บทที่ 342 ปีศาจ
บทที่ 342 ปีศาจ
อวี้ฮ่าวหรานมองไปที่คนที่โง่เขลาเหล่านี้อย่างขบขัน
“นี่พวกแกยังนึกไม่ออกอีกเหรอไงว่าฉันเป็นใคร? พวกแกไล่กัดฉันเหมือนหมาบ้ามาหลายรอบแล้ว และล่าสุดพวกแกก็ส่งไอ้อสรพิษเงินนั่นมาให้ฉันกระทืบตาย คราวนี้พวกแกนึกออกแล้วหรือยัง?”
“ก…แกคืออวี้ฮ่าวหราน!!”
ในที่สุด เมื่อได้ยินชื่อรองเจ้าตำหนัก นักฆ่าชุดดำที่อยู่ในขอบเขตพลังภายในขั้นสูงก็ตาเบิกโพลงด้วยความตกตะลึง!
เขาคือคนที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในระดับสูงของตำหนักคุมกฎ ดังนั้นจึงรู้ข้อมูลว่ารองเจ้าตำหนักออกไปทำภารกิจสังหารใครเมื่อล่าสุดนี้
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้รองเจ้าตำหนักอสรพิษเงินไม่ได้กลับมา แต่อีกฝ่ายกลับโผล่มาแทน…
นี่มันหมายความว่ายังไงกัน?!
“แกฆ่ารองเจ้าตำหนักของเราไปแล้วเหรอ!?”
ถึงกระนั้น เขาก็ยังไม่ค่อยอยากจะเชื่อการคาดเดาของตัวเองนัก
ผู้ชายที่อยู่ข้างหน้าเขาอายุแค่ยี่สิบต้น ๆ เท่านั้นเอง
เป็นไปได้อย่างไรที่ชายหนุ่มอายุแค่นี้สามารถฆ่ารองเจ้าตำหนักอสรพิษเงินที่อยู่ในขอบเขตพลังภายในขั้นสูงสุดได้?
“นี่แกเป็นเฒ่าปีศาจอายุร้อยปีที่เอาหนังมนุษย์มาสวมหรือไง!?”
เขามองที่ใบหน้าของอวี้ฮ่าวหรานอย่างสับสน ทั้งความแข็งแกร่งและอารมณ์ที่ไม่สั่นไหวของชายหนุ่มนั้นไม่สอดคล้องกับรูปลักษณ์ภายนอกที่อายุน้อยเป็นอย่างมาก
“ฉีกหนังมนุษย์ที่แกสวมออกซะ! ฉันมีสิทธิ์ที่จะรู้ว่าแกเป็นปีศาจเฒ่าแบบไหนที่มาจัดการกับพวกเรา!”
อวี้ฮ่าวหรานพูดไม่ออกไปชั่วขณะ
ปีศาจเฒ่า??
แม้ว่าตัวเองจะอาศัยอยู่ในดินแดนแห่งเทพมานานกว่าสามหมื่นปี แต่เขาก็มีอายุเพียง 24 ปีเท่านั้นในโลกมนุษย์ แต่ตอนนี้อีกฝ่ายกลับเรียกเขาว่าปีศาจเฒ่าเนี่ยนะ?
แต่ถ้ามองในมุมที่เอาอายุของทั้งสองโลกมารวมกัน ชายหนุ่มก็คงเป็นปีศาจเฒ่าจริง ๆ ซึ่งเรื่องนี้เขาคงเถียงไม่ได้…
“หยุดไร้สาระสักที รีบไปเรียกเจ้าตำหนักของแกออกมาได้แล้ว ฉันไม่อยากไล่ฆ่าพวกแกทีละคนให้เสียเวลา มันน่าเบื่อ!”
วันนี้สิ่งที่เรียกว่าตำหนักคุมกฎ เขาจะต้องทำลายมันให้หมดอย่างแน่นอน!
“ฮึ่ม! ถึงแม้ว่าแกจะแข็งแกร่ง แต่อย่าคิดว่าพวกเราจะกลัวแก! พวกเราโจมตี!”
เมื่อเห็นว่าคงไม่สามารถเจรจาอะไรกันได้อีก นักฆ่าชุดดำก็พ่นลมหายใจ ก่อนที่จะโบกมือสั่งคนของตัวเองทั้งหมดให้รุมอวี้ฮ่าวหราน ทันที
ด้วยคำสั่ง นักฆ่าขอบเขตพลังภายในมากกว่าหนึ่งโหลที่ล้อมรอบอวี้ฮ่าวหรานอยู่ต่างพึมพำคาถาบางอย่างและโบกมือไปมาอย่างพร้อมเพรียง!
แค่เวลาเพียงเสี้ยวพริบตาในขณะที่พวกนักฆ่าท่องคาถา หมอกพิษสีเขียวอ่อนค่อย ๆ แพร่กระจายออกจากแขนเสื้อของพวกเขา!
เมื่อเห็นเช่นนี้ อวี้ฮ่าวหรานก็รู้สึกถึงความแปลกประหลาดของหมอกพิษนี้
“หืม? หมอกพิษนี้สามารถกัดกร่อนพลังวิญญาณของฉันได้ด้วย? ของดีนี่นา!”
เขาสัมผัสได้ถึงพลังกัดกร่อนของหมอกพิษนี้ ซึ่งทำให้ชายหนุ่มแปลกใจนิดหน่อย
อย่างไรก็ตาม คำพูดนี้กลับเป็นเหมือนการดูถูกอย่างสุดแสนต่อพวกนักฆ่าองค์กรอสรพิษ!
“ไอ้เฒ่าปีศาจ แกอย่าปากดีให้มากนัก! ถึงแม้ว่าแกจะแข็งแกร่ง แต่ตราบใดที่อยู่ในขอบเขตพลังภายใน แกก็ไม่มีทางรอดจากสุดยอดพิษของพวกเราได้แน่!”
แววตาของนักฆ่าชุดดำที่เป็นผู้นำนั้นดูถูกเหยียดหยามอย่างยิ่ง เขาไม่รู้ว่าพลังวิญญาณคืออะไร เขาคิดแค่ว่ามันน่าจะเป็นอีกชื่อหนึ่งของพลังภายใน
ในไม่ช้า หมอกพิษที่ล่องลอยอยู่ก็ค่อย ๆ ควบแน่น และในที่สุดมันก็เปลี่ยนรูปร่างเป็นงูพิษสีเขียวอ่อนตัวขนาดมหึมาลอยอยู่
มันดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก…
แต่ขนาดค่ายกลที่นับได้ว่ายอดเยี่ยมในโลกนี้ของอู๋หลั่น อวี้ฮ่าวหรานยังสามารถทำลายมันได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นค่ายกลแบบนี้ที่อ่อนแอกว่าอย่างชัดเจนจะทำอะไรอวี้ฮ่าวหรานได้?
“ภายนอกดูดี แต่น่าเสียดายที่แก่นแท้ของมันกลับกลวงโบ๋!”
อวี้ฮ่าวหรานไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เนตรเทวะเพ่งหาจุดอ่อนด้วยซ้ำ เขาโคจรพลังวิญญาณและโบกมือซัดคลื่นพลังวิญญาณมหาศาลถาโถมเข้าหางูพิษยักษ์โดยตรง!
วินาทีถัดมา เมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า ทำให้พวกนักฆ่าต่างตะลึงพรึงเพริด
เงาพิษยักษ์ที่เกิดจากหมอกพิษที่ควบแน่น แทนที่จะกลืนพลังวิญญาณของอวี้ฮ่าวหรานเข้าไป มันกลับถูกบดขยี้ด้วยคลื่นพลังวิญญาณอันมหาศาลซะเอง!
“น…นี่มันบ้าอะไรกัน!!”
“มันเป็นไปได้ยังไง!?”
เมื่อเห็นฉากที่น่าทึ่งนี้ นักฆ่าทุกคนก็ตกตะลึง!
แต่คลื่นพลังวิญญาณของอวี้ฮ่าวหรานก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น คลื่นพลังยังคงแผ่กระจายกวาดล้างต่อไปอย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุดลง!
บรึ้ม!
บรรดานักฆ่าชุดดำต่างโคจรพลังของตัวเองเพื่อสร้างเกราะป้องกันทันทีอย่างเร่งรีบ เมื่อพวกเขารู้สึกได้ถึงพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่กำลังถาโถมเข้าหา!
นี่ไม่ใช่พลังที่ผู้บ่มเพาะขอบเขตพลังภายในควรจะมีเลย!
ความคิดนี้แวบเข้ามาในหัวของเขา ก่อนที่ร่างของพวกนักฆ่าทั้งหมดจะถูกกระแทกจนปลิวไปราวกับว่าวสายป่านขาด!
วินาทีถัดมา ค่ายกลงูพิษยักษ์ก็แตกสลายไปจนหมดสิ้น!
แค่การระเบิดคลื่นพลังวิญญาณเพียงครั้งเดียว อวี้ฮ่าวหรานก็สามารถสังหารเหล่านักฆ่าชุดดำที่เพิ่งช่วยกันประสานค่ายกลจนหมด!
ในท้ายที่สุดก็เหลือเพียงผู้ที่เป็นผู้นำกลุ่มเท่านั้น
“เจ้าตำหนักของแกอยู่ที่ไหน?”
อวี้ฮ่าวหรานพุ่งเข้าไปประชิดตัวและกุมคออีกฝ่ายอย่างง่ายดาย
“ฉัน…ฉันไม่รู้”
ดวงตาของผู้นำกลุ่มนักฆ่าเต็มไปด้วยความสยดสยอง เขาไม่เคยเห็นใครที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้มาก่อน มันเหมือนกับว่าอีกฝ่ายเป็นเทพสวรรค์ที่เสด็จลงมายังโลก และทำลายค่ายกลของพวกเขาตามความประสงค์
ในเวลานี้เองที่เขาเพิ่งเข้าใจว่าองค์กรอสรพิษของเขาได้ยั่วยุตัวตนที่พวกเขาไม่อาจต่อกรได้เข้าให้แล้ว!
ไม่น่าแปลกใจที่รองเจ้าตำหนักอสรพิษเงินจะตายไปอย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตาม อวี้ฮ่าวหรานก็ไม่ได้สนใจว่าอีกฝ่ายจะตกใจกลัวมากขนาดไหน เขาถามขึ้นอีกรอบอย่างเย็นชา
“แกแน่ใจนะว่าแกไม่รู้?”
“ฉัน…อ๊ากกก! ไม่…”
นักฆ่าต้องการจะปฏิเสธ แต่จู่ ๆ แขนของเขาก็ถูกบีบจนกระดูกแหลก แล้วก็กรีดร้องทันที
“แกฆ่าฉัน แกฆ่าฉันซะเลยสิ!!”
ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้ใบหน้าของเขาซีดเซียวและมีเหงื่อออกทั่วหน้าผากของเขา!
กร๊อบ!
อวี้ฮ่าวหรานไม่ได้เชื่อคำพูดของอีกฝ่ายแม้แต่น้อย และค่อย ๆ ไล่บีบแขนของอีกฝ่ายไปเรื่อย ๆ ราวกับว่าจะบดกระดูกแขนทั้งแขนให้แหลกเละทุกตารางนิ้ว
“แกสามารถเลี่ยงความเจ็บปวดได้ ถ้าแกยอมพูดความจริง”
ตราบใดที่อวี้ฮ่าวหรานจ้องมองอย่างตั้งใจ เขาก็สามารถบอกได้อย่างง่ายดายว่าอีกฝ่ายกำลังโกหกหรือไม่
“ฉัน…ฉันยอมบอกแล้ว!”
ในที่สุดนักฆ่าก็ทนไม่ไหว และพูดออกมาอย่างสั่นสะท้าน
“เจ้าตำหนักของเรากำลังฝึกอยู่ในห้องใต้ดิน ใต้คฤหาสน์กลาง”
“ยอมบอกมาตั้งแต่แรกก็จบแล้ว ทนทรมานให้ฉันเสียเวลาไปทำไม?”
อวี้ฮ่าวหรานมองอีกฝ่ายอย่างดูถูก คนบางคนไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา!
เมื่อได้ข้อมูลที่ต้องการมาเรียบร้อย ชายหนุ่มก็ไม่อยากพูดไร้สาระกับอีกฝ่ายอีก อวี้ฮ่าวหรานจัดการหักคออีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว และโยนศพทิ้งไปอย่างไม่แยแส
สำหรับคนเหล่านี้เขาไม่จำเป็นต้องให้เกียรติ
องค์กรนักฆ่าได้สังหารผู้บริสุทธิ์จำนวนนับไม่ถ้วน
คนในองค์กรนี้ไม่สมควรมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ต่อไปอีก
หลังจากรู้ตำแหน่งที่แน่นอนของเจ้าตำหนักคุมกฎ อวี้ฮ่าวหรานก็วิ่งรีบไปที่คฤหาสน์กลางอย่างรวดเร็ว
ระหว่างทาง หากมีพวกนักฆ่าคนไหนเข้ามาขวางทาง เขาก็จะฆ่าพวกมันจนไม่เหลือแม้แต่คนเดียว!
โครม!
ด้วยการซัดพลังวิญญาณเข้าใส่ ประตูของคฤหาสน์ก็พังทลายลงทันที!
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เขาก้าวเข้าไป ลูกศรพิษจากหน้าไม้อันเขื่องหลายสิบลูกก็พุ่งเข้ามาแทบจะพร้อมกัน!
ลูกศรหน้าไม้พวกนี้หากถูกยิงจากระยะไม่ไกล ความเร็วของพวกมันจะเร็วกว่าลูกปืนธรรมดาซะอีก หากเป็นคนธรรมดาคงโดนยิงจนพรุนโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโดนอะไรเข้าไปและตายโดยที่ไม่มีโอกาสตอบโต้เลย
แต่สำหรับอวี้ฮ่าวหราน ความเร็วของลูกศรพิษจากหน้าไม้เหล่านี้ไม่ใช่ภัยคุกคามเลย!
เขาโบกมืออย่างรวดเร็วซัดคลื่นพลังวิญญาณให้กระจายไปทั่วด้านหน้า!
ลูกศรพิษที่พุ่งเข้ามาอย่างรุนแรงแตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ ทันทีเมื่อสัมผัสกับคลื่นพลังวิญญาณของอวี้ฮ่าวหราน!
“นี่! นี่มันเป็นสัตว์ประหลาดหรือเปล่า!?”
“ไม่…เป็นไปไม่ได้!”
ถึงแม้ว่านักฆ่าพวกนี้จะได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี แต่พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาเมื่อได้เห็นฉากที่น่ากลัวเช่นนี้
“การโจมตีของพวกแกจบแล้วเหรอ?”
อวี้ฮ่าวหรานมองไปที่เหล่านักฆ่าที่ถือหน้าไม้อยู่อย่างเยาะเย้ย และเจตนาฆ่าก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา!
“ถ้างั้นก็ตาฉันบ้างละนะ!”
บทที่ 341 กวาดล้าง
บทที่ 341 กวาดล้าง
“ท่านครับ นี่เป็นเขตคฤหาสน์ส่วนตัว โปรดกลับรถถอยไปด้วย”
เมื่อเห็นรถซูเปอร์คาร์สุดหรูสีเหลือง รปภ. สองคนก็เดินเข้ามาคุยกับอวี้ฮ่าวหรานอย่างสุภาพทันที
แต่อวี้ฮ่าวหรานกลับไม่สนใจที่จะพูดไร้สาระกับคนเหล่านี้ เขาใช้เนตรเทวะสำรวจร่างกายรปภ. สองคนนี้ทันที และเขาก็ได้พบรอยสักรูปองค์กรอสรพิษที่แขนของคนทั้งสองซึ่งอยู่ใต้แขนเสื้อ
เห็นได้ชัดว่าอสรพิษเงินไม่ได้โกหกเขา
“คุณครับ?”
เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มที่อยู่ในรถไม่ตอบสนอง รปภ. ทั้งสองก็มองหน้ากันอย่างสับสนและถามอีกครั้ง
พวกเขาไม่มีทางเปิดเผยการมีอยู่ขององค์กรอย่างง่ายดายแน่นอน
แต่หลังจากที่อวี้ฮ่าวหรานรู้แล้วว่าอีกฝ่ายเป็นใคร เขาก็ไม่สนใจที่จะพูดไร้สาระกับคนสองคนนี้อีก เขาเปิดประตูลงจากรถ
“ฉันมาฆ่าเจ้าตำหนักของพวกแก! ถ้ายังไม่อยากตายก็ออกไปให้พ้นหน้าฉัน!”
เขาพูดอย่างดูถูกและเย็นชา
ยังไงอีกฝ่ายก็ต้องตาย!
ตำหนักคุมกฎขององค์กรอสรพิษนี้อยู่ใกล้กับเมืองฮ่วยอันมากเกินไป หากเขายังปล่อยให้มีภัยคุกคามนี้ดำรงอยู่ อีกไม่นานเขาคงถูกโจมตีอีกรอบ!
ทันทีที่ได้ยินคำพูดของอวี้ฮ่าวหราน สีหน้าของรปภ. ทั้งสองคนก็เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน!
อย่างไรก็ตาม หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง พวกเขาก็แสร้งทำเป็นสงบ “ท่านครับ รบกวนออกไปเดี๋ยวนี้ เราไม่รู้ว่าองค์กรอสรพิษที่ท่านพูดถึงคืออะไร!”
อวี้ฮ่าวหราน ไม่แปลกใจกับการโต้แย้งนี้ ตามปกติแล้วพวกองค์กรนักฆ่าย่อมถูกหมายหัวโดยญาติของผู้ที่เคยเป็นเหยื่อมากมาย หากต้องการอยู่อย่างปลอดภัย องค์กรพวกนี้จะต้องซ่อนตัวเองให้แนบเนียนที่สุด
แต่การซ่อนตัวทุกรูปแบบไร้ประโยชน์เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา!
“ในเมื่อไม่หลีกก็ตายไปซะ!”
ทันทีที่พูดจบ อวี้ฮ่าวหรานก็ชกหมัดเข้าใส่หนึ่งในรปภ. อย่างรุนแรงทันที!
‘ปัง!’
ด้วยการชก รปภ.ผู้โชคร้ายร่างละลิ่วพร้อมกับวิญญาณก็หลุดออกจากร่างอย่างไม่มีใครช่วยได้
“ก…แกกล้าดียังไงมายุ่งกับพวกเรา! หาที่ตาย!”
เมื่อเห็นอีกฝ่ายกล้าลงมือก่อน รปภ. ก็แสดงสีหน้าเย็นชาทันที!
“ฮึ่ม! มดแมลงกล้าอวดดีต่อหน้าข้าผู้นี้งั้นเหรอ!!”
อวี้ฮ่าวหรานพ่นลมหายใจ แต่เพียงแค่ชั่วอึดใจเขาก็เห็นว่ามีรปภ. อีกหลายสิบคนที่กำลังเดินลาดตระเวนอยู่นอกกลุ่มคฤหาสน์วิ่งกรูเข้ามาหาเขา!
ต่างจากรปภ. ทั่วไป คนพวกนี้ล้วนแต่เป็นผู้บ่มเพาะที่เกือบจะทะลวงขึ้นมาเป็นปรมาจารย์พลังภายใน ในเวลานี้ พวกเขาก็พุ่งเข้ามาด้วยมีดในมือ ซึ่งน่ากลัวกว่าคนธรรมดาถือปืนมาก!
ภายในไม่กี่วินาที อวี้ฮ่าวหรานก็ถูกล้อมจากทุกด้าน
“แกรู้ได้อย่างไรว่าที่นี่คือองค์กรอสรพิษ!?”
คนที่เป็นผู้นำกลุ่มรปภ. เป็นปรมาจารย์พลังภายในขั้นต้น และสีหน้าของเขาก็ดูดุดันมากในขณะนี้
เขาไม่อาจยอมให้คนนอกรู้ได้ว่าที่นี่คือสถานที่ที่พวกเขากำลังซุ่มซ่อนอยู่
หากคนนอกคนใดที่รู้ความลับนี้ เขาจำเป็นต้องกำจัดในทันที!
“เหอะ ๆ ฉันรู้ได้ยังไงน่ะเหรอ?”
แม้ว่ากำลังเผชิญหน้าอยู่กับนักฆ่ามืออาชีพมากกว่าสามสิบคนที่ปลอมตัวเป็นรปภ. อวี้ฮ่าวหรานก็ยังคงแสดงท่าทางดูถูกเหยียดหยาม
“แน่นอนว่ามันเป็นเพราะไอ้คนที่เรียกตัวเองว่าอสรพิษเงินอะไรนั่น มันบอกฉันมาก่อนที่จะฉันจะกระทืบมันจนตาย! เอ๊ะ ว่าแต่พวกแกรู้รึเปล่าว่ามันเพิ่งถูกส่งออกไปทำภารกิจอะไร?”
ขณะที่เขาพูด สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นหยอกล้อกับอีกฝ่าย
“รองเจ้าตำหนักอสรพิษเงินตายแล้ว?? นี่มัน…”
ปรมาจารย์พลังภายในที่เป็นผู้นำสีหน้าเปลี่ยนในทันทีเมื่อได้ยินเรื่องนี้ เขาไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่เพิ่งได้ยิน
“เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน! รองเจ้าตำแหนักเป็นผู้ที่อยู่ในขั้นสูงสุดของพลังภายใน คนอย่างแกไม่มีทางฆ่ารองเจ้าตำหนักได้สำเร็จแน่นอน!”
“แกเข้าใจผิดแล้ว ไอ้อสรพิษเงินอะไรนั่นมันตายอย่างน่าอนาถมากเลยเชียวละ!”
อวี้ฮ่าวหราน กล่าวอย่างเยาะเย้ยพลางมองไปที่ฝ่ายตรงข้าม!
“แต่ถ้าแกไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรเพราะอีกเดี๋ยวแกก็จะได้รู้ความจริงอยู่ดีหลังจากลงไปอยู่ในนรกกับมัน!”
เมื่อพูดจบประโยคนี้ อวี้ฮ่าวหรานระเบิดกลิ่นอายสังหารหนาแน่นออกมา!
เหล่านักฆ่ารู้สึกใจสั่นรุนแรงอย่างกะทันหัน มันเหมือนกับว่าพวกเขากำลังยืนอยู่ตรงหน้าพระเจ้าที่ไม่อาจต้านทานได้!
“น…นี่มันเวทมนตร์หรือบ้าอะไรเนี่ย! แต่แกคิดว่าคำพูดไร้สาระสองสามคำของแกจะสามารถรบกวนจิตใจของเราได้เหรอ…”
หลังจากปรับอารมณ์อยู่ครู่หนึ่ง บรรดานักฆ่าก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขามีจิตใจที่มั่นคงแค่ไหน แต่ยังไม่ทันจะพูดจบ หนึ่งในพวกนักฆ่าก็ถูกอวี้ฮ่าวหรานกุมคอเอาไว้ ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าเขาโผล่มากลางวงแบบนี้ได้ยังไง!
“ฉันเบื่อที่จะพูดกับพวกแกแล้ว ในเมื่อพวกแกไม่หลีกไป ถ้างั้นก็ลงไปอยู่ในนรกกับไอ้อสรพิษเงินนั่นซะ!”
“กร๊อบ!”
หลังจากพูดจบ อวี้ฮ่าวหรานก็หักคออีกฝ่ายทันทีและโยนทิ้งราวกับโยนขยะ ก่อนที่จะหันไปกวาดสายตามองนักฆ่าอีกสามสิบกว่าคนที่อยู่รอบ ๆ ด้วยแววตาเย็นชา!
“วันนี้! พวกแกทั้งหมดต้องตาย!”
เหล่านักฆ่าที่เคยภาคภูมิใจในความแข็งแกร่งของตัวเอง เมื่ออยู่ต่อหน้าพลังวิญญาณอันทรงพลังของอวี้ฮ่าวหราน พวกเขานั้นก็ไม่ต่างอะไรกับมดที่รอการถูกบดขยี้เลย!
หลังจากนั้นไม่กี่นาทีบรรยากาศรอบ ๆ ก็กลับมาเงียบลงอีกครั้ง!
และในขณะเดียวกันนี้ ประตูรั้วกำแพงก็ถูกเปิดออก และร่างสีดำจำนวนหนึ่งก็พุ่งออกมาจากด้านใน!
คนเหล่านี้เป็นผู้บ่มเพาะขอบเขตพลังภายในอย่างแท้จริง!
เมื่อถูกล้อมอีกรอบด้วยคนมากกว่าหนึ่งโหล อวี้ฮ่าวหรานก็ประหลาดใจเล็กน้อยกับความแข็งแกร่งของตำหนักคุมกฎแห่งนี้
เขาปะทะกับองค์กรอสรพิษนี้มาหลายครั้งแล้ว และฆ่าเจ้าตำหนักของอีกฝ่ายไปหลายคน ดังนั้นเขาจึงพอเดาโครงสร้างขององค์กรนี้ได้แบบคร่าว ๆ ว่าคนที่อยู่ในขอบเขตพลังภายในนั้นมีคุณสมบัติพอจะเป็นเจ้าตำหนักได้ แต่ในทางกลับกัน ตำหนักคุมกฎนี้กลับมีเหล่าผู้คนที่มีคุณสมบัติพอจะดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าตำหนักได้แบบสบาย ๆ อยู่ในสังกัดมากกว่าสิบคน เห็นได้ชัดว่าตำหนักคุมกฎนี้น่าจะเป็นฝ่ายที่มีอำนาจมากที่สุดรองจากคนที่เป็นผู้นำองค์กรนี้
“รนหาที่ตาย!”
ทันทีที่พวกคนขององค์กรอสรพิษเห็นสภาพที่เละเทะด้านนอก พวกเขาต่างก็โกรธจัด!
ทันใดนั้นโดยไม่ทราบว่าใช้วิธีใด งูพิษจำนวนนับไม่ถ้วนที่มีสีสันแตกต่างกันก็ปรากฏขึ้นจากกอหญ้าที่อยู่รอบ ๆ!
หากเป็นคนธรรมดาเมื่อถูกงูนับพันตัวล้อมไว้แบบนี้ คนผู้นั้นก็คงกลัวจนทรุดตัวลงไปที่พื้นทันที
“ตอนนี้มันสายเกินไปแล้วที่แกจะเสียใจ! ไอ้หนู โทษที่แกต้องรับจากการมาสร้างปัญหาให้องค์กรอสรพิษของเราคือตายสถานเดียว!”
นักฆ่าที่อยู่ในขอบเขตพลังภายในขั้นสูงเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา!
อวี้ฮ่าวหรานกวาดสายตามองไปที่งูพิษรอบตัวเขาอย่างไร้อารมณ์ เห็นได้ชัดว่าเดรัจฉานพวกนี้ได้รับการฝึกและเลี้ยงดูมาเป็นพิเศษ พวกมันจึงมีขนาดใหญ่เป็นพิเศษและมีสีที่ดูสว่างกว่างูทั่วไป
คนธรรมดาคงจะตายในไม่กี่วินาทีหากถูกงูพิษพวกนี้กัด!
แต่น่าเสียดายที่งูน้อยพวกนี้กำลังเผชิญอยู่กับอวี้ฮ่าวหราน!
อวี้ฮ่าวหรานโคจรพลังวิญญาณอย่างรุนแรง จากนั้นเขาจึงสะบัดมือปล่อยคลื่นพลังวิญญาณแผ่กระจายออกไปทุกทิศทางอย่างรวดเร็ว กลายเป็นคลื่นที่มองไม่เห็นและกวาดไปรอบ ๆ!
‘บรึม!!’
ภายใต้ความรุนแรงของคลื่นพลังวิญญาณ ทั้งต้นหญ้าและงูที่อยู่รอบ ๆ รัศมีสามสิบเมตรก็ถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในทันที!
พวกปรมาจารย์พลังภายในที่กำลังจะลงมือเช่นกัน ต่างก็ตัวแข็งค้างเมื่อพวกเขาเห็นฉากนี้!
แม้แต่ปรมาจารย์พลังภายในขั้นสูงก็ไม่อาจทำอะไรแบบนี้ได้!
“แกเป็นใครกันแน่!? ทำไมแกถึงมาสร้างปัญหาให้เราแบบนี้!”
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งเกินกว่าที่คิดไว้ หนึ่งในปรมาจารย์พลังภายในจึงเอ่ยถามขึ้นอย่างระมัดระวัง
“ฉันบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าฉันมาที่นี่เพื่อฆ่าพวกแกและเจ้าตำหนักของพวกแก!”
อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าดูถูก
