ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸] – บทที่ 360 เด็ก 4 ขวบแสนน่าทึ่ง

บทที่ 360 เด็ก 4 ขวบแสนน่าทึ่ง

บทที่ 360 เด็ก 4 ขวบแสนน่าทึ่ง

บทที่ 360 เด็ก 4 ขวบแสนน่าทึ่ง

เมื่อเสี่ยวเสวี่ยนั่งลงเริ่มเล่นเปียโน ทุกคนถึงกับตกตะลึง

“หือ? เด็กคนนี้…ฝีมือดีเลยนะ!”

“ใช่แล้ว เก่งมาก รู้สึกเหมือนมีสไตล์เป็นของตัวเองเลย”

“นี่สิถึงเรียกว่าการแข่งขัน เด็กก่อนหน้านี้เทียบไม่ติดเลย”

“…”

เมื่อท่วงทำนองดังขึ้น ผู้ชมต่างกระซิบกระซาบคุยกัน เพราะการแสดงของเด็กหญิงคนนี้น่าจับตามองมาก

ทั้งยังได้เสียงปรบมือชื่นชมจากเหล่าคุณครูที่นั่งชมอยู่

“ฮ่า ๆ อาจารย์หวัง นึกไม่ถึงว่าศิษย์ของคุณจะเก่งขนาดนี้ น่าทึ่งมาก!”

“เทียบกับเด็กคนนี้ ศิษย์ที่ฉันพามาดูด้อยไปเลยล่ะ”

คุณครูที่อยู่รอบข้างเอ่ยชม สีหน้าอาจารย์หวังฉายแววเปี่ยมความภาคภูมิใจ

“เด็กคนนี้มาแข่งเอารางวัลจริง ๆ ดีกว่าคนที่มาแข่งเอาประสบการณ์มากโข”

อาจารย์รอบข้างพยักหน้าเห็นด้วย

“ใช่ แต่ฉันว่าอาจารย์หวังเองก็ตาแหลมถึงได้มองออกว่าเธอเป็นอัจฉริยะ”

“แต่มีบางคนคิดจะเทียบกับคุณอยู่น่ะสิ โถ่เอ๊ย…ลูกวัวเกิดใหม่ไม่คิดกลัวเสือเลย”

“…”

ทุกคนต่างวิพากษ์วิจารณ์กัน ด้วยจงใจถากถางหลิวว่านชิงซึ่งอยู่แถวนั้น

ไม่นานการแสดงได้สิ้นสุดลง

“คะแนนรวมของเฉินเสี่ยวเสวี่ยคือ… 8.8 คะแนน!”

ผลคะแนนที่ออกมาชวนให้ผู้ชมฮือฮา อย่างไรเสียที่ผ่านคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 5 ถึง 6 คะแนนเท่านั้น ได้คะแนนเท่านี้นับว่าสูงมาก

จบการแสดง สีหน้าเสี่ยวเสวี่ยดูเหมือนจะคาดหวังในใจ เธอโค้งให้คณะกรรมการก่อนลงจากเวทีไป

ภายในห้องรับรอง

“ที่เหลือขึ้นอยู่กับพวกเธอแล้ว ฉันได้ 8.8 คะแนน” เธออดจะโอ้อวดคะแนนตนเองไม่ได้เมื่อเดินผ่านห้อง

เวลานี้มีเด็กเป็นสิบคนภายในห้อง พวกเขาต่างอยู่ในอาการตื่นเต้น หากแต่เมื่อได้ยินเช่นนี้กลับนิ่งเงียบกันหมด

พวกเขาไม่หลงเหลือความมั่นใจอีกต่อไป

“ฮึ่ย! ถวนถวนต้องทำได้ดีกว่าแน่!”

ถวนถวนอดโพล่งขึ้นไม่ได้ ตอนนี้เธอนึกหวั่นไหวอยู่บ้าง

อย่างไรเสียเด็กหลายคนก็ได้คะแนนเพียง 5 ถึง 6 คะแนนเท่านั้น ตัวเธอจะมีฝีมือมากกว่าสักเท่าใดกัน?

การแสดงต่อไปเริ่มขึ้นในไม่ช้า

บางคนแสดงได้อย่างน่าประทับใจ มีข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

สุดท้ายได้คะแนนไป 6.9 คะแนน

หากขึ้นแสดงก่อนหน้านี้ คงเป็นที่ตื่นตาตื่นใจ แต่ตอนนี้ทุกคนได้ชมการแสดงของเสี่ยวเสวี่ยแล้ว จึงไม่มีท่าทีแปลกใจ

“ผู้เข้าแข่งขันคนต่อไปคืออวี้ซินถวน!”

ถวนถวนเดินขึ้นมาบนเวทีเมื่อพิธีกรประกาศชื่อ

ดวงตาฉ่ำจ้องมองผู้ชมเบื้องหน้า เธอไม่ตื่นเวทีแม้แต่น้อย

เด็กหญิงสวมชุดกระโปรงสีขาวเข้ารูป ผมยาวดำขลับ แก้มใสพองเผยแววตื่นเต้น ยิ่งทำให้ดูน่ารักน่าชัง

“เด็กคนนี้น่ารักดีนะ เสียดายที่มาแข่งตอนยังเด็กอยู่ อาจจะยังฝีมือไม่ถึง”

“น่ารักจริง ๆ แหละ กล้ามาแข่งทั้งที่ยังอายุน้อยขนาดนี้”

“อื้ม ไม่ได้แค่น่ารักนะ แต่ว่ายังดูมั่นใจมากด้วย เห็นไหมว่าไม่ตื่นเวทีเลย”

“…”

ทุกคนต่างทึ่งในความน่ารักของเด็กหญิง แต่ไม่มีใครคิดว่าเธอมีความสามารถ

ถึงอย่างไรเด็กที่อายุมากกว่าเธอครึ่งปีก็ยังไม่สามารถเล่นเปียโนเพลงเดียวได้จบ

ด้านที่นั่งของคุณครู อาจารย์หวังก็เอ่ยขึ้นอย่างนึกดูถูก

“เด็กคนนี้เป็นศิษย์อาจารย์หลิว ฉันว่าอย่างน้อยก็คงเก่งพอจะเล่นจนจบเพลงนะ”

ทุกคนพยักหน้าเมื่อได้ยินเช่นนั้น

“อายุแค่นี้เอง ให้มาแข่งตั้งแต่เด็กแบบนี้ทำไมล่ะ?”

“ใช่แล้ว อาจารย์หลิว คุณยังด้อยประสบการณ์ ถ้าเสียชื่อหลังการแข่งครั้งนี้จะไม่แย่เอาเหรอ?”

“ฉันว่าอาจารย์หลิวประมาทเกินไปแล้วนะคะ อายุ 5 ขวบเองนี่? เด็กคนนี้อาจดูโน้ตเพลงไม่เป็นเลยด้วยซ้ำก็ได้ค่ะ”

“…”

ทุกคนต่างวิจารณ์กัน หลิวว่านชิงเม้มปาก นิ่งเงียบไม่เอ่ยสิ่งใด

ความจริงเธอกลัวว่าถวนถวนจะตื่นเวที ถึงอย่างไรก็ต้องเผชิญหน้ากับผู้ชมมากมาย

บนเวที

หลังโค้งทักทายให้คณะกรรมการ ถวนถวนนั่งลงหน้าเปียโน ท่าทีของเธอดูสงบนิ่งท่ามกลางแสงไฟที่ฉายส่องมาหา

ไร้ซึ่งความขัดเขิน ไร้ซึ่งอาการตื่นเวที ตอนนี้เด็กน้อยดูมั่นใจเต็มที่ เพราะเธอเห็นพ่อกับน้าของเธอแล้ว

มือเล็กบรรจงวางลงบนแป้นเปียโน! ท่าทางคล่องแคล่วไม่สมวัยเริ่มบรรเลงดนตรี!

เสียงเปียโนนุ่มนวลอ่อนหวาน บ้างคล้ายสายน้ำไหลเอื่อย บ้างคล้ายนกน้อยขับร้องแผ่วเบา

ไร้ซึ่งที่ติ…ท่วงทำนองเสนาะหูดังก้องทั่วโถง!

เสียงพูดคุยเซ็งแซ่พลันเงียบลง

พวกเขาจับจ้องมือเล็กที่ขยับไหวไปมากลางแสงไฟด้วยความอึ้ง ไม่อยากจะเชื่อสายตนเองว่าต้นเสียงนี้จะมาจากเด็กหญิง!

ผู้ชมตกอยู่ในความเงียบงัน มีเพียงเสียงเปียโนแสนไพเราะก้องกังวาล!

กระทั่งทุกคนได้สติรู้สึกตัว!

“พระเจ้าช่วย! เด็กอายุเท่านี้เอง!”

“เก่งมาก! เก่งจริง ๆ! เธอเล่นได้ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย?”

“ถ้าไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง ไม่ได้ยินกับหู ใครจะไปเชื่อ!”

“…”

ทุกคนเอ่ยชมกับยกใหญ่

หากเป็นการแข่งขันระดับผู้ใหญ่คงไม่น่าแปลกใจอย่างแน่นอน หากแต่เป็นฝีมือของเด็กอายุไม่ถึง 5 ขวบดีด้วยซ้ำ!

เป็นธรรมดาที่เหล่าผู้ชมจะทึ่งจนถึงขั้นพูดไม่ออก!

เทียบกับเด็กคนก่อนหน้านี้ที่สามารถเล่นได้จนจบเพลงเท่านั้น ถือว่าต่างกับราวฟ้ากับเหว!

หลี่หรงมองถวนถวนเปล่งประกายกลางแสงไฟราวหงส์ขาว ทำเอาไม่อาจเชื่อว่าหลานสาวเป็นคนเล่นเพลงนี้

“ฮ่าวหราน…ฉัน…ฉันฝันไปหรือเปล่า?”

หญิงสาวพึมพำพลางหันมองหน้าพี่เขยซึ่งนั่งข้าง ๆ อวี้ฮ่าวหรานยื่นมือไปหยิกแก้มเธอ

ชายหนุ่มปลาบปลื้มใจเช่นกัน แม้เขาจะเคยได้ยินมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่การแสดงของถวนถวนวันนี้ก็ยังคงชวนให้เขาอึ้ง

“โอ๊ย! พี่เขย หยิกฉันจริงเลยเหรอ!” หลี่หรงเจ็บแก้มเล็กน้อยโวยขึ้นทันที ยกมือขึ้นจะทุบอีกฝ่าย

หากแต่สายตากลับอดหันไปมองบนเวทีไม่ได้

“เก่งมาก! ถวนถวนของเราเป็นอัจฉริยะชัด ๆ! เก่งพอ ๆ กับตอนฉันอายุ 20 เลย”

เธอเอ่ยชมไม่ขาดปาก แววภาคภูมิใจฉายชัดบนสีหน้า ฝีมือหลานสาวดีกว่าเธอมาก!

ตอนนั้นเธอตั้งใจฝึกซ้อมทุกวัน มีอาจารย์คอยสอนให้ แต่สุดท้ายเธอกลับไม่เอาอ่าวในเรื่องนี้

สวี่รุ่ยถึงกับตกตะลึง เธอไม่รู้ว่าถวนถวนจะเล่นเปียโนเก่งถึงเพียงนี้

ต่อให้เธอเล่นเปียโนไม่เป็น แต่ยังฟังออกว่าไพเราะขนาดไหน

“นี่…นี่มัน…”

เธอตกใจเสียจนพูดไม่ออก อาจารย์หวังซึ่งนั่งอยู่อีกด้านหน้าเปลี่ยนสีทันที!

ดวงตาเบิกกว้าง ใบหน้าฉายแววเหลือเชื่อ

“มัน…เป็นไปได้ยังไง…เด็กตัวเท่านี้เอง!”

เธอเป็นครูสอนเปียโน ย่อมฟังท่วงทำนองออกว่ามีฝีมือเก่งกาจ อีกทั้งเวลานี้เหล่าคุณครูที่อยู่ข้างเธออึ้งไปเช่นกัน…

ความสามารถของเด็กคนนี้คนละชั้นกับเด็กคนอื่น!

มันเทียบเท่ากับเด็กชั้นมัธยมปลาย ทั้งยังเหนือกว่าเด็กชั้นประถม!

บทที่ 328 พระพุทธรูปหยก
บทที่ 328 พระพุทธรูปหยก

ราคาสามสิบล้านมันเกินมูลค่าของกระถางธูปหยกนี้มากเกินไปจนผู้คนไม่กล้าประมูลต่ออีก

ในไม่ช้า รายการประมูลนี้ก็สรุปผล

“หว่านเอ๋อร์ เดี๋ยวหลานเอาของชิ้นนี้กลับไปเก็บในห้องเก็บสมบัติของหลานได้เลย คิดซะว่าลุงมอบให้เป็นของขวัญในฐานะที่หลานทำตัวเป็นเด็กดีมาโดยตลอด”

หลังจากรับกระถางธูปมาแล้ว หลินป๋อก็หันศีรษะไปพูดกับซูหว่านเอ๋อ อย่างอ่อนโยน

“แต่…แต่…”

ซูหว่านเอ๋อลังเลมากเมื่อได้ยินเช่นนั้น เธอต้องการปฏิเสธ แต่เธอก็อยากได้กระถางธูปนี้มากจริง ๆ

“ฮ่าฮ่า ไม่ต้องเกรงใจหรอก ลุงหลินบอกให้หลานรับไว้ก็รับเอาไว้เถอะ ก่อนหน้านี้ที่พ่อของหลานบังคับให้หลานแต่งงาน ลุงก็มัวแต่ติดธุระที่ต่างประเทศไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรจนไม่ได้ช่วยหลาน ไม่งั้นพ่อของหลานคงไม่กล้าทำอะไรแบบนั้นแน่ เอาเป็นว่านี่ถือว่าเป็นการขอไถ่โทษจากลุงก็แล้วกัน”

หลินป๋อหัวเราะเบา ๆ เมื่อเห็นเธอแสดงสีหน้าชวนน่าเอ็นดู

เขาเอ็นดูซูหว่านเอ๋อมาตลอด ตอนนี้อายุเขาก็ปาเข้าไปถึงเลขสี่แล้ว แต่ก็ยังไม่มีบุตรหลาน ดังนั้นเขาจึงมองซูหว่านเอ๋อเป็นเหมือนกับบุตรหลานแท้ ๆ ของเขาเอง

ก่อนหน้านี้เมื่อเขากลับมาจากการเดินทางไปทำธุรกิจที่ต่างประเทศและได้รู้ว่าตระกูลซูทำอะไรลงไป เขาก็รีบตรงดิ่งไปที่บ้านตระกูลซูเพื่อตำหนิ ซูกว่างไห่อย่างรุนแรงภายในคืนที่กลับมาทันที

เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ซูกว่างไห่ตกตะลึงมากที่ลูกสาวของเขารู้จักคนที่มีอำนาจขนาดนี้

และเมื่อรวมกับการกระทำก่อนหน้านี้ของอวี้ฮ่าวหราน ตระกูลซูก็ยิ่งไม่กล้าโต้แย้งอะไรเลย

หลังจากการประมูลของชิ้นแรกจบไป ของชิ้นที่สองก็ถูกนำขึ้นมาประมูลอย่างรวดเร็ว มันเป็นแจกันลายคราม แต่ไม่ใช่แบบที่ซูหว่านเอ๋อชอบ

อวี้ฮ่าวหราน ใช้เนตรเทวะตรวจสอบตามปกติ ซึ่งมันก็เช่นเดิมกับชิ้นที่แล้ว เขาไม่เห็นพลังวิญญาณใด ๆ แฝงอยู่ในแจกันที่นำขึ้นมาประมูลเป็นชิ้นที่สอง

เขารู้สึกผิดหวังในใจนิดหน่อย

ตอนนี้เขาจำเป็นต้องพัฒนาความแข็งแกร่งของเขาอย่างเร่งด่วน ชายวัยกลางคนที่เขาฆ่าตายไปเมื่อล่าสุดเป็นผู้บ่มเพาะขอบเขตก่อรากฐานแถมยังแต่งตัวแปลก ๆ และมีสำเนียงพูดที่แปลก ๆ ราวกับหลุดมาจากยุคเมื่อหลายพันปีก่อน ซึ่งจากองค์ประกอบทั้งหมดมันมีความเป็นไปได้สูงมากที่อีกฝ่ายน่าจะมาจากสำนักบ่มเพาะที่แอบซ่อนอยู่ในโลกนี้ และนั่นหมายความว่าหลังจากนี้เขาจะต้องรับมือกับพวกผู้บ่มเพาะของจริง ไม่ใช่พวกนักเลงธรรมดา ๆ กระจอก ๆ เหมือนอย่างที่ผ่านมา

ในไม่ช้าการประมูลโบราณวัตถุชิ้นที่สองก็จบลงและถูกยกออกไป โบราณวัตถุชิ้นที่สองถูกเฉียนเซาซื้อไปด้วยราคากว่าสิบสามล้าน

แน่นอนว่าหลังจากได้ของมา เฉียนเซาก็ไม่ลืมที่จะส่งสายตาดูถูก อวี้ฮ่าวหรานราวกับว่าเขาเป็นเศรษฐีที่อยากจะซื้ออะไรก็ซื้อได้

อวี้ฮ่าวหรานไม่ได้ใส่ใจกับสายตาของอีกฝ่ายเท่าไหร่ เพราะเขามีเป้าหมายที่ชัดเจนว่ามาที่นี่เพื่ออะไร

หลังจากนั้นไม่นาน ของประมูลชิ้นที่สามก็ถูกนำมาวาง ซึ่งก็คือภาพวาดโบราณ

สำหรับของชิ้นนี้ อวี้ฮ่าวหรานไม่มีความจำเป็นต้องใช้เนตรเทวะมองดูมันด้วยซ้ำ ภาพวาดบนผืนกระดาษแบบนี้ตามปกติแล้วมันไม่สามารถเก็บรักษาไว้ได้นานมากนัก ดังนั้นภาพที่ยังดูสมบูรณ์ขนาดนี้อย่างมากที่สุดก็มีอายุแค่ไม่กี่ร้อยเท่านั้น

ของที่มีอายุแค่หลักร้อยปีตามปกติแล้วมันย่อมไม่มีพลังวิญญาณแฝงอยู่แน่นอน

และรายการประมูลนี้ก็ยังไปอยู่ในมือของเฉียนเซาเช่นเดิม

เขาภูมิใจมากกับการซื้อของอวดชาวบ้านแบบนี้

“หึหึ ต่อให้มันรู้จักกับประธานเจ่าแล้วยังไง? ท้ายที่สุดคนที่รวยกว่าอย่างฉันก็ได้เปรียบ!”

เสียงของเขาดูถูกเหยียดหยามอย่างมาก

“ใช่ คนจน ๆ แบบนั้นจะมีคุณสมบัติที่จะเทียบกับคุณได้อย่างไร”

“ฮึ่ม ถ้าไม่ใช่เพราะบอดี้การ์ดที่นี่เข้มงวดมาก ผมคงสั่งให้คนของผมเข้ามาลากไอ้เวรนั่นออกไปกระทืบให้คุณเฉียนไปแล้ว!”

ที่ด้านข้างทั้งสองฝั่งของเฉียนเซามีนายน้อยรุ่นที่สองจากตระกูลร่ำรวยหลายคนนั่งขนาบด้วยสีหน้าประจบแจง

เมื่อไหร่ที่พวกเขารวมตัวกัน พวกเขาจะรู้สึกว่าตัวเองแข็งแกร่งที่สุดเสมอ

“ฮึ่ม! ไม่ต้องห่วง ฉันจะไม่ปล่อยมันไปแน่ หลังจากที่มันออกจากโรงแรมนี้ไป!”

ใบหน้าของเฉียนเซาเต็มไปด้วยความอาฆาต เขามองไปที่อวี้ฮ่าวหราน เป็นระยะ ๆ พลางกัดฟันกรอด

“…”

หลังจากนั้นไม่นานนักของชิ้นที่สี่ก็ถูกนำมาตั้งบนเวที มันคือโต๊ะเครื่องแป้งไม้จันทน์สมัยราชวงศ์หมิงที่มีกระจกทองเหลืองบานใหญ่ถูกติดตั้งอยู่ด้านบน สภาพของมันสมบูรณ์เป็นอย่างมากจนทำให้ความวิจิตรงดงามของมันไม่เสื่อมถอยไปตามกาลเวลาเลย

ราคาเริ่มต้นของรายการประมูลนี้คือห้าล้าน!

เมื่อเห็นรายการนี้ ดวงตาของซูหว่านเอ๋อก็เปล่งประกายอีกครั้ง และเธอก็เสนอราคาทันที

“สุภาพสตรีหมายเลข 32 เสนอราคา 8 ล้าน!”

เธอขึ้นราคาสามล้านเต็มในครั้งเดียว ดูเหมือนว่าเธอตั้งใจแน่วแน่มากที่จะได้มันมา

อวี้ฮ่าวหรานมองไปที่อีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจ เมื่อเห็นว่าสีหน้าและท่าทางของซูหว่านเอ๋อในตอนนี้เปลี่ยนไปอย่างมาก เธอดูจริงจังแน่วแน่ไม่ยอมใคร ไม่เหมือนกับตามปกติที่แทบไม่กล้าเอ่ยปากปฏิเสธคนทั้งโลก

ผู้หญิงคนนี้ชอบพวกของโบราณมากจริง ๆ

ในไม่ช้าราคาก็พุ่งขึ้นไปถึงสิบสามล้าน แต่ซูหว่านเอ๋อก็ยังไม่ลดละง่าย ๆ

“สุภาพสตรีหมายเลข 32 เสนอราคา 16 ล้าน!”

การเพิ่มราคาขึ้นอีกสามล้านครั้งนี้ ทำให้ทุกคนในห้องประมูลตกตะลึงเล็กน้อย และทุกคนก็มองมายังหญิงสาวที่กำลังแสดงแน่วแน่มากในขณะนี้

สุดท้ายก็ไม่มีใครสู้ราคาต่ออีก เพราะในความคิดของทุกคน มูลค่าของโบราณวัตถุชิ้นนี้คงไม่เกินสิบหกล้านแน่นอน

ดังนั้นซูหว่านเอ๋อจึงได้โบราณวัตถุชิ้นนี้ไปตามที่เธอปรารถนา ดวงตาสีดำของเธอโค้งเป็นเสี้ยว เธอดูมีความสุขมากจริง ๆ

จากนั้นภาพวาดโบราณอีกชิ้นถูกซื้ออีกครั้งโดยเฉียนเซาด้วยราคายี่สิบสามล้าน

ในเวลานี้ อวี้ฮ่าวหรานยังไม่เคลื่อนไหว

“ดูสิ คุณเฉียนเซา ไอ้คนจนคนนั้นมันไม่กล้าซื้ออะไรสักอย่างเลย น่าสมเพชจริง ๆ คนจนอย่างมันมาทำที่นี่เพื่อมาทำให้ตัวเองขายขี้หน้ารึไง?”

“ใช่แล้ว ไม่รู้จักเจียมกะลาหัวตัวเองบ้างเลย สถานที่แบบนี้คนจน ๆ อย่างมันเหมาะที่จะมาเหยียบที่ไหนกัน?”

“…”

ในเวลานี้ เฉียนเซาเหลือบมองอวี้ฮ่าวหรานด้วยสายตาดูถูกสุดขีด

“ไอ้คนจน ๆ แบบนี้จะมาเทียบบิดาผู้นี้ได้ยังไง!”

ในสายตาของเขา แม้ว่าอวี้ฮ่าวหรานจะรู้จักกับคนใหญ่คนโต เขาก็ยังอยู่สูงกว่าเพราะเขาคือคนที่มีเงินมากกว่า!

ของชิ้นถัดมาถูกนำขึ้นมาวางอย่างรวดเร็วเช่นเดิม แต่คราวนี้แววตาของ อวี้ฮ่าวหรานเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง!

มันคือพระพุทธรูปหยกโบราณที่ดูเก่าแก่มาก พระพุทธรูปหยกนี้มีความสูงประมาณยี่สิบเซนติเมตร และรูปร่างขององค์พระพุทธรูปก็บอบบางมาก!

แค่เพียงหลือบมองแวบเดียวเขาก็สัมผัสได้ถึงบางอย่างที่ต่างออกไปจากโบราณวัตถุก่อนหน้านี้ที่ถูกนำขึ้นมาประมูล!

ด้วยทักษะเนตรเทวะ อวี้ฮ่าวหรานก็เห็นได้อย่างชัดเจน!

พระพุทธรูปองค์นี้มีพลังวิญญาณแฝงอยู่อย่างหนาแน่น!

ความหนาแน่นของพลังวิญญาณนั้นมีมากกว่าสองเท่าของจี้หยกที่เขาได้รับมาก่อนด้วยซ้ำ!

มันเป็นของโบราณที่มีพลังวิญญาณมากที่สุดที่เขาเคยเห็นมา!

“พระพุทธรูปหยกองค์นี้สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ถัง และการแกะสลักพื้นผิวของตัวองค์พระพุทธรูปก็ละเอียดละออมาก แม้แต่เทคโนโลยีการแกะสลักในปัจจุบันนี้ก็ยังบรรลุถึงระดับนี้ได้ยาก และที่น่ายกย่องที่สุดคือคุณภาพของหยกที่ใช้ในการแกะสลัก หยกนี้บริสุทธิ์อย่างยิ่ง! พระพุทธรูปหยกองค์นี้จึงนับได้ว่าเป็นสมบัติที่…”

หลังจากการแนะนำอย่างยิ่งใหญ่จากพิธีกร หลายคนในห้องประมูลก็มองไปที่พระพุทธรูปด้วยดวงตาเป็นประกาย

อย่างไรก็ตาม ราคาเริ่มต้นของพระพุทธรูปหยกองค์นี้ก็ทำให้คนส่วนใหญ่ถึงกับผงะ

“พระพุทธรูปหยกสมัยราชวงศ์ถังองค์นี้ ราคาเปิดประมูลเริ่มต้นอยู่ที่ 55 ล้าน!”

ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]

ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]

Status: Ongoing
ในที่สุด… มหาจักรพรรดิแห่งมวลเทพ ‘อวี้ฮ่าวหราน’ ก็สามารถกลับมาที่โลกได้สำเร็จ.. ! 3 หมื่นปี เขาต้องติดอยู่ในดินแดนแห่งเทพเจ้านานถึง 3 หมื่นปีหลักจากตกหน้าผาและเกิดใหม่ในดินแดนเหนือจินตนาการ !!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท