ปลายจวักครองใจ – ตอนที่ 323 ลงมือ

ปลายจวักครองใจ

ตอนที่ 323 ลงมือ

ลั่วเซิงยิ้มบาง “ยังไม่ถึงขั้นวิจารณ์ ข้าแค่พูดความจริงเท่านั้น”

“พอแล้ว หยุดเล่นลิ้นเสียที” เว่ยเหวินไม่ปล่อยให้ลั่วเซิงพูดต่อไปอีก นางตะโกนเสียงดังว่า “พังหอสุราเถื่อนนี่ซะ!”

องครักษ์จวนผิงหนานอ๋องได้รับคำสั่งก็กรูกันขึ้นมา

พังร้าน?

ผู้คนที่มุงดูตื่นเต้นกันยกใหญ่

นานแล้วที่ไม่มีเรื่องใหญ่น่าสะเทือนใจอย่างการพังร้าน ตั้งแต่ที่ทหารลาดตระเวนถนนชิงซิ่งเข้มงวดกว่าเดิม

“พังร้าน? ใครมาพังร้าน” ชายร่างกำยำคนหนึ่งถือค้อนพุ่งออกมาจากหอสุรา

ตามมาด้วยชายมีหนวดที่ถือมีดหั่นผักออกมาจากทางด้านหลัง

ทั้งสองต่อสู้กับองครักษ์ที่กรูเข้ามาอย่างรวดเร็ว

สือเยี่ยนถีบองครักษ์ที่อยู่ใกล้ที่สุดกระเด็นออกไปอย่างง่ายดาย จากนั้นก็แย่งไม้กระบองยาวจากมือองครักษ์คนหนึ่งและฟาดลงไปที่ก้นของเขาอย่างแรง

องครักษ์ที่ถูกถีบกระเด็นเซไปข้างหน้าคนผู้หนึ่ง เมื่อเห็นใบหน้านั้นชัดเจนแล้วเขาก็สับสน เอ๋ คนๆ นี้เพิ่งถีบเขากระเด็นไม่ใช่หรือ

สืออี้ยกเท้าขึ้นด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ ถีบองครักษ์กลับไปที่พี่สาม

หงโต้วแทบจะร้องด้วยความยินดีพร้อมพุ่งเข้าไปในกลุ่มองครักษ์ โค่วเอ๋อร์ร้อนรนตะโกนอยู่ข้างหลังไม่หยุด “หงโต้ว เจ้าบุ่มบ่ามเข้าไปแบบนี้ไม่ได้นะ จะเสียเปรียบเอา! เหตุใดจึงพุ่งเข้าไปในที่ที่คนเยอะเช่นนั้น แล้วจะเอาชนะพวกเขาคนเดียวได้อย่างไร!”

ผู้ดูแลหญิงที่อยู่ข้างๆ กอดลูกคิดเหล็กตัวสั่นไม่หยุด

น่ากลัวเกินไปแล้ว เกิดเรื่องพังร้านที่น่าตกใจเช่นนี้ได้อย่างไร

ผู้ที่มาทำลายร้านยังเป็นท่านหญิงน้อยจวนผิงหนานอ๋อง หากขัดขืนคงถูกคิดบัญชีย้อนหลังแน่

ขณะที่กำลังหวาดวิตกอยู่นั้น องครักษ์จวนอ๋องคนหนึ่งก็ถูกเตะเข้าที่เอวจนเซมาทางนี้

ผู้ดูแลหญิงตกใจจนหน้าซีด นางชูลูกคิดเหล็กขึ้นฟาดลงไปที่ศีรษะของคนๆ นั้น

องครักษ์จวนอ๋องกะพริบตาสองสามที ก่อนจะล้มลงไปกองตรงหน้าผู้ดูแลหญิง

ผู้ดูแลหญิงกอดลูกคิดเหล็กตัวสั่นต่อไป

นะ น่ากลัวเกินไปแล้ว!

ท่ามกลางความโกลาหล มีเพียงลั่วเซิงและเว่ยเหวินที่ยืนนิ่ง

ลั่วเซิงมองดูทั้งหมดนี้ด้วยสายตาเย็นชา ใบหน้าไร้อารมณ์

เว่ยเหวินสีหน้าเคร่งขรึมลงเรื่อยๆ

องครักษ์ที่นางพามามีจำนวนไม่น้อย แต่ตอนนี้ดูไปแล้วเหมือนกับนางจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

ในฝูงชน เว่ยเชียงในชุดสามัญชนยืนอยู่เงียบๆ เขามองเด็กสาวที่สวมชุดคลุมสีเขียวคนนั้นตาไม่กระพริบ

ผ่านไปหลายวันมาเจออีกครา เขาคิดว่าเขาจะเห็นเด็กสาวที่หวาดวิตกไร้ที่พึ่งพิง กลับไม่คิดว่าสิ่งที่เห็นคือดอกเหมยสีขาวเยือกเย็น ต้นสนสีเขียวที่สูงตระหง่านและกระดูกสันหลังที่หยัดตรง

นี่ทำให้เขาคิดถึงลั่วเอ๋อร์อีกครั้ง

เขาปฏิเสธความคล้ายคลึงของทั้งสองครั้งแล้วครั้งเล่า เชื่อว่าพวกนางเป็นคนสองคนที่ไม่เกี่ยวข้องกันอย่างสิ้นเชิง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเชื่อมโยงพวกนางเข้าด้วยกันครั้งแล้วครั้งเล่า

นางไม่ใช่ลั่วเอ๋อร์ แต่กลับเป็นการปลอบโยนที่เขาต้องการมากที่สุดในตอนนี้

น่าเสียดายที่ตราบใดที่คุณหนูลั่วเป็นบุตรสาวของผู้บัญชาการองครักษ์จิ่นหลินก็ไม่อาจมีส่วนข้องเกี่ยวกับเขารัชทายาทคนนี้ นอกเสียจากว่าแม่ทัพใหญ่ลั่วต้นไม้ใหญ่ต้นนี้ล้มลง คุณหนูลั่วกลายเป็นแหนไร้ราก เขาถึงจะได้ในสิ่งที่ต้องการ

ด้วยเหตุนี้ เขาจึงไม่เสียดายที่ต้องใช้แดนใต้ที่เขาดูแลมาหลายปีกำจัดแม่ทัพใหญ่ลั่วทิ้ง

ยังคงช้าเกินไป เขาเริ่มกระวนกระวายใจ

สายตาของเว่ยเชียงหยุดอยู่ที่ใบหน้าของเด็กสาวนานแสนนาน ทั้งอ่อนโยนและห่วงหา

ลั่วเซิงรับรู้ได้ถึงสายตาที่ร้อนรุ่มนั่น นางมองไปโดยสัญชาติญาณ

นางเห็นเพียงครึ่งใบหน้าผ่านฝูงชนมากมาย

แม้จะถูกบดบังไปกว่าครึ่งหน้า แต่นางกลับจำได้ทันทีว่าคนๆ นั้นคือใคร

ใบหน้าใบนั้น แม้จะสลายเป็นเถ้าถ่านนางก็จำได้

ความโกลาหลในใจไม่ถูกเผยออกมาแม้แต่น้อย ลั่วเซิงเคลื่อนสายตาออกราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น

นางไม่แน่ใจว่าจุดประสงค์ที่เว่ยเชียงมาปรากฎตัวที่นี่คืออะไร ยืนรอเงียบๆ ดีกว่า

“เถ้าแก่ จะจัดการคนเหล่านี้อย่างไรดีขอรับ” สือเยี่ยนถูมือ ถามอย่างไม่มีทีท่าว่าจะเหนื่อย

การต่อสู้อันโกลาหลเมื่อครู่นี้ สำหรับเขาแล้วเป็นเพียงการอบอุ่นร่างกายเท่านั้น

ลั่วเซิงไม่ได้ตอบ นางอมยิ้มมองเว่ยเหวิน

องครักษ์ที่ล้มลงบนพื้นโอดครวญเพราะความเจ็บปวด เสียงร้องโอดโอยราวกับฝ่ามือที่ตบลงไปบนหน้าเว่ยเหวิน

“ไร้ประโยชน์!” เว่ยเหวินกัดฟันสบถ สีหน้านิ่งขรึมจนดูย่ำแย่

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ”

กองกำลังทหารกลุ่มหนึ่งมาถึงอย่างล่าช้า

เว่ยเหวินพูดด้วยสีหน้าเยือกเย็นว่า “พวกเจ้ามาพอดี ข้าคือท่านหญิงจวนผิงหนานอ๋อง เมื่อวานท่านพี่ข้ากินอาหารที่หอสุราแห่งนี้แล้วท้องเสีย วันนี้ข้ามาขอคำอธิบายจากพวกเขา ใครจะไปคิดว่าพวกเขาจะลงมือกับข้า…”

เมื่อได้ยินดังนั้น หัวหน้ากองกำลังทหารก็สีหน้าจริงจังขึ้นมา โบกมือพูดว่า “จับตัวคนก่อเรื่องไป!”

กล้าดีมาก้าวล่วงท่านหญิงน้อยจวนผิงหนานอ๋อง ช่างเหลือเชื่อจริงๆ

ส่วนคุณหนูลั่วน่ะหรือ หึๆ หากเป็นเมื่อก่อน เจอเรื่องแบบนี้คงรู้สึกลำบากใจ เขาคงไม่กล้าขัดใจทั้งสองฝ่าย แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว

แม่ทัพใหญ่ลั่วทำความผิด สำหรับเขาแล้วหอสุราของคุณหนูลั่วที่แพงหูฉี่และทำให้คนตะกละตะกลามตายก็ไม่ยอมชดใช้ชีวิตแห่งนี้ต้องเกิดเรื่องในไม่ช้าก็เร็ว เพิ่งมาเกิดเรื่องวันนี้ถือว่าแปลกมากแล้ว

จับตัวคนของมีหอสุราไปให้จวนผิงหนานอ๋องพึงพอใจ แล้วคุณหนูลั่วมาใช้เงินไถ่ถอนตัวพวกเขา ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

เว่ยเหวินมองลั่วเซิงด้วยแววตาดูแคลน นางพูดยั่วยุว่า “คุณหนูลั่วจะกล้าขัดขืนการทำงานของราชการหรือไม่นะ”

ทหารที่รักษาความปลอดภัยของที่นี่โดยเฉพาะเป็นตัวแทนของกฎหมายและราชสำนัก แม้คนสิบคนจะสู้คนหนึ่งคนของมีหอสุราไม่ได้ แต่หากลงมือกับเจ้าหน้าที่ย่อมเป็นกรณีต่างกัน

นายอำเภอที่ทำลายครอบครัว ผู้ตรวจการที่กวาดล้าง สำหรับผู้ที่ไม่มีคนหนุนหลังแล้ว บ่อยครั้งต้องการเพียงแค่ข้ออ้างหนึ่งข้อเท่านั้น

แน่นอนว่าใช่ว่าคนตระกูลสูงศักดิ์ที่ทุบตีเจ้าหน้าที่จะไม่มี แต่การมีครอบครัวปกป้องย่อมไม่เหมือนกัน

ลั่วเซิงยังคงมีสีหน้าสงบ

นางกำลังรอคนๆ หนึ่ง

ตั้งแต่ที่คุณชายสามเซิ่งวิ่งเข้ามาในหอสุราบอกนางว่าเว่ยเหวินยกพวกมาหาเรื่อง นางก็สั่งคนไปรายงานผิงลี่แล้ว

แม่ทัพใหญ่ลั่วติดคุก แต่องครักษ์จิ่นหลินยังคงมีผิงลี่คอยดูแล

ผิงลี่คือบุตรบุญธรรมของแม่ทัพใหญ่ลั่ว ในเวลาแบบนี้ควรพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อปกป้องทุกคนที่สูญเสียการคุ้มครองจากแม่ทัพใหญ่ลั่ว

แต่เขาไม่ได้มา

ลั่วเซิงมิได้คาดหวังให้ผิงลี่มาช่วย แค่ต้องการลองอีกครั้งเท่านั้น

“ข้าย่อมไม่ขัดขืนเจ้าหน้าที่” ลั่วเซิงมองไปที่หัวหน้ากองกำลังทหาร น้ำเสียงสงบ “คนของหอสุราอยู่ที่นี่ทุกคน ท่านจะนำตัวใครไปก็เชิญ โอ้ ต้องนำตัวข้าไปด้วยหรือไม่เจ้าคะ”

เจ้าหน้าที่ที่เดิมทีกำลังรอให้ลั่วเซิงขัดขืนเพื่อที่เขาจะได้แสดงความเกรี้ยวกราดก็แทบจะล้มหงายหลัง

นี่ไม่เหมือนกับที่เขาคาดไว้เลยแม้แต่น้อย!

เขารักษาความปลอดภัยของที่นี่มาไม่ใช่แค่วันสองวัน เคยได้ยินเรื่องความโอหังอวดดีของคุณหนูลั่วมานานแล้ว

จู่ๆ คุณหนูลั่วเป็นเช่นนี้ ชวนให้รู้สึกไม่สบายใจจริงๆ

มีพิรุธ ต้องมีพิรุธแน่ๆ!

ใช่แล้ว ว่ากันว่าไคหยางอ๋องมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดากับคุณหนูลั่ว หรือว่าไคหยางอ๋องคือผู้ที่หนุนหลังคุณหนูลั่วนะ

ซี้ดดด… หากเป็นเช่นนี้ก็ไม่สมควรขัดใจยิ่งกว่าแม่ทัพใหญ่ลั่ว

หัวหน้าเจ้าหน้าที่ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกผิด ฝืนทำหน้าบึ้งตึงพูดว่า “จับตัวคนที่ลงมือเมื่อครู่นี้ไป!”

เกิดเป็นคนต้องรู้จักไว้หน้า เผื่อวันหน้าต้องเจอกันอีก

“จับแค่คนที่ลงมือหรือ”

“ใช่” หัวหน้าเจ้าหน้าที่รีบพยักหน้าทันที

เว่ยเหวินหรี่ตา โมโหอย่างยิ่ง

เมื่อครู่นี้เจ้าสุนัขรับใช้นี่ยังโหดเหี้ยมกับนังสารเลวสกุลลั่วนี่อยู่เลย เหตุใดจู่ๆ ก็โอนอ่อนนะ

ลั่วเซิงครุ่นคิดครู่หนึ่ง ง้างมือขึ้นตบเว่ยเหวินแล้วยิ้มให้เจ้าหน้าที่ “ได้แล้ว ข้าลงมือแล้ว”

ปลายจวักครองใจ

ปลายจวักครองใจ

Status: Ongoing
อาหารแม้เลิศรสเพียงไหน แต่หากซ่อนไว้ซึ่งพิษร้ายเล่า? แม้เขาจะดีเพียงใด แต่หากแซ่ ‘เว่ย’ แล้วไซร้ พวกเขาคงถูกลิขิตให้ไม่อาจร่วมโลก! จากผู้เขียน ตงเทียนเตอะหลิ่วเยี่ย นิยายโรแมนติก เข้มข้นสอดแทรกความตลกอย่างลงตัว จากผู้เขียน ตงเทียนเตอะหลิ่วเยี่ย สิบสองปีก่อนจวนเจิ้นหนานอ๋องถูกราชสำนักสั่งกวาดล้าง คนในจวนทั้งหมดโดนสังหาร โลหิตย้อมจนพื้นเป็นสีแดงฉาน ท่านหญิงชิงหยางที่ออกเรือนไปในวันเดียวกันนั้นพอทราบข่าวก็เร่งรุดกลับมาที่จวนกลับถูกสามีหมาดๆ อย่างผิงหนานอ๋องซื่อจื่อยิงธนูใส่จนสิ้นใจ ผิงหนานอ๋องซื่อจื่อ เว่ยเชียง คือผู้ที่รวบรวมหลักฐานการก่อกบฏของจวนเจิ้นหนานอ๋องรายงานต่อราชสำนัก ได้รับการยกย่องในความสามารถและถูกแต่งตั้งขึ้นเป็นรัชทายาทองค์ปัจจุบัน… สิบสองปีต่อมาท่านหญิงชิงหยางกลับฟื้นขึ้นอีกครั้งในร่างของ ลั่วเซิง คุณหนูสายตรงผู้เป็นดวงใจของแม่ทัพใหญ่ลั่ว เพราะนิสัยมักมากในกามของร่างเดิมจึงล่วงเกิน ไคหยางอ๋อง พระอนุชาในฮ่องเต้องค์ปัจจุบันผู้มีฉายาว่าเทพสงครามเข้า บิดาจึงจำใจส่งนางมาอยู่ที่บ้านท่านตาที่จินซา ชื่อเสียงของแม่นางลั่วนั้นเรียกได้ว่าฉาวโฉ่ เอาแต่ใจ หยาบคาย มักมาก เจ้าอารมณ์ ถือว่ามีบิดาคอยให้ท้ายไม่มีสิ่งใดไม่กล้าทำ หลังกลับคืนเมืองหลวงนางและ ไคหยางอ๋อง กลับมีเรื่องราวให้ต้องเกี่ยวพันกันอยู่เรื่อยๆ แม้เขาจะเป็นคนซื่อสัตย์เพียงไร แต่ในเมื่อเขาแซ่ ‘เว่ย’ นางและเขาก็ถูกลิขิตมาให้ไม่อาจอยู่ร่วมโลก! “ข้ากับแม่นางลั่วไม่ถือว่าเป็นคนแปลกหน้า” ชายชุดสีแดงเข้มเดินเข้ามาและสบตากับลั่วเซิง “ไม่ทราบว่าแม่นางลั่วจำข้าได้หรือยัง” “ก็นึกถึงเรื่องบางเรื่องขึ้นมาได้ แต่ไม่รู้จำผิดหรือไม่ คุณชายจะให้ข้าพูดออกมาตอนนี้เลยหรือ” เวลานี้เอง เว่ยหานเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ข้าคิดว่าหลังจากแม่นางลั่วปลดเข็มขัดข้าแล้วจะจำข้าได้เสียอีก”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท