อู๋เสียนมีสถานะทางสังคมสูงส่ง ไม่เพียงแต่เป็นนายกสมาคมซูเปอร์คาร์และพ่อของเขาเองก็ยังเป็นนายทุนอสังหาริมทรัพย์แห่งเมืองเทียนไห่ มีแฟนคลับจำนวนมากมายในเมืองเทียนไห่ แถมยังขวัญใจพนักงานต้อนรับหญิงสาวๆ ทั่วไปอีกด้วย
อู๋เสียนพยักหน้า หันกลับไปมองเซี่ยงเส้าหลง
และในเวลานั้นเองเซี่ยงเส้าหลงเงยหน้าขึ้นประจันหน้ากับอู๋เสียน
อู๋เสียนมองออกว่า ชายคนนี้มีบุคลิกไม่ธรรมดา
ภายในดวงตาที่อบอุ่น ราวกับว่ายังแฝงไปด้วยกับสิ่งที่ยังไม่เผยให้เห็น
ความนิ่งขรึมสามส่วน มีคุณธรรมสามส่วน มีไอสังหารสามส่วน เหลืออีกหนึ่งส่วนนั้นมีความทะนงตน!
แต่ว่าเมื่อเทียบกับการแต่งตัวสวมเสื้อผ้าธรรมดาแล้ว ช่างแตกต่างกับบุคลิกอย่างสิ้นเชิง
ด้วยเหตุนี้ทำให้อู๋เสียนเกิดความใคร่อยากรู้อย่างแรงกล้า
อู๋เสียนเดินเข้าไปหาเซี่ยงเส้าหลง พนักงานต้อนรับหญืงกับเพื่อนสนิทของเธอ แอบมองดูรูปร่างที่หล่อเหลามีสง่าราศีของอู๋เสียน เกิดชื่นชมหลงใหลขึ้นในใจ
“ว้าว!คุณชายอู๋หล่อมาก!”
“อยากแต่งงานกับผู้ชายในฝันอย่างนี้จริงๆ !”
อู๋เสียนเดินเข้าไปหาเซี่ยงเส้าหลงสอบถามว่า “ตามคุณหาผม มีเรื่องอะไรเหรอครับ?”
“ขอไม่พูดมากความ ผมชื่อเซี่ยงเส้าหลง”
เซี่ยงเส้าหลงพูดเข้าประเด็นในทันทีไม่คิดจะพูดจาให้มากไปกว่านี้
และในขณะนั้นเอง อู๋เสียนคิ้วกระตุกอย่างรุนแรง ใบหน้าเผยให้เห็นถึงอารมณ์ที่สะพรึงกลัว
คุณชายอู๋ที่สงบนิ่งไม่เคยหวาดกลัวสิ่งใด แต่ในครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เกิดเสียอาการ
“คุณ……เซี้ยง!” อู๋เสียนพูดเสียงสั่นเครือในลำคอ ดวงตาทั้งสองเบิกกว้าง
เขาได้รับสายโทรศัพท์จากซ่งจื้อตง ถึงเร่งรีบเดินมาหา กลับไม่คิดว่าบุคคลที่ทำให้ซ่งจื้อตงให้ความใส่ใจถึงเพียงนี้ เป็นคนหนุ่มที่แต่งตัวธรรมดาคนนี้!
ราวกับว่าสามารถตอบคำถามในใจของเขาได้อีกครั้ง เซี่ยงเส้าหลงยกกุญแจรถยนต์ขึ้นมาแกว่งเล็กน้อย ถามด้วยท่าทีไม่พอใจว่า “ขอถามหน่อย จะมาเอารถผมไปได้หรือยัง?”
แม้เขาจะไม่ปราถรถนาที่จะเชื่อ แต่กุญแจดอกนั้น ทำให้เขาต้องเชื่อโดยสนิทใจ!
“คุณเซี่ยง เชิญคุณไปที่ห้องรับรองที่ชั้นสอง ดื่มน้ำชาพักผ่อนสักหน่อย ทางนี้ผมจะจัดการเรื่องรถให้ท่าน”
ท่าทีของอู๋เสียนเปลี่ยนในทันที มีความเคารพนอบน้อม ไม่กล้าที่จะชักช้าแม้แต่วินาทีเดียว
พนักงานต้อนรับหญิง และเพื่อนสาวคนสนิทของเธอ เห็นภาพฉากนี้ ทั้งตกตะลึงทั้งสงสัยมากยิ่งขึ้น
คุณชายอู๋ที่ปกติแล้วจะดูมีบุคลิกมาดมั่นหยิ่งทะนง แต่เหตุใดกลับเปลี่ยนท่าทีได้ในชั่วพริบตา แสดงท่าทีเคารพนอบน้อมถึงเพียงนี้ เหมือนดั่งลูกแกะน้อยเชื่องๆ ตัวหนึ่ง
ยิ่งกว่านั้น ดูอ่อนน้อมถ่อมตนมาก
“มันเรื่องอะไรกันแน่ คุณชายอู๋เป็นถึงทายาทเศรษฐีระดับต้นๆ ของเทียนไห่นะ!”พนักงานต้อนรับหญิงเบิกตากว้าง
“โอ้วววว! ฉันก็ว่าแล้ว พี่ชายรูปหล่อคนนี้ต้องปกปิดสถานะตน คงจะเป็นลูกพี่ใหญ่จากที่ไหนสักแห่งมาหาประสบการณ์แน่ๆ !”เพื่อนสาวคนสนิทแสดงท่าทีเย้าหยอก ดวงตาเปล่งประกาย
“เธอนี่บ้าเกินไปแล้ว!” พนักงานต้อนรับหญืงสบถด่าเพื่อนสาวคนสนิท ดวงตาทั้งสองกลับจ้องมองเซี่ยงเส้าหลงด้วยท่าทีจริงใจ สีหน้าเต็มไปด้วยความเคารพนอบน้อม
และในขณะนั้น เซี่ยงเส้าหลง ก็โบกไม้โบกมือ พูดกับอู๋เสียนว่า “ดื่มชานั้น ขอไม่ดีกว่า ผมยังมีเรื่องอื่นที่ต้องทำ”
อู๋เสียนถอนหายใจเล็กน้อย นึกเสียดายที่ไม่สามารถ เชิญเซี่ยงเส้าหลงดื่มน้ำชาได้
เพราะครั้งนี้เป็นโอกาสที่หาได้ยากมาก คนที่สามารถทำให้มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของเมืองเทียนไห่ แสดงท่าทีเคารพได้ถึงขนาดนี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคนคนนี้ ต้องมีฐานะใหญ่โต หากได้รับความไว้ใจจากเขา ก็เหมือนกับว่า ได้รับความไว้ใจจากซ่งจื้อตงอีกด้วย เป็นอย่างนี้แล้ว เส้นทางของเขาในอนาคต ก็จะเป็นเส้นทางที่โชติช่วงชัชวาล!
“เออใช่แล้ว!”จู่ๆ เซี่ยงเส้าหลงก็พูดขึ้นว่า “สถานะของผม……”
คนฉลาดฟังแล้วก็เข้าใจในทันทีพยักหน้ารับคำ “คุณเซี่ยงวางใจได้ ผมจะปิดเรื่องของคุณเป็นความลับ หากคุณยังมีเรื่องต้องการอะไร เอ่ยปากกับผมได้ทันที นี่คือนามบัตรของผม”
พูดพลาง อู๋เสียนก็หยิบนามบัตรยื่นให้กับเซี่ยงเส้าหลง
เซี่ยงเส้าหลงรับไว้แล้วโยนใส่เข้าไปกระเป๋าเสื้อทันที
“โอเค หากมีเรื่องอะไร ผมจะมาหาคุณ” เซี่ยงเส้าหลง พูดโดยไม่มีทีท่าเกรงใจ แต่ใบหน้าอู๋เสียนกลับเผยให้เห็นถึงความดีใจ ที่จะมีโอกาสช่วยเหลือเซี่ยงเส้าหลง ซึ่งนับเป็นเกียรติของเขามากแล้ว
“ครับ คุณเซี่ยง ไม่ว่าคุณจะให้ทำอะไร ผมจะไปในทันที!”อู๋เสียนพยักหน้ารับคำอย่างจริงจัง
ห้านาทีผ่านไป รถยนต์โรลส์-รอยซ์ รุ่นที่ลิมิเต็ดที่เป็นรุ่นมังกรมี12คันทั่วโลกคันหนึ่ง ก็ค่อยๆ เคลื่อนลงมาจากลิฟต์
เซี่ยงเส้าหลงกดปุ่มบนกุญแจ ระบบประตูรถออโตค่อยๆ เปิดออก เห็นได้ชัดว่ามีความหรูหรามาก!
ถึงตอนนี้ พนักงานต้อนรับหญืงเพิ่งจะเข้าใจ ว่าทำไมเซี่ยงเส้าหลง ถึงใช้คำพูดว่าเอารถไป ไม่ใช่พูดว่าซื้อรถ
เป็นเพราะว่ารถของเขา จอดอยู่ที่คลับแห่งนี้จริงๆ !
ใครจะไปคาดคิด ได้พลาดโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ที่จะ รู้จักกับมหาเศรษฐีลึกลับคนหนึ่ง
แม้นจะไม่รู้สถานะที่แท้จริงของเซี่ยงเส้าหลง แต่พนักงานต้อนรับหญืง ก็เข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว
แม้แต่คุณชายอู๋ยังต้องให้ความเคารพคนคนนี้ เธอเองนั้นเหรอ ไม่มีสิทธิ์ใกล้ชิดคนคนนั้นแน่นอน
หวนคิดถึง ก่อนหน้านี้ที่ดูถูกเขา เธอคิดสำนึกผิดขึ้นมาภายในใจ
แต่ก็กลับยิ้มเยาะให้กับตัวเอง คนใหญ่คนโตขนาดนี้ คงไม่คิดจะหาเรื่องกับมดปลวกตัวน้อยๆ อย่างตนเองเป็นแน่……
ประตูรูปปีกนกนางนวลค่อยๆ ปิดลง เสียงสตาร์ทเครื่องดังขึ้น
ใกล้จะถึงเวลาเที่ยง ฝนไม่มีทีท่าจะหยุดลงแม้แต่น้อย กลับยิ่งตกหนักขึ้นเรื่อยๆ โรงเรียนอนุบาลได้เลิกเรียนพอดี เด็กนักเรียนกำลังรอให้ผู้ปกครองมารับ เด็กๆ ต่างก็เข้าแถวเรียงรายอยู่ที่ห้องโถงเพื่อรอให้ผู้ปกครองมารับ
“อีกเดี๋ยว พวกเธอคงจะได้เห็น ผู้ปกครองของอวิ๋นเยนเอ๋อ พ่อของเธอขับรถจักรยานไฟฟ้ามารับ!”
น้ำเสียงเหน็บแนมดังขึ้นมา คนที่พูดก็คือเพื่อนร่วมโต๊ะของอวิ๋นเยนเอ๋อ เด็กหญิงตัวน้อยที่เจอกับเธอเมื่อตอนเช้า
มองเห็นแต่เธอเชิดหน้ามองดูอวิ๋นเยนเอ๋อ ที่ยืนอยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง โดยไม่พูดจาอะไรสักคำ ยิ้มเยาะเย้ยพูดว่า “พ่อของฉันบอกว่า พ่อของเธอคนนั้นเป็นคนจน ดังนั้นอวิ๋นเยนเอ๋อเอง ก็ต้องเป็นคนจน ต่อไปพวกเธอทุกคน อย่าไปเล่นกับคนจนล่ะ ให้มาเล่นกับฉันถึงจะถูก!”
เมื่อสิ้นน้ำเสียง เด็กๆ แต่ละคนต่างก็ซุบซิบกัน “จริงเหรอ? ตอนนี้ยังมีครอบครัวไหนไม่มีรถอีกเหรอ?”
“อวิ๋นเยนเอ๋อหน้าตาน่ารักอย่างนี้ ทำไมครอบครัวถึงยากจนล่ะ? งั้นต่อไปฉันคงไม่เล่นกับเขาดีไหม?”
มองเห็นเพื่อนนักเรียนต่างก็ซุบซิบกัน ใบหน้าเด็กหญิงคนนั้นเผยรอยยิ้มสะใจ ขณะที่เงยหน้าขึ้นเห็นพ่อของตนกางร่มเดินเข้ามารับตน พูดด้วยความดีใจว่า “พ่อฉันมารับฉันแล้ว อีกเดี๋ยวจะให้พวกเธอเห็นรถเบนซ์คันใหญ่ของครอบครัวฉัน!”
พูดพลางก็โบกมือเรียกหาชายคนนั้น พูดอย่างร่าเริงว่า “คุณพ่อ!”
ชายร่างอ้วนฉุใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มกำลังจะเดินข้ามถนน ทันใดนั้น มีรถยนต์คันหนึ่งวิ่งมาด้วยความเร็ว เหยียบแอ่งน้ำกระเซ็นเข้าใส่ชายคนนั้น ชายแต่งตัวภูมิฐาน กลับกลายเป็นลูกหมาตกนั้นไปในทันที!
“เชี่ยอะไรวะ ไม่แหกตา……”
ยังไม่ทันด่าได้ครบคำ พลันเห็นรถยนต์จอดอยู่ด้านหน้า เงียบปากไปในทันที!
สีหน้า เต็มไปด้วยความประหลาดใจ นี่มันรถยนต์โรลส์-รอยซ์รุ่นพิเศษเลยนะ!
ราคาสูงถึงแปดสิบล้าน สามารถซื้อรถเบนซ์บุโรทั่งของเขาได้ถึงสองร้อยคัน!
เขารู้จักประมาณตัว เจ้าของรถยนต์คันนี้ ตนนั้นไม่สามารถที่จะไปล่วงเกินได้แน่?
ครั้นประตู รถยนต์เปิดออก ชายคนนั้นมองเห็นเต็มสองตา พลันก้มหน้าลงในทันทีใช้น้ำเสียงประจบประแจงพูดออกมาว่า “ไม่เป็นไรไม่เป็นไร! เสื้อผ้าของผมราคาไม่กี่ตัง กลับไปซักก็ได้แล้ว แต่ที่สำคัญ อย่าทำให้รถยนต์ของคุณสกปรกก็พอ!”
“คุณพ่อ!”
น้ำเสียงประหลาดใจดังขึ้น จากนั้นก็มีเสียงวิ่งเหยาะๆ เหยียบน้ำกระเซ็น เซี่ยงเส้าหลงแย้มยิ้มที่มุมปาก พร้อมกับโอบกอดอวิ๋นเยนเอ๋อ และพูดว่า “ลูกรัก คิดถึงพ่อไหม?”
ได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นเคย ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นดูในทันที สายตามองเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย ก็คือเด็กที่เคยพูดเมื่อช่วงเช้า ทำให้เขาต้องตกตะลึง
“คุณพ่อ พ่อซื้อรถยนต์แล้วเหรอ?”
อวิ๋นเยนเอ๋อ มองดูรถคันหรูที่อยู่ด้านข้างของเซี่ยงเส้าหลงด้วยท่าทีสงสัย
“ใช่ ! คิดไปคิดมา ฝนตก ถ้าขับรถจักรยานไฟฟ้ามารับคงจะไม่สะดวก เดินผ่านบริษัทขายรถยนต์ ก็เลยหยิบมาใช้คันหนึ่ง!”
น้ำเสียงที่ดูเรียบเฉย พูดไปราวกับว่า หยิบรถยนต์มาง่ายดายเหมือนซื้อผักผลไม้ลูกหนึ่ง
ชายที่อยู่ด้านข้าง ตกใจเดินตัวเซแทบจะตกลงไปในแอ่งน้ำ หยิบมาใช้เหรอ? หยิบรถยนต์มาใช้เล่นๆ แปดสิบล้านเลยนะ!
“คุณพ่อ”
ขณะเดียวกัน ลูกสาวของผู้ชายคนนั้นก็เดินเข้ามาข้างกาย ใบหน้าแสดงท่าทีผิดหวัง
อวิ๋นเยนเอ๋อ หยิบเงินสองร้อยหยวนจากมือของเซี่ยงเส้าหลง ยัดใส่ไปในมือของเด็กหญิงคนนั้น เชิดหน้าและพูดว่า “นี่เงินสองร้อยหยวน เธอเก็บไว้ พ่อของฉันให้ไว้เป็นเงินค่าซักเสื้อของพ่อเธอ!”
“ทำน้ำกระเด็นใส่พ่อเธอจนเปียกปอนไปหมด เธอก็อย่าเสียใจไปละ ใครใช้ให้พอเธอมีเงินสู้พ่อของฉันไม่ได้!”
เซี่ยงเส้าหลง มองดูลูกสาวตัวเองด้วยท่าทีงุนงง ในใจอดไม่ได้ที่จะยกนิ้วให้ อย่างนี้สิถึงจะเป็นลูกของเซี่ยงเส้าหลง!
ท่าทีแบบนี้!นิสัยแบบนี้!ไม่ผิดแน่!
ขึ้นนั่งบนรถ อวิ๋นเยนเอ๋อเอ่ยถามด้วยความสงสัย “คุณพ่อ พวกเราจะไปไหนกันเหรอ?”
เซี่ยงเส้าหลง ยิ้มมุมปากและพูดว่า “พ่อจะพาลูกรักไปกินอาหาร!”