายเป็นภาระให้กับณภัทร
เธอหันหลังเดินหายไปในความมืด
เธอตามหาโรงแรมจากชื่อที่เขียนอยู่บนคีย์การ์ดจนเจอ ที่ที่ณภัทรเลือกนั้นไม่เลวเลย ทั้งดูลึกลับและธรรมดา อีกทั้งโรงแรมมีลานทั้งด้านหน้าและด้านหลังส่วนด้านซ้ายและด้านขวาเป็นหอพักของพนักงานที่เชื่อมต่อกันไปอย่างสลับซับซ้อน หากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นก็สามารถหลบหนีได้อย่างง่ายดาย
เธอรูดคีย์การ์ดเพื่อเปิดประตู แต่กลับรู้สึกว่าบรรยากาศโดยรอบนั้นดูแปลก ๆ เธอก้มหน้าลงไปเห็นเงาดำพาดผ่านอยู่บนพื้น จึงตระหนักได้ในทันที เธอรีบเปิดประตูอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า แล้วรีบเข้าไปหลบซ่อนตัวด้านใน คนคนนั้นเองก็รีบวิ่งเข้ามาโดยไม่ลังเล จากนั้นจึงใช้มือทั้งสองข้างเกาะประตูเอาไว้ แต่เธอปิดประตูอย่างแรงโดยไม่เกรงใจ
“เอ่อ……พี่สะใภ้เล็ก ฉันเอง……”
เธอค่อย ๆ เปิดประตูออก แล้วเห็นใบหน้าของวายุที่เจ็บปวดจนบิดเบี้ยว
“กางเกงลายการ์ตูน ? ทำไมถึงเป็นนาย ?”
วายุมีสีหน้าหมองหม่น เขาพูดแก้ไขอย่างจริงจัง : “พี่สะใภ้เล็ก ผมชื่อวายุ”
“รีบเข้ามาสิ ฉันจะทำแผลให้นาย”
วายุสูดหายใจแล้วเดินเข้าห้องไป มีนาหากล่องเครื่องมือปฐมพยาบาลภายในห้อง แล้วทำแผลให้กับเขา
“ณภัทรติดต่อให้นายมารับช่วงต่อที่นี่หรือ ?”
“เปล่าครับ พวกเรามาเป็นการส่วนตัว หัวหน้านี่ก็จริง ๆ เลย ไม่ยอมบอกพวกเราสักคำ”
“เขาคงกังวลว่าพวกนายจะทำให้การซ้อมรบล้มเหลว”
“เมื่อเทียบกับการซ้อมรบแล้ว พวกเรากลับเป็นห่วงความปลอดภัยของหัวหน้ามากกว่า เอ๊ะ ? แล้วหัวหน้าล่ะครับ ?”
จากนั้นมีนาจึงเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในทะเลคร่าว ๆ ให้เขาฟังหนึ่งรอบ
“พี่สะใภ้เล็กครับ พี่อย่าเพิ่งร้อนใจไป หัวหน้าต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน ผมจะรีบไปแจ้งให้พี่น้องคนอื่นทราบเดี๋ยวนี้”
เดิมทีมีนาคิดจะไปพร้อมกันกับเขา แต่เมื่อนึกถึงเรื่องที่คนของไบร์ทเคยเห็นใบหน้าของเธอ เธอก็เลิกล้มความคิดนี้
เธอจับแขนของวายุแน่น : “ต้องพาเขากลับมาให้ได้นะ ขอร้องล่ะ”
หลังจากวายุจากไป เธอก็นั่งลงบนเตียงเงียบ ๆ ท้องฟ้าด้านนอกหน้าต่างยิ่งมืดมิดลงเรื่อย ๆ ราวกับมีน้ำหมึกสาดเข้ามา ลมยามค่ำคืนพัดมากระทบกับกระจกหน้าต่าง จนสะเทือนเข้าไปในจิตใจของเธอทีละครั้ง ๆ ทุกวินาทีที่ผ่านพ้นไปช่างทรมาน
เธอเป็นคนที่ไม่เชื่อเรื่องโชคชะตา ไม่เชื่อในพระผู้เป็นเจ้า เธอรู้สึกว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา การที่คนเราจะใช้ชีวิตอยู่ในสังคมที่แก่งแย่งชิงดีกันเช่นนี้ได้ สิ่งที่สามารถพึ่งพาได้มากที่สุดก็คือตนเอง แต่ทว่าตอนนี้เธอกลับเลือกที่จะลองเชื่อดู
เธอค่อย ๆ พนมมือขึ้น แล้วสวดภาวนาเงียบ ๆ : “ ณภัทร คุณจะต้องกลับมาอย่างปลอดภัยนะ
ตอนนี้เธอแน่แล้วว่า คนคนนี้สามารถครอบครองได้ทั้งหัวใจและร่างกายทั้งหมดของเธอ ราวกับว่าหายเข้าออกก็เป็นเขา จะขึ้นสวรรค์หรือลงนรกก็เป็นเขา
เวลาเกือบจะตีสามก็ปรากฏเสียงฝีเท้าดังขึ้นที่ด้านนอก มีนาลุกขึ้นทันที แล้วเดินโซเซไปที่ประตู
เธอจินตนาการว่าเขากำลังยืนกระสับกระส่ายอยู่ที่ด้านนอกประตู แล้วโผเข้าสวมกอดเธอทันที
มือของเธอจับอยู่บนลูกบิดประตู และหัวใจของเธอก็เต้นระส่ำ แม้กระทั่งลมหายใจก็แรงขึ้น ผ่านไปสักพัก ดูเหมือนเธอจะตัดสินใจได้แล้ว จึงเปิดประตูออกในทันที : “ณภัทร !”
