ร่างดำเตี้ยเข้าใจทันที สายตาส่อแววเย็นเยือกขึ้นมาวูบหนึ่ง ปราดเข้ามาที่ข้างตัวจ้าวชง และคว้าคอเสื้อเขาพลางยกตัวจ้าวชงที่สูงกว่าเขาหนึ่งช่วงหัวขึ้นจากพื้นเฉยเลย!
“แก!….แกคิดจะทำอะไร?!”
“ฉันเป็นคุณชายจ้าวนะ!”
“แกกล้าทำอะไรฉัน ตระกูลจ้าวไม่ปล่อยแกไปแน่! แกจะอยู่ยากในเมืองซูหังแน่!”
เซี่ยงเส้าหลงส่ายหัว แววตาฉายแววเย็นเยือกวูบหนึ่ง “หลัวผิง! ตบปาก!”
“ครับ!”
เผชิญหน้าคำสั่งของเซี่ยงเส้าหลง หลัวผิงกางฝ่ามือออกสะบัดตบเข้าไปที่ใบหน้าจ้าวชงอย่างจัง!
ฝ่ามือคู่นั้นเป็นฝ่ามือเหล็กที่เคยฝึกหมัดแปดทิศมาก่อนนะ!
เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นเป็นระลอกไปทุกทิศ ไม่นาน ก็ฟันร่วงเต็มพื้น หลัวผิงสะบัดเขาทิ้ง จ้าวชงหน้าเลือดสาด บวมปูดราวกับหัวหมู ไม่เหลือท่าทีหยิ่งผยองก่อนหน้านี้เลยสักนิด!
เซี่ยงเส้าหลงโอบเอวหูเม่ยเอ๋อด้วยท่าทีราวกับราชัน ถึงน้ำเสียงเรียบแต่ท่าทีเย่อหยิ่งมีอำนาจว่า “ผมไม่สนใจว่าเมื่อก่อนพวกคุณชอบเม่ยเอ๋อมากแค่ไหน แต่ขอให้จบลงตั้งแต่วินาทีนี้ เก็บความคิดสกปรกพวกนั้นของพวกคุณซะ!”
“ไม่นาน ผมเซี่ยงเส้าหลงจะส่งขันหมากไปสู่ขอที่ตระกูลหู ถ้ามีใครกล้ารบกวนตอแยเม่ยเอ๋ออีก อย่าหาว่าผมเซี่ยงเส้าหลงไม่ไว้หน้าล่ะ!”
น้ำเสียงนั้นสะท้อนไปมาในหมู่ฝูงชนที่ห้อมล้อมอยู่เนิ่นนาน!
หูเม่ยเอ๋อในอ้อมกอดเขา กะพริบตาวิบวับ คำประกาศเย่อหยิ่งเมื่อครู่ทำให้หัวใจเธอที่พาดผ่านโลกมนุษย์มาเนิ่นนานเริ่มสั่นไหวน้อยๆ!
หนุ่มน้อย นายทำให้พี่สาวคนนี้เริ่มชอบนายมากขึ้นเรื่อยๆแล้วนะ!
จ้าวชงโดนการ์ดหามออกไป ฝูงชนที่ห้อมล้อมเริ่มค่อยคลายลง หูเม่ยเอ๋อที่ยังคงอยู่ในอ้อมกอดของเซี่ยงเส้าหลงพูดขึ้นเบาๆว่า “โอบพอหรือยัง?”
สีหน้าเรียบเฉยของเซี่ยงเส้าหลงเปลี่ยนทันที รีบปล่อยมือออกฉับพลัน ขยับเท้าหนึ่งก้าว ออกห่างเธอทันที
พรืด!
เซี่ยงเส้าหลงเหล่เล็กน้อยไปที่หลัวผิงที่อยู่ข้างๆ หน้าแดงก่ำ เหมือนอยากหัวเราะแต่ก็ไม่กล้า
“ตลกหรอ?”
เซี่ยงเส้าหลงมองเขาอย่างไม่หวังดีเท่าไหร่
หลัวผิงอุดปาก ส่ายหน้ารัวๆ
“เหอะ! ลืมเรื่องที่เห็นเมื่อกี้ให้หมด! ถ้ามันแพร่ไปถึงหูคนที่ไม่ควรได้ยิน แกล้างคอรอไว้ได้เลย!”
ถึงหลัวผิงจะเรียบง่ายใจดี แต่ไม่โง่ คนที่ไม่ควรได้ยินนี่ นอกจากอวิ๋นเสว่เหยนที่อยู่ห่างไกล ยังจะมีใครอีก?
“หนุ่มน้อย อาหารเที่ยงของฉันล่ะ?”
เซี่ยงเส้าหลงชี้ไปชั้นบน “อยู่ในห้องทำงานคุณน่ะ!”
หูเม่ยเอ๋อโบกมือทันที “ช่างเถอะ ไม่กินแล้ว! มา ไปกับพี่!”
จิตใจผู้หญิงนี่ล้ำลึกเหมือนงมเข็มในมหาสมุทรจริงๆ ถ้าให้หูหยุนหลงรู้ว่า อาหารเที่ยงที่ประดิดประดอยมา หูเม่ยเอ๋อไม่แม้แต่จะชายตาแลเลย ไม่รู้เขาจะคิดยังไง
“ทำอะไร?”
“ในเมื่อคุณเป็นคู่หมั้นฉัน อุปกรณ์เครื่องแต่งกายจะกระจอกแบบนี้ได้ยังไง?”
“และในเมื่อคุณจะมารับมาส่งฉันทำงาน จะใช้สองขาวิ่งมาก็ไม่ใช่มั้ง?”
“อะไรนะ?” คุณจะให้ผมมารับมาส่งคุณทำงานทุกวัน?”
หูเม่ยเอ๋อหันมามองเล็กน้อย “ทำไม ไม่อยาก?”
เซี่ยงเส้าหลงแค่นเสียงหึ “ใช่ ผมไม่….”
“ไอ้หยา ฉันจำได้ว่า นายพลน้อยเซี่ยงยังไม่ได้ทำเงื่อนไขสองข้อที่รับปากฉันใช่ไหม? ฉันคิดดูก่อนนะ คืนนั้นเกิดอะไรขึ้นน้า…”
“ได้! ผมรับปาก!”
เซี่ยงเส้าหลงมองเธออย่างกัดฟันกรอด เขาขยับตัวเข้าหาหูเม่ยเอ๋อ กระซิบว่า “เราตกลงกันก่อนนะ รับปากเรื่องนี้แล้ว เงื่อนไขสามข้อนั่นถือว่าเป็นโมฆะแล้วนะ!”
หูเม่ยเอ๋อยิ้มร่ามองเขา “ตกลง!”
“ได้เลย ช่วงก่อนพี่สาวพึ่งจองรถมาคันหนึ่ง ตอนนี้ไปเอารถกับฉันละกัน!”
หน้าศูนย์รถ เซี่ยงเส้าหลงมองกุญแจในมือ และหันไปมองรถด้านหลัง เขาพูดอย่างเหนื่อยใจว่า “คุณอย่าบอกผมนะว่า Volkswagen Beetleสีชมพูคันนี้เป็นรถที่คุณเตรียมไว้ให้ผม?”
หูเม่ยเอ๋อลูบตัวรถVolkswagen Beetleยิ้มๆว่า “ใช่ไง! คุณดูสิน่ารักแค่ไหน รถคันนี้ฉันสั่งทำมาเลยนะ แค่สีรถสีชมพูนี่ จ่ายไปห้าแสน!”
ระหว่างมองดูรถสีชมพูตั้งแต่ข้างในยันข้างนอก เส้นเลือดที่ขมับของเซี่ยงเส้าหลงปูดโปนเล็กน้อย ถ้าเขาขับรถคันนี้ออกไปทุกวัน ภาพนั้น เขาไม่กล้าจะคิดเลย….
“ขับรถ!”
“เอ่อ เราคุยกันก่อนนะ เปลี่ยนรถได้ไหม?”
“เปลี่ยนรถ? ได้สิ งั้นคุณดูสิ คันนี้ของฉันเป็นยังไง?”
สีหน้าเซี่ยงเส้าหลงเหนื่อยหน่ายใจ ถึงผมจะไม่มีหลักฐาน แต่ผมสงสัยว่าคุณกำลังเล่นสนุก
เพื่อป้องกันนางมารสาวคนนี้พูดอะไรที่คาดไม่ถึงออกมาอีก เซี่ยงเส้าหลงรับกุญแจรถมาเลย “ขึ้นรถ!”
พึ่งขับออกจากศูนย์ ก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่ม พอหันไปมอง รถหรูสี่คันกำลังพุ่งเข้าหาตน!
สายตาเซี่ยงเส้าหลงฉายแววเย็นเยือกขึ้น สายตาระดับเขา มองแวบเดียวก็ดูออกว่า รถหรูสี่คันนี้ผ่านการปรับปรุงตกแต่งอย่างพิถีพิถันมาแล้ว แรงขับเคลื่อนน่าตกใจมาก!
ในภาวะคับขัน เซี่ยงเส้าหลงไม่ลังเลเลยสักนิด เขาเลี้ยวรถกลับอย่างสวยงาม จากนั้นเหยียบคันเร่งโดยแรง Volkswagen Beetleสีชมพูน่ารักพุ่งทะยานผ่านช่องว่างระหว่างรถสองคันออกไป!
ถ้าไม่ใช่เพราะตนปฏิกิริยาไวพอ ภายใต้การพุ่งชนของความเร็วระดับนี้ ตนกับหูเม่ยเอ๋อต้องบาดเจ็บไม่น้อยแน่!
พอหันไปมอง หูเม่ยเอ๋อที่อยู่ข้างๆไม่เหลือแววเย้ายวนก่อนหน้านี้ ใบหน้าแน่งน้อยนั่นดูซีดเผือดลงไป เห็นได้ชัดว่าตกใจไม่น้อยเลย!
เซี่ยงเส้าหลงกำลังเตรียมจะเปิดประตูลงไปคุยกะพวกเขาสักหน่อย ใครจะคิด กลับมีคนกลุ่มหนึ่งลงจากรถทั้งสี่คัน คนนำหน้าย้อมผมแดง เดินเข้ามาอย่างโมโห!
“ลงมาเดี๋ยวนี้เลย!”
เซี่ยงเส้าหลงลงจากรถ ท่าทางไม่ด้อยไปกว่ากัน “มีอะไรหรอ?”
ผู้ชายผมแดงหยิบมือถือออกมา โชว์หน้าเขา ตะคอกถามว่า “นี่แกใช่ไหม?”
เซี่ยงเส้าหลงเลิกคิ้วเล็กน้อย นี่มันคลิปที่สารภาพรักกับหูเม่ยเอ๋อที่ใต้ตึกกุหลาบกรุ๊ปเมื่อกี้ไม่ใช่หรอไง?
มีคนถ่ายเอาไว้แล้วลงอินเทอร์เน็ต แต่ไม่คิดว่าจะแชร์กันเร็วขนาดนี้ แค่เพียงชม.เดียว ก็ขึ้นฟีดอันดับหนึ่งของเมืองซูหังแล้ว!
“ผมเอง แล้วทำไม?”
“ไอ้เลว! แกมันตัวอะไร กล้าพูดจาซี้ซั้วแบบนั้น?!”
“ตอนนี้ฉันจะไปหานักข่าว แกรีบแถลงข่าวให้ฉันเดี๋ยวนี้เลยว่า ที่แกพูดไปเมื่อกี้เป็นเรื่องโม้ล้วนๆ!”
“เถียนเซิ่ง! นายทำบ้าอะไร นายไม่รู้หรือไงว่าฉันก็อยู่ในรถด้วย?!”
สีหน้าหูเม่ยเอ๋อโกรธ มาก เป็นใครเจอเหตุการณ์อันตรายถึงชีวิตแบบเมื่อกี้ สีหน้าคนคนนั้นในตอนนี้ก็คงไม่ดีไปกว่ากันเท่าไหร่!
พอเห็นหูเม่ยเอ๋อโกรธ เถียนเซิ่งรีบอธิบายทันที “เม่ยเอ๋อ ขอโทษ แต่คุณไม่รู้ฝีมือการขับรถของผมหรอ มันไม่มีทางทำร้ายคุณแน่!”
เซี่ยงเส้าหลงหันไปมองเล็กน้อย “รู้จักกัน?”
“คุณชายตระกูลเถียน ฐานะพอๆกับตระกูลจ้าว และเป็นหนึ่งในคนตามจีบฉัน!”
เซี่ยงเส้าหลงยิ้มเศร้าออกมา เขามีลางสังหรณ์แล้วว่า เถียนเซิ่งจ้าวชงคงเป็นแค่การเริ่มต้น…
พอเห็นยิ้มเศร้าของเซี่ยงเส้าหลง เถียนเซิ่งคิดว่าเขากำลังหัวเราะเยาะตน เลยตะคอกใส่ด้วยความโกรธว่า “ไอ้หนู! แกหัวเราะอะไร! ไม่ดูเงาหัวตัวเองเลยว่าเป็นอะไร ถ้ารู้ตัว ก็รีบไสหัวไปให้ไกลสายตาเม่ยเอ๋อเลย!”
เผชิญหน้าการท้าทายของเถียนเซิ่ง เซี่ยงเส้าหลงหลุดหัวเราะพรืด พูดว่า “ก่อนจะดูผม ไม่ลองแนะนำตัวเองก่อนหรอว่า คุณน่ะเป็นตัวอะไร?”
คำพูดเดียวทำให้บรรดาลูกน้องด้านหลังเขาเดือดทันที!
“ไอ้หนู! กล้าพูดกับคุณชายเถียนแบบนี้ได้ยังไง? ให้เวลาแกสามวินาที เรียบเรียงคำพูดใหม่ซะ!”
“ไอ้เลวเอ๊ย! ไม่อยากมีชีวิตแล้วหรือไง? รู้ไหมว่าคนตรงหน้าแกเป็นใคร? เชื่อไหมว่าแกจะออกจากที่นี่ไม่ได้น่ะ?”
ลูกน้องหลายคนกำหมัดแน่น แทบอยากปราดเข้าไปจับเซี่ยงเส้าหลงกดลงพื้นกระทืบสักยกหนึ่ง!
หูเม่ยเอ๋อสายตาเย็นเยียบลงทันที เธอก้าวเท้าออกมาขวางหน้าเซี่ยงเส้าหลงไว้ พูดเสียงต่ำว่า “ฉันจะดูสิว่าใครกล้าแตะต้องคู่หมั้นฉัน?!”