บทที่ 341 กวาดล้าง
บทที่ 341 กวาดล้าง
“ท่านครับ นี่เป็นเขตคฤหาสน์ส่วนตัว โปรดกลับรถถอยไปด้วย”
เมื่อเห็นรถซูเปอร์คาร์สุดหรูสีเหลือง รปภ. สองคนก็เดินเข้ามาคุยกับอวี้ฮ่าวหรานอย่างสุภาพทันที
แต่อวี้ฮ่าวหรานกลับไม่สนใจที่จะพูดไร้สาระกับคนเหล่านี้ เขาใช้เนตรเทวะสำรวจร่างกายรปภ. สองคนนี้ทันที และเขาก็ได้พบรอยสักรูปองค์กรอสรพิษที่แขนของคนทั้งสองซึ่งอยู่ใต้แขนเสื้อ
เห็นได้ชัดว่าอสรพิษเงินไม่ได้โกหกเขา
“คุณครับ?”
เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มที่อยู่ในรถไม่ตอบสนอง รปภ. ทั้งสองก็มองหน้ากันอย่างสับสนและถามอีกครั้ง
พวกเขาไม่มีทางเปิดเผยการมีอยู่ขององค์กรอย่างง่ายดายแน่นอน
แต่หลังจากที่อวี้ฮ่าวหรานรู้แล้วว่าอีกฝ่ายเป็นใคร เขาก็ไม่สนใจที่จะพูดไร้สาระกับคนสองคนนี้อีก เขาเปิดประตูลงจากรถ
“ฉันมาฆ่าเจ้าตำหนักของพวกแก! ถ้ายังไม่อยากตายก็ออกไปให้พ้นหน้าฉัน!”
เขาพูดอย่างดูถูกและเย็นชา
ยังไงอีกฝ่ายก็ต้องตาย!
ตำหนักคุมกฎขององค์กรอสรพิษนี้อยู่ใกล้กับเมืองฮ่วยอันมากเกินไป หากเขายังปล่อยให้มีภัยคุกคามนี้ดำรงอยู่ อีกไม่นานเขาคงถูกโจมตีอีกรอบ!
ทันทีที่ได้ยินคำพูดของอวี้ฮ่าวหราน สีหน้าของรปภ. ทั้งสองคนก็เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน!
อย่างไรก็ตาม หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง พวกเขาก็แสร้งทำเป็นสงบ “ท่านครับ รบกวนออกไปเดี๋ยวนี้ เราไม่รู้ว่าองค์กรอสรพิษที่ท่านพูดถึงคืออะไร!”
อวี้ฮ่าวหราน ไม่แปลกใจกับการโต้แย้งนี้ ตามปกติแล้วพวกองค์กรนักฆ่าย่อมถูกหมายหัวโดยญาติของผู้ที่เคยเป็นเหยื่อมากมาย หากต้องการอยู่อย่างปลอดภัย องค์กรพวกนี้จะต้องซ่อนตัวเองให้แนบเนียนที่สุด
แต่การซ่อนตัวทุกรูปแบบไร้ประโยชน์เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา!
“ในเมื่อไม่หลีกก็ตายไปซะ!”
ทันทีที่พูดจบ อวี้ฮ่าวหรานก็ชกหมัดเข้าใส่หนึ่งในรปภ. อย่างรุนแรงทันที!
‘ปัง!’
ด้วยการชก รปภ.ผู้โชคร้ายร่างละลิ่วพร้อมกับวิญญาณก็หลุดออกจากร่างอย่างไม่มีใครช่วยได้
“ก…แกกล้าดียังไงมายุ่งกับพวกเรา! หาที่ตาย!”
เมื่อเห็นอีกฝ่ายกล้าลงมือก่อน รปภ. ก็แสดงสีหน้าเย็นชาทันที!
“ฮึ่ม! มดแมลงกล้าอวดดีต่อหน้าข้าผู้นี้งั้นเหรอ!!”
อวี้ฮ่าวหรานพ่นลมหายใจ แต่เพียงแค่ชั่วอึดใจเขาก็เห็นว่ามีรปภ. อีกหลายสิบคนที่กำลังเดินลาดตระเวนอยู่นอกกลุ่มคฤหาสน์วิ่งกรูเข้ามาหาเขา!
ต่างจากรปภ. ทั่วไป คนพวกนี้ล้วนแต่เป็นผู้บ่มเพาะที่เกือบจะทะลวงขึ้นมาเป็นปรมาจารย์พลังภายใน ในเวลานี้ พวกเขาก็พุ่งเข้ามาด้วยมีดในมือ ซึ่งน่ากลัวกว่าคนธรรมดาถือปืนมาก!
ภายในไม่กี่วินาที อวี้ฮ่าวหรานก็ถูกล้อมจากทุกด้าน
“แกรู้ได้อย่างไรว่าที่นี่คือองค์กรอสรพิษ!?”
คนที่เป็นผู้นำกลุ่มรปภ. เป็นปรมาจารย์พลังภายในขั้นต้น และสีหน้าของเขาก็ดูดุดันมากในขณะนี้
เขาไม่อาจยอมให้คนนอกรู้ได้ว่าที่นี่คือสถานที่ที่พวกเขากำลังซุ่มซ่อนอยู่
หากคนนอกคนใดที่รู้ความลับนี้ เขาจำเป็นต้องกำจัดในทันที!
“เหอะ ๆ ฉันรู้ได้ยังไงน่ะเหรอ?”
แม้ว่ากำลังเผชิญหน้าอยู่กับนักฆ่ามืออาชีพมากกว่าสามสิบคนที่ปลอมตัวเป็นรปภ. อวี้ฮ่าวหรานก็ยังคงแสดงท่าทางดูถูกเหยียดหยาม
“แน่นอนว่ามันเป็นเพราะไอ้คนที่เรียกตัวเองว่าอสรพิษเงินอะไรนั่น มันบอกฉันมาก่อนที่จะฉันจะกระทืบมันจนตาย! เอ๊ะ ว่าแต่พวกแกรู้รึเปล่าว่ามันเพิ่งถูกส่งออกไปทำภารกิจอะไร?”
ขณะที่เขาพูด สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นหยอกล้อกับอีกฝ่าย
“รองเจ้าตำหนักอสรพิษเงินตายแล้ว?? นี่มัน…”
ปรมาจารย์พลังภายในที่เป็นผู้นำสีหน้าเปลี่ยนในทันทีเมื่อได้ยินเรื่องนี้ เขาไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่เพิ่งได้ยิน
“เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน! รองเจ้าตำแหนักเป็นผู้ที่อยู่ในขั้นสูงสุดของพลังภายใน คนอย่างแกไม่มีทางฆ่ารองเจ้าตำหนักได้สำเร็จแน่นอน!”
“แกเข้าใจผิดแล้ว ไอ้อสรพิษเงินอะไรนั่นมันตายอย่างน่าอนาถมากเลยเชียวละ!”
อวี้ฮ่าวหราน กล่าวอย่างเยาะเย้ยพลางมองไปที่ฝ่ายตรงข้าม!
“แต่ถ้าแกไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรเพราะอีกเดี๋ยวแกก็จะได้รู้ความจริงอยู่ดีหลังจากลงไปอยู่ในนรกกับมัน!”
เมื่อพูดจบประโยคนี้ อวี้ฮ่าวหรานระเบิดกลิ่นอายสังหารหนาแน่นออกมา!
เหล่านักฆ่ารู้สึกใจสั่นรุนแรงอย่างกะทันหัน มันเหมือนกับว่าพวกเขากำลังยืนอยู่ตรงหน้าพระเจ้าที่ไม่อาจต้านทานได้!
“น…นี่มันเวทมนตร์หรือบ้าอะไรเนี่ย! แต่แกคิดว่าคำพูดไร้สาระสองสามคำของแกจะสามารถรบกวนจิตใจของเราได้เหรอ…”
หลังจากปรับอารมณ์อยู่ครู่หนึ่ง บรรดานักฆ่าก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขามีจิตใจที่มั่นคงแค่ไหน แต่ยังไม่ทันจะพูดจบ หนึ่งในพวกนักฆ่าก็ถูกอวี้ฮ่าวหรานกุมคอเอาไว้ ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าเขาโผล่มากลางวงแบบนี้ได้ยังไง!
“ฉันเบื่อที่จะพูดกับพวกแกแล้ว ในเมื่อพวกแกไม่หลีกไป ถ้างั้นก็ลงไปอยู่ในนรกกับไอ้อสรพิษเงินนั่นซะ!”
“กร๊อบ!”
หลังจากพูดจบ อวี้ฮ่าวหรานก็หักคออีกฝ่ายทันทีและโยนทิ้งราวกับโยนขยะ ก่อนที่จะหันไปกวาดสายตามองนักฆ่าอีกสามสิบกว่าคนที่อยู่รอบ ๆ ด้วยแววตาเย็นชา!
“วันนี้! พวกแกทั้งหมดต้องตาย!”
เหล่านักฆ่าที่เคยภาคภูมิใจในความแข็งแกร่งของตัวเอง เมื่ออยู่ต่อหน้าพลังวิญญาณอันทรงพลังของอวี้ฮ่าวหราน พวกเขานั้นก็ไม่ต่างอะไรกับมดที่รอการถูกบดขยี้เลย!
หลังจากนั้นไม่กี่นาทีบรรยากาศรอบ ๆ ก็กลับมาเงียบลงอีกครั้ง!
และในขณะเดียวกันนี้ ประตูรั้วกำแพงก็ถูกเปิดออก และร่างสีดำจำนวนหนึ่งก็พุ่งออกมาจากด้านใน!
คนเหล่านี้เป็นผู้บ่มเพาะขอบเขตพลังภายในอย่างแท้จริง!
เมื่อถูกล้อมอีกรอบด้วยคนมากกว่าหนึ่งโหล อวี้ฮ่าวหรานก็ประหลาดใจเล็กน้อยกับความแข็งแกร่งของตำหนักคุมกฎแห่งนี้
เขาปะทะกับองค์กรอสรพิษนี้มาหลายครั้งแล้ว และฆ่าเจ้าตำหนักของอีกฝ่ายไปหลายคน ดังนั้นเขาจึงพอเดาโครงสร้างขององค์กรนี้ได้แบบคร่าว ๆ ว่าคนที่อยู่ในขอบเขตพลังภายในนั้นมีคุณสมบัติพอจะเป็นเจ้าตำหนักได้ แต่ในทางกลับกัน ตำหนักคุมกฎนี้กลับมีเหล่าผู้คนที่มีคุณสมบัติพอจะดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าตำหนักได้แบบสบาย ๆ อยู่ในสังกัดมากกว่าสิบคน เห็นได้ชัดว่าตำหนักคุมกฎนี้น่าจะเป็นฝ่ายที่มีอำนาจมากที่สุดรองจากคนที่เป็นผู้นำองค์กรนี้
“รนหาที่ตาย!”
ทันทีที่พวกคนขององค์กรอสรพิษเห็นสภาพที่เละเทะด้านนอก พวกเขาต่างก็โกรธจัด!
ทันใดนั้นโดยไม่ทราบว่าใช้วิธีใด งูพิษจำนวนนับไม่ถ้วนที่มีสีสันแตกต่างกันก็ปรากฏขึ้นจากกอหญ้าที่อยู่รอบ ๆ!
หากเป็นคนธรรมดาเมื่อถูกงูนับพันตัวล้อมไว้แบบนี้ คนผู้นั้นก็คงกลัวจนทรุดตัวลงไปที่พื้นทันที
“ตอนนี้มันสายเกินไปแล้วที่แกจะเสียใจ! ไอ้หนู โทษที่แกต้องรับจากการมาสร้างปัญหาให้องค์กรอสรพิษของเราคือตายสถานเดียว!”
นักฆ่าที่อยู่ในขอบเขตพลังภายในขั้นสูงเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา!
อวี้ฮ่าวหรานกวาดสายตามองไปที่งูพิษรอบตัวเขาอย่างไร้อารมณ์ เห็นได้ชัดว่าเดรัจฉานพวกนี้ได้รับการฝึกและเลี้ยงดูมาเป็นพิเศษ พวกมันจึงมีขนาดใหญ่เป็นพิเศษและมีสีที่ดูสว่างกว่างูทั่วไป
คนธรรมดาคงจะตายในไม่กี่วินาทีหากถูกงูพิษพวกนี้กัด!
แต่น่าเสียดายที่งูน้อยพวกนี้กำลังเผชิญอยู่กับอวี้ฮ่าวหราน!
อวี้ฮ่าวหรานโคจรพลังวิญญาณอย่างรุนแรง จากนั้นเขาจึงสะบัดมือปล่อยคลื่นพลังวิญญาณแผ่กระจายออกไปทุกทิศทางอย่างรวดเร็ว กลายเป็นคลื่นที่มองไม่เห็นและกวาดไปรอบ ๆ!
‘บรึม!!’
ภายใต้ความรุนแรงของคลื่นพลังวิญญาณ ทั้งต้นหญ้าและงูที่อยู่รอบ ๆ รัศมีสามสิบเมตรก็ถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในทันที!
พวกปรมาจารย์พลังภายในที่กำลังจะลงมือเช่นกัน ต่างก็ตัวแข็งค้างเมื่อพวกเขาเห็นฉากนี้!
แม้แต่ปรมาจารย์พลังภายในขั้นสูงก็ไม่อาจทำอะไรแบบนี้ได้!
“แกเป็นใครกันแน่!? ทำไมแกถึงมาสร้างปัญหาให้เราแบบนี้!”
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งเกินกว่าที่คิดไว้ หนึ่งในปรมาจารย์พลังภายในจึงเอ่ยถามขึ้นอย่างระมัดระวัง
“ฉันบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าฉันมาที่นี่เพื่อฆ่าพวกแกและเจ้าตำหนักของพวกแก!”
อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าดูถูก
บทที่ 338 สาขาที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นมาใหม่อีกรอบ
บทที่ 338 สาขาที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นมาใหม่อีกรอบ
หลังจากได้ยินสวีเซี่ยงจวินยืนยันแล้วว่าไม่มีปัญหากับตำแหน่งงาน อวี้ฮ่าวหรานจึงเอ่ยเตือนดักเอาไว้อย่างจริงจัง
“ฉันหวังว่านายจะไม่ไปแตะต้องพวกการพนันและอบายมุขต่าง ๆ เหล่านั้นอีก สวีรุ่ยควรได้อยู่ในสภาพแวดล้อมครอบครัวที่สมบูรณ์”
เขารู้สึกเป็นห่วงสวีรุ่ยจริง ๆ ความทรงจำครั้งล่าสุดที่เขาเห็นหญิงสาวคนนั้นนั่งร้องไห้ฟูมฟายอยู่ที่สี่แยกมันทำให้เขารู้สึกเวทนาจริง ๆ
“น…แน่นอนครับ! ผมจะทำให้รุ่ยเอ๋อร์มีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน!”
สวีเซี่ยงจวินสัญญาอย่างรวดเร็ว
ทางด้านของผู้จัดการหวังก็ทำเป็นนิ่งเงียบ เขารู้ว่าการแสร้งทำเป็นไร้ตัวตนในเวลานี้เป็นเรื่องที่ฉลาดที่สุด
แต่แล้วในขณะที่อวี้ฮ่าวหรานกำลังจะเอ่ยเตือนเรื่องอื่น ๆ ต่อ จู่ ๆ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นอย่างกะทันหัน!
“ฮ่าวหราน! เร็วเข้า…รีบมาช่วยลูกสาวของฉันที! เราโดนองค์กรอสรพิษจับได้!”
ทันทีที่รับสายโทรศัพท์ เสียงที่ตื่นตระหนกอย่างยิ่งจากปลายสายก็ดังขึ้น
“เกิดอะไรขึ้น!”
เสียงนั้นเป็นเสียงของเฉิงกัวอัน และอวี้ฮ่าวหรานก็ขมวดคิ้วทันทีเมื่อเขาได้ยินประโยคนี้!
องค์กรอสรพิษ!
องค์กรนี้ไม่ได้มาปรากฏตัวต่อหน้าเขานานแล้ว จนเขาคิดว่าพวกมันน่าจะกลัวจนไม่กล้าโผล่หัวมาอีก
“ฮี่ฮี่ แกคืออวี้ฮ่าวหรานสินะ? ฉันรู้ว่าแกห่วงใยไอ้สองคนนี้มาก ดังนั้นฉันจะให้โอกาสแกได้ช่วยพวกมัน จงมาที่ยอดตึกชางเหว่ยภายในหนึ่งชั่วโมง มิฉะนั้นแกจะได้เห็นศพของสองพ่อลูกนี้ปรากฏขึ้นกลางถนน!”
“แกเป็นใคร?”
เมื่ออวี้ฮ่าวหรานได้ยินสิ่งนี้ แววตาของเขาเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที!
ในตอนนี้ เขารู้สึกว่าเขาทำผิดพลาดอีกแล้วที่ไม่ฆ่าองค์กรนักฆ่านี้ไปให้หมด!
“ฉันเหรอ ฮ่าฮ่า แกสามารถเรียกฉันได้ว่า ‘อสรพิษเงิน’ และฉันเป็นรองเจ้าตำหนักคุมกฎขององค์กร ฉันขอชมเชยแกจริง ๆ ที่สามารถดึงดูดความสนใจของฉันได้ จนฉันต้องมาฆ่าแกด้วยตัวเองแบบนี้! อ้อ และแกมั่นใจได้เลยว่าเมื่อไหร่ที่แกตาย ฉันจะส่งครอบครัวของแกลงนรกตามแกไปด้วยเพื่อที่แกจะได้ไม่เหงา!”
เสียงปลายสายของโทรศัพท์นั้นเย็นชามาก และยิ่งเมื่อรวมกับการข่มขู่เยาะเย้ยก็ยิ่งทำให้ใครก็ตามที่ฟังสั่นกลัวได้อย่างง่ายดาย
แต่อวี้ฮ่าวหรานก็ไม่ได้ตื่นตระหนกเลย มีเพียงแค่ความโกรธเท่านั้นที่ปรากฏบนใบหน้าของเขา!
หลังจากวางสาย เขาเอ่ยลาสั้น ๆ กับผู้จัดการหวังและสวีเซี่ยงจวิน จากนั้นเขาก็เดินจากไปในทันที
ในเวลานี้ ผู้จัดการหวังรู้สึกหวาดกลัวอย่างไม่ทราบสาเหตุเมื่อเห็นแววตาเจ้านายของเขาเมื่อครู่
เขาพบว่าตัวเองมองประธานหนุ่มคนนี้ไม่ออกเลยว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นคนอย่างไร
สรุปแล้วประธานของเขาเป็นคนที่อ่อนโยนหรือว่าโหดเหี้ยมกันแน่?
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเขาจะคิดอะไร อวี้ฮ่าวหรานก็ขับรถออกไปเรียบร้อยแล้ว
อวี้ฮ่าวหรานขับรถไปถึงอาคารชางเหว่ยในเวลาเพียงสี่สิบนาที!
นี่เป็นบริษัทเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ห่างไกลจากชุมชน และอาคารก็ดูทรุดโทรมมาก
“ไม่ทราบว่าคุณมาติดต่อธุระรึเปล่า? แต่คุณช่วยเลื่อนรถเข้ามาจอดด้านในบริษัทของเราได้ไหม กรุณาอย่าจอดรถขวางประตูของบริษัทเรา”
รปภ. ที่ประตูเมื่อเห็นมีรถสุดหรูขับเข้ามา ทัศนคติของเขายังคงค่อนข้างสุภาพ ถึงแม้อวี้ฮ่าวหรานจะขับรถจอดขวางประตูเต็ม ๆ
แต่อวี้ฮ่าวหรานไม่สนใจอีกฝ่าย เขาเอ่ยขึ้นเสียงต่ำ
“หลีกไป!”
รปภ. ตกตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดนี้ เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเจ้าอารมณ์ได้ขนาดนี้
หลังจากได้สติแล้ว สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที!
“บัดซบ! ดูถูกกันมากไปแล้ว! คุณรู้ไหมว่าบริษัทของเราทำอะไร!”
รปภ. ตะโกนออกมาอย่างโกรธเคืองเมื่อได้ยินคำพูดของอวี้ฮ่าวหราน!
อวี้ฮ่าวหรานเหลือบมองอีกฝ่ายอย่างดูถูกและพูดคำสั้น ๆ
“องค์กรอสรพิษ?”
คำสั้น ๆ นี้ทำให้ รปภ. ดูเย็นชายิ่งขึ้นไปอีก!
“แกรู้ได้ยังไง! บัดซบ!”
เมื่ออวี้ฮ่าวหรานได้ยินสิ่งนี้ เจตนาฆ่าก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขาทันที!
รปภ. คนนี้น่าจะมาจากองค์กรอสรพิษ เห็นได้ชัดว่านี่อาจเป็นสาขาใหม่ขององค์กรอสรพิษ
ในเมื่อเป็นกรณีนี้ เขาจะทำลายที่นี่ให้พินาศ!
‘บรึม!’
โดยไม่รอให้อีกฝ่ายเริ่มก่อน อวี้ฮ่าวหรานก็เตะรปภ. อย่างรุนแรงจนกระเด็นไปกระแทกกับประตูรั้วเหล็กจนพังโครมลง!
อย่างไรก็ตาม รปภ. คนนี้เป็นผู้บ่มเพาะถึงระดับพลังภายในอย่างแน่นอน เพราะแม้ว่าเขาจะโดนเตะไปเต็ม ๆ เขาก็ยังคงมีแรงตะโกนสียงดัง
“มีคนบุกเข้ามา! มีคนบุกเข้ามา…”
‘กร๊อบ!’
แต่ก่อนที่เขาจะตะโกนเสร็จเป็นครั้งที่สอง อวี้ฮ่าวหรานก็พุ่งเข้าไปหาและเหยียบเข้าไปที่คอของอีกฝ่ายอย่างรุนแรงจนมีเสียงกระดูกคอหักดังลั่น!
คราวนี้เขาตั้งใจว่าจะฆ่าคนขององค์กรอสรพิษทั้งหมดจริง ๆ!
เหตุผลส่วนใหญ่ที่เฉิงกัวอันและเฉิงชิวอวี้ถูกจับตัวมาแบบนี้มันน่าจะมาจากความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างพวกเขากับอวี้ฮ่าวหราน ดังนั้นหากเขาไม่ฆ่าพวกองค์กรอสรพิษในวันนี้ให้หมด คราวหน้าอีกฝ่ายคงมุ่งเป้าไปที่ หลี่หรงและถวนถวนอย่างแน่นอน!
เขาจะปล่อยให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นไม่ได้!
“หาที่ตาย! กล้าดียังไงถึงบุกรุกบริษัทเราแบบนี้!”
ในเวลานี้ รปภ. จำนวนมากกว่าสองโหลได้หลั่งไหลออกมาจากตึกสำนักงานราวกับน้ำหลาก!
คนที่นำหน้าตะโกนอย่างโกรธจัด!
อวี้ฮ่าวหรานกวาดสายตามองไปรอบ ๆ และพบว่าผู้ชายที่นำหน้าสุดเป็นผู้บ่มเพาะขอบเขตพลังภายในขั้นกลาง ส่วนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนอื่น ๆ อย่างน้อยก็เกือบจะทะลวงขึ้นมามีพลังภายในแล้ว!
คนพวกนี้ไม่ธรรมดาเลยหากเทียบกับเกณฑ์ความแข็งแกร่งของโลกมนุษย์!
แค่คนไม่กี่สิบพวกนี้ก็เทียบได้กับความแข็งแกร่งของแก๊งพยัคฆ์เวหาทั้งหมดแล้ว!
หลังจากยืนยันว่านี่คือองค์กรอสรพิษสาขาใหม่ ดวงตาของอวี้ฮ่าวหราน ก็เย็นชายิ่งกว่าเดิม!
อีกฝ่ายรีบรุมล้อมเขา!
“รนหาที่ตาย! กล้าดียังไงมาบุกสาขาองค์กรอสรพิษของเรา! ฉันจะทำให้แกทรมานจนต้องร้องขอความตาย!”
ผู้นำกลุ่มตะโกนอย่างหยิ่งผยอง เขาไม่ปิดบังตัวตนอีกแล้วว่ามาจากองค์กรอสรพิษ
แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่รู้เลยว่า ตอนนี้ขาข้างหนึ่งของพวกเขาก้าวเข้าไปในยมโลกเรียบร้อวแล้ว!
อวี้ฮ่าวหรานพ่นลมหายใจอย่างเย็นชาก่อนจะหายตัวไปราวกับผี!
วินาทีถัดมา ฉากที่ทำให้ทุกคนตกตะลึงก็ปรากฏขึ้น!
เมื่อร่างที่หายไปปรากฏขึ้นอีกครั้ง อวี้ฮ่าวหรานก็คว้าคอผู้นำกลุ่มที่เป็นปรมาจารย์พลังภายในด้วยมือข้างหนึ่งแล้วยกขึ้น!
ดวงตาของนักฆ่าที่ปลอมตัวเป็นหัวหน้ารปภ. เบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ!
เขาคือปรมาจารย์พลังภายใน! ผู้ที่แข็งแกร่งใกล้จะขึ้นได้รับตำแหน่งเจ้าตำหนัก!
แต่ตอนนี้เขากลับถูกอีกฝ่ายคร่ากุมอย่างง่าย ๆ ได้ยังไง?
เรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น!
ทางด้านของอวี้ฮ่าวหรานก็เพิกเฉยต่ออาการสยองขวัญของอีกฝ่ายและเขาไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้พูดแม้แต่น้อย
‘กร๊อบ!’
หลังจากสิ้นเสียงกระดูกถูกบดละเอียด ปรมาจารย์พลังภายในผู้ที่เคยคิดว่าตัวเองแข็งแกร่งเหนือล้ำก็แน่นิ่งตาเหลือกและหมดลมหายใจในทันที!
‘ผลั่ก’
อวี้ฮ่าวหราน มองไปรอบ ๆ หลังจากโยนร่างไร้ชีวิตลงบนพื้น
“วันนี้พวกแกทั้งหมดจะต้องตาย!!”
อวี้ฮ่าวหรานพูดด้วยเสียงที่ไม่ดังมากนัก แต่พวกนักฆ่าต่างกลัวจนถอยกลับไปสองก้าว!
พวกเขาไม่เคยเห็นตัวตนที่น่ากลัวเช่นนี้มาก่อน!
“ก…แก! อย่าได้ใจไปนักนะโว้ย! ตัวตนระดับสูงขององค์กรเราอยู่ที่นี่ด้วย ถ้าขืนแกก้าวเข้ามาอีกแกตายแน่!”
หนึ่งในนั้นรวบรวมความกล้าตะโกนขึ้นขู่หวังว่ามันจะได้ผลบ้าง
“โอ้ ไอ้คนที่แกหวังพึ่งนี่แหละที่ฉันกำลังมองหาอยู่!”
อวี้ฮ่าวหรานพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา จากนั้นเขาก็โคจรพลังวิญญาณอย่างรวดเร็วและระเบิดคลื่นพลังออกไปทางด้านหน้าจนกวาดล้างพวกนักฆ่ายี่สิบกว่าคนพร้อม ๆ กันอย่างหมดจด
หลังจากจัดการกับพวกนักฆ่าด้านนอกตึกเรียบร้อย อวี้ฮ่าวหรานจึงค่อย ๆ เดินเข้าไปด้านในผ่านประตูกระจกที่แตกเละเทะหลังจากการปะทะเมื่อครู่
แต่แล้วเมื่ออวี้ฮ่าวหรานเข้าไปด้านในตึก เขาก็เห็นว่าที่ด้านในมีพวกพนักงานที่น่าจะเป็นคนธรรมดาไม่รู้อีโหน่อีเหน่จำนวนมากอยู่ด้วย คนพวกนี้ไม่มีคลื่นพลังแผ่ออกจากร่างกาย ดังนั้นอวี้ฮ่าวหรานจึงสรุปได้ทันทีว่าคนพวกนี้ไม่ใช่พวกที่ปลอมตัวมา ในเวลานี้พวกหนักงานเหล่านี้ต่างตื่นตระหนกและพากันวิ่งหนีเตลิดไปคนละทิศคนละทาง