ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี – บทที่ 154 ครั้งนี้…เหมือนว่าจะพลาดไป

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

ภาพนี้ทำให้ทุกคนตะลึงกันเป็นแถว!

ฉินห้าวที่พยายามปีนลุกขึ้นมาหน้าทึ่งตาค้างมองฉินซาง ขนาดว่าความเจ็บปวดบนตัวก็ลืมไปจนสิ้น พูดติดอ่าง “พะ…พี่ใหญ่ วะ…วันนี้พี่ดื่มมากไปเหรอ?”

“ทำไมไปก้มหัวให้ไอ้สวะนั่นล่ะ?!”

ฉินซางเป็นถึงลูกภรรยาหลวงของตระกูลฉิน หนึ่งในผู้สืบทอดผู้นำตระกูลฉินที่แข็งแกร่งที่สุด ด้วยฐานะและระดับชั้น ห่างกับฉินห้าวที่เป็นทายาทเศรษฐีเสเพลคนนี้ลิบลับ

ใต้หล้าที่ทำให้ฉินซางนอบน้อมด้วยขนาดนี้ได้ มีเพียงหยิบมือเท่านั้น!

เซี่ยงเส้าหลงมองฉินซางที่อยู่ตรงหน้า ยิ้มเล็กน้อยแล้วเปิดปากพูด “ถ้ารู้ว่าฐานะนายสูงส่งขนาดนี้ ตอนนั้นฉันน่าจะประจบนายให้มากหน่อย ฮ่าๆ… ”

ทันใดนั้นฉินซางก็เหงื่อแตกพลั่ก ก้มศีรษะและใช้น้ำเสียงก็นอบน้อมยิ่งกว่าเดิม “นายพลน้อยพูดอย่างนี้ จะทำผมอายุสั้นเอานะครับ!”

“หากไม่ได้การส่งเสริมของท่านในตอนนั้น ก็ไม่มีฉินซางในวันนี้!”

“ที่ฉินห้าวล่วงเกินท่านในวันนี้เป็นเพราะผมอบรมไม่ดีเอง ไม่ว่าท่านจะลงโทษเขายังไง ผมก็จะไม่ปริปากเด็ดขาด!”

ว่าแล้วนัยน์ตาก็แวบความเย็นชา “เอาไอ้เลวนั่นมานี่!”

เมื่อคุณชายใหญ่ตระกูลฉินออกคำสั่ง บอดี้การ์ดที่ฉินห้าวพามาด้วยย่อมไม่กล้าขยับ สองคนที่ฉินซางพามาลากฉินห้าวมาอย่างกับลากลูกเจี๊ยบ แล้วเหวี่ยงลงไปอยู่ตรงหน้าเซี่ยงเส้าหลง เวลานี้ฉินห้าวยังคิดยังตามไม่ทัน มองฉินซาง “พะ…พี่ใหญ่ พะ…พี่เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?”

“เฮอะ!”

ฉินซางหงุดหงิดมองเขาแบบไม่ได้ดั่งใจ พูดเสียงกร้าว “แกยังจำได้ไหม ว่าเมื่อก่อนฉันเป็นยังไง?”

ฉินห้าวพยักหน้า เขาย่อมรู้ดีกว่าใคร ระดับความเสเพลของฉินซางเมื่อแปดปีก่อน ถ้าเทียบกับตัวเองในตอนนี้แล้วยังหนักกว่ามาก ถึงจะเป็นลูกภรรยาหลวงตระกูลฉิน แต่ฉินซางกลับเทียบกับผู้ชิงคนอื่นๆ ไม่ได้เลย เพื่อฝึกฝนเขา พ่อถึงกับขับเขาออกจากบ้าน ภายใต้วาสนานำพาเขาจึงเข้ากับกองทัพชายแดนเหนือ กลายเป็นทหารของเซี่ยงเส้าหลง

ชีวิตทหารศึกห้าปี ขัดเกลาคุณชายเสเพลผู้สูงส่งเป็นชายชาติทหารผู้ห้าวหาญ

ห้าปีให้หลัง เมื่อเขากลับบ้านเพราะการเรียกตัวของตระกูล เขาก็แสดงความเปลี่ยนแปลงที่ราวฟ้ากับเหว

ด้วยการตรากตรำอย่างหนัก กอปรกับฐานะลูกภรรยาหลวงของเขา ไม่นานก็รวบรวมพลพรรคส่วนมากในตระกูลได้ กลายเป็นหนึ่งในผู้ชิงตำแหน่งผู้นำตระกูลรุ่นต่อไปที่แข็งแกร่งที่สุด

พูดได้เลยว่าหากไม่มีการฝึกฝนกับกองทัพชายแดนเหนือในตอนนั้น ก็ไม่มีฉินซางในวันนี้

“ฉะนั้น…แกรู้หรือยังว่าเพราะอะไร?”

เมื่อฉินซางค่อยๆ เล่าจนจบ ก็พูดกับฉินห้าวอีก “ไม่มีนายพลน้อย ก็ไม่มีฉันในวันนี้!”

หลังจากที่ฟังเรื่องราวจนจบ ฉินห้าวก็ตาค้างไปทันที ให้ตายเขาก็คิดไม่ถึงว่าเซี่ยงเส้าหลงกับฉินซางจะเกี่ยวข้องกันถึงขั้นนี้

เซี่ยงเส้าหลงยิ้มตาหยีมองฉินห้าว พูดช้าๆ “ตอนนี้ ยังอยากให้ผมคุกเข่าให้คุณไหมครับ?”

ฉินซ่างถลึงตาทันที ถีบฉินห้าวลงไปคุกเข่าต่อหน้าเซี่ยงเส้าหลง พูดเสียงกร้าว “ไอ้เลว! แกคู่ควรให้นายพลน้อยคุกเข่าให้เหรอ?!”

เซี่ยงชินชินที่อยู่ด้านข้างไม่รู้เรื่องรู้ราว ขึ้นเสียงทันที “พี่ใหญ่! พี่ไปช่วยคนนอกมารังแกพี่น้องร่วมสายเลือดได้ยังไง! ”

“ถึงยังไงฉินห้าวก็เป็นคุณชายตระกูลฉิน ถ้าถือตามศักดิ์แล้ว เซี่ยงเส้าหลงยังต้องเรียกเขาว่าอาเขยด้วยซ้ำ มีที่ไหนกัน ให้ผู้ใหญ่มาคุกเข่าให้ผู้น้อย!”

“เหรอ?”

ฉินซางหรี่ดวงตา “งั้นจากที่เธอพูด ต้องทำยังไง?”

เซี่ยงชินชินฟังไม่ออกถึงความเย็นชาในวาจานั้น ยังสะบัดมืออวดตัวอีก “เห็นแก่ที่พี่ใหญ่รู้จักกับเขา ก็ให้เซี่ยงเส้าหลงก้มหัวเป็นการขอโทษแล้วกัน เรื่องก่อนหน้านี้ก็ถือเป็นอันจบ”

“นี่เพราะเห็นแก่พี่ใหญ่หรอกนะ!”

เซี่ยงชินชินทวนคำพูดนี้ซ้ำอีกครั้ง ราวกับไว้หน้าอันสูงส่งของฉินซาง

“เหอะๆ…”

ฉินซางหัวเราะ ยิ้มได้เย็นยะเยือกมาก และทันใดนั้นเขาก็บีบคอเซี่ยงชินชิน น้ำเสียงดุดัน “เธอคิดว่าตัวเองเป็นใครฮะ? เธอมีสิทธิ์มาพูดอะไรตรงนี้?”

“ในบรรดาตระกูลลึกลับที่เกรียงไกร ผู้หญิงก็แค่สะพานเชื่อมสัมพันธ์เท่านั้น!”

“เธอที่เกิดจากอนุมารดาในตระกูลย่อย มีสิทธิ์อะไรมาพูดต่อหน้าฉัน?”

“พะ…พี่ใหญ่!”

เซี่ยงชินชินถูกบีบคอจนหน้าแดงก่ำ พยายามพูด “ฉัน…ฉันเป็นคุณหนูตระกูลเซี่ยง พี่ทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะ!”

“คุณหนูตระกูลเซี่ยง? เหอะๆ ถึงตระกูลเซี่ยงจะเสื่อมถอย แต่ก็ยังเป็นตระกูลลึกลับที่เกรียงไกรเหมือนกัน ว่าด้วยศักดิ์ศรี ฉันไม่มีสิทธิ์จะดูหมิ่น แต่นั่นหมายถึงตระกูลเซี่ยง สำหรับเธอ เธอไม่ใช่ตัวแทนของตระกูลเซี่ยง! ”

“ตระกูลเซี่ยง นอกจากคุณท่านเซี่ยงแล้ว ก็มีแค่ลูกภรรยาหลวงเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์เป็นตัวแทนของตระกูลมาพูดกับฉัน!”

ว่าแล้วก็เหวี่ยงไปอยู่ตรงหน้าเซี่ยงเส้าหลงอย่างแรง มองฉินห้าวแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็น “วันนี้ถ้าไม่ได้การอภัยจากนายพลน้อย แกก็ไม่ต้องกลับตระกูลฉิน!”

ฉินห้าวสมองแล่นไปพลัน ความอำมหิตใจดำของพี่ใหญ่ เขารู้ดีที่สุด หากเขาตัดสินใจแล้ว แม้จะเป็นผู้ใหญ่ในตระกูลก็ไม่มีสิทธิ์เปลี่ยนแปลง หากออกจากตระกูลฉิน ด้วยพฤติกรรมที่ผ่านมาของฉินห้าว ไม่พ้นวันคงต้องถูกคนที่เคยถูกเขารังแกซ้อมตายก่อนแน่

เมื่อคิดถึงจุดนี้ เขาก็ตบเซี่ยงชินชินแบบดังชัดแจ๋วไปสองฉาดทันที ก่นด่าเสียงดัง “นังแพศยา! กูว่าแล้วว่ามึงต้องไม่ใช่คนดีอะไรแน่!”

“ถ้าไม่เป็นเพราะมึง กูจะล่วงเกินคนอย่างท่านนายพลน้อยได้ยังไง?”

“มึงจงใจอยากทำให้กูเดือดร้อนใช่ไหม?”

“กูจะบอกให้นะ วันนี้ถ้าท่านนายพลน้อยไม่ให้อภัย กูจะเอามึงให้ตายเลย!”

ตบนี้ทำให้เซี่ยงชินชินได้สติทันที เมื่อเห็นท่าทางของฉินห้าวที่จริงจังแล้วก็น้ำตาไหลพราก หมดแรงอยู่กับพื้น ถึงในใจอยากฉีกเซี่ยงเส้าหลงเป็นชิ้นๆ แต่ก็ยังทำเป็นสำนึกผิด “เส้าหลง ฉันผิดไปแล้ว! ฉันสึกนึกผิดแล้วจริงๆ”

“เห็นแก่ที่เราเป็นสายเลือดตระกูลเซี่ยงเหมือนกัน เธอก็อภัยฉันสักครั้งเถอะ”

เซี่ยงเส้าหลงค้อมตัวลงเล็กน้อยมองเธอแล้วยิ้ม “ตอนนี้คงแค้นผมมากละสิ?”

เมื่อถูกมองออกเซี่ยงชินชินก็ตัวสั่น รีบส่ายหน้า “เปล่า! ฉะ…ฉันเปล่านะ!”

“เหอะๆ…ที่จริงก็ไม่เป็นไรหรอก มดแมลงตัวเดียวจะเป็นฟืนเป็นไฟยังไงก็สั่นคลอนไม้ใหญ่ไม่ได้ และในสายตาของผม คุณก็เป็นแค่มดแมลงตัวหนึ่งเท่านั้น!”

เศษสวะที่เคยดูแคลน บัดนี้กลับแลมองจากที่สูง ส่วนตัวเองกลับได้แต่ยอมรับอย่างถ่อมตน การพลิกหน้ามือเป็นหลังมือนี้ ทำให้เธอสะท้านไปทั้งตัว

จากนั้นเซี่ยงเส้าหลงก็ยืดตัวตรง มองฉินซางแล้วพูดคำพูดที่มีความหมายเป็นนัย “แต่ไหนมาตระกูลฉินก็เข้มงวด แต่ครั้งนี้…เหมือนว่าจะพลาดไปนะ…”

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

Status: Ongoing
ลูกสาวถูกขายให้เป็นเจ้าสาวเด็ก ภรรยาตกเป็นหมากให้คนอื่น เซี่ยงเส้าหลงกลับมาพร้อมกับความโกรธ รวบอำนาจแห่งความยิ่งใหญ่ เทพสงครามเดือดผนึกโลก ยกกองทัพออกศึกสะท้านปฐพี

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท