บทที่ 870 ท้องฟ้า (2)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ลู่​เซิ่งไม่เคย​ทำ​เรื่อง​โง่ๆ แบบนี้​อยู่แล้ว​ บางที​อาจ​มีคน​กังวล​ว่า​เป็น​กับดัก​อะไร​หรือไม่​ แต่​เรื่อง​เล็กน้อย​พวก​นี้​ เขา​ไตร่ตรอง​อย่าง​ดี​มาตั้ง​แต่ต้น​แล้ว​

ระหว่างทาง​เขา​ประสาน​มุทรา​ดุจ​สายฟ้า​ฟาด​ ขณะเดียวกัน​บน​ตัว​เขา​ก็​มีกระแส​อากาศ​เล็ก​ๆ สิบ​กว่า​สาย​ม้วน​ตวัด​ขึ้น​มาสาน​เกี่ยว​กัน​เป็น​เค้าโครง​มนุษย์​สีเทา​ขนาดเล็ก​ด้าน​หลังเขา​อย่าง​รวดเร็ว​

“เอาล่ะ​!” ลู่​เซิ่งเหิน​ร่าง​ สอง​มือ​กด​ลง​บน​ผิว​ก้อน​เนื้อ​ขนาด​ยักษ์​อย่าง​มั่นคง​

พรึ่บ​!

กระแส​อากาศ​แข็งแกร่ง​สีเทา​กลุ่ม​หนึ่ง​ห่อหุ้ม​ก้อน​เนื้อ​ด้วย​ความเร็ว​สูงตาม​พลัง​แห่ง​กู​ลาร์​อัน​มหาศาล​

“สำแดง​ฤทธิ์​” ลู่​เซิ่งตวาด​ และ​ในขณะที่​เขา​กำลังจะ​ส่งพลัง​ออก​ไป​นั้น​

ตูม​!

ก้อน​เนื้อ​พลัน​ขยาย​ใหญ่​และ​สั่น​ไหว​ ก่อน​จะระเบิด​เหมือนกับ​ลูกโป่ง​ธรรมดา​

ก้อน​เนื้อ​เส้นผ่าศูนย์กลาง​กว่า​สอง​เมตร​ ระเบิด​ขึ้น​ต่อหน้าต่อตา​ลู่​เซิ่งอย่าง​ไร้​เค้า​ลาง​ นอกจาก​อากาศ​แล้ว​ ด้านใน​ก็​ไม่มีสิ่งใด​อยู่​อีก​

“…” ลู่​เซิ่งพลัน​ชะงัก​นิ่งงัน​อยู่​ที่​เดิม​ ขณะ​มอง​ความว่างเปล่า​ตรง​เบื้องหน้า​ตนเอง​

ติ๊ด!​

ติ๊ด!​

ขณะเดียวกัน​ เสียง​เตือนภัย​แหลม​เสียด​หู​ก็​ดัง​ขึ้น​มาจาก​ใน​ฐานทัพ​

“อะ​..ไร​กัน​…” ลู่​เซิ่งมึนงง​เล็กน้อย​

เดิมที​ก็​เขา​เวียนหัว​ตาลาย​ ร่างกาย​เกือบจะ​ไป​ถึงขีดจำกัด​อยู่แล้ว​ ตอนนี้​ความสำเร็จ​อยู่​เบื้องหน้า​ ทว่า​กลับ​เกิด​เหตุการณ์​แบบนี้​ขึ้น​อีก​

ทันใดนั้น​ลำแสง​สีแดง​สาย​หนึ่ง​ก็​ทะลัก​ออก​มาจาก​ใต้​พื้น​อย่าง​รวดเร็ว​ แล้ว​รวมตัวกัน​เป็น​มนุษย์​ร่าง​พร่ามัว​ด้านหน้า​ลู่​เซิ่ง

“อืม​…ไม่ว่า​คุณ​จะเป็น​ใคร​…แต่​ตอนที่​คุณ​ได้​เห็น​ข้อความ​นี้​ แสดงว่า​ผม​เอา​แกน​หลัก​ไป​แล้ว​ เดิมที​ถ้าคุณ​ไม่ทำลาย​ภาพลวงตา​ อาจจะ​อาศัย​พลังงาน​ที่​เหลืออยู่​รักษา​การทำงาน​ของ​ฐานทัพ​ต่อไป​ได้​ แต่​น่าเสียดาย​มาก.​..” เงาคน​สีแดง​ยักษ์​ไหล่​ “คุณ​ดัน​ทำลาย​ไป​แล้ว​”

“ดังนั้น​นะ​ สหาย​ที่รัก​ ถ้าหาก​คุณ​หนี​การ​ไล่ล่า​ของ​มหาวิทยาลัย​มิสกา​ได้​อย่าง​ปลอดภัย​ บางที​วันหน้า​เรา​อาจ​มีโอกาส​ได้​เจอกัน​อีก​” เงาคนใช้​น้ำเสียง​แฝงความ​ลำพอง​เยาะเย้ย​

“บางที​คุณ​อาจ​ถามว่า​ ทำไม​ฉัน​ถึงเอา​แกน​หลัก​แห่ง​ความโกลาหล​ไป​ง่ายๆ​ แบบนี้​ ปัญหา​นี้​น่ะ​ ความจริง​ง่าย​มาก​” เงาคน​หัวเราะ​ฮ่าๆ “เป็น​เพราะ​ฉัน​เกิด​มาเมื่อ​ทำ​สิ่งนี้​ยังไง​ล่ะ​ พวก​มนุษย์​เรียก​แบบนี้​ว่า​อะไร​นะ​ มืออาชีพ​ใช่ไหม​ ใช่ ถูก​แล้ว​ ฉัน​น่ะ​มัน​มืออาชีพ​ แตกต่าง​กับ​พวก​มือสมัครเล่น​อย่าง​พวกคุณ​ แม้จะทำได้​ยาก​ แต่​ฉัน​เคย​ทำ​สิ่งที่​ยาก​กว่า​นี้​มาแล้ว​ ไอ้​ของ​แค่นี้​น่ะ​ ส.บ.​ม.ย.ห​ อ้อ​ จริง​สิ…ตาม​กฎ​ของ​ฉัน​ หาก​ทำ​เรื่อง​ใด​แล้ว​จะทิ้ง​ชื่อ​เอาไว้​ ชื่อ​ของ​ฉัน​ก็​คือ​…อืม​…คุณ​เรียก​ฉัน​ว่า​มายา​ก็ได้​…แต่​ฉัน​ชอบ​อีก​ชื่อ​มากกว่า​”

เงาคน​สีแดง​ก้มหน้า​ลง​เล็กน้อย​ มุมปาก​ตวัด​เป็น​เส้นโค้ง​ประหลาด​

“ยู​ซา”

พรึ่บ​

ลู่​เซิ่งบีบ​เงาคน​สีแดง​ตรงหน้า​จน​แหลก​สลาย​

“ยู​ซา…” เขา​ก้มหน้า​ลง​ มองดู​ลวดลาย​สีม่วง​ที่​ค่อยๆ​ แผ่​ลาม​ไป​ทั่ว​ทรวงอก​ ตัวเลข​เทพ​นอกรีต​เริ่ม​ขยับ​อย่าง​ต่อเนื่อง​

“ดูเหมือน​โลก​ใบ​นี้​ มัก​มีเรื่อง​บาง​เรื่อง​ คน​บางคน​ ที่​ไม่ยอมให้​แก​สมหวัง​”

ลู่​เซิ่งนิ่ง​ไป​ ก่อน​จะกาง​สอง​แขน​ออก​ สายลม​ไร้​รูปร่าง​สาย​หนึ่ง​ค่อยๆ​ หมุน​วน​กลางฝ่ามือ​ของ​เขา​

นิ้ว​สิบ​นิ้ว​ของ​เขา​เปล่งแสง​อักขระ​สีฟ้าที่​แตก​ต่างกัน​โดยสิ้นเชิง​ แสงของ​อักขระ​ถึงขั้น​กลบ​แสงสีขาว​สำหรับ​ส่องสว่าง​รอบข้าง​ไป​จน​หมด​ พร้อมทั้ง​ย้อม​ห้อง​ทั้ง​ห้อง​กลายเป็น​สีฟ้า

“ใน​เมื่อ​เป็น​แบบนี้​…สายลม​เอ๋ย​…จงมา ประกาศ​ให้​โลก​นี้​รู้​แทน​ข้า​…”

ลวดลาย​สีม่วง​บน​ตัว​ลู่​เซิ่งเหมือน​เริ่ม​สัมผัส​ความผิดปกติ​ได้​ พา​กัน​รุด​เร่ง​การ​กัดกร่อน​ เส้นเลือด​จำนวนมาก​ระเบิด​ออก​ เลือด​สีแดง​ไหล​ซึมจาก​ใบหน้า​ ทรวงอก​ และ​แขนขา​ของ​ลู่​เซิ่ง

แต่​สายลม​ไร้​รูปร่าง​หลาย​สาย​รวมตัวกัน​ด้าน​หลังเขา​ด้วย​ความเร็ว​สูง อากาศ​เริ่ม​สั่น​ไหว​ ฉีก​กระชาก​ แสงเริ่ม​ บิดเบี้ยว​พร้อมกับ​กลายเป็น​สีแดงฉาน​

กระแส​อากาศ​นับไม่ถ้วน​รวมตัว​ด้านหลัง​ลู่​เซิ่ง กลายเป็น​วังวน​ทรงกลม​สีเทา​ขนาด​ยักษ์​กลุ่ม​หนึ่ง​

“ข้า​ขอ​สนอง​ความหวัง​แห่ง​การ​ทำลาย​ของ​โลก​ใบ​นี้​ กงล้อ​แห่ง​เวลา​ ฟากฟ้า​แห่ง​หมื่น​ปีศาจ​ ไร้​รูป​ ไร้​เหตุ​ ไร้​ดวง​เนตร​ ไร้​สิ่งใด​”

“ผืน​ฟ้า ผืนดิน​ มหาสมุทร​ ความว่างเปล่า​ ทุกสิ่ง​จะเป็น​พลัง​ทั้งหมด​ของ​ข้า​ เป็น​คำประกาศ​สุดท้าย​แห่ง​สุญญตา​…”

ลู่​เซิ่งค่อยๆ​ เงยหน้า​ขึ้น​

“โลก​เอ๋ย​…จงพักผ่อน​เถอะ​…”

ตูม​!

เนื้อ​นับไม่ถ้วน​ทะลัก​ออก​มาจาก​วังวน​แห่ง​สายลม​ด้าน​หลังเขา​ในทันที​

เลือดเนื้อ​ทั้งหมด​ปกคลุม​ตัว​เขา​ราวกับ​หนวด​ ห่อหุ้ม​เขา​จน​กลายเป็น​ก้อน​เนื้อ​ขนาด​ยักษ์​

หนึ่ง​อึดใจ​ต่อมา​ ก้อน​เนื้อ​ก็​สลาย​ไป​ เผย​ให้​เห็น​สัตว์ประหลาด​มีหางยาว​ร่าง​สูงโปร่ง​ และ​มีใบหน้า​มนุษย์​สามหน้า​

สัตว์ประหลาด​ลอย​อยู่​กลางอากาศ​ หาง​เหมือนกับ​แส้แหลม​ เกราะ​หนัง​ทั่ว​ร่าง​แวววาว​ดุจ​กระจก​ ใบหน้า​ทั้ง​สามไม่ขยับเขยื้อน​เหมือน​หน้ากาก​โลหะ​ จ้องมอง​ไป​ยัง​สามทิศทาง​

ซู่…แขน​สิบ​กว่า​คู่​แน่นขนัด​ยืด​ออก​มาจาก​ทั้งสอง​ข้าง​ของ​ร่างกาย​ แขน​ทุก​คู่​ถือ​ดาบ​โค้ง​สีดำ​สนิท​ที่​มีรูปร่าง​แตก​ต่างกัน​ไว้​สอง​เล่ม​

หนวด​เลือดเนื้อ​สีแดงเข้ม​นับไม่ถ้วน​จับตัว​กัน​เป็น​ดอกไม้​แห่ง​เลือดเนื้อ​ขนาดใหญ่​ดอก​หนึ่ง​ใต้​ร่าง​เขา​ รองรับ​ให้​เขา​เหยียบ​ยืน​

“จงทำลาย​ จงเข่นฆ่า​ จงกลืน​กิน​ จงหวาดกลัว​ซะ…ฮ่าๆๆๆ!” เสียงหัวเราะ​แหลม​เสียด​บ้าคลั่ง​ดัง​ออก​มาจาก​ดอกไม้​เลือดเนื้อ​ใต้เท้า​ลู่​เซิ่ง

ทันใดนั้น​แสงทอง​เจิดจ้า​หก​จุด​ก็​สว่าง​ขึ้น​

ลู่​เซิ่งค่อยๆ​ ลืมตา​ทั้ง​หก​ข้างขึ้น​ จับจ้อง​ด้านบน​ เหมือนกับ​สายตา​จ้อง​ทะลุ​ผืนดิน​หลาย​ร้อย​เมตร​ มอง​ไป​ยัง​จักรวาล​อัน​มืดมิด​และ​ว่างเปล่า​

ยู​ซาโยน​ก้อน​เล็ก​ๆ สีเทา​ใน​มือ​ออก​ไป​อย่าง​แผ่วเบา​ ร่างกาย​เหิน​พุ่ง​ออกจาก​ฐานทัพ​จันทรา​ราวกับ​เงาลวงตา​

สงคราม​ระหว่าง​ปีศาจ​จาก​ห้วง​ความว่างเปล่า​กับ​มิสกา​ยังคง​ดำเนิน​อยู่​ใน​ป่า​ด้านนอก​

บน​พื้น​เต็มไปด้วย​ซากศพ​ปีศาจ​ พลัง​ปีศาจ​จาก​ห้วง​ความว่างเปล่า​ที่​เหนียวหนืด​ข้น​ไหลเวียน​อยู่​ใน​อากาศ​ นั่น​คือ​สิ่งที่​ระเหย​มาจาก​ด้านใน​เลือด​ของ​สิ่งมีชีวิต​จาก​ห้วง​ความว่างเปล่า​ที่​ตาย​มากมาย​เกินไป​

“ควร​กลับ​สักที​…ได้​ของ​มาแล้ว​ ครั้งนี้​นับว่า​เป็นการ​แลกเปลี่ยน​ยิ่งใหญ่​ของจริง​! ฮ่าๆๆ เมื่อ​ดูดซับ​สิ่งนี้​ อีก​ประเดี๋ยว​จะสามาร​ถ…” ยัง​ไม่ทัน​เอ่ย​จบ​ ร่าง​ของ​เขา​ก็​พลัน​แข็งทื่อ​

ใน​จิตใจ​พลัน​เกิด​ความรู้สึก​อย่างหนึ่ง​ที่​เหมือนกับ​ถูก​สิ่งน่ากลัว​บางอย่าง​จ้องมอง​

ยู​ซารู้สึก​ว่า​เซลล์​ทั้งหมด​ใน​ตัว​ส่งเสียง​ครวญคราง​ นั่น​คือ​ความปรารถนา​ใน​ชีวิต​ การดิ้นรน​เพื่อ​เอาชีวิต​รอด​

“อะ​…อะไร​กัน​เนี่ย​…?!” เขา​ก้มหน้า​ด้วย​ความตกใจ​ระคน​หวาดกลัว​

พื้นดิน​ที่​เมื่อ​ครู่​ยัง​เป็น​ดิน​ธรรมดา​ เวลานี้​ไม่ทราบ​ว่า​กลายเป็น​สีแดงเข้ม​ราว​พรม​เลือด​ตั้งแต่​ตอน​ไหน​ เขา​ถึงขั้น​เห็น​เส้น​ชีพจร​เต้น​ตุบๆ​ กับ​เส้นเลือด​ที่​ไหลเวียน​อยู่​บน​นั้น​ได้​

“นี่​…นี่​มัน​…!” ยู​ซาเหลียว​มอง​รอบข้าง​ แต่​ทว่​สุดลูกหูลูกตา​ที่​เขา​เห็น​นี้​ ดิน​ทั้งหมด​ถึงกับ​กลายเป็น​เลือดเนื้อ​แปลกประหลาด​นี้​ทั้งสิ้น​

เหงื่อ​ไหล​ลงมา​ตาม​แก้ม​ ไม่นาน​เสื้อผ้า​เขา​ก็​เปียกโชก​

ฟ้าว!​

หนวด​สีแดงเข้ม​หลาย​เส้น​ผุด​ออก​มาจาก​ใต้ดิน​ เกี่ยว​กระหวัด​สอง​ขา​ของ​เขา​ไว้​

บน​หนวด​มีดวงตา​เล็ก​สีดำ​กับ​ปาก​เล็ก​สีแดงเข้ม​งอก​อยู่​เต็มไปหมด​ เหมือนกับ​งูพิษ​เหี้ยมโหด​เรียบ​ลื่น​ ไต่​ตาม​ขา​ของ​ยู​ซาขึ้นไป​ด้านบน​ ไม่นาน​ก็​รัดตัว​เขา​ไว้​เป็น​ก้อน​

“ไอ้​นี้​มัน​คือ​อะไร​! ไป​ตาย​ซะ!” ยู​ซาสายตา​สั่น​ไหว​อย่าง​รุนแรง​ ดิ้นรน​หลุด​จาก​สภาวะ​อัมพาต​แปลกประหลาด​ ก่อน​จะยก​มือขึ้น​ หนวด​ทั้งหมด​บน​ร่าง​เขา​ก็​ระเบิด​จน​หมดสิ้น​

หลังจาก​หลุด​จาก​พันธนาการ​ เขา​ก็​รีบ​หนี​ออก​ไป​ด้วย​ความ​หวั่น​สะพรึง​

ที่นี่​อันตราย​เกินไป​ เขา​ต้อง​รีบ​หนี​ อย่างไร​ตอนนี้​ก็ได้​ของ​มาแล้ว​

ครึ่กๆ​

ทันใดนั้น​ผืนดิน​ด้านหน้า​เขา​แยกตัว​ออก​ เลือดเนื้อ​นับไม่ถ้วน​บิดเบี้ยว​เกี่ยว​กระหวัด​เหมือนกับ​เกลียว​ กลาย​เป็นพื้น​ยก​สูง พุ่ง​ขึ้น​มาอย่าง​รวดเร็ว​

สัตว์ประหลาด​ร่าง​คน​หน้าตา​ดุร้าย​สูงหลาย​เมตร​ตัว​หนึ่ง​ ยืน​อยู่​บน​พื้นที่​ยก​สูงเมื่อ​ครู่​

สัตว์ประหลาด​น่ากลัว​มีสามหน้า​ หาง​เป็น​แส้ และ​มีแขน​สิบ​คู่​

“เจ้าได้​มอบ​สาเหตุ​ให้​ข้า​เผชิญหน้า​กับ​โลก​ทั้ง​ใบ​” สายตา​สีทอง​อัน​เย็นเยียบ​ของ​ลู่​เซิ่งจ้องเขม็ง​ยู​ซา

“มาเถิด​ จงมอบ​เลือดเนื้อ​และ​วิญญาณ​ของ​เจ้าให้​แก่​ข้า​ ข้า​จะมอบ​ชีวิต​นิรันดร์​ให้​…”

“บ้า​เอ๊ย​…! ฉัน​ก็​แค่​มาขโมย​ของ​…เท่านั้นเอง​…ไม่ต้อง​…ไม่ต้อง​ทำ​ขนาด​นี้​ก็ได้​มั้ง…” ยู​ซาอ้า​ปาก​ตาค้าง​ขณะ​มอง​สัตว์ประหลาด​น่ากลัว​ตัว​ใหญ่​ด้านหน้า​

“นี่​มัน​…ร่าง​หลัก​…เทพ​โบราณ​นี่​…!?”

ครืน​!

เมฆดำ​กระจาย​ทั่ว​ฟ้า สายฟ้า​กะพริบ​กลาง​เมฆดำ​นับไม่ถ้วน​ ราวกับ​กิ่งก้าน​ของ​ต้นไม้​ยักษ์​ส่องแสง​

“เร็ว​! เร่งมือ​หน่อย​!”

มารา​โด​น่า​ยก​มือขึ้น​กุม​อก​ ใบหน้า​อาบ​เลือด​ ยืน​อยู่​อยู่​ด้านหน้า​ประตู​ตึก​เรียน​หนึ่ง​อย่าง​ทุลักทุเล​ ขณะ​เงย​มอง​ท้องฟ้า​

นักศึกษา​กับ​เหล่า​อาจารย์​จำนวนมาก​ทยอย​กัน​เข้าไป​ใน​ตึก​ใหญ่​ข้าง​เขา​

แสงโปร่งแสง​หลาย​กลุ่ม​กระจาย​อยู่​รอบ​ๆ โดย​มีตึก​ใหญ่​เป็น​ศูนย์กลาง​ พลัง​แห่ง​กู​ลาร์​ที่​ผสม​กับ​พลัง​เทพ​อัน​ประหลาด​ล้ำ​บาง​ชนิด​ กำลัง​ปกป้อง​ฐานทัพ​สุดท้าย​ของ​มิสกา​

อาณาเขต​ของ​มหาวิทยาลัย​เกือบ​สามใน​สี่ที่​ใช้ตึก​เรียน​หนึ่ง​เป็น​เส้น​แบ่ง​เขต​ ต่าง​ถูก​ไอ​ปีศาจ​จาก​ห้วง​ความว่างเปล่า​มืดมิด​ยึดครอง​แล้ว​

เมื่อครู่นี้​ ฐานทัพ​จันทรา​สูญเสีย​แหล่งพลังงาน​ เกราะ​ป้องกัน​ของ​มหาวิทยาลัย​มิสกา​สลาย​ไป​ ปีศาจ​จาก​ห้วง​ความว่างเปล่า​นับไม่ถ้วน​ไร้​สิ่งกีดขวาง​ใดๆ​ จึงจุติ​ปรากฏ​ตัวอย่าง​บ้าคลั่ง​

เหล่า​นักศึกษา​กับ​คณาจารย์​ที่​ก่อนหน้านี้​ยัง​ฝืน​ยัน​ไว้​ได้​ พลัน​เสีย​สมดุล​โดยสิ้นเชิง​ ทีม​นับไม่ถ้วน​ล่มสลาย​

นักศึกษา​ชั้นปี​สูงยัง​พอ​ว่า​ แต่​นักศึกษา​ชั้นปี​ต่ำ​ต่าง​เสียสติ​ พวกเขา​ไม่ใช่ทหาร​มืออาชีพ​อยู่แล้ว​ เริ่มแรก​ตอน​บาดเจ็บ​ล้ม​ตายน้อย​ ยัง​พอ​จะทน​ได้​ภายใต้​ผล​ของ​แสงเวท​เสริม​ขวัญ​กำลังใจ​ชนิด​พิเศษ​

ทว่า​เมื่อ​การ​บาดเจ็บ​ล้มตาย​สูงถึงระดับ​หนึ่ง​ สถานการณ์​ก็​พังทลาย​อย่าง​สิ้นเชิง​

มารา​โด​น่า​กับ​คณบดี​หลาย​คน​ที่อยู่​รอบข้าง​พลัน​เงยหน้า​มอง​ท้องฟ้า​

กลาง​ชั้น​เมฆหนา​นั้น​มีเทวรูป​ขนาด​มหึมา​จน​ยาก​เหลือเชื่อ​ค่อยๆ​ ร่วง​ลงมา​

เทวรูป​เป็น​คนแก่​ผม​ขาว​สวม​ชุด​คลุม​ยาว​ ใบหน้า​เคร่งขรึม​ เพียงแต่​ตำแหน่ง​ของ​สอง​ตา​กลับเป็น​สีแดงเข้ม​กะพริบ​ระยิบระยับ​สอง​กลุ่ม​

เทวรูป​มีขนาด​มโหฬาร​เหลือเกิน​ คำนวณ​ความเร็ว​แล้ว​ อีก​แค่​ครึ่ง​ชั่วโมง​ก็​จะตกลง​มาถึงตำแหน่ง​ของ​มหาวิทยาลัย​

“ไม่เหลือ​วิธี​ใด​แล้ว​จริงๆ​ เห​รอ.​..” ศาสตราจารย์​เวลส์​กุม​แขน​ที่​ขาด​ของ​ตัวเอง​ กล่าว​ด้วย​สีหน้า​ซีดเซียว​

ใน​ฐานะ​ผู้ก่อตั้ง​ระบบ​ป้องกัน​ของ​มหาวิทยาลัย​ เขา​ยังคง​ไม่อยาก​เชื่อ​ว่า​ ระบบ​ป้องกัน​ที่แข็งแกร่ง​ดั่ง​เหล็กกล้า​ ถึงกับ​พินาศ​สิ้น​ใน​เวลา​ไม่ถึงหนึ่ง​วัน​

“เคลื่อนย้าย​คนใน​ฐานทัพ​จันทรา​มาหมด​แล้ว​หรือยัง​” มารา​โด​น่า​ส่ายหน้า​ พร้อมกับ​กล่าว​เสียงทุ้ม​ต่ำ​

“ออกมา​แล้ว​ครับ​…”

“เตรียม​เริ่ม​เส้นทาง​เคลื่อนย้าย​ระยะไกล​เลย​ พวกเรา​เหลือ​เวลา​ไม่มาก​แล้ว​” อธิการบดี​ตัดบท​เขา​

“รับทราบ​…” เหล่า​คณบดี​สบตา​กัน​ด้วย​สีหน้า​ดูไม่ได้​ เห็น​ความ​เศร้าใจ​อย่าง​รุนแรง​ได้​จาก​ดวงตา​ของ​อีก​ฝ่าย​

แอนดี้​ถูก​คนใช้​รถเข็น​ผลัก​ ต่อ​แถว​อยู่​ใน​ขบวน​คด​เคียว​ยาว​เยีย​ด​เส้น​หนึ่ง​

เออร์นี​กับ​อิส​ซารา​ติดตาม​อยู่​ใน​กลุ่มคน​ด้วย​สีหน้า​กระวนกระวาย​ ขบวน​คน​ที่​ยาว​เหมือน​มังกร​ ทอด​ยาว​ไป​ยัง​วงแหวน​เวท​จาน​กลม​โลหะ​สีฟ้าขนาดใหญ่​ที่อยู่​ไกล​ออก​ไป​

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท