ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸] – บทที่ 339 สมองมด

บทที่ 339 สมองมด

บทที่ 339 สมองมด
บทที่ 339 สมองมด

แน่นอนว่าเมื่อคนธรรมดาเห็นเหตุการณ์ที่โหดร้ายที่เกิดขึ้นด้านนอก พวกเขาทุกคนจึงพร้อมใจวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก

ทางด้านของอวี้ฮ่าวหราน เขาได้ปล่อยให้พวกคนธรรมดาเหล่านี้หนีไป เพราะคนธรรมดาพวกนี้ไม่ใช่เป้าหมายของเขา หลังจากเข้าไปในห้องโถง เขาก็เลือกที่จะวิ่งด้วยความเร็วเหนือมนุษย์ขึ้นไปทางบันไดแทนที่จะใช้ลิฟท์

ด้วยความเร็วของเขาที่เร็วมากกว่าการใช้ลิฟท์ แค่เพียงไม่ถึงสามสิบวินาทีเขาก็วิ่งขึ้นไปถึงชั้นดาดฟ้า!

บนดาดฟ้า!

“ฮิฮิ แกนี่ช่างน่าอัศจรรย์จริง ๆ แต่น่าเสียดายที่แกจะต้องตายที่นี่!”

เมื่ออสรพิษเงินเห็นว่าอีกฝ่ายมาถึงในที่สุด เขาก็เยาะเย้ยอย่างไร้กังวล

เขาคาดคะเนว่าอวี้ฮ่าวหรานน่าจะอยู่ในขั้นจุดสูงสุดของขอบเขตพลังภายใน ซึ่งเขาเองก็อยู่ในระดับนี้ด้วยเช่นกัน แต่ด้วยอายุของเขาที่มากกว่า ดังนั้นเขาจึงมั่นใจว่าประสบการณ์การต่อสู้ของเขาจะช่วยให้เขากำชัยได้อย่างไม่ยากเย็น

ต้องรู้ว่าเขาอยู่ในจุดสูงสุดของพลังภายในมามานานกว่าสิบปีแล้ว!

ไม่มีใครในขอบเขตเดียวกับเขาสามารถเอาชนะเขาได้!

“อ้อ ฉันเพิ่งได้รับข้อมูลมาว่าแกมีลูกสาวตัวเล็ก ๆ อยู่คนหนึ่งด้วยใช่ไหม? ฉันล่ะสงสัยจริง ๆ ว่าใบหน้าที่ไร้เดียงสานั่นจะเป็นแบบไหนเมื่อถูกฉันจับกรอกยาพิษ!”

อสรพิษเงินชอบใช้วิธีการยั่วยุศัตรูของเขาให้ปั่นป่วนใจมากที่สุด ซึ่งหลังจากที่ศัตรูของเขาถูกความโกรธเข้าครอบงำ เขาก็จะยิ่งสามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้ง่ายมากขึ้น

ทางด้านของอวี้ฮ่าวหราน เมื่อได้ยินประโยคนี้เขาก็หัวเราะเสียงดังลั่นและเอ่ยถามกลับ

“ฮ่าฮ่าฮ่า แกรู้ไหมว่าทำไมฉันถึงรู้สึกตลก”

“ฮิฮิ ใครจะไปรู้ มันอาจเป็นเพราะว่าแกหมดหวังจนเสียสติไปแล้วก็ได้จริงไหม?”

อสรพิษเงินไม่ได้กังวลใจอะไรเลย ในทางกลับกัน เขาก็คิดว่ามันเป็นเรื่องน่าตลกเช่นกันที่วันนี้อีกฝ่ายมาให้เขาฆ่าถึงที่นี่อย่างว่าง่ายราวกับคนโง่

“ไม่ใช่เลย มันเป็นเพราะว่าฉันตลกที่คนจะตายแล้วอย่างแกยังเปลืองสมองคิดถึงเรื่องในอนาคตอยู่อีกต่างหาก!”

เสียงของอวี้ฮ่าวหรานเปลี่ยนเป็นลึกล้ำจนยากจะหยั่งถึง

ประโยคนี้มาพร้อมกับเจตนาฆ่าซึ่งทำให้ทุกคนที่อยู่รอบบริเวณถึงกับใจสั่น!

อสรพิษเงินขมวดคิ้วแน่น แต่ดวงตาของเขายังเต็มไปด้วยความมั่นใจ

เขาไม่คิดว่ามีความเป็นไปได้ที่คู่ต่อสู้จะเอาชนะเขาได้

“ถุย! เลิกหลงตัวเองได้แล้วโว้ย! แกมันก็แค่คนที่น่าจะอยู่ในขั้นจุดสูงสุดของปรมาจารย์พลังภายในก็แค่นั้น ก่อนหน้านี้องค์กรของฉันไม่ทำอะไรแกเพราะพวกเราไม่อยากเปลืองแรง แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้นแล้ว การที่ฉันมาที่นี่มันหมายความว่าไม่ว่ายังไงแกก็ต้องตายในท้ายที่สุด!”

เมื่ออวี้ฮ่าวหรานได้ยินประโยคนี้ รอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปากของเขาทันที

“โอ้? แกเดาเกือบถูกแน่ะ แต่ฉันอยู่ในขั้นสูงต่างหาก”

อวี้ฮ่าวหรานพยักหน้าเล็กน้อย

“ฮ่าฮ่า! ถ้าแกอยู่แค่ขั้นสูง งั้นแกเตรียมรอรับความตายได้เลย ฉันเชือดแกได้อย่างไม่ยากเย็นแน่! ”

เมื่อได้ยิน อวี้ฮ่าวหรานก็ยอมรับความแข็งแกร่งของตัวเอง ซึ่งมันต่ำกว่าที่เขาคาดไว้ อสรพิษเงินก็หัวเราะออกมาอย่างเบิกบาน

อีกฝ่ายตอกตะปูฝาโลงตัวเองแท้ ๆ ที่เผยระดับการบ่มเพาะของตัวเองแบบนี้!

แต่ในขณะเดียวกันนี้ที่พวกเขากำลังพูดคุยกัน เฉิงชิวอวี้ก็ตื่นขึ้น!

แต่เมื่อเธอรู้สึกได้ว่าทั้งตัวของเธอถูกมัดอย่างแน่นหนาจนไม่สามารถดิ้นหลุดได้ เธอก็ตะโกนไปหาอวี้ฮ่าวหรานที่อยู่ไม่ไกลทันที

“ฮ่าวหราน หนีไปซะ! คนพวกนี้ไม่ใช่คนธรรมดา! แถมทั้งหมดนี้เป็นความแค้นส่วนตัวระหว่างพ่อของฉันกับคนเหล่านี้ มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณเลย คุณอย่าเอาตัวมาเสี่ยง หนีไปซะ!”

ก่อนที่เธอจะถูกทำให้หลับไปตอนที่อยู่ในบริษัท เธอพอจะเดาได้คร่าว ๆ ว่าคนพวกนี้ต้องเป็นศัตรูเก่าของพ่อเธอแน่นอน

ดังนั้น เธอจึงไม่อยากให้คนที่เธอรักต้องมาเดือดร้อนด้วยกับเรื่องส่วนตัวของพ่อเธอแบบนี้

เมื่ออวี้ฮ่าวหรานได้ยินคำพูดของเฉิงชิวอวี้ เขาก็หัวเราะเบา ๆ อย่างไร้กังวล

“อย่ากังวล สำหรับผมเรื่องนี้มันเรื่องเล็กน้อย”

คำพูดนี้ทำให้อสรพิษเงินที่อยู่ข้าง ๆ อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะเย้ย

“ฮ่าฮ่าฮ่า น่าตลกชิบหายเลย! แกคิดว่าปรมาจารย์พลังภายในขั้นสูงอย่างแกจะสู้ฉันได้งั้นเหรอ?”

จากนั้นทันทีที่พูดจบ มือผอมบางของเขาก็สะบัดอย่างรวดเร็ว ส่งมีดสั้นสามเล่มสีดำทะมึนพุ่งเข้าไปหาอวี้ฮ่าวหรานด้วยความรวดเร็ว!

‘ฟิ้ว ฟิ้ว!’

ภายใต้การระเบิดกำลังของกล้ามเนื้อปรมาจารย์พลังภายในขั้นสูงสุด มีดทั้งสามเล่มจึงพุ่งเร็วจนเป็นภาพติดตาและทำให้มองดูคล้ายลำแสงสามเส้นกำลังพุ่งเข้ามาหาอวี้ฮ่าวหราน!

มีดสามเล่มนี้ถูกอาบยาพิษร้ายแรงมาอย่างประณีต แม้แต่ปรมาจารย์พลังภายในขั้นสูงสุด หากแค่เพียงโดนคมมีดของมันสะกิดกับผิวหนังเพียงนิดเดียวก็อาจจะสิ้นลมหายใจได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที!

แต่ในทางกลับกัน อวี้ฮ่าวหรานก็ไม่ได้เกรงกลัวของเล่นแบบนี้เลย เขามองไปที่อสรพิษเงินด้วยความเหยียดหยาม

“ไอ้สมองมด! ฉันบอกเมื่อไหร่ว่าฉันอยู่ในขอบเขตพลังภายใน?”

หลังจากพูดจบ อวี้ฮ่าวหรานก็โบกมือเบา ๆ และส่งคลื่นพลังวิญญาณเข้าสกัดมีดทั้งสามเล่นที่พุ่งเข้าหา ปัดมีดทั้งสามเปลี่ยนทิศทางไปอย่างง่ายดายราวกับว่าพวกมันเป็นแค่ขนนกที่แค่เป่านิดหน่อยก็พริ้วไปตามแรงลมปาก!

‘เคร้ง ๆ ๆ ๆ…’

หลังจากมีดทั้งสามถูกปัดจนปลิวไปตกที่พื้น เจ้าตำหนักอีกสองคนซึ่งมากับอสรพิษเงินก็ลงมือเช่นกัน พวกเขาทั้งสองเป็นปรมาจารย์พลังภายในขั้นสูง พวกเขามั่นใจว่าถ้าหากพวกเขาร่วมมือกัน พวกเขาควรจะรับมือกับอวี้ฮ่าวหรานได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

“เหอะ! ไร้สาระ!”

เมื่อเห็นสิ่งนี้ อวี้ฮ่าวหรานก็อดไม่ได้ที่จะสบถออกมา

“เป็นแค่มด กล้าดียังไงมาแยกเขี้ยวใส่ฉัน!”

ทันทีที่พูดจบ อวี้ฮ่าวหรานก็โคจรพลังวิญญาณอย่างเต็มที่และชกหมัดออกไปเต็มแรงใส่เจ้าตำหนักองค์กรอสรพิษทั้งสองคนที่พุ่งเข้ามาหาเขา!

“ปัง!!”

หลังจากการปะทะ เจ้าตำหนักทั้งสองก็ลอยละลิ่วกระเด็นกลับไปราวกับว่าวสายป่านขาดโดยไร้ลมหายใจ!

ฆ่าสองด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว!

อสรพิษเงินที่กำลังจะลงมือโจมตีเช่นกัน เมื่อเห็นฉากนี้เขาพลันชะงักทันทีด้วยความตกตะลึง!

“ก…แกไม่ใช่ปรมาจารย์พลังภายในขั้นสูงนี่นา! น…นี่แกเป็นใครกันแน่! คนที่อยู่ในขอบเขตพลังภายในไม่สามารถทำแบบนี้ได้แน่!”

อสรพิษเงินขนลุกชูชันด้วยความหวาดกลัว แม้แต่เจ้าตำหนักคุมกฎที่แข็งแกร่งกว่าเขาเองก็ไม่แข็งแกร่งถึงขนาดฆ่าปรมาจารย์พลังภายในขั้นสูงได้ภายในการโจมตีครั้งเดียวแบบนี้ และนี่ยังไม่นับเรื่องที่อวี้ฮ่าวหรานโจมตีครั้งเดียว แต่ฆ่าได้สองคนอีกต่างหาก!

มีคนเดียวที่เขาพอจะนึกออกได้ว่าน่าจะสามารถทำอะไรแบบนี้ได้ก็มีแค่คนเดียวซึ่งก็คือผู้นำองค์กรที่สุดแสนลึกลับของพวกเขาเท่านั้น!

อย่างไรก็ตาม แต่คนผู้นั้นมีความแข็งแกร่งที่เหนือมนุษย์ไปแล้ว

เมื่ออวี้ฮ่าวหรานเห็นอีกฝ่ายกำลังกลัวจนขนหัวลุก เขาก็หัวเราะเบา ๆ

“หึหึ รู้มั้ยว่าทำไมสัตว์เลื้อยคลานถึงไม่กลัวเมื่อเห็นเท้ามนุษย์กำลังจะมาเหยียบมัน”

ดวงตาของเขาแสดงความเยาะเย้ยในขณะที่เขาพูด

“มันเพราะว่าสัตว์เลื้อยคลานนั้นสมองน้อยจนไม่รู้ว่ามนุษย์มีอำนาจขนาดไหน!”

ทันทีที่พูดจบ ร่างของอวี้ฮ่าวหรานก็หายวับไปกับตา!

ระยะห่างเกือบสิบเมตร แต่อวี้ฮ่าวหรานกลับเคลื่อนที่ได้ภายในเศษเสี้ยววินาที!

‘ปัง!’

อสรพิษเงินที่เพิ่งรู้ตัวว่าอีกฝ่ายเข้ามาประชิดแล้ว ก็รีบยกแขนขึ้นป้องกันตามสัญชาตญาณทันที!

อย่างไรก็ตาม พลังของอวี้ฮ่าวหรานก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถต่อกรได้!

‘อั่ก!’

ภายใต้อิทธิพลของพลังวิญญาณอันรุนแรง เกราะพลังภายในที่ถูกสร้างขึ้นของอสรพิษเงินได้พังทลายลงราวกับกำแพงทรายโดนคลื่นซัด!

อสรพิษเงินถูกชกอย่างรุนแรงจนลอยละลิ่วบินกลับหัวไปเกือบ 20 เมตร และตกลงที่มุมดาดฟ้า

เขารีบยันตัวลุกขึ้นและปาดเลือดออกจากปาก มองดูชายหนุ่มด้วยความกลัว!

“แกแข็งแกร่งแค่ไหนกันแน่! มันเป็นแบบนี้ได้ยังไง!”

เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าแค่เพียงการโจมตีเดียว เขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงขนาดนี้!

มันเป็นจริงอย่างที่อีกฝ่ายพูด ถ้าเทียบกันแล้วความแข็งแกร่งของเขาไม่ต่างอะไรกับมดเมื่ออยู่ต่อหน้าชายหนุ่มผู้นี้!

“ก็ฉันบอกแล้วไงว่าฉันอยู่ในขั้นสูง”

อวี้ฮ่าวหรานเดินเข้าหาคู่ต่อสู้ช้า ๆ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยการล้อเล่น

“เป็นไปไม่ได้! ขอบเขตพลังภายในขั้นสูงไม่มีวันแข็งแกร่งขนาดนี้!”

อสรพิษเงินไม่อยากจะเชื่อ ตอนนี้เขาไม่หลงเหลือความเย่อหยิ่งอีกต่อไปแล้ว

“เห็นไหม แกมันเป็นแค่สัตว์เลื้อยคลานที่ตาบอดแถมยังสมองน้อย ฉันบอกเมื่อไหร่ว่าฉันอยู่ในขอบเขตพลังภายใน? ความแข็งแกร่งของฉันอยู่ในขอบเขตก่อรากฐานต่างหาก!”

หลังจากหยอกล้อกับอีกฝ่ายจนพอใจแล้ว อวี้ฮ่าวหรานก็หายตัวไปอีกครั้ง!

‘ผลั่ก!’

เขาโผล่ยืนค้ำหัวอสรพิษเงินและย่ำเท้าลงไปที่ท้องอีกฝ่ายอย่างแรง!

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าตอนนี้อสรพิษเงินจะสติหลุดไปเรียบร้อยแล้ว เขาไม่ร้องออกมาสักแอะ เขาจึงเอาแต่พึมพำด้วยสีหน้าว่างเปล่า

“ก่อรากฐานระดับสูง…ก่อรากฐานระดับสูง…”

เขารู้สึกว่าเขาดูเหมือนจะเคยได้ยินคำนี้ที่ไหนสักแห่ง ดูเหมือนว่ามันเป็นขอบเขตที่หลุดพ้นความเป็นมนุษย์ไปแล้วใช่ไหม?

บทที่ 338 สาขาที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นมาใหม่อีกรอบ
บทที่ 338 สาขาที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นมาใหม่อีกรอบ

หลังจากได้ยินสวีเซี่ยงจวินยืนยันแล้วว่าไม่มีปัญหากับตำแหน่งงาน อวี้ฮ่าวหรานจึงเอ่ยเตือนดักเอาไว้อย่างจริงจัง

“ฉันหวังว่านายจะไม่ไปแตะต้องพวกการพนันและอบายมุขต่าง ๆ เหล่านั้นอีก สวีรุ่ยควรได้อยู่ในสภาพแวดล้อมครอบครัวที่สมบูรณ์”

เขารู้สึกเป็นห่วงสวีรุ่ยจริง ๆ ความทรงจำครั้งล่าสุดที่เขาเห็นหญิงสาวคนนั้นนั่งร้องไห้ฟูมฟายอยู่ที่สี่แยกมันทำให้เขารู้สึกเวทนาจริง ๆ

“น…แน่นอนครับ! ผมจะทำให้รุ่ยเอ๋อร์มีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน!”

สวีเซี่ยงจวินสัญญาอย่างรวดเร็ว

ทางด้านของผู้จัดการหวังก็ทำเป็นนิ่งเงียบ เขารู้ว่าการแสร้งทำเป็นไร้ตัวตนในเวลานี้เป็นเรื่องที่ฉลาดที่สุด

แต่แล้วในขณะที่อวี้ฮ่าวหรานกำลังจะเอ่ยเตือนเรื่องอื่น ๆ ต่อ จู่ ๆ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นอย่างกะทันหัน!

“ฮ่าวหราน! เร็วเข้า…รีบมาช่วยลูกสาวของฉันที! เราโดนองค์กรอสรพิษจับได้!”

ทันทีที่รับสายโทรศัพท์ เสียงที่ตื่นตระหนกอย่างยิ่งจากปลายสายก็ดังขึ้น

“เกิดอะไรขึ้น!”

เสียงนั้นเป็นเสียงของเฉิงกัวอัน และอวี้ฮ่าวหรานก็ขมวดคิ้วทันทีเมื่อเขาได้ยินประโยคนี้!

องค์กรอสรพิษ!

องค์กรนี้ไม่ได้มาปรากฏตัวต่อหน้าเขานานแล้ว จนเขาคิดว่าพวกมันน่าจะกลัวจนไม่กล้าโผล่หัวมาอีก

“ฮี่ฮี่ แกคืออวี้ฮ่าวหรานสินะ? ฉันรู้ว่าแกห่วงใยไอ้สองคนนี้มาก ดังนั้นฉันจะให้โอกาสแกได้ช่วยพวกมัน จงมาที่ยอดตึกชางเหว่ยภายในหนึ่งชั่วโมง มิฉะนั้นแกจะได้เห็นศพของสองพ่อลูกนี้ปรากฏขึ้นกลางถนน!”

“แกเป็นใคร?”

เมื่ออวี้ฮ่าวหรานได้ยินสิ่งนี้ แววตาของเขาเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที!

ในตอนนี้ เขารู้สึกว่าเขาทำผิดพลาดอีกแล้วที่ไม่ฆ่าองค์กรนักฆ่านี้ไปให้หมด!

“ฉันเหรอ ฮ่าฮ่า แกสามารถเรียกฉันได้ว่า ‘อสรพิษเงิน’ และฉันเป็นรองเจ้าตำหนักคุมกฎขององค์กร ฉันขอชมเชยแกจริง ๆ ที่สามารถดึงดูดความสนใจของฉันได้ จนฉันต้องมาฆ่าแกด้วยตัวเองแบบนี้! อ้อ และแกมั่นใจได้เลยว่าเมื่อไหร่ที่แกตาย ฉันจะส่งครอบครัวของแกลงนรกตามแกไปด้วยเพื่อที่แกจะได้ไม่เหงา!”

เสียงปลายสายของโทรศัพท์นั้นเย็นชามาก และยิ่งเมื่อรวมกับการข่มขู่เยาะเย้ยก็ยิ่งทำให้ใครก็ตามที่ฟังสั่นกลัวได้อย่างง่ายดาย

แต่อวี้ฮ่าวหรานก็ไม่ได้ตื่นตระหนกเลย มีเพียงแค่ความโกรธเท่านั้นที่ปรากฏบนใบหน้าของเขา!

หลังจากวางสาย เขาเอ่ยลาสั้น ๆ กับผู้จัดการหวังและสวีเซี่ยงจวิน จากนั้นเขาก็เดินจากไปในทันที

ในเวลานี้ ผู้จัดการหวังรู้สึกหวาดกลัวอย่างไม่ทราบสาเหตุเมื่อเห็นแววตาเจ้านายของเขาเมื่อครู่

เขาพบว่าตัวเองมองประธานหนุ่มคนนี้ไม่ออกเลยว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นคนอย่างไร

สรุปแล้วประธานของเขาเป็นคนที่อ่อนโยนหรือว่าโหดเหี้ยมกันแน่?

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเขาจะคิดอะไร อวี้ฮ่าวหรานก็ขับรถออกไปเรียบร้อยแล้ว

อวี้ฮ่าวหรานขับรถไปถึงอาคารชางเหว่ยในเวลาเพียงสี่สิบนาที!

นี่เป็นบริษัทเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ห่างไกลจากชุมชน และอาคารก็ดูทรุดโทรมมาก

“ไม่ทราบว่าคุณมาติดต่อธุระรึเปล่า? แต่คุณช่วยเลื่อนรถเข้ามาจอดด้านในบริษัทของเราได้ไหม กรุณาอย่าจอดรถขวางประตูของบริษัทเรา”

รปภ. ที่ประตูเมื่อเห็นมีรถสุดหรูขับเข้ามา ทัศนคติของเขายังคงค่อนข้างสุภาพ ถึงแม้อวี้ฮ่าวหรานจะขับรถจอดขวางประตูเต็ม ๆ

แต่อวี้ฮ่าวหรานไม่สนใจอีกฝ่าย เขาเอ่ยขึ้นเสียงต่ำ

“หลีกไป!”

รปภ. ตกตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดนี้ เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเจ้าอารมณ์ได้ขนาดนี้

หลังจากได้สติแล้ว สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที!

“บัดซบ! ดูถูกกันมากไปแล้ว! คุณรู้ไหมว่าบริษัทของเราทำอะไร!”

รปภ. ตะโกนออกมาอย่างโกรธเคืองเมื่อได้ยินคำพูดของอวี้ฮ่าวหราน!

อวี้ฮ่าวหรานเหลือบมองอีกฝ่ายอย่างดูถูกและพูดคำสั้น ๆ

“องค์กรอสรพิษ?”

คำสั้น ๆ นี้ทำให้ รปภ. ดูเย็นชายิ่งขึ้นไปอีก!

“แกรู้ได้ยังไง! บัดซบ!”

เมื่ออวี้ฮ่าวหรานได้ยินสิ่งนี้ เจตนาฆ่าก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขาทันที!

รปภ. คนนี้น่าจะมาจากองค์กรอสรพิษ เห็นได้ชัดว่านี่อาจเป็นสาขาใหม่ขององค์กรอสรพิษ

ในเมื่อเป็นกรณีนี้ เขาจะทำลายที่นี่ให้พินาศ!

‘บรึม!’

โดยไม่รอให้อีกฝ่ายเริ่มก่อน อวี้ฮ่าวหรานก็เตะรปภ. อย่างรุนแรงจนกระเด็นไปกระแทกกับประตูรั้วเหล็กจนพังโครมลง!

อย่างไรก็ตาม รปภ. คนนี้เป็นผู้บ่มเพาะถึงระดับพลังภายในอย่างแน่นอน เพราะแม้ว่าเขาจะโดนเตะไปเต็ม ๆ เขาก็ยังคงมีแรงตะโกนสียงดัง

“มีคนบุกเข้ามา! มีคนบุกเข้ามา…”

‘กร๊อบ!’

แต่ก่อนที่เขาจะตะโกนเสร็จเป็นครั้งที่สอง อวี้ฮ่าวหรานก็พุ่งเข้าไปหาและเหยียบเข้าไปที่คอของอีกฝ่ายอย่างรุนแรงจนมีเสียงกระดูกคอหักดังลั่น!

คราวนี้เขาตั้งใจว่าจะฆ่าคนขององค์กรอสรพิษทั้งหมดจริง ๆ!

เหตุผลส่วนใหญ่ที่เฉิงกัวอันและเฉิงชิวอวี้ถูกจับตัวมาแบบนี้มันน่าจะมาจากความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างพวกเขากับอวี้ฮ่าวหราน ดังนั้นหากเขาไม่ฆ่าพวกองค์กรอสรพิษในวันนี้ให้หมด คราวหน้าอีกฝ่ายคงมุ่งเป้าไปที่ หลี่หรงและถวนถวนอย่างแน่นอน!

เขาจะปล่อยให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นไม่ได้!

“หาที่ตาย! กล้าดียังไงถึงบุกรุกบริษัทเราแบบนี้!”

ในเวลานี้ รปภ. จำนวนมากกว่าสองโหลได้หลั่งไหลออกมาจากตึกสำนักงานราวกับน้ำหลาก!

คนที่นำหน้าตะโกนอย่างโกรธจัด!

อวี้ฮ่าวหรานกวาดสายตามองไปรอบ ๆ และพบว่าผู้ชายที่นำหน้าสุดเป็นผู้บ่มเพาะขอบเขตพลังภายในขั้นกลาง ส่วนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนอื่น ๆ อย่างน้อยก็เกือบจะทะลวงขึ้นมามีพลังภายในแล้ว!

คนพวกนี้ไม่ธรรมดาเลยหากเทียบกับเกณฑ์ความแข็งแกร่งของโลกมนุษย์!

แค่คนไม่กี่สิบพวกนี้ก็เทียบได้กับความแข็งแกร่งของแก๊งพยัคฆ์เวหาทั้งหมดแล้ว!

หลังจากยืนยันว่านี่คือองค์กรอสรพิษสาขาใหม่ ดวงตาของอวี้ฮ่าวหราน ก็เย็นชายิ่งกว่าเดิม!

อีกฝ่ายรีบรุมล้อมเขา!

“รนหาที่ตาย! กล้าดียังไงมาบุกสาขาองค์กรอสรพิษของเรา! ฉันจะทำให้แกทรมานจนต้องร้องขอความตาย!”

ผู้นำกลุ่มตะโกนอย่างหยิ่งผยอง เขาไม่ปิดบังตัวตนอีกแล้วว่ามาจากองค์กรอสรพิษ

แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่รู้เลยว่า ตอนนี้ขาข้างหนึ่งของพวกเขาก้าวเข้าไปในยมโลกเรียบร้อวแล้ว!

อวี้ฮ่าวหรานพ่นลมหายใจอย่างเย็นชาก่อนจะหายตัวไปราวกับผี!

วินาทีถัดมา ฉากที่ทำให้ทุกคนตกตะลึงก็ปรากฏขึ้น!

เมื่อร่างที่หายไปปรากฏขึ้นอีกครั้ง อวี้ฮ่าวหรานก็คว้าคอผู้นำกลุ่มที่เป็นปรมาจารย์พลังภายในด้วยมือข้างหนึ่งแล้วยกขึ้น!

ดวงตาของนักฆ่าที่ปลอมตัวเป็นหัวหน้ารปภ. เบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ!

เขาคือปรมาจารย์พลังภายใน! ผู้ที่แข็งแกร่งใกล้จะขึ้นได้รับตำแหน่งเจ้าตำหนัก!

แต่ตอนนี้เขากลับถูกอีกฝ่ายคร่ากุมอย่างง่าย ๆ ได้ยังไง?

เรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น!

ทางด้านของอวี้ฮ่าวหรานก็เพิกเฉยต่ออาการสยองขวัญของอีกฝ่ายและเขาไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้พูดแม้แต่น้อย

‘กร๊อบ!’

หลังจากสิ้นเสียงกระดูกถูกบดละเอียด ปรมาจารย์พลังภายในผู้ที่เคยคิดว่าตัวเองแข็งแกร่งเหนือล้ำก็แน่นิ่งตาเหลือกและหมดลมหายใจในทันที!

‘ผลั่ก’

อวี้ฮ่าวหราน มองไปรอบ ๆ หลังจากโยนร่างไร้ชีวิตลงบนพื้น

“วันนี้พวกแกทั้งหมดจะต้องตาย!!”

อวี้ฮ่าวหรานพูดด้วยเสียงที่ไม่ดังมากนัก แต่พวกนักฆ่าต่างกลัวจนถอยกลับไปสองก้าว!

พวกเขาไม่เคยเห็นตัวตนที่น่ากลัวเช่นนี้มาก่อน!

“ก…แก! อย่าได้ใจไปนักนะโว้ย! ตัวตนระดับสูงขององค์กรเราอยู่ที่นี่ด้วย ถ้าขืนแกก้าวเข้ามาอีกแกตายแน่!”

หนึ่งในนั้นรวบรวมความกล้าตะโกนขึ้นขู่หวังว่ามันจะได้ผลบ้าง

“โอ้ ไอ้คนที่แกหวังพึ่งนี่แหละที่ฉันกำลังมองหาอยู่!”

อวี้ฮ่าวหรานพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา จากนั้นเขาก็โคจรพลังวิญญาณอย่างรวดเร็วและระเบิดคลื่นพลังออกไปทางด้านหน้าจนกวาดล้างพวกนักฆ่ายี่สิบกว่าคนพร้อม ๆ กันอย่างหมดจด

หลังจากจัดการกับพวกนักฆ่าด้านนอกตึกเรียบร้อย อวี้ฮ่าวหรานจึงค่อย ๆ เดินเข้าไปด้านในผ่านประตูกระจกที่แตกเละเทะหลังจากการปะทะเมื่อครู่

แต่แล้วเมื่ออวี้ฮ่าวหรานเข้าไปด้านในตึก เขาก็เห็นว่าที่ด้านในมีพวกพนักงานที่น่าจะเป็นคนธรรมดาไม่รู้อีโหน่อีเหน่จำนวนมากอยู่ด้วย คนพวกนี้ไม่มีคลื่นพลังแผ่ออกจากร่างกาย ดังนั้นอวี้ฮ่าวหรานจึงสรุปได้ทันทีว่าคนพวกนี้ไม่ใช่พวกที่ปลอมตัวมา ในเวลานี้พวกหนักงานเหล่านี้ต่างตื่นตระหนกและพากันวิ่งหนีเตลิดไปคนละทิศคนละทาง

บทที่ 340 ตำหนักคุมกฎ
บทที่ 340 ตำหนักคุมกฎ

อวี้ฮ่าวหรานไม่ได้ตั้งใจที่จะพูดไร้สาระกับอีกฝ่ายให้เปลืองน้ำลายโดยไม่จำเป็น เพราะเขาตั้งใจจะกวาดล้างองค์กรนักฆ่านี้ให้หมดไปจากโลกเพื่อยุติปัญหาที่อาจจะเกิดอีกในอนาคต!

องค์กรอสรพิษสร้างความรำคาญให้เขาหลายครั้งแล้ว เขาจึงไม่สามารถปล่อยให้องค์กรนี้ลอยนวลต่อไปได้อีก!

‘กร๊อบ!’

อวี้ฮ่าวหรานกระทืบไปที่แขนของอสรพิษเงินอีกครั้ง จนมีเสียงกระดูกแหลกดังลั่น!

อสรพิษเงินที่กำลังเสียสติอยู่นั้น เมื่อถูกกระทืบอีกครั้งเขาก็ได้สติจากความเจ็บปวดที่สั่งสมรุนแรง และตอบสนองทันที

“อ๊ากกก แขนฉัน! อ๊ากกก! ไอ้สารเลว!”

ความเจ็บปวดรุนแรงแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะทนได้ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เคยผ่านการฝึกทนการถูกทรมานมาก่อน ดังนั้นตอนนี้ใบหน้าของเขาจึงบิดเบี้ยวเพราะความเจ็บปวด

สีหน้าของอวี้ฮ่าวหรานนั้นเย็นชาอย่างยิ่ง

“ฉันถามแกหน่อย สาขาใหญ่ขององค์กรอสรพิษของแกอยู่ที่ไหน?”

“ส…สาขาใหญ่?”

อสรพิษเงินเบิกตากว้างเมื่อได้ยินเรื่องนี้ เขาไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายต้องการจะไปที่สาขาใหญ่ของพวกเขา!

‘กร๊อบ!’

อวี้ฮ่าวหรานขี้เกียจเกินกว่าจะพูดไร้สาระกับอีกฝ่าย เขายกเท้าขึ้นและกระทืบลงไปที่แขนอีกข้างของอสรพิษเงินอีกครั้ง!

กระดูกแขนอีกข้างของอสรพิษเงินแหลกในทันที!

“อ๊าก!! ฉันพูด! ฉันพูดแล้ว!!!”

อสรพิษเงินทนความเจ็บปวดไม่ไหว ใบหน้าของเขาซีดมาก และหน้าผากของเขาก็เต็มไปด้วยเหงื่อที่เย็นยะเยือก

“ต…แต่ฉันไม่รู้จักที่ตั้งของสาขาใหญ่จริง ๆ ฉันรู้แค่สถานที่ตั้งของตำหนักคุมกฎซึ่งมันอยู่แถวเมืองจงซิง ที่อยู่คือ…”

เขารีบบอกทุกอย่างที่เขารู้

หลังจากฟังคำอธิบายโดยละเอียดแล้ว อวี้ฮ่าวหรานก็เหลือบมองอีกฝ่าย และหลังจากยืนยันว่าข้อมูลที่ได้รับมาเป็นของจริง เขาก็กระทืบไปที่หน้าอกทำลายหัวใจของอสรพิษเงินจนแหลกเละ

คนที่มีจิตใจชั่วช้าบิดเบี้ยวแบบนี้ไม่คู่ควรอยู่บนโลกนี้อีกต่อไป!

“ฮ่าวหราน…คุณ…”

ถึงแม้ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอได้รับการช่วยเหลือ แต่เฉิงชิวอวี้ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกใจสั่นไหวเมื่อเห็นความแข็งแกร่งของคนที่เธอรักเหนือล้ำขนาดนี้

มีใครในโลกนี้ที่เทียบกับชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเธอได้รึเปล่า?

“ไปกันเถอะ!”

อวี้ฮ่าวหรานไม่ได้ตอบข้อสงสัยของอีกฝ่าย ตอนนี้เขาแค่อยากจะจัดการปัญหาองค์กรอสรพิษให้มันจบลงโดยเร็วที่สุด หรืออย่างน้อยในตอนนี้ ตำหนักคุมกฎอะไรนั่นจะต้องถูกทำลาย!

ไม่เช่นนั้นอีกฝ่ายคงโผล่หน้ามาก่อกวนเขาอีกแน่ในเวลาไม่นาน

หลังจากปลดเชือกของเฉิงกัวอัน อวี้ฮ่าวหรานก็โคจรพลังวิญญาณของเขาเข้าไปสลายพิษในร่างของอีกฝ่ายและปลุกให้ตื่น

“ย…อย่านะ! แกอย่าทำลูกของฉัน…”

ทันทีที่เฉิงกัวอันตื่นขึ้น เขาก็อุทานทันที ราวกับว่าเขายังคงจมอยู่ในเหตการณ์ก่อนที่เขาจะสลบไป

แต่เมื่อเขาเห็นลูกสาวของเขาและอวี้ฮ่าวหรานยืนอยู่ข้างหน้าเขา เขาก็ได้สติ

“ฮ่าวหราน…นายช่วยฉันอีกแล้วเหรอ?”

ดวงตาของเขาดูงุนงงเล็กน้อย จากนั้นเขาก็รู้ว่าสถานการณ์คลี่คลายแล้ว

“พ่อ! ใช่แล้ว! ฮ่าวหราน ช่วยชีวิตเราไว้อีกครั้งแล้ว!”

เฉิงชิวอวี้ช่วยพยุงพ่อของเธออย่างรวดเร็ว

“แล้ว… แล้วอสรพิษเงินขององค์กรอสรพิษล่ะ?”

แต่แล้วเมื่อเขากวาดสายตามองไปรอบ ๆ และเห็นศพของอสรพิษเงิน เขาก็เบนสายตากลับมามองที่ชายหนุ่มตรงหน้าเขาอย่างเหลือเชื่อ เขาตกตะลึงเกินบรรยาย

ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าชายหนุ่มที่เขาเคยคิดแค่จ้างเอาไว้ชั่วคราวให้ปกป้องลูกสาวของเขาจะไร้เทียมทานถึงขนาดฆ่าอสรพิษเงินได้แบบนี้!

“นั่นมัน…มันคืออสรพิษเงิน!”

เขาพึมพำด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ตั้งแต่ในอดีต อสรพิษเงินคนนี้เป็นตัวตนที่เขากลัวมาตลอด เขาเคยแม้กระทั่งฝันร้ายว่าถูกชายคนนี้จับตัวไปทรมานด้วยซ้ำ!

แต่เวลานี้…

“ตาย! ในที่สุดมันก็ตาย!”

เฉิงกัวอันมีน้ำตา เขามองไปที่ศพที่น่าสังเวช หัวใจของเขาตื่นเต้นอย่างท่วมท้น!

หลายปีแห่งความหวาดกลัวในใจฉัน หายไปแล้ว ไม่มีเหตุผลที่เขาจะต้องเก็บความขมขื่นอีกต่อไป

ในทางกลับกัน อวี้ฮ่าวหรานก็ไม่ได้คิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่อะไร เพราะในความคิดของเขาปรมาจารย์พลังภายในขั้นสูงสุดนั้นไม่ต่างอะไรกับมดที่เขาจะบี้ให้ตายเมื่อไหร่ก็ได้หากโผล่มาขวางทางเขา

อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาต่อไปสำคัญกว่า

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาจึงมองไปที่คู่พ่อลูกที่อยู่ข้างหน้าเขา

“พวกคุณกลับไปก่อนเถอะ ผมมีเรื่องต้องจัดการ”

เฉิงกัวอันพอจะเดาได้ทันทีว่า อวี้ฮ่าวหรานต้องการทำอะไรต่อ

“เรื่องที่นายกำลังจะไปจัดการ…มันเกี่ยวกับองค์กรอสรพิษใช่ไหม?”

“ถูกต้อง ผมจะไปตัดรากถอนโคนพวกมัน!”

“แต่…แต่ผู้นำองค์กรอสรพิษนั้นแข็งแกร่งเหนือล้ำจนไม่มีใครหยั่งถึงได้ ว่ากันว่าต่อให้ปรมาจารย์พลังภายในขั้นสูงสุดรุมเขานับสิบ เขาก็สามารถเอาชนะได้อย่างง่ายดาย ฉันเกรงว่า…”

“แล้วไง?”

อวี้ฮ่าวหรานรู้ว่าอีกฝ่ายกังวลแทนตัวเขา แต่เขามีความมั่นใจมากเกินพอ ดังนั้นเขาจึงพูดขัดจังหวะขึ้นและเดินนำลงไปข้างล่างทันที

หลังจากลงไปข้างล่าง เฉิงกัวอันก็ไม่ได้พยายามพูดโน้มน้าวให้หยุดอวี้ฮ่าวหรานอีกต่อไป

เขาเห็นความแน่วแน่และความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมในแววตาของอวี้ฮ่าวหราน ดังนั้นเขาจึงไม่คิดจะพูดห้ามอะไรอีกเพราะมันคงไม่มีประโยชน์

“งั้นพวกเรากลับก่อนแล้วกันนะ”

วันนี้เขาเพิ่งเข้าใจได้ถึงสิ่งหนึ่ง การที่คนอย่างเขาเอาตัวเองเป็นที่ตั้งและคิดแทนคนที่แข็งแกร่งไร้เทียมทานเช่นอวี้ฮ่าวหราน มันเป็นเรื่องที่ไร้สาระสิ้นดี

อวี้ฮ่าวหรานพยักหน้าตอบกลับ จากนั้นเขากลับขึ้นรถและขับออกไปอย่างรวดเร็ว

ที่อยู่ที่อสรพิษเงินให้มานั้นมันอยู่ในเมืองใกล้เคียง ซึ่งเขาต้องขับรถอย่างน้อยสองชั่วโมง ดังนั้นเขาจึงไม่อยากล่าช้าไปแม้เพียงครึ่งนาที

เฉิงกัวอันมองตามหลังอวี้ฮ่าวหราน จนรถสปอร์ตสีเหลืองหายไปจากสายตาแล้วจากนั้นเขาก็ถอนหายใจยาว

“เฮ้อ…คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะแข็งแกร่งขนาดนี้”

แต่ในขณะเดียวกันนี้ เฉิงชิวอวี้ก็กระตุกแขนเสื้อพ่อของเธอและแถมขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง

“พ่อ! ถ้าเรื่องในวันนี้ไม่เกิดขึ้น อีกนานไหมกว่าพ่อจะบอกหนูเกี่ยวกับความลับของพ่อ?”

เธอเพิ่งรู้วันนี้ว่าพ่อของเธอที่ใจดีกับเธอมาตลอด มีอดีตที่น่าระทึกใจเช่นนั้น

“พ่อ…เฮ้อ…”

เมื่อเฉิงกัวอันได้ยินเช่นนี้ เขาก็คิดเกี่ยวกับเรื่องในอดีตของตัวเองและตัดสินใจว่าวันนี้เขาควรบอกเรื่องทั้งหมดให้กับลูกสาวตัวเองได้รู้

“ที่พ่อไม่ได้บอกลูกเรื่องนี้ตั้งแต่แรกเพราะศัตรูแข็งแกร่งเกินไปและพ่อเกรงว่ามันจะส่งผลกระทบถึงลูก”

“คนพวกนี้แข็งแกร่งที่ไหนกัน? หนูไม่เห็นว่าฮ่าวหรานจะจัดการคนพวกนั้นลำบากตรงไหนเลย?”

เฉิงชิวอวี้งุนงงเนื่องจากเธอไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับพลังวิญญาณหรือพลังภายใน ดังนั้นเธอจึงคิดว่าพวกองค์กรอสรพิษนั้นไร้น้ำยา

“ลูกไม่เข้าใจหรอกว่าองค์กรอสรพิษทรงพลังแค่ไหน! พวกเขาเป็นองค์กรนักฆ่าที่ชั่วร้ายซึ่งมีสาขากระจายอยู่ถึงครึ่งหนึ่งของประเทศจีน!”

“แล้วไง หนูเป็นลูกสาวของพ่อ! หนูเคยแสดงความขี้ขลาดให้พ่อเห็นตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“ก็ได้! พ่อจะบอกรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งหมดเมื่อเรากลับถึงบ้าน!”

เฉิงกัวอันรู้สึกท้อแท้ เขารู้ว่าวันนี้เขาคงไม่สามารถปกปิดอะไรได้อีกแล้ว

ทั้งสองจึงขึ้นแท็กซี่กลับบ้านทันที

อีกด้านหนึ่ง อวี้ฮ่าวหรานกำลังเหยียบคันเร่งจนมิด!

ประสาทสัมผัสที่เฉียบแหลมทำให้เขาสามารถรับมือกับความเร็วของรถได้แบบสบาย ๆ

สองชั่วโมงต่อมา เขาก็ขับไปถึงเขตชานเมืองของเมืองถัดไปตามที่อยู่ที่อสรพิษเงินบอกมา

มีคฤหาสน์ขนาดใหญ่หลายหลังที่นี่

แม้ว่าคฤหาสน์พวกนี้ดูเหมือนว่าถูกสร้างขึ้นโดยคนรวยบางคน แต่ที่จริงแล้ว นี่คือฐานที่มั่นของตำหนักคุมกฎขององค์กรอสรพิษ!

แต่แล้วทันทีที่เขาหยุดรถ บรรดารปภ. ที่เฝ้าอยู่นอกกลุ่มคฤหาสน์ก็สังเกตเห็นเขาทันที!

ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]

ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]

Status: Ongoing
ในที่สุด… มหาจักรพรรดิแห่งมวลเทพ ‘อวี้ฮ่าวหราน’ ก็สามารถกลับมาที่โลกได้สำเร็จ.. ! 3 หมื่นปี เขาต้องติดอยู่ในดินแดนแห่งเทพเจ้านานถึง 3 หมื่นปีหลักจากตกหน้าผาและเกิดใหม่ในดินแดนเหนือจินตนาการ !!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท