ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸] – บทที่ 341 กวาดล้าง

บทที่ 341 กวาดล้าง

บทที่ 341 กวาดล้าง
บทที่ 341 กวาดล้าง

“ท่านครับ นี่เป็นเขตคฤหาสน์ส่วนตัว โปรดกลับรถถอยไปด้วย”

เมื่อเห็นรถซูเปอร์คาร์สุดหรูสีเหลือง รปภ. สองคนก็เดินเข้ามาคุยกับอวี้ฮ่าวหรานอย่างสุภาพทันที

แต่อวี้ฮ่าวหรานกลับไม่สนใจที่จะพูดไร้สาระกับคนเหล่านี้ เขาใช้เนตรเทวะสำรวจร่างกายรปภ. สองคนนี้ทันที และเขาก็ได้พบรอยสักรูปองค์กรอสรพิษที่แขนของคนทั้งสองซึ่งอยู่ใต้แขนเสื้อ

เห็นได้ชัดว่าอสรพิษเงินไม่ได้โกหกเขา

“คุณครับ?”

เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มที่อยู่ในรถไม่ตอบสนอง รปภ. ทั้งสองก็มองหน้ากันอย่างสับสนและถามอีกครั้ง

พวกเขาไม่มีทางเปิดเผยการมีอยู่ขององค์กรอย่างง่ายดายแน่นอน

แต่หลังจากที่อวี้ฮ่าวหรานรู้แล้วว่าอีกฝ่ายเป็นใคร เขาก็ไม่สนใจที่จะพูดไร้สาระกับคนสองคนนี้อีก เขาเปิดประตูลงจากรถ

“ฉันมาฆ่าเจ้าตำหนักของพวกแก! ถ้ายังไม่อยากตายก็ออกไปให้พ้นหน้าฉัน!”

เขาพูดอย่างดูถูกและเย็นชา

ยังไงอีกฝ่ายก็ต้องตาย!

ตำหนักคุมกฎขององค์กรอสรพิษนี้อยู่ใกล้กับเมืองฮ่วยอันมากเกินไป หากเขายังปล่อยให้มีภัยคุกคามนี้ดำรงอยู่ อีกไม่นานเขาคงถูกโจมตีอีกรอบ!

ทันทีที่ได้ยินคำพูดของอวี้ฮ่าวหราน สีหน้าของรปภ. ทั้งสองคนก็เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน!

อย่างไรก็ตาม หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง พวกเขาก็แสร้งทำเป็นสงบ “ท่านครับ รบกวนออกไปเดี๋ยวนี้ เราไม่รู้ว่าองค์กรอสรพิษที่ท่านพูดถึงคืออะไร!”

อวี้ฮ่าวหราน ไม่แปลกใจกับการโต้แย้งนี้ ตามปกติแล้วพวกองค์กรนักฆ่าย่อมถูกหมายหัวโดยญาติของผู้ที่เคยเป็นเหยื่อมากมาย หากต้องการอยู่อย่างปลอดภัย องค์กรพวกนี้จะต้องซ่อนตัวเองให้แนบเนียนที่สุด

แต่การซ่อนตัวทุกรูปแบบไร้ประโยชน์เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา!

“ในเมื่อไม่หลีกก็ตายไปซะ!”

ทันทีที่พูดจบ อวี้ฮ่าวหรานก็ชกหมัดเข้าใส่หนึ่งในรปภ. อย่างรุนแรงทันที!

‘ปัง!’

ด้วยการชก รปภ.ผู้โชคร้ายร่างละลิ่วพร้อมกับวิญญาณก็หลุดออกจากร่างอย่างไม่มีใครช่วยได้

“ก…แกกล้าดียังไงมายุ่งกับพวกเรา! หาที่ตาย!”

เมื่อเห็นอีกฝ่ายกล้าลงมือก่อน รปภ. ก็แสดงสีหน้าเย็นชาทันที!

“ฮึ่ม! มดแมลงกล้าอวดดีต่อหน้าข้าผู้นี้งั้นเหรอ!!”

อวี้ฮ่าวหรานพ่นลมหายใจ แต่เพียงแค่ชั่วอึดใจเขาก็เห็นว่ามีรปภ. อีกหลายสิบคนที่กำลังเดินลาดตระเวนอยู่นอกกลุ่มคฤหาสน์วิ่งกรูเข้ามาหาเขา!

ต่างจากรปภ. ทั่วไป คนพวกนี้ล้วนแต่เป็นผู้บ่มเพาะที่เกือบจะทะลวงขึ้นมาเป็นปรมาจารย์พลังภายใน ในเวลานี้ พวกเขาก็พุ่งเข้ามาด้วยมีดในมือ ซึ่งน่ากลัวกว่าคนธรรมดาถือปืนมาก!

ภายในไม่กี่วินาที อวี้ฮ่าวหรานก็ถูกล้อมจากทุกด้าน

“แกรู้ได้อย่างไรว่าที่นี่คือองค์กรอสรพิษ!?”

คนที่เป็นผู้นำกลุ่มรปภ. เป็นปรมาจารย์พลังภายในขั้นต้น และสีหน้าของเขาก็ดูดุดันมากในขณะนี้

เขาไม่อาจยอมให้คนนอกรู้ได้ว่าที่นี่คือสถานที่ที่พวกเขากำลังซุ่มซ่อนอยู่

หากคนนอกคนใดที่รู้ความลับนี้ เขาจำเป็นต้องกำจัดในทันที!

“เหอะ ๆ ฉันรู้ได้ยังไงน่ะเหรอ?”

แม้ว่ากำลังเผชิญหน้าอยู่กับนักฆ่ามืออาชีพมากกว่าสามสิบคนที่ปลอมตัวเป็นรปภ. อวี้ฮ่าวหรานก็ยังคงแสดงท่าทางดูถูกเหยียดหยาม

“แน่นอนว่ามันเป็นเพราะไอ้คนที่เรียกตัวเองว่าอสรพิษเงินอะไรนั่น มันบอกฉันมาก่อนที่จะฉันจะกระทืบมันจนตาย! เอ๊ะ ว่าแต่พวกแกรู้รึเปล่าว่ามันเพิ่งถูกส่งออกไปทำภารกิจอะไร?”

ขณะที่เขาพูด สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นหยอกล้อกับอีกฝ่าย

“รองเจ้าตำหนักอสรพิษเงินตายแล้ว?? นี่มัน…”

ปรมาจารย์พลังภายในที่เป็นผู้นำสีหน้าเปลี่ยนในทันทีเมื่อได้ยินเรื่องนี้ เขาไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่เพิ่งได้ยิน

“เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน! รองเจ้าตำแหนักเป็นผู้ที่อยู่ในขั้นสูงสุดของพลังภายใน คนอย่างแกไม่มีทางฆ่ารองเจ้าตำหนักได้สำเร็จแน่นอน!”

“แกเข้าใจผิดแล้ว ไอ้อสรพิษเงินอะไรนั่นมันตายอย่างน่าอนาถมากเลยเชียวละ!”

อวี้ฮ่าวหราน กล่าวอย่างเยาะเย้ยพลางมองไปที่ฝ่ายตรงข้าม!

“แต่ถ้าแกไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรเพราะอีกเดี๋ยวแกก็จะได้รู้ความจริงอยู่ดีหลังจากลงไปอยู่ในนรกกับมัน!”

เมื่อพูดจบประโยคนี้ อวี้ฮ่าวหรานระเบิดกลิ่นอายสังหารหนาแน่นออกมา!

เหล่านักฆ่ารู้สึกใจสั่นรุนแรงอย่างกะทันหัน มันเหมือนกับว่าพวกเขากำลังยืนอยู่ตรงหน้าพระเจ้าที่ไม่อาจต้านทานได้!

“น…นี่มันเวทมนตร์หรือบ้าอะไรเนี่ย! แต่แกคิดว่าคำพูดไร้สาระสองสามคำของแกจะสามารถรบกวนจิตใจของเราได้เหรอ…”

หลังจากปรับอารมณ์อยู่ครู่หนึ่ง บรรดานักฆ่าก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขามีจิตใจที่มั่นคงแค่ไหน แต่ยังไม่ทันจะพูดจบ หนึ่งในพวกนักฆ่าก็ถูกอวี้ฮ่าวหรานกุมคอเอาไว้ ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าเขาโผล่มากลางวงแบบนี้ได้ยังไง!

“ฉันเบื่อที่จะพูดกับพวกแกแล้ว ในเมื่อพวกแกไม่หลีกไป ถ้างั้นก็ลงไปอยู่ในนรกกับไอ้อสรพิษเงินนั่นซะ!”

“กร๊อบ!”

หลังจากพูดจบ อวี้ฮ่าวหรานก็หักคออีกฝ่ายทันทีและโยนทิ้งราวกับโยนขยะ ก่อนที่จะหันไปกวาดสายตามองนักฆ่าอีกสามสิบกว่าคนที่อยู่รอบ ๆ ด้วยแววตาเย็นชา!

“วันนี้! พวกแกทั้งหมดต้องตาย!”

เหล่านักฆ่าที่เคยภาคภูมิใจในความแข็งแกร่งของตัวเอง เมื่ออยู่ต่อหน้าพลังวิญญาณอันทรงพลังของอวี้ฮ่าวหราน พวกเขานั้นก็ไม่ต่างอะไรกับมดที่รอการถูกบดขยี้เลย!

หลังจากนั้นไม่กี่นาทีบรรยากาศรอบ ๆ ก็กลับมาเงียบลงอีกครั้ง!

และในขณะเดียวกันนี้ ประตูรั้วกำแพงก็ถูกเปิดออก และร่างสีดำจำนวนหนึ่งก็พุ่งออกมาจากด้านใน!

คนเหล่านี้เป็นผู้บ่มเพาะขอบเขตพลังภายในอย่างแท้จริง!

เมื่อถูกล้อมอีกรอบด้วยคนมากกว่าหนึ่งโหล อวี้ฮ่าวหรานก็ประหลาดใจเล็กน้อยกับความแข็งแกร่งของตำหนักคุมกฎแห่งนี้

เขาปะทะกับองค์กรอสรพิษนี้มาหลายครั้งแล้ว และฆ่าเจ้าตำหนักของอีกฝ่ายไปหลายคน ดังนั้นเขาจึงพอเดาโครงสร้างขององค์กรนี้ได้แบบคร่าว ๆ ว่าคนที่อยู่ในขอบเขตพลังภายในนั้นมีคุณสมบัติพอจะเป็นเจ้าตำหนักได้ แต่ในทางกลับกัน ตำหนักคุมกฎนี้กลับมีเหล่าผู้คนที่มีคุณสมบัติพอจะดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าตำหนักได้แบบสบาย ๆ อยู่ในสังกัดมากกว่าสิบคน เห็นได้ชัดว่าตำหนักคุมกฎนี้น่าจะเป็นฝ่ายที่มีอำนาจมากที่สุดรองจากคนที่เป็นผู้นำองค์กรนี้

“รนหาที่ตาย!”

ทันทีที่พวกคนขององค์กรอสรพิษเห็นสภาพที่เละเทะด้านนอก พวกเขาต่างก็โกรธจัด!

ทันใดนั้นโดยไม่ทราบว่าใช้วิธีใด งูพิษจำนวนนับไม่ถ้วนที่มีสีสันแตกต่างกันก็ปรากฏขึ้นจากกอหญ้าที่อยู่รอบ ๆ!

หากเป็นคนธรรมดาเมื่อถูกงูนับพันตัวล้อมไว้แบบนี้ คนผู้นั้นก็คงกลัวจนทรุดตัวลงไปที่พื้นทันที

“ตอนนี้มันสายเกินไปแล้วที่แกจะเสียใจ! ไอ้หนู โทษที่แกต้องรับจากการมาสร้างปัญหาให้องค์กรอสรพิษของเราคือตายสถานเดียว!”

นักฆ่าที่อยู่ในขอบเขตพลังภายในขั้นสูงเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา!

อวี้ฮ่าวหรานกวาดสายตามองไปที่งูพิษรอบตัวเขาอย่างไร้อารมณ์ เห็นได้ชัดว่าเดรัจฉานพวกนี้ได้รับการฝึกและเลี้ยงดูมาเป็นพิเศษ พวกมันจึงมีขนาดใหญ่เป็นพิเศษและมีสีที่ดูสว่างกว่างูทั่วไป

คนธรรมดาคงจะตายในไม่กี่วินาทีหากถูกงูพิษพวกนี้กัด!

แต่น่าเสียดายที่งูน้อยพวกนี้กำลังเผชิญอยู่กับอวี้ฮ่าวหราน!

อวี้ฮ่าวหรานโคจรพลังวิญญาณอย่างรุนแรง จากนั้นเขาจึงสะบัดมือปล่อยคลื่นพลังวิญญาณแผ่กระจายออกไปทุกทิศทางอย่างรวดเร็ว กลายเป็นคลื่นที่มองไม่เห็นและกวาดไปรอบ ๆ!

‘บรึม!!’

ภายใต้ความรุนแรงของคลื่นพลังวิญญาณ ทั้งต้นหญ้าและงูที่อยู่รอบ ๆ รัศมีสามสิบเมตรก็ถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในทันที!

พวกปรมาจารย์พลังภายในที่กำลังจะลงมือเช่นกัน ต่างก็ตัวแข็งค้างเมื่อพวกเขาเห็นฉากนี้!

แม้แต่ปรมาจารย์พลังภายในขั้นสูงก็ไม่อาจทำอะไรแบบนี้ได้!

“แกเป็นใครกันแน่!? ทำไมแกถึงมาสร้างปัญหาให้เราแบบนี้!”

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งเกินกว่าที่คิดไว้ หนึ่งในปรมาจารย์พลังภายในจึงเอ่ยถามขึ้นอย่างระมัดระวัง

“ฉันบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าฉันมาที่นี่เพื่อฆ่าพวกแกและเจ้าตำหนักของพวกแก!”

อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าดูถูก

บทที่ 343 ฆ่าเจ้าตำหนัก
บทที่ 343 ฆ่าเจ้าตำหนัก

หลังจากพูดจบประโยค!

วินาทีต่อมา แค่การโบกสะบัดมือส่งคลื่นพลังวิญญาณอีกรอบ โลหิตสด ๆ ก็ย้อมไปทั่วทั้งห้องโถงคฤหาสน์ทันที!

นักฆ่าชุดดำมากกว่าหนึ่งโหลตายโดยไม่ทันร้องโหยหวนด้วยซ้ำ!

แต่ในขณะเดียวกันนี้ ลูกศรหน้าไม้ลูกหนากว่าเดิมก็พุ่งเข้ามาอีกครั้ง!

แต่คราวนี้ลูกศรพวกนี้ดูเหมือนว่าจะพุ่งออกมาจากกลไกกับดักที่ซ่อนไว้ในห้อง!

ฟิ้ว ฟิ้ว…

ลูกศรหน้าไม้เหล่านี้มีความหนาเท่าแขนของเด็กทารก!

ภายใต้แรงดีดจากกลไก ความเร็วของลูกศรพวกนี้จึงเร็วกว่าลูกศรที่ออกจากหน้าไม้ที่ใช้คนยิงเป็นอย่างมาก! มันเร็วจนมีเสียงหวีดหวิวในขณะที่พุ่งผ่านอากาศ!

แต่ในทางกลับกัน เมื่อเผชิญหน้ากับลูกศรขนาดยักษ์เหล่านี้ อวี้ฮ่าวหรานกลับไม่ได้เคลื่อนไหวเลย! เขายืนนิ่งอยู่เฉย ๆ ราวกับว่าต้องการจะรับการโจมตีนี้ตรง ๆ!

ท่ามกลางเสียงคำรามของลูกศรขนาดยักษ์ จู่ ๆ เสียงแตกระเบิดของลูกศรก็ดังลั่นห้อง ลูกศรแตกเป็นเสี่ยง ๆ ทันทีหลังจากที่สัมผัสกับม่านพลังวิญญาณที่คุ้มกายอวี้ฮ่าวหราน!

ผลลัพธ์จากแรงปะทะส่งผลให้มีคลื่นกระแสลมแรงระเบิดออกทุกทิศทาง พังโต๊ะ เก้าอี้ และแจกันที่อยู่รอบ ๆ กระจุยกระจายยับเยิน!

อย่างไรก็ตามภายใต้ผลกระทบนี้ อวี้ฮ่าวหรานกลับไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย และยังคงสาวเท้าเดินช้า ๆ เข้าไปด้านในคฤหาสน์ต่อไป!

ระหว่างทางเดิน มีกับดักและนักฆ่าที่ซุ่มโจมตีตลอดทาง แต่กลับไม่มีใครสามารถหยุดเขาได้เลย

ในทางเดินที่นำไปสู่ห้องใต้ดินขนาดใหญ่มีกับดักหนาแน่นมากกว่าด้านบนมาก มีแม้กระทั่งกับระเบิดที่ใช้ในทางทหารถูกฝังเอาไว้บางจุดก็มี!

อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ไม่เป็นอันตรายต่ออวี้ฮ่าวหรานเลย!

และในที่สุดเขาก็ได้พบกับเจ้าตำหนักคุมกฎ!

อีกฝ่ายยังคงนั่งหลับตาบ่มเพาะมาจนถึงขณะนี้

อีกฝ่ายเป็นชายชราชุดดำในวัยห้าสิบ ซึ่งแค่ดูจากภายนอกก็รู้แล้วว่าไม่ธรรมดา และยิ่งไปกว่านั้นในห้องลับใต้ดินแห่งนี้ก็มีวัตถุโบราณหลายชิ้นที่แฝงไปด้วยพลังวิญญาณ!

“แก…แกบุกเข้ามาเร็วขนาดนี้ได้ยังไง?!!!”

เขาถูกปลุกให้ตื่นจากการฝึกเพราะเสียงย่ำเท้าของอวี้ฮ่าวหราน และมองดูชายหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าเขาอย่างเหลือเชื่อ ไม่คิดเลยว่าปรมาจารย์พลังภายในหลายสิบคนและกับดักนับไม่ถ้วนจะไม่สามารถหยุดอีกฝ่ายได้เลยแบบนี้!

อวี้ฮ่าวหรานเพิกเฉยต่ออาการตื่นตระหนกของอีกฝ่าย เขาใช้เนตรเทวะตรวจสอบอีกฝ่ายทันที แล้วก็ได้พบว่าอีกฝ่ายใกล้ที่จะทะลวงระดับการบ่มเพาะขึ้นมาเป็นผู้บ่มเพาะขอบเขตก่อรากฐานเต็มที!

ไม่แปลกเลยที่ในห้องนี้มีวัตถุโบราณที่มีพลังวิญญาณแฝงอยู่มากมาย เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายใช้พวกมันเพื่อช่วยในการทะลวงระดับ

แน่นอนว่าเมื่อเห็นวัตถุโบราณพวกนี้ อวี้ฮ่าวหรานก็ใจเต้นแรงทันที ชายหนุ่มไม่คิดเลยว่าการมาที่นี่ในครั้งนี้ เขาจะได้รับประโยชน์แบบนี้กลับไปด้วย!

แต่อันดับแรกเขาต้องเหยียบมดที่อยู่ข้างหน้าให้ตายก่อน

“แกเป็นเจ้าตำหนักคุมกฎใช่ไหม?” อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยถาม

“หึหึ ไอ้หนู! แกอย่าได้ใจไปนัก ถึงแม้ว่าแกจะฆ่าลูกน้องของฉันได้หมด แต่ฉันไม่ได้อ่อนแอเหมือนลูกน้องของฉัน ต่อหน้าฉัน แกมันก็ไม่ต่างอะไรกับลูกแกะที่รอให้ฉันเชือด!”

ชายชราผู้นี้เป็นคนที่มีสันดานโหดเหี้ยมอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อเขาโดนอวี้ฮ่าวหรานขัดจังหวะการทะลวงระดับของเขา ก็ยิ่งตั้งใจแน่วแน่ว่าจะฆ่าอวี้ฮ่าวหรานให้ได้!

ในเวลานี้ แม้ว่าตัวเองจะสูญเสียโอกาสในการเข้าทะลวงสู่ขอบเขตก่อรากฐาน แต่ภายใต้พลังวิญญาณที่ท่วมท้นซึ่งหลงเหลือจากการเตรียมทะลวงระดับแล้วไม่ได้ใช้ เขาจึงได้รับความแข็งแกร่งของขอบเขตก่อรากฐานระดับแรกมาชั่วคราว!

“ไอ้หนู! วันนี้แกตายแน่!”

เจ้าตำหนักคุมกฎค่อย ๆ ลุกขึ้นพร้อมกับปลดปล่อยรัศมีพลังอันน่าสะพรึงกลัว!

ถึงแม้ว่าขณะนี้ในร่างกายของเขาจะพลุ่งพล่านเต็มไปด้วยพลังมหาศาล แต่ใบหน้าของเขากลับซีดเซียวอย่างมาก

เนื่องจากล้มเหลวในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการทะลวงระดับ นับจากนี้เจ้าตำหนักคงจะต้องรอไปอีกอย่างน้อยสองหรือสามปีกว่าจะฟื้นตัว และเริ่มขั้นตอนทะลวงระดับได้อีกครั้ง แถมโอกาสสำเร็จที่จะทะลวงระดับในครั้งต่อไปก็มีน้อยลงไปอีก

และทั้งหมดนี้เป็นเพราะชายหนุ่มตรงหน้า!

“ฉันจะตัดแขนขาของแกออก จากนั้นจะเอาร่างของแกไปแช่ในน้ำเกลือ และลอกหนังของแกทั้งเป็น!!”

เขาตวาดอย่างดุเดือด

“แกจะต้องโหยหวนทั้งวันทั้งคืนไม่หยุดอ้อนวอนขอความตายจากฉันผู้นี้!”

ในทางกลับกัน เมื่ออวี้ฮ่าวหรานได้ยินคำพูดนี้ รอยยิ้มกลับปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา

“แกคิดว่าจะเอาชนะฉันได้จริง ๆ เหรอ?”

“ฮ่า ๆ มั่นใจไหมงั้นเหรอ? แกคิดว่าความแข็งแกร่งในปัจจุบันของแกที่ยังอยู่แค่จุดสูงสุดของขอบเขตพลังภายในจะสามารถต่อกรกับฉันผู้นี้ที่ก้าวขาเข้ามาครึ่งก้าวในขอบเขตที่มนุษย์ส่วนใหญ่ไม่อาจก้าวผ่านได้งั้นเหรอ?”

ชายชราเยาะเย้ย การที่ตอนนี้เขามีพลังของขอบเขตก่อรากฐานชั่วคราวทำให้เขามั่นใจอย่างยิ่ง

เท่าที่เดา อีกฝ่ายน่าจะอยู่ในระดับจุดสูงสุดของขอบเขตพลังภายในเป็นอย่างมากที่สุด ดังนั้นเขาควรจะเอาชนะได้อย่างสบาย ๆ จริงไหม?

“ขอบเขตที่มนุษย์ส่วนใหญ่ไม่อาจก้าวผ่านได้งั้นเหรอ ฮ่า ๆ”

อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยขึ้นอย่างประชดประชันเมื่อเห็นความมั่นใจที่มากล้นของอีกฝ่าย

คนที่มีพลังแค่ขั้นแรกของขอบเขตก่อรากฐานแถมยังเป็นแบบชั่วคราวกลับแสดงความมั่นใจต่อหน้าเขา?

นี่มันไร้สาระสิ้นดี!

“เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว! ไม่ใช่แค่ฉันจะฆ่าแก แต่ครอบครัวของแกทั้งหมดจะถูกฉันถลกหนังทั้งเป็นด้วย!!”

เมื่อได้ยินการเสียดสีของอีกฝ่าย ชายชราก็ยิ่งโกรธและอยากแก้แค้นให้สุดโต่งมากขึ้น แต่ในทันทีที่หลังจากที่เขาพูดจบ อวี้ฮ่าวหรานก็เคลื่อนไหวอย่างกะทันหัน!

ร่างของอวี้ฮ่าวหรานเคลื่อนที่เร็วราวกับสายฟ้าฟาด เขาพุ่งเข้าหาคู่ต่อสู้ในชั่วพริบตาแล้วชกหมัดออกไปอย่างรุนแรง!

ปัง!

การปะทะกันระหว่างพลังวิญญาณและพลังวิญญาณทำให้เกิดคลื่นระเบิดอันน่าสะพรึงกลัวซึ่งกวาดไปทั่วทั้งห้องใต้ดินทันที!

ยกเว้นแต่พวกวัตถุโบราณที่ถูกเก็บรักษาในตู้กระจกนิรภัยอย่างดี พวกโต๊ะและเก้าอี้ในห้องลับต่างก็แตกเป็นเสี่ยง ๆ!

ชายชราตอบโต้กลับสุดกำลังของเขา แต่ก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าอีกฝ่ายน่ากลัวกว่าที่เขาคิดมาก!

อั่ก!

ด้วยหมัดอันรุนแรงของอวี้ฮ่าวหราน ชายชราจึงถูกผลักออกไปไกลถึงเจ็ดแปดเมตร!

“มีความแข็งแกร่งเท่าหางอึ่ง แต่กลับกล้าโอ้อวดต่อหน้าฉันผู้นี้งั้นเหรอ! แกนี่มันไม่ต่างอะไรกบในกะลาเอาซะเลย! ”

แววตาของอวี้ฮ่าวหรานเย็นชามากกว่าเดิมในเวลานี้ ก่อนหน้านี้ชายหนุ่มเยาะเย้ยอีกฝ่ายอย่างไม่ใส่ใจ แต่อีกฝ่ายกลับข่มขู่สมาชิกในครอบครัวของเขา ดังนั้นเขาจึงจู่โจมอย่างกะทันหันด้วยความโกรธ!

โชคดีที่ชายชรามีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับขอบเขตก่อรากฐานขั้นที่หนึ่ง ไม่เช่นนั้น หากเป็นก่อนหน้านี้ที่เขามีความแข็งแกร่งแค่จุดสูงสุดของพลังภายในก็อาจถูกชกตายในทันที!

“แกไม่ควรคุกคามครอบครัวของฉัน แม้ว่าจะเป็นเพียงคำพูดก็ตาม!”

อวี้ฮ่าวหรานกล่าวขึ้นอย่างเย็นชาและเดินเข้าหาอีกฝ่ายอย่างช้า ๆ

ชายชราตกใจและหวาดกลัว!

ตามความคิดและความเข้าใจของเขา เข้าใจว่าในตอนนี้เขามีพลังเทียบเท่ากับผู้ที่หลุดพ้นความเป็นมนุษย์ไปแล้ว แต่ทำไมตอนนี้เขากลับไม่สามารถเอาชนะชายหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าเขาได้!?

แถมอีกฝ่ายกลับแข็งแกร่งกว่าเขามาก!

แค่หมัดเดียวก็ทำให้ตัวเองเจ็บปวดอย่างมาก ราวกับว่าร่างกายเขากำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ

“แก…แกเป็นมนุษย์หรือเป็นปีศาจกันแน่?!!”

เขามองดูชายหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าด้วยสีหน้าที่เหลือเชื่อ ความกลัวและความตื่นตระหนกในใจของเขาถึงขีดสุด!

“เป็นไปไม่ได้เลยที่แกจะมีพลังขนาดนี้ในวัยเท่านี้! เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน!!”

เส้นผมขาว ๆ ของชายชราเริ่มร่วงหล่น เขาสูญเสียความมั่นใจเดิมไปอย่างรุนแรง และตะโกนขึ้นด้วยความไม่เชื่อ

อวี้ฮ่าวหรานมองไปที่อีกฝ่าย สายตาของเขาเต็มไปด้วยความรังเกียจ

“สมแล้วที่แกอยู่ในองค์กรที่เรียกตัวเองว่าเป็นงู! สัตว์เลื้อยคลานตาบอดอย่างแกไม่มีทางมองเห็นความกว้างใหญ่ของท้องฟ้าได้ต่อให้แกจะพยายามแค่ไหนก็ตาม!”

โลกนี้มักจะคาดเดาความแข็งแกร่งจากอายุของผู้บ่มเพาะ

แต่ในดินแดนแห่งเทพ โอรสสวรรค์บางคนแค่เพียงตอนเพิ่งเกิด พวกเขาก็มีพลังที่น่าสะพรึงกลัวจนสามารถบดขยี้มนุษย์ธรรมดาให้ตายได้ด้วยเพียงการเหลือบมอง!

“ตาย!”

ดวงตาของชายชรายังคงเหม่อลอย แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายใกล้เข้ามา เขาก็ได้สติและใบหน้าของตัวเองก็เคร่งเครียดในทันใด มีดสีดำทมิฬที่คมกริบก็พุ่งออกจากแขนเสื้อของเขาอย่างฉับพลัน!

ภายใต้แรงกระตุ้นของพลังวิญญาณ ความเร็วของมีดนั้นเหนือกว่ากระสุนใด ๆ จนการมองด้วยตาเปล่าไม่มีทางมองตามทันได้เลย!

และหลังจากนั้นชายชราก็พุ่งพรวดตามมีดที่ถูกซัดออกไปอย่างดุร้าย!

ด้วยระยะทางไม่กี่เมตรเช่นนี้ การโจมตีอย่างกะทันหันแบบนี้มันคือการลอบจู่โจมที่สมบูรณ์แบบ!

ชายชราอดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยในใจ

ฮ่า ๆ แข็งแกร่งกว่าฉันแล้วมันยังไง? คนหนุ่มอย่างแกไม่มีทางมีประสบการณ์เหนือกว่าฉันไปได้แน่นอน!

แต่เขาไม่รู้เลยว่า อวี้ฮ่าวหรานไม่เคยประมาทเมื่อเผชิญหน้ากับศัตรู!

อวี้ฮ่าวหรานเห็นทุกการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน

‘ปั่บ!’

ทันใดนั้นเสียงที่คมชัดก็ดังก้องไปทั่วทั้งห้องใต้ดิน!

ฉากที่เห็นทำให้ชายชรากลัวจนแทบหยุดหายใจปรากฏขึ้น!

ชายหนุ่มตรงหน้าจับมีดบินได้อย่างง่าย ๆ ด้วยมือเปล่าเพียงข้างเดียว!!

บทที่ 342 ปีศาจ
บทที่ 342 ปีศาจ

อวี้ฮ่าวหรานมองไปที่คนที่โง่เขลาเหล่านี้อย่างขบขัน

“นี่พวกแกยังนึกไม่ออกอีกเหรอไงว่าฉันเป็นใคร? พวกแกไล่กัดฉันเหมือนหมาบ้ามาหลายรอบแล้ว และล่าสุดพวกแกก็ส่งไอ้อสรพิษเงินนั่นมาให้ฉันกระทืบตาย คราวนี้พวกแกนึกออกแล้วหรือยัง?”

“ก…แกคืออวี้ฮ่าวหราน!!”

ในที่สุด เมื่อได้ยินชื่อรองเจ้าตำหนัก นักฆ่าชุดดำที่อยู่ในขอบเขตพลังภายในขั้นสูงก็ตาเบิกโพลงด้วยความตกตะลึง!

เขาคือคนที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในระดับสูงของตำหนักคุมกฎ ดังนั้นจึงรู้ข้อมูลว่ารองเจ้าตำหนักออกไปทำภารกิจสังหารใครเมื่อล่าสุดนี้

อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้รองเจ้าตำหนักอสรพิษเงินไม่ได้กลับมา แต่อีกฝ่ายกลับโผล่มาแทน…

นี่มันหมายความว่ายังไงกัน?!

“แกฆ่ารองเจ้าตำหนักของเราไปแล้วเหรอ!?”

ถึงกระนั้น เขาก็ยังไม่ค่อยอยากจะเชื่อการคาดเดาของตัวเองนัก

ผู้ชายที่อยู่ข้างหน้าเขาอายุแค่ยี่สิบต้น ๆ เท่านั้นเอง

เป็นไปได้อย่างไรที่ชายหนุ่มอายุแค่นี้สามารถฆ่ารองเจ้าตำหนักอสรพิษเงินที่อยู่ในขอบเขตพลังภายในขั้นสูงสุดได้?

“นี่แกเป็นเฒ่าปีศาจอายุร้อยปีที่เอาหนังมนุษย์มาสวมหรือไง!?”

เขามองที่ใบหน้าของอวี้ฮ่าวหรานอย่างสับสน ทั้งความแข็งแกร่งและอารมณ์ที่ไม่สั่นไหวของชายหนุ่มนั้นไม่สอดคล้องกับรูปลักษณ์ภายนอกที่อายุน้อยเป็นอย่างมาก

“ฉีกหนังมนุษย์ที่แกสวมออกซะ! ฉันมีสิทธิ์ที่จะรู้ว่าแกเป็นปีศาจเฒ่าแบบไหนที่มาจัดการกับพวกเรา!”

อวี้ฮ่าวหรานพูดไม่ออกไปชั่วขณะ

ปีศาจเฒ่า??

แม้ว่าตัวเองจะอาศัยอยู่ในดินแดนแห่งเทพมานานกว่าสามหมื่นปี แต่เขาก็มีอายุเพียง 24 ปีเท่านั้นในโลกมนุษย์ แต่ตอนนี้อีกฝ่ายกลับเรียกเขาว่าปีศาจเฒ่าเนี่ยนะ?

แต่ถ้ามองในมุมที่เอาอายุของทั้งสองโลกมารวมกัน ชายหนุ่มก็คงเป็นปีศาจเฒ่าจริง ๆ ซึ่งเรื่องนี้เขาคงเถียงไม่ได้…

“หยุดไร้สาระสักที รีบไปเรียกเจ้าตำหนักของแกออกมาได้แล้ว ฉันไม่อยากไล่ฆ่าพวกแกทีละคนให้เสียเวลา มันน่าเบื่อ!”

วันนี้สิ่งที่เรียกว่าตำหนักคุมกฎ เขาจะต้องทำลายมันให้หมดอย่างแน่นอน!

“ฮึ่ม! ถึงแม้ว่าแกจะแข็งแกร่ง แต่อย่าคิดว่าพวกเราจะกลัวแก! พวกเราโจมตี!”

เมื่อเห็นว่าคงไม่สามารถเจรจาอะไรกันได้อีก นักฆ่าชุดดำก็พ่นลมหายใจ ก่อนที่จะโบกมือสั่งคนของตัวเองทั้งหมดให้รุมอวี้ฮ่าวหราน ทันที

ด้วยคำสั่ง นักฆ่าขอบเขตพลังภายในมากกว่าหนึ่งโหลที่ล้อมรอบอวี้ฮ่าวหรานอยู่ต่างพึมพำคาถาบางอย่างและโบกมือไปมาอย่างพร้อมเพรียง!

แค่เวลาเพียงเสี้ยวพริบตาในขณะที่พวกนักฆ่าท่องคาถา หมอกพิษสีเขียวอ่อนค่อย ๆ แพร่กระจายออกจากแขนเสื้อของพวกเขา!

เมื่อเห็นเช่นนี้ อวี้ฮ่าวหรานก็รู้สึกถึงความแปลกประหลาดของหมอกพิษนี้

“หืม? หมอกพิษนี้สามารถกัดกร่อนพลังวิญญาณของฉันได้ด้วย? ของดีนี่นา!”

เขาสัมผัสได้ถึงพลังกัดกร่อนของหมอกพิษนี้ ซึ่งทำให้ชายหนุ่มแปลกใจนิดหน่อย

อย่างไรก็ตาม คำพูดนี้กลับเป็นเหมือนการดูถูกอย่างสุดแสนต่อพวกนักฆ่าองค์กรอสรพิษ!

“ไอ้เฒ่าปีศาจ แกอย่าปากดีให้มากนัก! ถึงแม้ว่าแกจะแข็งแกร่ง แต่ตราบใดที่อยู่ในขอบเขตพลังภายใน แกก็ไม่มีทางรอดจากสุดยอดพิษของพวกเราได้แน่!”

แววตาของนักฆ่าชุดดำที่เป็นผู้นำนั้นดูถูกเหยียดหยามอย่างยิ่ง เขาไม่รู้ว่าพลังวิญญาณคืออะไร เขาคิดแค่ว่ามันน่าจะเป็นอีกชื่อหนึ่งของพลังภายใน

ในไม่ช้า หมอกพิษที่ล่องลอยอยู่ก็ค่อย ๆ ควบแน่น และในที่สุดมันก็เปลี่ยนรูปร่างเป็นงูพิษสีเขียวอ่อนตัวขนาดมหึมาลอยอยู่

มันดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก…

แต่ขนาดค่ายกลที่นับได้ว่ายอดเยี่ยมในโลกนี้ของอู๋หลั่น อวี้ฮ่าวหรานยังสามารถทำลายมันได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นค่ายกลแบบนี้ที่อ่อนแอกว่าอย่างชัดเจนจะทำอะไรอวี้ฮ่าวหรานได้?

“ภายนอกดูดี แต่น่าเสียดายที่แก่นแท้ของมันกลับกลวงโบ๋!”

อวี้ฮ่าวหรานไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เนตรเทวะเพ่งหาจุดอ่อนด้วยซ้ำ เขาโคจรพลังวิญญาณและโบกมือซัดคลื่นพลังวิญญาณมหาศาลถาโถมเข้าหางูพิษยักษ์โดยตรง!

วินาทีถัดมา เมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า ทำให้พวกนักฆ่าต่างตะลึงพรึงเพริด

เงาพิษยักษ์ที่เกิดจากหมอกพิษที่ควบแน่น แทนที่จะกลืนพลังวิญญาณของอวี้ฮ่าวหรานเข้าไป มันกลับถูกบดขยี้ด้วยคลื่นพลังวิญญาณอันมหาศาลซะเอง!

“น…นี่มันบ้าอะไรกัน!!”

“มันเป็นไปได้ยังไง!?”

เมื่อเห็นฉากที่น่าทึ่งนี้ นักฆ่าทุกคนก็ตกตะลึง!

แต่คลื่นพลังวิญญาณของอวี้ฮ่าวหรานก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น คลื่นพลังยังคงแผ่กระจายกวาดล้างต่อไปอย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุดลง!

บรึ้ม!

บรรดานักฆ่าชุดดำต่างโคจรพลังของตัวเองเพื่อสร้างเกราะป้องกันทันทีอย่างเร่งรีบ เมื่อพวกเขารู้สึกได้ถึงพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่กำลังถาโถมเข้าหา!

นี่ไม่ใช่พลังที่ผู้บ่มเพาะขอบเขตพลังภายในควรจะมีเลย!

ความคิดนี้แวบเข้ามาในหัวของเขา ก่อนที่ร่างของพวกนักฆ่าทั้งหมดจะถูกกระแทกจนปลิวไปราวกับว่าวสายป่านขาด!

วินาทีถัดมา ค่ายกลงูพิษยักษ์ก็แตกสลายไปจนหมดสิ้น!

แค่การระเบิดคลื่นพลังวิญญาณเพียงครั้งเดียว อวี้ฮ่าวหรานก็สามารถสังหารเหล่านักฆ่าชุดดำที่เพิ่งช่วยกันประสานค่ายกลจนหมด!

ในท้ายที่สุดก็เหลือเพียงผู้ที่เป็นผู้นำกลุ่มเท่านั้น

“เจ้าตำหนักของแกอยู่ที่ไหน?”

อวี้ฮ่าวหรานพุ่งเข้าไปประชิดตัวและกุมคออีกฝ่ายอย่างง่ายดาย

“ฉัน…ฉันไม่รู้”

ดวงตาของผู้นำกลุ่มนักฆ่าเต็มไปด้วยความสยดสยอง เขาไม่เคยเห็นใครที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้มาก่อน มันเหมือนกับว่าอีกฝ่ายเป็นเทพสวรรค์ที่เสด็จลงมายังโลก และทำลายค่ายกลของพวกเขาตามความประสงค์

ในเวลานี้เองที่เขาเพิ่งเข้าใจว่าองค์กรอสรพิษของเขาได้ยั่วยุตัวตนที่พวกเขาไม่อาจต่อกรได้เข้าให้แล้ว!

ไม่น่าแปลกใจที่รองเจ้าตำหนักอสรพิษเงินจะตายไปอย่างง่ายดาย

อย่างไรก็ตาม อวี้ฮ่าวหรานก็ไม่ได้สนใจว่าอีกฝ่ายจะตกใจกลัวมากขนาดไหน เขาถามขึ้นอีกรอบอย่างเย็นชา

“แกแน่ใจนะว่าแกไม่รู้?”

“ฉัน…อ๊ากกก! ไม่…”

นักฆ่าต้องการจะปฏิเสธ แต่จู่ ๆ แขนของเขาก็ถูกบีบจนกระดูกแหลก แล้วก็กรีดร้องทันที

“แกฆ่าฉัน แกฆ่าฉันซะเลยสิ!!”

ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้ใบหน้าของเขาซีดเซียวและมีเหงื่อออกทั่วหน้าผากของเขา!

กร๊อบ!

อวี้ฮ่าวหรานไม่ได้เชื่อคำพูดของอีกฝ่ายแม้แต่น้อย และค่อย ๆ ไล่บีบแขนของอีกฝ่ายไปเรื่อย ๆ ราวกับว่าจะบดกระดูกแขนทั้งแขนให้แหลกเละทุกตารางนิ้ว

“แกสามารถเลี่ยงความเจ็บปวดได้ ถ้าแกยอมพูดความจริง”

ตราบใดที่อวี้ฮ่าวหรานจ้องมองอย่างตั้งใจ เขาก็สามารถบอกได้อย่างง่ายดายว่าอีกฝ่ายกำลังโกหกหรือไม่

“ฉัน…ฉันยอมบอกแล้ว!”

ในที่สุดนักฆ่าก็ทนไม่ไหว และพูดออกมาอย่างสั่นสะท้าน

“เจ้าตำหนักของเรากำลังฝึกอยู่ในห้องใต้ดิน ใต้คฤหาสน์กลาง”

“ยอมบอกมาตั้งแต่แรกก็จบแล้ว ทนทรมานให้ฉันเสียเวลาไปทำไม?”

อวี้ฮ่าวหรานมองอีกฝ่ายอย่างดูถูก คนบางคนไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา!

เมื่อได้ข้อมูลที่ต้องการมาเรียบร้อย ชายหนุ่มก็ไม่อยากพูดไร้สาระกับอีกฝ่ายอีก อวี้ฮ่าวหรานจัดการหักคออีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว และโยนศพทิ้งไปอย่างไม่แยแส

สำหรับคนเหล่านี้เขาไม่จำเป็นต้องให้เกียรติ

องค์กรนักฆ่าได้สังหารผู้บริสุทธิ์จำนวนนับไม่ถ้วน

คนในองค์กรนี้ไม่สมควรมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ต่อไปอีก

หลังจากรู้ตำแหน่งที่แน่นอนของเจ้าตำหนักคุมกฎ อวี้ฮ่าวหรานก็วิ่งรีบไปที่คฤหาสน์กลางอย่างรวดเร็ว

ระหว่างทาง หากมีพวกนักฆ่าคนไหนเข้ามาขวางทาง เขาก็จะฆ่าพวกมันจนไม่เหลือแม้แต่คนเดียว!

โครม!

ด้วยการซัดพลังวิญญาณเข้าใส่ ประตูของคฤหาสน์ก็พังทลายลงทันที!

อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เขาก้าวเข้าไป ลูกศรพิษจากหน้าไม้อันเขื่องหลายสิบลูกก็พุ่งเข้ามาแทบจะพร้อมกัน!

ลูกศรหน้าไม้พวกนี้หากถูกยิงจากระยะไม่ไกล ความเร็วของพวกมันจะเร็วกว่าลูกปืนธรรมดาซะอีก หากเป็นคนธรรมดาคงโดนยิงจนพรุนโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโดนอะไรเข้าไปและตายโดยที่ไม่มีโอกาสตอบโต้เลย

แต่สำหรับอวี้ฮ่าวหราน ความเร็วของลูกศรพิษจากหน้าไม้เหล่านี้ไม่ใช่ภัยคุกคามเลย!

เขาโบกมืออย่างรวดเร็วซัดคลื่นพลังวิญญาณให้กระจายไปทั่วด้านหน้า!

ลูกศรพิษที่พุ่งเข้ามาอย่างรุนแรงแตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ ทันทีเมื่อสัมผัสกับคลื่นพลังวิญญาณของอวี้ฮ่าวหราน!

“นี่! นี่มันเป็นสัตว์ประหลาดหรือเปล่า!?”

“ไม่…เป็นไปไม่ได้!”

ถึงแม้ว่านักฆ่าพวกนี้จะได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี แต่พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาเมื่อได้เห็นฉากที่น่ากลัวเช่นนี้

“การโจมตีของพวกแกจบแล้วเหรอ?”

อวี้ฮ่าวหรานมองไปที่เหล่านักฆ่าที่ถือหน้าไม้อยู่อย่างเยาะเย้ย และเจตนาฆ่าก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา!

“ถ้างั้นก็ตาฉันบ้างละนะ!”

ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]

ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]

Status: Ongoing
ในที่สุด… มหาจักรพรรดิแห่งมวลเทพ ‘อวี้ฮ่าวหราน’ ก็สามารถกลับมาที่โลกได้สำเร็จ.. ! 3 หมื่นปี เขาต้องติดอยู่ในดินแดนแห่งเทพเจ้านานถึง 3 หมื่นปีหลักจากตกหน้าผาและเกิดใหม่ในดินแดนเหนือจินตนาการ !!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท