พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่716 อันดับคนโหดเหี้ยม

บทที่716 อันดับคนโหดเหี้ยม

บทที่716 อันดับคนโหดเหี้ยม

รพีพงษ์ค่อยๆเงยหน้าขึ้น เห็นว่าคนที่มามีเสื้อผ้ามอมแมมเลอะเทอะ และผมกระเซิง และความโหดเหี้ยมกระจายไปทั่วทั้งร่างของผู้ชาย

ในสายตาของคนคนนี้มีความอาฆาตที่รุนแรง ถ้าคนธรรมดามองไปแวบเดียว ก็จะเกิดความรู้สึกหวาดผวากันทั้งนั้น

ไออ้วนกำลังนำผู้คนไปพัฒนาพื้นที่ใหม่ๆ เป้าหมายของพวกเขาไม่ได้จำกัดอยู่ที่การปลูกมันฝรั่งอีกต่อไป ด้วยประสบการณ์มากมายในการเอาชีวิตรอดในป่าที่พวกเขามี จึงสามารถหาผักป่าที่กินได้มากมายตามธรรมชาติ พวกเขาวางแผนที่จะปลูกผักป่าเหล่านี้เป็นจำนวนมาก

คิดว่าอีกไม่นาน เขาอารีในคุกที่ห้าก็จะกลายเป็น ฐานพื้นที่ที่ปลูกผักเพียงแห่งเดียว

หลังจากได้ยินเสียงตะโกนของชายคนนั้น พวกเขาทั้งหมดก็หันหน้ามองไปที่นั่น ต่อจากนั้นบางคนก็แสดงสีหน้าหวาดกลัว หลังจากนั้นก็อุทานว่า “นี่มันนัทธสมที่อยู่ในอันดับที่สิบของอันดับคนโหดเหี้ยม! จบเห่แล้ว ความแข็งแกร่งของคนคนนี้ทรงพลังมาก และเป็นกลุ่มอันดับต้นๆอยู่ในเน่ยจิ้งขั้นกลาง ที่สำคัญนิสัยของเขาแปลกๆ เมื่อพบเห็นคนก็ฆ่าทิ้ง พวกเรารีบหนีกันเถอะ!”

ไออ้วนก็ขมวดคิ้ว ไม่คาดคิดว่าคนที่มาหาถึงที่ในครั้งนี้ จะกลายเป็นยอดฝีมืออันดับคนโหดเหี้ยม

“เชื่อฟังอยู่ที่นี่แต่โดยดี ตอนนี้เน่ยจิ้งของพวกแกถูกกำจัดแล้ว ออกจากเขาอารี ก็จะตายเร็วขึ้นเท่านั้น”

ไออ้วนพูดขึ้นมาหนึ่งประโยค หลังจากนั้นก็รีบวิ่งไปหารพีพงษ์อย่างรวดเร็ว เอ่ยปากว่า: “ลูกพี่ คนคนนี้เป็นยอดฝีมืออันดับที่สิบของอันดับคนโหดเหี้ยม ความแข็งแกร่งมองข้ามไม่ได้เลย ถ้าไม่ไหวจริงๆ พวกเราก็ปล่อยที่นี่ทิ้งก่อนเถอะ รักษาชีวิตไว้สำคัญกว่า”

รพีพงษ์เลิกคิ้ว คาดไม่ถึงว่าครั้งนี้จะเป็นการคนที่โหดเหี้ยมจริงๆ ในช่วงนี้เขาก็ได้ฟังไออ้วนเล่าเรื่องราวของอันดับคนโหดเหี้ยม นี่เป็นอันดับรายชื่อที่ฝ่ายบริหารของเรือนจำ จัดเรียงอันดับออกมาจากความแข็งแกร่งของยอดฝีมือเหล่านี้ มีทั้งหมดสิบอันดับ

ยอดฝีมือในอันดับคนโหดเหี้ยม เป็นตัวแทนอานุภาพในการต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของคุกที่ห้าทั้งหมด โดยที่ไม่มีข้อยกเว้นพวกเขาต่างก็เป็นยอดฝีมือเน่ยจิ้งขั้นกลางอันดับต้นๆเหล่านั้น อยู่ในโลกภายนอก สามารถเป็นลูกพี่ผู้ยิ่งใหญ่ที่สามารถปั่นหัวสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายไปทั่ว

ยอดฝีมือเน่ยจิ้งขั้นกลางทั้งสามคนที่พ่ายแพ้ให้กับรพีพงษ์ก่อนหน้า อยู่ในระดับที่ไม่สามารถเข้าอันดับคนโหดเหี้ยมได้ ดังนั้นแม้ว่าชื่อเสียงของเขาอารีที่โด่งดังออกไป แต่ทว่าผู้คนมากมายยังคงไม่ให้ความสนใจ

อยู่ในคุกที่ห้า เพียงแค่อยู่ในรายชื่อคนที่โหดเหี้ยมเท่านั้น ถึงจะมีสิทธิ์ที่จะได้รับการยอมรับ

“มาได้พอดีเลย ฉันต้องการหาคู่ต่อสู้เหมาะสมเพื่อใช้ท่วงท่าที่เรียนมาใหม่ ในเมื่อหามาหาถึงที่ งั้นฉันก็ไม่ต้องเกรงใจแล้ว”

รพีพงษ์กล่าวเสียงเรียบ จากนั้นเดินไปหานัทธสม

ไออ้วนกลัวจนหน้าถอดสี คนอื่นถ้าเจอยอดฝีมืออันดับคนโหดเหี้ยม หนีแทบไม่ทัน รพีพงษ์กลับจะเอาเขามาทดลองท่วงท่าใหม่ของตัวเอง นี่ก็เท่ากับว่ารนหาที่ตาย

ผู้คนที่อยู่ในสวนไร่เห็นว่ารพีพงษ์ไม่เพียงแต่ไม่หนี แต่ยังเดินไปหานัทธสม ทั้งหมดดูถูกเล็กน้อย

“แม้ว่าความแข็งแกร่งของรพีพงษ์จะไม่อ่อนแอ แต่เมื่อเทียบกับคนอื่นเขาที่เป็นยอดฝีมือในอันดับคนโหดเหี้ยม วัยรุ่นไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน แต่มักจะจบลงด้วยความกล้าหาญเช่นนี้”

“จะไปสนใจอะไรมากมายทำไม เขาถูกนัทธสมฆ่าตาย พวกเขาก็สามารถฉวยโอกาสหนีไปได้ เขาถูกฆ่าตายก็สมควรแล้ว ไม่เจียมตัว อยู่ข้างในนี้ ถือเป็นสิ่งต้องห้าม”

……

นัทธสมจ้องมองรพีพงษ์ที่เดินมาตรงหน้าตัวเอง พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา: “แกคือรพีพงษ์เหรอ?”

“ถูกต้อง”รพีพงษ์ตอบ

“แกไม่ได้ยินสิ่งที่ฉันเพิ่งพูดไปเหรอ? รีบเอามันฝรั่งของพวกแกส่งมอบออกมาให้ฉันทั้งหมด ไม่อย่างนั้นแกก็จะตายอย่างอนาถามาก”นัทธสมเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงที่สั่งการ

รพีพงษ์ยิ้มบางเบา พูดว่า: “อยากจะเอาของของฉัน แกมีสิทธิ์ด้วยเหรอ”

“จองหองจริงๆ แกคิดจริงๆเหรอว่าจัดการกับพวกที่ไม่มีอิทธิพลไม่กี่คนได้ ก็มีสิทธิ์มาท้าทายฉัน?”ความอาฆาตบนตัวของนัทธสมยึดติดกับรพีพงษ์

รพีพงษ์ตั้งท่าต่อสู้ให้กับนัทธสม แล้วพูดว่า: “อย่าพูดจาไร้สาระ ให้ฉันได้ดูว่าสิ่งที่เรียกว่าอันดับที่สิบของอันดับคนโหดเหี้ยม ว่ามีความแข็งแกร่งแค่ไหนกัน”

เมื่อนัทธสมเห็นรพีพงษ์ตรงไปตรงมาขนาดนี้ ก็ไม่ได้พูดจาไร้สาระอีกต่อไป จึงรีบพุ่งตรงไปที่รพีพงษ์ เคลื่อนที่รวดเร็วราวกับสายฟ้า พกพาอานุภาพพลังที่ไม่มีใครเทียบได้

รพีพงษ์หรี่ตา รู้สึกได้ถึงแรงกดดันจากนัทธสม ความแข็งแกร่งของผู้ชายคนนี้ โดยพื้นฐานแล้วมันเกือบจะเหมือนกับรพีพงษ์ที่ฝึกฝนแรงภายนอกชั้นสูงสุดของเน่ยจิ้ง

ถ้าเป็นเมื่อเดือนที่แล้ว รพีพงษ์ต้องการเอาชนะนัทธสมคนนี้ คงจะต้องผ่านการต่อสู้อย่าหนัก แต่ตอนนี้ รพีพงษ์ฝึกฝนพลังวิเศษเสนได้แล้ว และมีพลังชนิดนี้ที่ลี้ลับมหัศจรรย์ยิ่งกว่าเน่ยจิ้งที่มีอยู่ รพีพงษ์ต้องการเอาชนะนัทธสม ไม่ใช่เรื่องยาก

เมื่อทั้งสองคนต่อสู้กัน ต้นไม้รอบๆก็สั่นสะท้าน และพลังที่มองไม่เห็นก็กระจายไปรอบๆ ทำให้ไออ้วนและผู้คนที่ดูการต่อสู้จากข้างสนามตกใจอย่างฉับพลัน

อาคารใหญ่ในคุก ในห้องตรวจตรา

“พวกคุณรีบมาดู เด็กรพีพงษ์นั้นกำลังต่อสู้กับนัทธสม!”ชายที่ปฏิบัติหน้าที่เห็นฉากที่อยู่ในภาพกล้องวงจรปิด และตะโกนทันที

ทุกคนมารวมตัวกันที่นี่ทีละคน จ้องไปที่ภาพกล้องวงจรปิด

“ดูเหมือนว่าชีวิตดีของเด็กคนนี้สิ้นสุดลงในที่สุด ก็เป็นเพราะเขา ฉันจึงเสียค่าขนมครึ่งเดือนให้กับท่านโกรพ ฉันหวังให้เขาเผชิญหน้ากับยอดฝีมืออันดับคนโหดเหี้ยมตั้งนานแล้ว”

“เด็กคนนี้แม้ว่าความแข็งแกร่งจะไม่อ่อน แต่อวดดีมากไปหน่อย เป็นครองตำแหน่งราชา อย่างโจ่งแจ้งในคุกที่ห้า ไม่ช้าก็ถูกคนจัดการ”

“อานุภาพพลังของนัทธสมดูเหมือนว่าจะแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนมาก ดูท่าทางว่าจะมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ตอนนี้เด็กรพีพงษ์นั้นโชคร้ายจริงแล้ว”

……

ผู้คนต่างก็ไม่ชอบรพีพงษ์คนนี้ที่เพิ่งเข้ามาคุกที่ห้าได้สองเดือนกว่า อายุเพียงแค่ยี่สิบกว่า “ผู้มาใหม่” ก็ทยอยออกความคิดเห็น

อย่างไรก็ตามสิบห้านาทีต่อมา ความประหลาดใจปรากฏบนใบหน้าของทุกคน

“ฉันคงจะไม่ได้ตาลายใช่มั้ย? นัทธสมกลับถูกรพีพงษ์สู้จนตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเหรอ?”

“โอ้พระเจ้าช่วย นี่ไม่ใช่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ นี่เท่ากับว่าพ่ายแพ้อย่างต่อเนื่อง ความแข็งแกร่งของรพีพงษ์นั้น ทำให้คนตกใจทึ่งมาก”

“ไม่ได้การล่ะ ครั้งนี้ที่ของพวกเรามีผู้ชายที่สุดยอดเหลือเชื่อมาแล้ว ฉันรู้สึกว่า คุกที่ห้า จะเป็นเพราะการมาของรพีพงษ์ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่อาจจินตนาการได้”

……

บนเขาอารี รพีพงษ์โจมตีหมัดออกไปที่นัทธสม นัทธสมเคลื่อนที่หมุนเวียนใช้เน่ยจิ้งสกัดกั้นไว้ ร่างกายบินถอยหลังอย่างรวดเร็ว หน้าอกขึ้นลงฉับพลัน และการหายใจก็ไม่คงที่เล็กน้อย

“นายก็แค่อายุเพียงยี่สิบกว่าๆเอง ทำไมถึงมีความแข็งแกร่งเช่นนี้ ถ้าพูดถึงเรื่องอายุ พวกผู้ชายที่อยู่อันดับข้างหน้าฉันคงจะเทียบกับนายไม่ได้”นัทธสมเอ่ยปาก

รพีพงษ์ยิ้มเล็กน้อย กล่าวว่า: “อาจเป็นเพราะโชคดี”

“วันนี้โชคของแกก็ค่อนข้างดี ฉันเพิ่งจะฝึกฝนหนึ่งท่วงท่าได้ แกก็โชคดีกลายเป็นคนแรกได้เห็นกลยุทธ์ของฉัน”

นัทธสมแอบด่าในใจ ถ้าหากนี่เป็นโชคดี งั้นเขายอมที่จะโขกหัวให้ตายทีเดียวเลย

รพีพงษ์ไม่ให้โอกาสนัทธสมได้โจมตี พุ่งเข้าหาเขาอีกครั้ง

กลยุทธ์ของเขาเปลี่ยนไป พลังวิเศษเสนภายในร่างกายกับเน่ยจิ้งหลอมรวมเข้าด้วยกัน ลักษณะที่แปลกประหลาดมารวมตัวกันที่บนฝ่ามือ

ในขณะนี้ ดูเหมือนจะมีคลื่นอากาศที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าบนตัวรพีพงษ์ ซึ่งน่าทึ่งเป็นอย่างยิ่ง

สีหน้าของนัทธสมเปลี่ยนไปอย่างมาก โดยรู้ตัวว่าตัวเองไม่สามารถรับมือกับท่วงท่านี้ได้ ก็หันหลังจะวิ่งหนี

อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะขยับ รพีพงษ์ได้ปรากฏตัวตรงหน้าเขาแล้ว ต่อจากนั้นก็ฟาดฝ่ามือลงไปที่บนตัวของเขา

“ฝ่ามือดาวฟ้า!”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท